ตอนที่แล้วตอนที่ 30: น้ำผึ้งลินเดิ้นและเค้กเผือกป่า (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32: เห็ดมัตสุทาเกะย่างเตาถ่าน (1) (ฟรี)

ตอนที่ 31: ข้าวตังทอด


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

พอเธอพันแผลให้เขาเสร็จแล้ว ชิยูจึงถามไปด้วยความสงสัยว่า “เพื่อนๆนายเป็นอะไร? พวกเขาดูแปลกๆไปนะ?”

 

ถึงแม้ทุกคนจะเดินทางมาด้วยกัน แต่เธอก็มีความรู้สึกแหม่งๆว่ามีการเข้าใจผิดกันอยู่.

 

“พวกเขาคงไม่อยากมากวนเราล่ะมั้ง” หลิวยี่กล่าวโดยไม่ลืมตาเลย.

 

พูดแปลกๆมาอีกแล้ว ชิยูจึงไม่อยากเสียเวลาคุยด้วย. ถ้าเธอเป็นผู้หญิงพวกที่ไม่เคยรักใครมาก่อนล่ะก็ เธอคงหลงคำพูดเขาไปแล้ว. เพราะหมอนี่ทั้งรวยและหล่อแถมยังมีพลังปราณด้วย เขามีทุกอย่างที่พระเอกในนิยายมีเลย.

 

“นายพักเถอะ” เธอโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างของรถลากและเห็นว่ามันใกล้จะมืดแล้ว. แต่รอบๆนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด สงสัยจะได้ตั้งแคมป์กันอีกรอบคืนนี้.

 

แล้วก็เป็นดังที่คิด พอตกกลางคืนมารถม้าก็หยุดวิ่งแล้วทุกคนก็เริ่มตั้งแคมป์.

 

คนขับรถม้าเป็นคนทำอาหารมื้อเย็นแต่หน้าตามันดูไม่ค่อยดีนักแถมรสชาติมันๆเลี่ยนๆด้วย. ชิยูกัดไปหนึ่งคำแล้วก็ไม่อยากกินอีกเลย.

 

การกระทำของเธอทุกคนเห็นหมดและพวกเขาก็คิดว่าเธอกำลังวิจารณ์พวกเขา. แม้พวกเขาจะตะลึงกันแค่แว่บเดียวแต่ชิยูก็ไม่ใช่คนโง่. เธอมั่นใจแน่ๆว่ามีบางอย่างผิดปกติ.

 

เธอค่อยๆกวาดสายตาไปทางกลุ่มคนพวกนั้นและเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขากำลังทำท่ารังเกียจกันอยู่.

 

ชิยูเดินไปเอาหม้อก้นแบนจากรถลงมาโดยไม่พูดอะไร. หม้อนั้นเธอเอามันมาด้วยก่อนจะออกจากเมือง. นอกจากนั้นเธอก็ไปเอาอย่างอื่นลงมาจากรถอีกเยอะแยะ.

 

พอไฟติดและวางหม้อเสร็จแล้ว เธอก็รอให้มันร้อนก่อนจะใส่น้ำมันลงไป. เธอมีข้าวที่เหลือจากมื้อก่อนมา, เธอเอาเกลือและงาโรยลงไปจากนั้นก็ตำมันให้เหนียวกแล้วก็ม้วนเป็นก้อนเล็กๆหลายก้อน. พอน้ำมันร้อนได้ที่แล้วเธอก็เอาข้าวตังลงไปทอดในหม้อก้นแบน.

 

ทันทีที่ข้าวแตะน้ำมันร้อนๆ มันก็ส่งเสียงฉ่าๆออกมา. ชิยูใช้ตะหลิวบี้ข้าวให้แบนออกแล้วรอให้มันเป็นสีเหลืองทองจากนั้นก็พลิกข้าง. เพียงแค่แป๊บเดียวข้าวตังทอดก็เสร็จสมบูรณ์.

 

ชิยูใช้ตะเกียบคีบข้าวตังมาใส่จานของเธอ. ที่ผิวของมันนั้นยังเดือดปุดๆจากความร้อนอยู่เลย. พอเธอทอดข้าวตังชุดนี้หมดแล้วก็เริ่มทอดอีกชุดต่อ.

 

ปกติแล้วถ้ามื้อเย็นมีแค่ข้าวทอดธรรมดาๆ ไม่นานก็เบื่อแน่ๆ. ตอนนี้หม้อยังร้อนอยู่ชิยูจึงเอาเนื้อตากแห้งออกมา ซึ่งก็แค่เอามันไปปรุงจนผิวนอกมีสีที่น่ารับประทานเท่านั้น. พอเอามันมาห่อกับผักกาดหอมแค่นี้ก็กินได้แล้ว.

 

แม้ว่าอาหารมื้อนี้จะค่อนข้างแห้งไปหน่อยแต่ชิยูก็ไม่คิดอยากจะทำซุปอย่างอื่นเพิ่ม. เธอแค่เอาผลไม้ที่ดูเหมือนมะพร้าวออกมา ตัดส่วนบนมันออกแล้วก็เสียบ ‘หลอด’ ไม้ไผ่ลงไปแค่นั้น.

 

แค่นี้อาหารแบบง่ายๆก็เสร็จแล้ว. เธอหยิบข้าวตังทอดขึ้นมาแล้วกัดเข้าไปคำโต. ผิวของข้าวตังกระทบกับฟันของเธอแล้วมันก็ส่งกลิ่นหอมออกมา บวกกับเนื้อที่ห่อด้วยผักสด การผสมผสานนี้ทั้งสดชื่นและอร่อยมากๆ. ขณะกัดข้าวและเนื้ออยู่เธอก็ดูดน้ำผลไม้หวานๆ สดชื่นๆไปด้วย เป็นความสุขที่สมบูรณ์แบบจริงๆ.

 

คนรอบๆตัวเธอมองเธอขยับไปมา แล้วหันมามองดูอาหารของตัวเอง. ทันใดนั้นไม่ว่าอะไรที่พวกเขากินอยู่ มันก็มีรสชาติเหมือนดินขึ้นมา.

 

ตอนนั้นเองเฟิ้งโหลวก็ช่วยพาหลิวยี่ลงมาจากรถม้า. พอเขาเห็นอาหารด้านหน้าของชิยู ตาของหลิวยี่จึงลุกโชน “น้องชิ, ทำอาหารไว้ให้พี่ด้วยเหรอ?”

 

คนอะไรมันหน้าหนาปานนี้?

 

เจ้าหลิวยี่นี่เริ่มจะด้านขึ้นทุกวันๆ. แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ดูจะไม่ทำอะไรมิดีมิร้ายกับเธอ อีกอย่างเฟิ้งโหลวคนนั้นก็สุภาพกับเธอมาตลอดด้วย เธอเลยเสี่ยงพูดไปว่า “ชั้นทำมานิดหน่อยน่ะ จะลองมั้ย”

 

เธอไม่ได้ทำมามากก็จริง แต่ก็พอจะให้พวกเขาชิมได้.

 

เฟิ้งโหลวเห็นว่าชิยูนั่งอยู่ห่างกับคนอื่นๆเล็กน้อย จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาแล้ว. หลังจากช่วยหลิวยี่ไปนั่งข้างๆชิยูเสร็จ เขาก็พูดกับชิยูด้วยความน่าอายหน่อยๆว่า “พวกนายกินก่อนเถอะ เหมิงลี่กำลังรอชั้นอยู่”

 

ชิยูรู้ว่าเขากับเหมิงลี่นั้นคบกันอยู่ จึงไม่ได้ว่าอะไร.

 

แต่ทว่า ทันทีที่เฟิ้งโหลวไปข้างๆเพื่อนของเขา เขาก็ได้ยินพวกนั้นกระซิบว่า “รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์จังนะ ดูเธอเอาใจพวกนายสองคนสิพอเป็นพวกเรากลับทำเหมือนว่าเราติดหนี้เธอไว้งั้นแหละ น่าขยะแขยงจริงๆ”

 

เฟิ้งโหลวขมวดคิ้ว “พวกนายนั่นแหละที่เป็นคนเมินเธอก่อน ชั้นยังยืนยันว่าเธอเป็นคนดี”

 

คำพูดของเขานั้นทำให้เกิดความไม่พอใจทันที. ระหว่างที่พวกนั้นพึมพำกันจู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา “ชั้นว่า นายคงไม่ได้หลงเสน่ห์เธอเข้าแล้วหรอกนะ! พวกเราทุกคนบอกว่าเธอเป็นคนไม่ดีแต่ตอนนี้นายกำลังกล่าวหาว่าพวกเราตาบอดเหรอ? เหมิงลี่ เธอดูแลผู้ชายของเธอดีๆนะ ไม่งั้นคงมีใครคาบไปกินแน่. ถ้าเป็นงั้นล่ะก็ต่อให้ร้องไห้ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ!”

 

เหมิงลี่ดึงเฟิ้งโหลวลงมาหาเธอ “พวกเรารู้จักกันมานานแล้วนะ นายจะเห็นสาวที่ไหนไม่รู้ดีกว่าเพื่อนงั้นหรอ? นายก็อยู่กับพวกเรามานานแล้ว ไม่รู้นิสัยพวกเราจริงๆเหรอ?”

 

เฟิ้งโหลวทำได้แค่ปิดปากเงียบไว้.

 

พอเฟ้ยเหย่เห็นเฟิ้งโหลวฟังคำพูดแล้ว เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมาแล้วหันไปทางโม่หยิน, เขาพูด “ชั้นว่านะ ถ้าเธอทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆล่ะก็เธอจะทำลายโอกาสตัวเองเอานะ, คืนนี้ไปจัดหลิวยี่ซะเลยสิ! ถ้าเธอลีลาไปกว่านี้ล่ะก็ได้เสียใจแน่”

 

โม่หยินหน้าแดงขึ้นมา เธอมองไปทางสองคนนั้นที่กำลังนั่งอยู่ มันดูราวกับว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกำลังกินข้าวด้วยกันเลย. ใจของเธอสั่นขึ้นมาทันที.

 

กลางดึกคืนนั้นเอง หลิวยี่นอนไม่หลับเพราะกินเยอะเกินไป. พอคิดถึงอาหารที่กินวันนี้แล้ว เขาก็ตั้งตารออาหารมื้อหน้าเลย.

 

เขากำลังนึกถึงอาหารอยู่ขณะที่ผ้าม่านรถม้าของเขาเปิดขึ้นมา. นั่นคือ ‘น้องชายคนดี’ ของเขานั่นเอง.

 

ทันทีที่โม่หยินมองดูสภาพที่บาดเจ็บของเขา ใจเธอก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา. แต่ถึงอย่างงั้นรอยยิ้มของเธอก็ไม่ได้บิดเบือนไป “ดูเหมือนว่านายมีคนดูแลดีจังนะ, อา! นายไม่ได้รักเธอเข้าจริงๆใช่มั้ย?”

 

พอเธอพูดคำนั้นออกไป ใจเธอก็รู้สึกเจ็บ. พอเธอได้ยินคำพูดแสยะของหลิวยี่ ‘จะบ้าเหรอ’ รอยยิ้มของเธอก็กว้างขึ้นกว่าเดิม.

 

“ฮ่าๆ. ชั้นรู้อยู่แล้วว่านายคงไม่หลงกลง่ายๆแน่” โม่หยินหัวเราะด้วยความดีใจ “ตั้งแต่ที่ชั้นมาที่นี่ เจ้าบ้าเฟิ้งโหลวนั้นออกตัวแทนเธอตลอดเลย. เขายังกล้านอกใจเหมิงลี่ด้วยนะ ไหนว่าจะมีเธอแค่คนเดียวในใจไง. ถ้าเป็นแบบนี้ทั้งสองคนนั่นได้เลิกกันแน่. ชั้นไม่อยากเห็นนายเป็นคนโง่เหมือนเจ้านั่นที่เชื่อคนนอกมากกว่าเพื่อนตัวเองจริงๆ”

 

“วางใจเถอะน่า ชั้นจะเห็นความรักดีกว่าเพื่อนได้ยังไง?” หลิวยี่ยิ้ม.

 

แต่ทว่าทันทีที่เขาได้ยินว่าเฟิ้งโหลวมีความรู้สึกดีๆให้ชิยู เขาก็รู้สึกอึดอัดหน่อยๆ. วันต่อมาเขาก็พยายามทำตัวกันท่าชิยูต่อหน้าเฟิ้งโหลว. ทุกครั้งที่เขานึกถึงอาหารอร่อยๆของชิยู เขาก็เริ่มรู้สึกหลงและอบอุ่นต่อเธอ.

 

ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาก็ใช่ว่าจะไม่เด่น หน้าของเพื่อนๆเขาเริ่มบูด โดยเฉพาะโม่หยิน. ภัยอันตรายกำลังก่อตัวในหมู่พวกเขาอยู่…..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด