ตอนที่แล้วEp.797 - สถานะของผู้ใช้พลังสั่นคลอน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.799 - เติมยีน

Ep.798 - งานวิจัยสำคัญ


2/5

Ep.798 - งานวิจัยสำคัญ

หลี่ยหวนซานรับหน้าที่ดูแลผู้ใช้พลัง ส่วนกวนฉานคอยจัดการชาวเมืองคนธรรมดา พาพวกเขาออกเดินทางไปยังที่ตั้งใจกลางเมือง

มีเฉพาะฉินเฟิง ที่แยกตัวมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของเมืองเพียงลำพัง

ภายในตรอกซอกซอยที่ไม่เตะตาผู้คน

มีดกษัตริย์ครามกวาดลงบนพื้น ปัดเศษดินทั้งหมดออกไปด้านข้าง และพบกับประตูเหล็กบานหนึ่ง

ประตูเหล็กบานนี้ดูไม่ต่างจากฝาท่อระบายน้ำ เป็นรูปทรงกลม มีกระทั่งฝุ่นเกาะด้านบน แม้ดูเรียบง่ายแต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น หากไม่ใช่เพราะเกิดมิติทับซ้อนขึ้น ที่ปรากฏให้เห็น คงเป็นพื้นอิฐแบบเดียวกับพื้นรอบๆ

ประตูนี้ ได้รับการตบแต่งโดยผู้ใช้อบิลิตี้ดินเลเวล A ต่อให้รุ่ยฉงมาตรวจสอบด้วยตัวเอง ก็ไม่อาจพบได้

ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดาย หลังจากมิติทับซ้อน อบิลิตี้นี้เลยหายไป ฉินเฟิงถึงสามารถพบมันได้อย่างรวดเร็ว

ฉินเฟิงกระโดดลงจากประตู ใช้เท้าย่ำไปตามกำแพงรอบตัว ต้องลงไปลึกกว่า 30 เมตร ถึงค่อยพบทางเดินแนวนอน จากนั้นเดินต่อไปอีกหลายก้าว ก็พบกับประตูอีกบานหนึ่ง

ประตูบานนี้ เดิมทีมันถูกปิดกั้นไว้อย่างแน่นหนา แต่ฉินเฟิงแค่ผลักเอาๆ มันก็เปิดออกแล้ว

นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบัน ล้วนใช้ไฟฟ้า ทั้งยังผ่านการแปลงพลังงาน ขณะที่มิติแห่งนี้พลังงานทั้งหมดถูกยับยั้ง เครื่องจักรและระบบป้องกันเลยไม่ทำงาน

ฉินเฟิงจึงสามารถเดินทางโดยไร้อุปสรรคไปตลอดทาง

ฐานทดลองแห่งนี้ไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นฉินเฟิงเดินไปไม่นาน ก็พบกับบางคน

“อ๊ะ! คุณเป็นใคร? เข้ามาได้ยังไง!”

ชายคนนั้นอุทานด้วยความตกใจ แต่ยังยกอาวุธในมือมุ่งเป้ามายังฉินเฟิง

อาวุธชิ้นนี้ เป็นปืนที่สามารถใช้กับผู้ใช้พลังเลเวล G ได้ ในช่วงเวลาที่ความแข็งแกร่งถดถอย เมื่อคุณไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์รูนได้ อาวุธปืนชนิดนี้ถือว่าร้ายแรง ทรงอานุภาพที่สุด

สิ่งสำคัญก็คือ มันไม่ใช่อุปกรณ์รูน ดังนั้นสามารถใช้ในพื้นที่ต้องห้ามแห่งนี้ได้!

“ใจเย็นก่อน ผมถูกดร.แซดส่งมา!”

ฉินเฟิงสาธยายถึงตัวตนทรงอำนาจเลเวล S คนนั้น ที่กล่าวอ้างว่าเป็นหมอ  ฯลฯ ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ แต่นั่นคือสิ่งที่แซดเคยบอกกับฉินเฟิงมาก่อน

“อา! ที่แท้ก็เป็นคนของดร.แซด” คนอื่นๆผ่อนคลายความระมัดระวังของพวกเขาลง

“อืม … ดร.แซดขอให้ผมพาสัตว์ร้ายจอมเขมือบออกไป และพวกคุณสามารถมาพร้อมกับผมได้เช่นกัน” ฉินเฟิงกล่าว

อย่างไรก็ตาม คำตอบของนักวิจัยเหล่านี้ มันเกินความคาดหมายของฉินเฟิง

“งั้นฉันขอไม่ไปก็แล้วกัน” หนึ่งในนักวิจัยที่มีผมขาวเต็มหัว ตอบสวนกลับมาทันที แล้วเขาก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่เหลียวมองกลับมาอีกเลย

“คงไปด้วยไม่ได้หรอก เพราะฉันต้องศึกษาสิ่งที่ได้มาในวันนี้”

“เอ่อขอบายดีกว่า โปรเจ็คในครั้งนี้จะทำให้มนุษย์ชาติตกตะลึงอย่างแน่นอน แล้วพวกเราจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค!”

การแสดงออกของคนเหล่านี้ดูตื่นเต้นสุดๆ เทียบกับท่าทีของชาวเมืองข้างนอกที่ฉินเฟิงเคยเห็นแล้ว แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และฉินเฟิงสามารถบอกได้ว่า นักวิจัยเหล่านี้ทั้งหมดเป็นผู้ใช้พลัง กระทั่งชายชราที่จากไปคนแรก เกรงว่าจะเป็นผู้ใช้วรยุทธเลเวล B

นี่คือพื้นที่ต้องห้าม การใช้ชีวิตเป็นเรื่องยากเกินจะทน ทว่าอีกฝ่ายกลับดูมีชีวิตชีวามาก และประเด็นก็คือไม่เต็มใจที่จะออกไป?

ฉินเฟิงกล่าวเสียงหนักแน่น “งานวิจัยของพวกคุณสามารถรอได้ พวกคุณต้องออกไปก่อน เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญคือพวกคุณต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เมืองฉงโหลวได้รวมเข้ากับระนาบอื่น กลายเป็นมิติทั-”

แต่ฉินเฟิงยังพูดไม่ทันจบ นักวิจัยคนหนึ่งก็โบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ กล่าวว่า “แน่นอน พวกเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แต่มิตินี้มีความพิเศษนัก เห็นได้ชัดว่ามีหลายอย่างควรค่าแก่การศึกษา คุณไม่รู้หรอกว่าสิ่งนี้มีความหมายขนาดไหนต่อพันธมิตรมนุษย์!”

ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็นชา “แต่ถ้าพวกคุณไม่ยอมออกไป งานวิจัยพวกนี้ ผมเกรงว่าคงไม่สามารถนำมันออกมาได้ตลอดชีวิต เพราะหลังจากนี้มิติทับซ้อน จะไม่เปิดง่ายเหมือนช่วงแรกอีกแล้ว”

นักวิจัยหลายคนมองหน้ากัน และเริ่มคิดว่าที่ฉินเฟิงพูดมันก็พอมีเหตุผลอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ไม่ใช่แค่เป็นคนประเภท IQ สูงเท่านั้น แต่ยัง EQ ต่ำ คนหนุ่มในกลุ่มเอ่ยออกมาว่า “ในเมื่อคุณเข้ามาได้ ฉะนั้นก็น่าจะออกไปได้เหมือนกัน งานวิจัยของเรามีค่ามาก ถ้าดร.แซด รู้เรื่องนี้เขาจะสนับสนุนพวกเราอย่างแน่นอน”

บังเกิดความคิดบางอย่างวาบผ่านเข้ามาในใจของฉินเฟิง ไม่รู้จริงๆว่าอีกฝ่ายกำลังค้นคว้าอะไร ยังไงก็ตาม เห็นจากท่าทีตื่นเต้นของคนเหล่านี้ ที่แม้แต่ความเป็นตายยังยอมโยนทิ้งไว้เบื้องหลัง แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีแน่ๆ

เมื่อคิดได้แบบนี้ ฉินเฟิงก็แสร้งทำเป็นหน้านิ่ง กล่าวว่า “ค่าใช้จ่ายในการเปิดช่องว่างมิติมีราคาสูงมาก ดังนั้นหลังจากวันพรุ่งนี้ จะมีการจัดระเบียบ อพยพผู้คนทั้งหมด ถ้าพวกคุณไม่ตามมา เพื่อทำการทดลองต่อไป อย่างน้อยก็ต้องยอมคายผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมาบ้างเล็กๆน้อยๆ เพื่อที่ผมจะได้ใช้มันไปอธิบายกับดร.แซด”

เดิมฉินเฟิงวางแผนจะเล่นลิ้น เปลืองวาจาเพื่อโน้มน้าวใจอีกฝ่าย แต่ไม่นึกเลย ว่านักวิจัยเหล่านี้จะพยักหน้าและตกลงทันที

“คุณตามฉันมา!”

ชายคนนั้นแทบรอไม่ให้ที่จะแนะนำผลงานแก่ฉินเฟิง นำเขาไปยังห้องทดลอง

สิ่งที่ฉินเฟิงไม่รู้ก็คือ นักวิจัยเหล่านี้ติดอยู่ที่นี่แค่วันเดียว ก็สามารถค้นพบข้อมูลอันน่าตกใจ แต่ไม่สามารถบอกต่อให้ใครได้ ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงว่าพวกเขาเสียใจแค่ไหน

แต่ตอนนี้เมื่อมีผู้มาเยือน พวกเขาจึงกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันผลงานของตัวเอง เพื่อให้อีกฝ่ายแสดงออกถึงท่าทียกย่องตน มองมาด้วยสายตาชื่นชม

สำหรับพวกเขาแล้ว การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างจากเด็กที่กำลังได้รับเหรียญทอง แทบอดใจไม่ไหวที่จะแสดง

ไม่นาน ห้องทดลองขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ตามพื้นมีเศษกระจกตกแตกประปราย แล้วก็ศพของสัตว์ร้าย เห็นได้ชัดว่าช่วงมิติทับซ้อนปรากฏขึ้น ร่างทดลองบางส่วนได้หลุดจากพันธนาการ แต่ไม่ช้าก็ถูกควบคุมได้อย่างรวดเร็วโดยเหล่านักวิจัย

และ ณ เวลานี้  เหล่านักวิจัยพาฉินเฟิงมาเดินวนๆอยู่รอบๆกล่องหลายสิบใบ ฉินเฟิงเหลือบไปเห็นแมลงสาบขนาดเท่าอ่างล้างมือได้อย่างรวดเร็ว

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยน กล่าวเสียงจม “นี่น่ะหรอสิ่งที่พวกคุณกำลังวิจัย?”

แมลงสาบพวกนี้ แท้จริงแล้วมันเหมือนกับฝูงแมลงสาบที่บุกโจมตีฉินเฟิงกับกวนฉานก่อนหน้านี้เลย

หากพวกมันเกิดจากงานวิจัยของแซด แล้วปล่อยออกไปภายนอกเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง ฉินเฟิงจะฆ่าพวกนักวิจัยให้หมดในลมหายใจเดียว

--และค่อยไปบอกแซดว่าคนพวกนี้ถูกสัตว์ร้ายฆ่าตายหมดแล้ว!

นักวิจัยคนหนึ่งเห็นว่าฉินเฟิงสนใจ ก็เร่งอธิบาย “ไม่ใช่หรอก แต่เจ้าสิ่งนี้น่าทึ่งมาก ถ้าพวกเราไม่อยู่ในมิตินี้ คงไม่ทางศึกษาค้นคว้ามันได้”

“แมลงสาบตัวนี้ เป็นแค่แมลงสาบธรรมดา แต่พวกเราเคยล่าลิงสัตว์ร้ายมาก่อน จากนั้นก็ให้เลือดและเนื้อของลิงแก่สิ่งมีชีวิตหลายชนิดเพื่อกินมัน และพบว่ามีผลการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง!”

ชายคนนั้นชี้ไปทางขวดโหลหลายใบให้ฉินเฟิงดู และพบว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ นอกจากแมลงสาบแล้ว ยังมียุง , แมลงเต่าทอง ฯลฯ

สิ่งเล็กๆพวกนี้ ภายใต้การชำระล้างของพลังงานที่เกิดจากรอยแยกมิติครั้งใหญ่ ส่งผลให้ส่วนหนึ่งกลายเป็นแมลงสัตว์ร้าย แต่บางส่วนก็ยังอยู่ในสภาพเดิมก่อนเกิดรอยแยกมิติ เป็นแค่แมลงอ่อนแอ

ตอนนี้ นอกจากแมลงสาบตัวใหญ่แล้ว ยังมียุงขนาดประมาณครึ่งเมตร เพียงแค่มองไปยังรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวนี้ ก็สามารถบอกได้ว่าหากถูกมันดูดเลือด เกรงว่าคงแห้งไปทั้งร่าง

“ร่างของแมลงสาบมีขนาดใหญ่ขึ้น ความแข็งแกร่งก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเปลือกส่วนนอกสุดได้รับการเสริมความทนทาน เมื่อถูกกักขังอยู่ในมิตินี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด แมลงสาบทดลอง ตอนนี้น่าจะมีความแข็งแกร่งเทียบได้เลยกับเขี้ยวทารก!”

“ส่วนยุงตัวนี้ …”

“นี่คือแมลงเต่าทองพิษ …”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด