ตอนที่แล้วบทที่ 230 เชื่อมโยงกับไฟ? (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 232 เงาที่คืบคลาน (อ่านฟรี)

บทที่ 231 เริ่มกิจกรรมใหม่ (อ่านฟรี)


ซีเว่ยไม่รู้ถึงแรงจูงใจของฟลินท์แมนที่มอบส่วนหนึ่งของ 'เปลวไฟแรก' ให้กับเขา มันมีค่ามากเกินไปสำหรับของขวัญการมาเยี่ยม หรือรางวัลสำหรับการให้ที่หลบภัยแก่เขา

แต่ถึงอย่างนั้นฟลินท์แมนก็ดูจะไม่ใช่ศัตรู และเปลวไฟแรกก็ไม่เลวสำหรับใช้เป็นอาหารเสริมของซีเว่ย ผู้ซึ่งรู้สึกถึงภัยคุกคามที่ซุ่มซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่งในขณะนี้ และในที่สุดเขาก็ยอมรับมันมา

และใช่ คุณได้ยินถูกต้อง มันคืออาหารเสริม

ไม่มีทางที่เขาจะเดินตามรอยฟลินท์แมน และใช้เปลวไฟแรกเป็นกระดานกระโดดน้ำเพื่อขโมยอำนาจของเทพเจ้าแห่งไฟแน่

อย่าดูถูกว่าชื่อ ‘ไฟ' ของมันฟังดูเหมือนทักษะลูกไฟอันกระจอกงอกง่อย จริง ๆ แล้วมันมีพลังมหาศาลเลยล่ะ

แม้ว่าอำนาจส่วนใหญ่จะมีชื่อที่ฟังดูน่าเกรงขาม แต่มันก็เป็นเพียงสาขาต่าง ๆ ที่แยกย่อยออกมาอีกที ความจริงพวกมันเทียบไม่ได้กับอำนาจที่เรียบง่ายอย่าง ไฟ น้ำแข็ง หรือสายฟ้า

เนื่องจากอำนาจที่เรียบง่าย บ่อยครั้งมักจะมีการแบ่งย่อยออกเป็นหลายสาขามากมายนับไม่ถ้วน

ตัวอย่างเช่น หากซีเว่ยเข้าใจอำนาจของไฟ เขาอาจจะสามารถพัฒนาทักษะบางอย่างเช่น ‘ทักษะกำปั้นนิวเคลียร์’ ได้ในสองวันและนำไปสู่โลกหายนะ…

ดังนั้นแม้ว่าเทพเจ้าแห่งไฟจะไม่ได้เรียนฟิสิกส์สมัยใหม่ แต่เขาก็แค่ต้องเล่นกับอำนาจแห่งไฟที่เขามี และมีโอกาสสูงถึง 80% ที่เขาจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะฟลินท์แมนโผล่ไปขัดจังหวะเขาซะก่อน ไม่แน่ว่าเทพบิดรทั้งเจ็ดอาจกลายเป็นเทพบิดรทั้งแปดไปแล้ว

อย่างไรก็ตามซีเว่ยไม่ได้โลภโอกาสในการกลายเป็นเทพเจ้าแห่งไฟคนต่อไป ยังไงซะเปลวไฟแรกและสิทธิอำนาจแห่งไฟที่เขาได้มานั้น ไม่เพียงแต่จะไร้ประโยชน์สำหรับเขา มันยังอาจจะสร้างความลำบากให้กับเขาอีกด้วย

นั่นคือเหตุผลที่ซีเว่ยไม่ลังเลที่จะกลืนเปลวไฟแรก และย่อยมันให้กลายเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์และอำนาจไฟของเขาเลย

นี่เป็นช่วงเวลาที่เอกลักษณ์ของอำนาจแห่งเกมแสดงให้เห็นประโยชน์ของมันอย่างเต็มที่

หากเทพที่ไม่มีเจตนาจะกลายเป็นเทพย่อยของเทพเจ้าแห่งไฟ ได้รับอำนาจแห่งไฟมาเล็กน้อย หากความเป็นพระเจ้าของพวกเขาไม่อาจเทียบเท่าได้กับเทพเจ้าแห่งไฟ พวกเขาก็คงจะต้องยอมแพ้ต่ออำนาจอันล้ำค่านั้น หรือไม่ก็ถูกล่าโดยเทพเจ้าแห่งไฟอย่างฟลินท์แมน

อย่างไรก็ตามอำนาจแห่งเกมนับเป็นข้อยกเว้น เพราะโดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นอำนาจแบบจับฉ่ายซึ่งมีอำนาจทุกประเภทในตัวเอง

ตอนนี้แม้อำนาจของเขาจะรวมเข้ากับเปลวไฟแรก แต่อำนาจแห่งเกมก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มันยังคงจับฉ่ายเหมือนเดิม

ดังนั้นทั้งความเป็นพระเจ้าของซีเว่ย หรือออร่าของเขาจึงไม่เปลี่ยนไปเลย...

แม้ว่าเทพเจ้าแห่งไฟจะยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาก็จะรู้เพียงว่าซีเว่ยเป็นเทพเจ้าเท่านั้น โดยไม่สงสัยอะไรเลยนอกจากจะแปลกใจเล็กน้อยที่เขามีรูปลักษณ์เป็นลูกบอล (แน่นอน หากซีเว่ยแสดงอำนาจแห่งไฟของเขาออกมาต่อหน้าเทพเจ้าแห่งไฟ นั่นก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

นั่นเป็นเหตุผลที่ซีเว่ยไม่โดยเทพเจ้าอื่น (ยกเว้นเทพเจ้ากระดูกเน่า) มาเคาะประตูบ้าน เทพเจ้าแห่งเกมสามารถขโมยอำนาจของเทพเจ้าอื่น ๆ ได้อย่างแยบยล แต่นั่นก็เป็นเพราะพลังที่เขาได้มาเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยด้วย ดังนั้นในการรับรู้ของเทพเจ้าอื่น ๆ เขาจึงเหมือนกับบั๊กที่ซ่อนเร้น สิ่งที่เขาทำเทียบเท่าเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของจำนวนผู้ศรัทธาเท่านั้น

มันเป็นสถานการณ์คล้าย ๆ กับ 'ฉันเป็นมหาเศรษฐีเพราะทุกคนจ่ายเงินให้ฉันทุกวัน' แม้ว่าจำนวนเทพเจ้าจะไม่มากมายเท่าจำนวนประชากรของจีน แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน นั่นเป็นวิธีที่ซีเว่ยใช้ เขาแอบตัดขนแกะอย่างเงียบ ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยที่เทพเจ้าองค์อื่น ๆ ไม่เคยสังเกตเห็น จนกว่าเขาจะบ่มเพาะอำนาจแห่งเกมจนเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคง

ในทางกลับกัน ผู้ต่อต้านพระเจ้าอย่างฟลินท์แมน กลับจับแกะทั้งตัวถล่กขนจนเหี้ยนจนแม้แต่ขนตรงก้นก็ไม่เหลือ เทพเจ้าแห่งไฟไม่ใช่คนโง่ ไม่มีทางที่เขาจะไม่สังเกตเห็นว่าก้นของเขาไร้ขน...

ไม่ว่ายังไง หลังจากเติมพลังให้ตัวเองด้วยเปลวไฟแรก ซีเว่ยก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขาพร้อมแล้วที่จะดำเนินการต่อไป

“เอาล่ะ ฉันจะให้ผู้เล่นฆ่ามังกรซอมบี้และออร์คซอมบี้เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้านเริ่มต้น” ซีเว่ยโบกสะบัดหนวดของเขาบนคอมพิวเตอร์แพนธีออน

“ทีแรกฉันกะจะปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง แต่ตอนนี้ฉันได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์มาเพิ่มแล้ว เรามาจัดกิจกรรมกันเถอะ”

ไม่นานหลังจากที่ผู้เล่นพบว่าการจัดการบอสป่า มีเพียงอาวุธระดับตำนานเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่ดรอป แรงจูงใจในการตั้งปาร์ตี้เพื่อโค่นบอสป่าก็ลดลงอย่างมาก

แต่กิจกรรมนั้นแตกต่างออกไป แม้ว่าซีเว่ยจะไม่ได้จัดกิจกรรมอะไรมากมาย แต่ผู้เล่นก็จะได้รับรางวัลดี ๆ ทุกครั้ง ซึ่งทำให้กิจกรรมได้รับการตอบรับอย่างดีในหมู่ผู้เล่น

แม้ว่ามันจะสิ้นเปลืองพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่จริง ๆ แล้วเขาอาจได้กำไรอย่างมากมายมาแทน นั่นคือตราบเท่าที่เขาค้นพบต้นกำเนิดของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่บิดเบี้ยว และถอดรหัสการมีอยู่ของมันจนหาวิธีดูดซับมันได้โดย ‘ตัดหัวและกินส่วนที่เหลือ’* ซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับ 6 เท่าของเปลวไฟแรกที่เขาได้มา

(ตัดหัวและกินส่วนที่เหลือ หมายความว่า ตัดส่วนที่กินไม่ได้ทิ้งและกินส่วนที่กินได้ เหมือนเวลากินปลาแล้วโยนก้างหรือหัวที่ไม่มีเนื้อทิ้งนั่นแหละ)

“กิจกรรมจะเรียกคลื่นผู้เล่นได้! นี่เป็นปฏิบัติการ!” ซีเว่ยพึมพำเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนที่จะกดปุ่มขั้นตอนสุดท้ายเพื่อออกภารกิจ

วินาทีถัดมา ผู้เล่นที่อยู่ในแดนมรรตัยก็ได้รับข้อความจากเทพเจ้าของพวกเขา

“มากันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเองหรือ…”

แองโกร่าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วใส่กลุ่มผู้เล่นที่มาถึงข้างไลฟ์สโตนที่ปราสาทอินทรีเงิน

“พวกนี้ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ” วีลาก็ดูมืดมนเช่นกัน เธอไม่คิดเลยว่าจะมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตอบรับคำขอของแองโกร่า

“นั่นเพราะทุกคนเพิ่งเอาชนะปีศาจไนท์คราย พวกเขาก็เลยเหนื่อยกันนิดหน่อย” เอ็ดเวิร์ดอธิบายหลังจากที่เพิ่งวาร์ปมาถึง

โดยธรรมชาติแล้วความเหนื่อยล้าที่เขาหมายถึงคือความเหนื่อยล้าทางจิตใจ

ความแข็งแกร่งของผู้เล่นฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ (ทางจิตใจ) และการต่อสู้ที่ยาวนานก็บั่นทอนพวกเขาจนหมดแรง

“ยิ่งไปกว่านั้นดีบัฟพิเศษของไนท์ครายก็ทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องรอ 3 วันก่อนที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง” เจ้าหญิงลีอาที่พึ่งตามมาติด ๆ กล่าวเสริม

อย่างไรก็ตามสนับมือสีทองที่เปล่งประกายอย่างน่ากลัวในมือที่บอบบางของเธอนั้น ก็ดึงดูดความสนใจได้มากกว่าคำพูดของเธอ แม้แต่แองโกร่าเองก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตามองไปที่มันอยากรู้อยากเห็น

"ใช่! โกวต้านก็ตาย เราไม่พบแม้แต่ร่องรอยของศพเขาด้วยซ้ำ!“โจพูดออกมาข้าง ๆ”มันเป็นความผิดของหมอนั่นเองแหละ เขาวิ่งออกไปไกลเพื่ออวดระยะการซูม 8 เท่าของธนู ด้วยการซุ่มยิงไนท์คราย กว่าที่พวกเครลิคจะมาถึงศพเขา ช่วงเวลารอชุบก็หมดไปแล้ว…”

ในแง่หนึ่ง นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของปาร์ตี้เอ็ดเวิร์ด โกวต้านหน่วยสอดแนมที่ว่องไวที่สุดของพวกเขาตายไปแล้ว และกำลังรอเกิดอยู่ ส่วนเจสสิก้าที่ไว้ใจได้ที่สุดก็ถูกเอลฟ์จับตัวไว้ และไม่สามารถมาช่วยเหลืออะไรได้

ตอนนี้ทั้งตี้มีเพียงเอ็ดเวิร์ด โจ และโลลิเอเลน่าที่รักการฆ่าฟันเท่านั้น

“เฮ้อ…” แองโกร่าถอนหายใจ “ผู้เล่นที่นี่น่าจะเพียงพอจัดการกับพวกอันเดดในโซติมิได้ แต่มังกรซอมบี้ในเทือกเขาคริสตอฟฟ์ล่ะ…?”

เขายังพูดไม่จบประโยค ในตอนนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของผู้เล่นทุกคนพร้อมกัน

[ติ้ง!]

[เริ่มกิจกรรมเซิร์ฟเวอร์!]

[หายนะซอมบี้: เงาที่คืบคลานเข้ามา]

--------------------------------------------

เพจ FC-Translate

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด