ตอนที่แล้วบทที่ 348
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 350

บทที่ 349


เมื่อเดินเข้ามาด้านในได้ไม่นานก็พบกลุ่มเผ่าอสูร เทียนซินหยางและเทียนซินซานกำลังธาตุไฟเข้าแทรกจากการโหมฝึกวิชา เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาแผ่ลมปราณตรวจสอบโดยรอบ เขากลับมาใช้รูปร่างที่แท้จริงอีกครั้งประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวา เขาพุ่งเข้าไปจี้สกัดจุดเทียนซินหยางและเทียนซินซาน ทั้งสองตัวสั่นสะท้านไม่นานก็ลงไปนอนแน่นิ่ง เสียงสะบัดมือดังแว่วขวดยาสีขาวนวลปรากฏเขารีบเทเม็ดยาออกมาสองเม็ดป้อนให้แก่ทั้งสอง ไม่ถึงครึ่งเค่อทั้งสองก็เริ่มรู้สึกตัว

“พวกท่านทั้งสองเป็นอย่างไรบ้าง”

เทียนซินหยางหันไปมองพบเห็นชายหนุ่มที่พบเจอก่อนหน้าเขารีบลุกขึ้น เนี่ยฟงยกมือขวาขึ้นห้าม

“ท่านทั้งสองรีบโคจรลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บเถอะขอรับ”

“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ ว่าแต่เหตุใดดวงตาท่านถึงมองไม่เห็น”

“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับข้า”

เนี่ยฟงยกยิ้มหันหลังก้าวเดินออกไปต่อ มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลัง

“ขอบใจเจ้ามาก”

เนี่ยฟงเพียงยกมือขวาขึ้นก้าวเดินเข้าไปด้านในไม่นานก็พบกับพื้นดินสีแดงพบแท่นหินขนาดใหญ่มีอักษรดินสลักอยู่ตรงกลาง รอบด้านรายล้อมไปด้วยเสาหินขนาดเล็กด้านในล้วนแล้วแต่มีอักษรและภาพปรากฏ ผู้คนมากมายล้วนแล้วแต่นั่งโคจรลมปราณใต้แท่นหิน บางคนร้องไห้ บางคนหัวเราะเสียงดังลั่น เนี่ยฟงเดินเลี่ยงออกไปก็พบกับพื้นโคลน เขาก้มลงหยิบก้อนหินก้อนใหญ่โยนไปที่พื้นโคลนพบว่าก้อนหินจมหายไปไม่ถึงครึ่งลมหายใจ เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาด้านหน้าเนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานเหยียบเกราะสายฟ้าข้ามพื้นโคลน ไม่ถึงยี่สิบลมหายใจเขาก็พบกับพื้นดินสีแดงอีกครั้ง ด้านหน้ามีม่านพลังสีทองปรากฏส่องแสงสว่างจ้า เขาก้าวเดินผ่านม่านพลังสีทอง วูบ เขาปรากฏตัวอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ผู้คนมากมายที่ผ่านด่านทั้งห้าอยู่ที่นี่ทั้งหมด ตรงกลางมีแท่นหินสีทองตั้งอยู่แต่ละคนหาได้มีผู้ใดสนใจสิ่งใดนั่งโคจรลมปราณล้อมแท่นหิน เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว

“พลังปราณภายในห้องโถงเอ่อล้นออกมาแท่นหินสีทอง”

“เจ้ารีบทำลายแท่นหินนั้นก่อนที่ผู้คนทั้งหมดที่นี่จะตกตาย”

ลมปราณถูกแผ่ออกไปที่เสาหินสีทองอย่างรวดเร็ว เสียงสะบัดมือดังแว่วมีดสั้นสี่เล่มพุ่งเข้าจ้วงแทงเสาหินสีทอง เลือดสีแดงไหลหยดออกมาจากรอยแผลมีดทั้งสี่ เสาหินสั่นสะเทือนทันใดนั้นแท่นหินสีทองกลายเป็นสีม่วง ไม่ถึงสามลมหายใจพื้นดินสั่นสะเทือน ผู้คนทั้งหมดได้สติกลับคืนแต่ยังไม่ทันที่จะลุกไปไหนพื้นดินก็ยุบตัวลงร่วงลงไปด้านล่าง ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ด่านทั้งหมดที่ผ่านมาปรากฏขึ้นรอบด้านอีกครั้งสิ่งของด้านในมีจำนวนมากกว่าเดิมหลายเท่านัก แต่ละคนรีบหลับตาตั้งสมาธิป้องกันกิเลสที่เกิดขึ้น ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากมือขวาหายเข้าไปด่านทั้งห้า เนี่ยฟงรีบนั่งโคจรลมปราณวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าปรากฏขึ้นมาในศีรษะ ประกายสายฟ้าพุ่งออกไปหลายสิบครั้ง เกือบชั่วยามเส้นทางทั้งห้าก็ปิดตัวลง ด้านนอกแสงสีทองสว่างจ้ามากกว่าเดิมผู้คนต่างจ้องมองแสงสีทองบนท้องฟ้ามองเห็นเป็นดาบขนาดใหญ่ปรากฏออกมา

เกือบสองชั่วยามด่านทั้งห้าก็จางหายไป มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดโชยมาตามสายลม ผู้คนทั้งหมดค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็พบว่าพวกตนอยู่ในทุ่งหญ้าและดงดอกไม้ท่ามกลางแสงแดดตอนเช้า ด้านหน้ามีดาบเล่มหนึ่งปรากฏอยู่ลักษณ์ของมันใบดาบมีลวดลายสีขาวปรากฏอยู่โดยรอบ ด้ามจับคล้ายกระดูกสันหลัง ต่างจากเนี่ยฟงที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นสะท้านเพราะภาพที่เขาเห็นรอบด้านมีแต่อสูรและมารร้ายนับร้อยตัวล้อมเอาไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดค่อยๆลุกขึ้น ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวาเขาก็ซัดฝ่ามือลงพื้นดิน เปรี้ยง หลายคนหันมาจ้องมองชายหนุ่มตาบอด พื้นดินสั่นสะเทือนอสูรและมารร้ายค่อยๆปรากฏตัวออกมาให้เห็น ผู้คนต่างตื่นตกใจสะบัดมือขวากำชับอาวุธในมือแน่นเสียงร้องคำรามดังลั่นพร้อมกับเสียงการปะทะ เนี่ยฟงต้องขมวดคิ้วอีกครั้งเพราะอสูรและมารร้ายจางหายไปตัวเขามองเห็นเพียงดาบเล่มหนึ่งที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า

“ท่านลุ่ยกงมองเห็นดาบด้านหน้าหรือไม่ขอรับ”

“ข้ามองไม่เห็นสิ่งใดตั้งแต่เจ้าซัดฝ่ามือเมื่อครู่ ทุกอย่างมืดดำไปหมด”

ลมปราณถูกแผ่ออกมาจากร่างผู้คนรอบด้านก็จางหายไปเช่นเดียวกัน เนี่ยฟงสัมผัสมีเพียงดาบเล่มหนึ่งด้านหน้า เขาก้าวเดินเข้าหาอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไปมีพลังปราณจำนวนมหาศาลคอยกดดันออกมาจากดาบ เขาใช้เวลานานนับครึ่งชั่วยามก็เดินเข้ามาถึงตัวดาบ มือขวาค่อยๆยกขึ้นคว้าจับไปที่ด้ามดาบพลังปราณทั่วร่างถูกดูดหายไปที่ตัวดาบจนหมดเวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจดาบทั้งหกเปล่งแสงเจิดจ้าภายในตันเถียน วูบ มันดูดกลืนพลังปราณที่หายไปกลับมาอีกครั้ง ดาบทั้งหกสั่นสะท้านทันใดนั้นเองท้องฟ้าก็มืดครึ้มสายฟ้ามากมายผ่าลงมาที่ดาบในมือ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ประกายสายฟ้าที่ผ่าลงมาถูกดูดกลืนเข้าไปที่ดาบทั้งหกเล่มในตันเถียนอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งเค่อเนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่มือขวาฟาดฟันดาบขึ้นไปบนท้องฟ้า ปราณดาบสีแดงและฟ้าพุ่งทะยานผ่าก้อนเมฆเป็นทางยาวทันใดนั้นเองดาบในมือจางหายไป ไม่นานเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้น วูบ เนี่ยฟงถูกส่งตัวออกมาด้านนอกบนยอดเขาอู่ไถ

แสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้าเหนือเขาอู่ไถ เกือบชั่วยามเขาก็เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งพลังปราณถูกแผ่ออกจากร่าง เขามองไปด้านหน้าพบเห็นเป็นดาบนับหมื่นเล่มปักตรึงไว้บนพื้น ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นดาบวิเศษ มีดาบเล่มหนึ่งแผ่ลมปราณออกมาลอยเด่นเหนือดาบทั้งหมดอย่างเห็นได้ชัด ด้านข้างมีแผ่นหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ดาบจะเลือกผู้เป็นนายของมันเอง เนี่ยฟงยืนนิ่งยกมือขวาขึ้นมาประกายสายฟ้าและเปลวเพลิงปรากฏ ดาบนับหมื่นสั่นสะท้านนานนับสิบลมหายใจทันใดนั้นเองได้มีดาบเล่มหนึ่งพุ่งทะยานออกมาเนี่ยฟงใช้มือขวาคว้าจับ มือซ้ายค่อยๆปลดผ้าคาดดวงตาออกเนี่ยฟงกลับมามองเห็นได้อีกครั้งจ้องมองดาบในมือถึงกับตื่นตกใจเพราะมันมีลักษณ์คล้ายดาบที่อยู่ในตันเถียนของตนมากนัก เขารีบสะบัดมือขวาเก็บดาบในมือวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาเป็นม่านพลังบดบัง ไม่ถึงสิบลมหายใจผู้คนที่ผ่านด่านทั้งหมดก็ทยอยปรากฏตัว

มีหลายคนตื่นตกใจร้องคำรามด้วยความตื่นเต้นพุ่งทะยานเข้าไปคว้าดาบ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังแว่วออกมาจากกลุ่มผู้คน บางคนเพียงแค่สัมผัสด้ามดาบแขนข้างนั้นก็ขาดสะบั้นร่วงลงพื้น มีบางยืนมองเพียงด้านนอกเท่านั้น ยอดฝีมือที่เหลืออยู่หาได้มีผู้ใดสนใจดาบเล่มใดนอกจากดาบที่ลอยเด่น ชั่วน้ำเดือด ฉับ มีบางอย่างวาดผ่านลำคอศีรษะชายชราผู้หนึ่งกระเด็นร่วงลงพื้น ยอดฝีมือที่เหลืออยู่ต่างลงมือเข่นฆ่ากันเองเพื่อหวังครอบครองดาบ เงาดำขนาดใหญ่คืบคลานเข้ามายังเขาอู่ไถ ชายผู้หนึ่งสวมชุดดำพร้อมกับพันผ้าปกปิดใบหน้าสะบัดมือขวาถือเคียวในมือแน่น เนี่ยฟงจดจำได้ดีว่าชายผู้นี้คือคงชิงหยาง เขาหันไปมองยังเงามืดที่แผ่เข้ามาเป็นฝูงสัตว์อสูรจำนวนนับพัน ไม่ถึงสามลมหายใจผู้คนที่นั่งด้านหลังพุ่งทะยานลงมาด้านล่าง คงชิงหยางแสยะยิ้มพุ่งทะยานเข้าไปสังหารชาวยุทธ์ที่กำลังปะทะกัน

เลือดสีแดงฉานไหลนองไปที่บริเวณทันใดนั้นเองเป็นคงชิงหยางที่พุ่งทะยานเข้าไปถึงตัวดาบที่ลอยเด่น เขารีบยกมือขวาคว้าจับที่ด้ามดาบ พื้นดินสั่นสะเทือน ดาบที่ปักตรึงอยู่กับพื้นค่อยๆจมหายลงไปในดินอย่างรวดเร็ว ปราณสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากดาบแทรกซึมไปที่ร่างของคงชิงหยางเขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้ครองดาบดับอสูรคือข้าคงชิงหยาง”

ร่างกายคงชิงหยางขยายใหญ่ขึ้นเพราะพลังมหาศาลจากดาบในมือ เส้นเลือดปูดบวมสีม่วงรอบกาย คงชิงหยางเปลี่ยนไปคล้ายปีศาจ เสียงตบมือดังแว่วชายฉกรรจ์สองคนก้าวเดินออกมา คงชิงหยางหันไปมองเอ่ยวาจาออกมา

“ทูตเมฆาและทูตอัคคี พวกเจ้าทั้งสองมาก็ดีแล้ว”

ตูม คงชิงหยางเพียงแค่ถีบเท้าพื้นดินถึงกับเป็นหลุมลึกเข้าประชิดตัวทูตเมฆาและทูตอัคคี ฉับ คมดาบในมือวาดผ่านลำตัวทั้งสองประดุจตัดเต้าหู้ เลือดในกายถูกดูดกลืนโดยดาบคงชิงหยางได้รับพลังจากดาบอีกครั้งร่างกายขยายขึ้นเล็กน้อย

“ผู้ครอบครองดาบดับอสูรคือเจ้าฟ้าดิน”

เขาฟาดฟันดาบในมือออกไป ปราณดาบสีแดงและม่วงพุ่งเข้าปะทะชาวยุทธ์และคนของพรรคอัคคี เปรี้ยง ตูม พื้นดินเป็นรอยดาบลึกเศษชิ้นส่วนมนุษย์กระจายเกลื่อนเต็มพื้น ผู้คนนับร้อยตกตายเพียงคงชิงหยางฟาดฟันดาบเพียงครั้งเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด