ตอนที่แล้วตอนที่ 22: เนื้อสัตว์ปราณ - กระต่ายหิมะ (่ส่วนที่2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24: เนื้อสัตว์ปราณ - กระต่ายหิมะ (4)

ตอนที่ 23: เนื้อสัตว์ปราณ, กระต่ายหิมะ (ส่วนที่ 3)


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

กลางคืนมาถึงแล้ว ชิยูรอให้รอบๆเงียบลงก่อนที่เธอจะหายเข้าไปในมิติของตัวเอง.

 

ตอนนี้เธอได้เมล็ดอัคคีมาแล้วเธอจะทำยังไงให้ร่างกายดูดซับมันเข้าไป? เธอจะใช้มันได้จริงๆหรอเนี่ย?

 

ใจกลางมิตินั้น หนังสือก็ยังคงลอยอยู่เหมือนเดิม. แต่วินาทีที่เธอสงสัยขึ้นมาหนังสือนั่นก็เปิดขึ้นเอง.

 

“อืมม...ชั้นต้องอยู่ในน้ำก่อนสินะแล้วก็กลืนเมล็ดอัคคีเข้าไป?” พอชิยูคิดว่าไฟจริงๆกำลังจะลงไปในท้องของเธอ เธอก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว.

 

“ไม่มีวิธีอื่นจริงๆหรอ?”

 

ปุ่ก!

 

หนังสือปิดตัวลงเองอย่างรุนแรง.

 

“.....” เจ้านี่ดูท่าหยิ่งน่าดู.

 

พอมองไฟสีน้ำเงินที่กำลังลุกอยู่บนมือของเธอ เธอจึงคิดว่าต้องกลืนเจ้านี่ลงไปจริงๆน่ะหรอ.

 

เมล็ดอัคคี แม้จะด้อยกว่าของวิเศษอื่นๆแต่มันก็ยังคงเป็นของที่สวรรค์สรรสร้างมา. วินาทีที่มันถูกสร้างขึ้น เปลวไฟของมันก็จะไม่มีวันมอดดับลง. ถ้าเธอทนมันไม่ไหวล่ะก็ เธอคงกลายเป็นเถ้าธุลีแน่.

 

พอมองไปรอบๆชิยูก็เห็นบ่อน้ำเล็กๆที่อยู่เลยหมอกไปเล็กน้อย. นี่คือน้ำที่เจ้าหนังสือนั่นบอกสินะ.

 

ชิยูยืนอยู่ข้างบ่อนานมาก ก่อนจะตัดสินใจ. ไม่สนแล้ว ลองดูดีกว่าช่างหัวผลที่ตามมาปะไร.

ในโลกใบนี้นั้น คนที่ไม่มีพลังอำนาจจะถูกเหยียบย่ำ. พวกเขาจะต้องใช้ทั้งชีวิตอยู่กับความหวาดกลัว. และเธอก็ไม่อยากจะใช้ชีวิตแบบนั้น.

 

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็กลับไปที่โลกจริง ไปหยิบอ่างอาบน้ำมาแล้วกลับเข้าไปในมิติอีกครั้ง. จากนั้นเธอก็เอาน้ำจากบ่อใส่ลงในอ่างแล้วเข้าไปนั่งในนั้น.

 

(ผมนึกคำไม่ออกครับ คำว่าอ่างอาบน้ำ ในหนังกำลังภายในนี้เขาเรียกอะไรหรอครับ)

 

จะน้ำบ่อหรือน้ำแร่ธรรมชาติ ชิยูก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ มันเย็นแต่ก็ไม่ถึงกับสะดุ้ง. เธอเผลอกลืนไปส่วนนึงตอนใส่น้ำลงในอ่างด้วย ฮึ่ม รสชาติก็ไม่ได้แย่ ออกหวานๆ สดชื่นและชุ่มคอ. น้ำแบบนี้ถ้าเอาไปทำเหล้าหรือเต้าหู้น่าจะแจ่มมาก.

 

หลังจากมองเงาสะท้อนตัวเองอยู่พักหนึ่ง เธอก็ใจเย็นลง. ชิยูหยิบเมล็ดอัคคีน้อยมาแล้วพยายามจะกลืนมันลงไป.

 

จู่ๆเปลวไฟบนเมล็ดก็ลุกขึ้นมาราวกับว่ามันรู้ว่าเธอจะทำอะไร อุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดเดือด. มันร้อนพอที่จะทำให้ชิยูสลัดมันทิ้งไปได้เลยแต่โชคดีที่มันตกลงไปในอ่างแทน.

 

สมแล้วที่เป็นของที่สวรรค์ประทานมา ไฟนิรันด์ของมันยังคงลุกแม้อยู่ใต้น้ำ. เพียงแต่เปลวมันลดลงไปเยอะมากและก็ไม่ร้อนเหมือนเดิม. แต่ชิยูก็สังเกตุเห็นว่าน้ำในอ่างมันเริ่มเดือดปุดๆขึ้นมา.

 

เดี๋ยวนะ มันเดือดได้ยังไง?

 

ตอนนี้เมล็ดอัคคีไม่น่าจะร้อนพอนี่นา, ชิยูโยนความคิดทิ้งไปแล้วโดดลงไป.

เธออ้าปากดูดเมล็ดอัคคีมาเหมือนกับปลาเลย จากนั้นเธอก็พยายามจะกลืนมันลงไปพร้อมกับน้ำจากบ่อ.

 

ตอนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ต่อมาชิยูก็รู้สึกถึงความร้อนแปลกๆในท้องของเธอ. มันเหมือนกับเธอเพิ่งกลื่นไฟจริงๆเข้าไปเลย แม้แต่อกเธอก็เริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา.

 

“อั่ก-” เธอพยายามกินน้ำเพิ่ม หวังว่ามันจะไปดับไฟและทำให้หายเจ็บปวดแต่ก็ไม่เป็นผล. กลับกันความรู้สึกร้อนๆนั่นกลับแผ่ไปทั่วตัวเธอจนถึงหัวใจ.

 

ชิยูเจ็บปวดมากๆจนดิ้นไปทั่ว เธอเผลอถีบอ่างจนล้มลง. พอไม่มีน้ำแล้วอุณหภูมิก็พุ่งขึ้น. เธอรู้สึกว่ากระดูกตัวเองจะถูกเผาเป็นถ่านแล้ว. เธอคลานไปทางบ่อน้ำโดยสัญชาตญาณ แต่ตอนนี้ไฟสีน้ำเงินกลับห่อหุ้มทั่วตัวเธอไปแล้ว.

 

เปลวไฟนั้นแผดเผาผิวหนังของเธอไปเรื่อยๆ ส่วนที่ไหม้เป็นเถ้าท่านนั้นปริแตกออกขณะที่เธอพยายามคลานไป จนเลือดและของเหลวในตัวเธอไหลออกมา. แม้แต่ของเหลวพวกนี้ก็ถูกไฟสีน้ำเงินเผาจนดำไปหมด. ในที่สุดเธอก็มาถึงบ่อน้ำแล้วเธอก็เอาตัวลงไปได้สำเร็จ น้ำนั้นชะล้างส่วนที่ถูกไหม้ออกไปทันที จนเนื้อหนังสีชมพูข้างในเปิดออก. วินาทีต่อมาไฟสีน้ำเงินนั้นก็ลุกขึ้นเรื่อยๆพยายามจะเผาเนื้อหนังนั่น.

 

เปลวไฟลุกโชนและผิวหนังถูกแผดเผาไปเรื่อยๆ น้ำก็ระเหยออกอย่างต่อเนื่องขณะที่เธอดิ้นพล่านไปมา ความเจ็บปวดนั้นมากมายจนในที่สุดชิยูก็หมดสติไป.

 

ราวกับว่าร่างกายของเธอถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากไฟเลย เหมือนกับดาบหรือมีดที่กำลังแดงฉ่าจากความร้อนและถูกตีไปเรื่อยๆ.

 

หลังจากผ่านไปอย่างนาน ร่างสีขาวก็ลอยขึ้นมาบนบ่อน้ำ. ไฟยังคงลุกไปมารอบๆร่างนั้น แต่มันดูเหมือนไม่ได้จะทำอันตรายใดๆต่อร่างนั้น.

 

พอชิยูลืมตาตื่นขึ้น เธอก็มึนหัวอยู่นานมาก. เธอค่อยๆจับตัวเองอย่างระวัง พอเธอมั่นใจแล้วว่าตัวเองยังไม่ตายเธอก็ล้มตัวลอยขึ้น.

 

โชคดีจริงๆที่เธอยังไม่ตาย!

 

งั้นแสดงว่าเธอดูดซับเมล็ดอัคคีได้แล้วงั้นหรอ?

 

ชิยูรีบลุกออกจากบ่อน้ำแล้วกางแขนออกไปจากนั้นก็รวมสมาธิ. ไฟสีน้ำเงินลุกขึ้นมาและสะบัดไปทั่ว.

 

…..จะทำอาหารด้วยไฟเล็กๆแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?

 

“ใหญ่อีก!”

 

ฟุ่บ! เปลวไฟลุกขึ้นอีก. สีของมันยังเป็นน้ำเงินแต่ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นร้อนกว่าเดิม มันร้อนพอจะทำให้อากาศรอบตัวเธอลอยขึ้น.

“เจ๋ง” ชิยูพอใจมาก.

 

คุ้มค่ากับที่เธอทนเจ็บจริงๆ.

 

สิ่งเดียวที่แย่คือเสื้อผ้าของเธอดันไหม้ไปด้วย. เธอแอบกลับเข้าไปที่ห้องแล้วรีบค้นกองผ้า.พอเจอตัวที่จะใส่แล้วเธอก็รีบสวมมัน จากนั้นเธอก็มองไปรอบๆตัว ตอนนี้ใกล้รุ่งสางแล้ว.

 

เธอรีบออกมาข้างนอกสูดอากาศดีๆ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นที่สุดขอบฟ้า. ประกายแสงสีแดงทองสาดออกมา ส่องสว่างให้เห็นแก๊สสีแดงๆที่กำลังลอยไปมาอยู่.

 

ชิยูยื่นมือออกไปจับแก๊สสีแดงที่กำลังลอยอยู่.

 

นี่คือธาตุไฟงั้นหรอ?

 

ขณะที่สงสัยอยู่นั้น เธอก็เห็นไฟสีน้ำเงินลุกขึ้นมาแล้วกลืนแก๊สสีแดงนั่นเข้าไป. ชิยูรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอกำลังดูดซับธาตุไฟอยู่ แม้จะยืนอยู่เฉยๆก็ตาม.

สิ่งที่ประหลาดที่สุดก็คือตอนนี้เธอสามารถเห็นได้ว่าที่จุดตันเถียน(ท้อง)ของเธอเกิดอะไรขึ้นบ้าง. ข้างๆเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของเธอมีลูกแก้วหยกกลมๆคอยปล่อยไฟสีน้ำเงินออกมาเรื่อยๆ. และสิ่งที่กำลังหมุนรอบๆของทั้ง2อย่างนั่นอยู่ก็คือ อะไรซักอย่างที่มีลักษณะเป็นหยดน้ำสีแดง3อัน. สงสัยคงจะเป็นธาตุไฟที่เธอเพิ่งดูดซับไปมั้ง.

 

ถ้าว่ากันตามวิถีวรยุทธของโลกนี้แล้ว เจ้าหยดน้ำพวกนี้น่าจะแปลว่า ตอนนี้เธออยู่ในระดับพื้นฐาน 3 สินะ?

 

พอรู้สึกถึงพลังที่ไหลผ่านทั่วตัวเธอแล้ว เธอก็คิดว่าที่อดทนกับความเจ็บปวดนั้นคุ้มค่ามากจริงๆ.

ตอนนี้เธอมีปราณไฟแล้ว เธอสามารถปรุงเนื้อสัตว์ปราณที่หลินฟ่านให้เธอได้. ตอนนี้ก็เช้าอยู่ เยี่ยมเลยมาทำอาหารเช้ากันเถอะ.

 

ห้องครัวข้างๆนั้นมีอุปกรณ์ครบครันมากทั้ง กระทะ, หม้อ, ตะหลิวแล้วก็ถ้วย. อันดับแรกเธอหยิบเนื้อสัตว์ปราณที่ซ่อนไว้ในมิติส่วนตัวออกมาแล้วใช้มีดหั่นมัน. มีดนี้หลินฟ่านเป็นคนให้เธอมาเพราะจะได้หั่นเนื้อสัตว์ปราณได้สะดวกๆ.

 

เนื้อนี้เป็นส่วนหลังของกระต่ายหิมะระดับ2 มันนุ่มอย่างเหลือเชือเลยแถมมีลายเนื้อสวยด้วย. เธอเอามีดสับเนื้อ ใสเกลือลงไปนิดหน่อยแล้วก็พักไว้ให้เนื้อหมักตัวเอง. จากนั้นเธอก็ไปล้างข้าว.

 

จริงๆแล้วของกินของใช้ที่ได้มาจากตระกูลหลินนั้นก็ไม่ได้แย่. อาจจะเป็นเพราะเสี่ยวฉี อาหารที่พวกเขาได้กินส่วนใหญ่จึงมีพลังปราณทั้งนั้น.

 

อาหารทื่มีพลังปราณอยู่นอกจากจะรสชาติขมแล้วมันยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและอายุยืนด้วย. ข้าวพลังปราณนี้เม็ดใหญ่และอวบอ้วนมาก มันดูเหมือนหยกน้อยๆเลย. เธอใส่ข้าวลงไปในหม้อดินแล้วไปตักน้ำจากบ่อในมิติมาใส่. เธอใช้สายตากะเอาตอนที่เติมน้ำจากนั้นก็ปิดฝาแล้วรอมันสุก.

 

ผ่านไป15นาทีเธอเปิดฝาออกแล้วใส่เนื้อกระต่ายสับลงไปแล้วคนให้ทั่วหม้อ. จากนั้นก็ใช้ไฟอ่อนลง. ทว่าเนื้อกระต่ายหิมะนั้นไม่สามารถปรุงให้สุกได้ด้วยไฟธรรมดา ชิยูจึงต้องไปนั่งด้านหน้าเตาแล้วใช้ไฟสีน้ำเงินจากในตัวเธอเพื่อปรุงมัน…..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด