ตอนที่แล้วตอนที่ 114 บึงพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 116 พลังที่เหนือกว่า

ตอนที่ 115 ฆ่าเพื่อที่ว่าง


ตอนที่ 115 ฆ่าเพื่อที่ว่าง

ในเวลาเดียวกันขณะที่ไนเรลลงไปด้านล่างตามทางของผนังถ้ำที่คับแคบ แต่ในช่วงนั้นเองไนเรลก็สังเกตเห็นบางอย่างดูเหมือนว่าข้างล่างจะถูกควบคุมโดยคนกลุ่มหนึ่งที่กระจายตัวปิดทุกเส้นทางเข้ามาที่บึงแห่งนี้ไว้

เมื่อไนเรลลงมาถึงด้านล่างคนพวกนั้นก็เข้ามาล้อมเขาไว้อย่างรวดเร็ว

“หยุด! บริเวณนี้ใครก็ห้ามผ่านเข้าไปในบึงพิษ นี่เป็นคำสั่งของนายน้อยฟลอยด์” มนุษย์ชั้นสูงระดับสีเทาผู้ถือดาบเงา (ดาบแขนของซอมบี้เงา) กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่หยิ่งทะนงพร้อมกับที่เดินมาขวางหน้าไนเรลไว้

“หลบไป” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ที่โดนมนุษย์ชั้นสูงระดับต่ำคนหนึ่งมาขวางทางไว้

ชายผู้ถือดาบเงาได้ยินที่ไนเรลพูดเช่นนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมา แต่ก่อนที่มันจะได้ทำอะไรอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าอากาศรอบด้านเริ่มหายใจติดขัดมากขึ้นจนกระทั่งหายใจไม่ออก

“แค่ก! .แค่ก...! นี่มัน...” ชายคนนั้นกำไปที่คอของตัวเองด้วยความกลัว ส่วนอีก 3 คนที่มาด้วยกันพวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที

แต่พอเข้ามาในระยะ 5 เมตรรอบไนเรลพวกมันทั้งสามก็มีอาการเช่นเดียวกับชายผู้ถือดาบเงา และทั้งหมดนี้ก็คือความสามารถ [สนามพลังอากาศ S] ของไนเรลที่ได้มาไหม ระยะการควบคุมมันไม่ได้ถูกจำกัดอีกต่อไปเพียงแต่ว่ายิ่งไกลมากเท่าใดก็ยิ่งส่วนเสียพลังงานในการควบคุมมันมากขึ้นเท่านั้น

“ไปกันเถอะ” ไนเรลเดินต่อไปด้วยสีหน้าราบเรียบไม่สนใจพวกนั้นที่ตอนนี้พากันสูดอากาศเข้าไปหลังจากที่เขายกเลิกความสามารถแล้ว

ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสี่คนที่ขวางเขาในตอนแรกนั้นไม่กล้าที่จะห้ามไนเรลอีกพวกมันได้แต่มองไนเรลและกลุ่มของเกลเดินผ่านไปเท่านั้น

เมื่อพวกมันเห็นไนเรเดินผ่านไปแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อสักครู่ตอนที่หายใจไม่ออกพวกมันคิดว่าต้องตายไปแล้วจริง ๆ

“ทำยังไงดี พวกมันเข้าไปแล้ว ถ้านายน้อยฟลอยด์รู้เข้าพวกมีหวังโดนโทษหนักแน่”

“จะทำอะไรได้ใครจะไปรู้ว่าผลยกระดับจะดึงตัวประหลาดแบบนี้มาด้วย ตอนนี้พวกเราคงได้แค่รีบวิทยุไปบอกนายน้อยฟลอยด์ก่อนเท่านั้น”

ทั้งสี่คนมองหน้ากันไปมารวมความจนปัญญาจากนั้นก็รีบวิทยุบอกนายน้อยของตน แต่แน่นอนว่าชายผู้ถือดาบเงาที่ขวางไนเรลไว้ในตอนแรกก็พูดใส่ไฟไปอีกว่าไนเรลบุกรุกเข้ามาโดยไม่สนใจคำสั่งของนายน้อยฟลอยด์

ส่วนไนเรลที่ตอนนี้เดินเข้าไปที่บึงพิษนั้นก็ไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ต่อให้รู้เขาก็ไม่สนใจ

“เออ...คุณไนเรลแบบนี้มันจะดีแน่หรือ” เกลถามออกมาด้วยความกังวลเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยความเกรงใจกับไนเรล

“หืม...ทำไม? มีอะไรหรือเปล่า” ไนเรลเดินช้าพร้อมกับหันมองเกลด้วยความสงสัย

“ก็เรื่องที่คนพวกนั้น พวกมันเป็นคนของฟลอยด์ เขาเป็นลูกชายของฟาริสมนุษย์โลหะ ผู้นำค่ายโลหะหนึ่งในสามค่ายหลักแถวนี้ ถ้าไปมีปัญหาด้วยจะลำบากได้” เกลอธิบายให้ไนเรลฟังอย่างใจเย็น

“ฟาริสที่พี่ชายเกลพูดถึงมีพลังระดับไหน”

“น่าจะระดับสีเขียวได้สักพักแล้ว ที่ค่ายโลหะยังมีมนุษย์ชั้นสูงกว่า 30 คนส่วนใหญ่เป็นระดับสีเทา และกองกำลังพร้อมอาวุธอีกจำนวนหนึ่ง” เกลพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“อืม แค่นั้นสบายมาก” ไนเรลกล่าวออกมาแบบยิ้ม ๆ จากนั้นก็เดินต่อด้วยความรวดเร็ว ปล่อยให้เกลยืนงงกับคำว่าสบายมากของไนเรลว่ามันหมายความว่ายังไง

หลังจากเดินมาได้ 5 นาทีตรงหน้าของเขาก็เป็นหมองหนาแล้ว แต่มันก็มาถึงจุดหมายของเขาแล้วมันคือขอบของบึงพิษ ซึ่งในบริเวณนี้ไม่ได้มีแค่ไนเรลเท่านั้น

ทันทีที่เขาเดินมาถึงก็ถูกจับจ้องเป็นพิเศษจากมนุษย์ชั้นสูงสามกลุ่มที่ยืนคุมเชิง ด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย

“เกิดอะไรขึ้นทำไมพวกนั้นปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้ ไปไล่พวกมันออกไป” ชายหนุ่มผมสั้นแต่งตัวดูดี พูดออกมาด้วยความไม่หงุดหงิดอย่างมาก รอบด้านมีมนุษย์ชั้นสูงอีก 10 กว่าคน และคนปกติอีกเกือบ 50 ที่มีอาวุธครบมือพร้อมกับหน้ากากกันแก๊สพิษ

“นายน้อย....นายน้อยได้ยินหรือไม่ครับ มีมนุษย์ชั้นสูงหน้ากลัวคนหนึ่งไปทางบึงพิษ พวกมันไม่สนใจแม้ว่าผมจะบอกแล้วว่านายน้อยสั่งห้ามไม่ให้เข้าไป...” แต่ก่อนที่คนของเขาจะออกไปก็มีเสียงของวิทยุที่อยู่ในมือของลูกน้องดังขึ้น

ฟลอยด์ยืนมือไปรับมาจากลูกน้องหลังจากฟังเรื่องที่ไนเรลทำกับคนของตน ด้วยเวอร์ชันใส่ไฟก็ทำให้ฟลอยด์ผู้ที่ปกติก็ไม่เห็นหัวใครอยู่แล้วก็โกรธขึ้นมา

ฟลอยด์โยนวิทยุในมือให้กับลูกน้องจากนั้นก็เดินตรงไปหาไนเรลทันที

“เฮ้ยแกนะมาที่นี่ทำไม ฉันอนุญาตให้คนนอกมาได้มาทางไหนกลับไปทางนั้นซะ” ฟลอยด์พูดออกมาด้วยท่าทีนักเลง

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็ถึงกับขมวดคิ้ว ดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นพวกนักเลงพออยู่กับหมูกับพวกก็ใช้อำนาจบาตรใหญ่

“ไม่มีฉันแค่ต้องการผลยกระดับ ดังนั้นนายหลบไปซะฉันไม่ต้องการมีเรื่อง” ไนเรลมองไปที่ฟลอยด์ด้วยใบหน้าที่นิ่งเงียบ เพื่อให้ฟลอยด์สังเกตุเห็นคริสตัลที่หน้าผากอันเป็นเครื่องหมายของพลังไนเรล แต่ดูเหมือนฟลอยด์จะเป็นพวกตาถั่วหรืออาจจะไม่กลัวไนเรลเพราะคิดว่าก็แค่ระดับที่มากกว่าเท่านั้น

“ใครสนใจเรื่องของแกกัน รีบคุกเข่าขอโทษแล้วก็กลับไปซะฉันยังมีงานที่ต้องทำอีก” ฟลอยด์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย้อหยิ่ง

ในจังหวะที่ฟลอยด์ขวางทางไนเรลอยู่นั้นก็มีอีกกลุ่มที่ดูเหมือนกับว่าพึ่งไปเตรียมตัวมา เดินมาทางพวกเขา

“เฮ้ฟลอยด์มีปัญหาอะไร พวกเราต้องรีบลงมือกันแล้ว ทางด้านของจีนาพร้อมที่จะลงมือแล้ว ฉันเองก็ด้วย”

“คนที่กล่าวก็คือ ฮาร์มผู้ที่มาจากค่ายหมาป่าทมิฬ ส่วนจีน่าที่พูดถึงเธอคือสมาชิกของค่ายดอกไม้สีเงิน ทั้งสามเป็นค่ายขนาดใหญ่ที่อยู่นอกเหนือจากการปกครองของรัฐบาลบริเวณนี้” เกลที่ยืนอยู่ด้านข้างอธิบายให้ไนเรลฟังเหมือนกับกลัวว่าไนเรลไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใคร

“หืมค่ายดอกไม้สีเงิน หรือว่าจะคนที่เป็นผู้นำคือ เจ้าหญิงดอกไม้ไอรินา” ไนเรลถามเกลด้วยความสงสัย

“ใช่ คนที่เป็นผู้นำค่ายดอกไม้สีเงิน ฉายาเจ้าหญิงดอกไม้ไอรินา เธอมีความสามารถในการควบคุมวัตถุ” เกลตอบคำถามของไนเรลอยู่ด้านข้าง

ไนเรลเมื่อได้ยินดังนั้นก็คิดถึงข้อมูลของชีวิตที่แล้ว เจ้าหญิงดอกไม้ไอรินา เธอมีความสามารถในการควบคุมวัตถุได้ เธอมีชื่อเสียงมาก เพราะความสามารถที่สูงมาก ถ้าจำไม่ผิดหน้าจะมีระดับ s อย่างแน่นอนยืนคิดอยู่สักพักจนกระทั่งเสียงเรียกของฟลอยด์ได้ขัดจังหวะขึ้นมา

“แกนะไม่ได้ยินหรือไง หรือต้องให้ลงไม้ลงมือ” ฟลอยด์พูดพร้อมกับที่ยกปืนไปที่ไนเรล เพื่อข่มขู่เขา

ไนเรลเงยหน้ามองไปที่ฟลอยด์ พร้อมกับถอนหายใจ

“เฮ้อ..ดูท่าจะต้องลงมือสักหน่อย” ไนเรลยืนมือออกไปหาฟลอยด์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของฟลอยด์จนกระเด็นลอยไปด้านหลังกว่า 10 เมตร

ฟลอยด์ที่ตอนนี้ตกใจมาก เพราะมันมองการโจมตีของไนเรลไม่ออกเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่กะพริบตาตัวของมันก็ลอยมาไกล

“ไอ้ตัวบัด*บ...แก...!!!” ฟลอยด์ดูเหมือนจะโมโหมากชี้หน้าด่าไนเรลและดูเหมือนฟลอยด์จะพึ่งรู้สึกตัวว่าฟันของมันหักไปหลายสิบซีก มันรีบถุยฟันที่หักในปากออกพร้อมกับมือที่สั่นเท่ามองไปที่ฟันนั้น

ตั้งแต่เล็กจนโตฟลอยด์ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่เคยเลือดตกยางออกแบบนี้มาก่อน เพราะพ่อของเขานั้นเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขนาดก่อนวันสิ้นโลกเขาเคยขอผู้หญิงคนหนึ่งคบด้วยแต่เธอปฏิเสธเพราะมีแฟนแล้ว เขาพยายามจะลวนลามเธอสุดท้ายโดนแฟนของผู้หญิงคนนั้นต่อยเอา

แต่ด้วยความที่เขานั้นเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นบวกกับดื่มเหล้าเมาไปพอสมควร จึงขับรถชนทั้งผู้หญิงและแฟนของเธอตาย แต่สุดท้ายเขาก็โดนจับแต่ถึงจะมีหลักฐานมากขนาดไหน เขาก็ยังรอดเพราะมีเงินได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ

จนกระทั่งวันสิ้นโลกมาถึงฟลอยด์ก็ปลดปล่อยธาตุแท้ของตนใครก็ตามที่ปฏิเสธจะโดนเขาฆ่าทิ้งบ้างก็โดนฉุดถ้าเป็นผู้หญิงสวย ๆ นั้นทำให้เขามีชื่อเสียงไม่ดี แต่ใครจะไปสนเพราะขนาดตอนนี้มีกฎหมายยังทำอะไรดังนั้นเมื่อโลกเป็นแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

แต่ขณะนี้เขากับโดนต่อยจากใครก็ไม่รู้จนฟันหักเกือบหมดปาก

“ฆ่ามันให้ฉัน ฆ่ามันซะ” ฟลอยด์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชัดนักเพราะฟันที่หัก

แต่ถึงเขาจะพูดอะไรคนอื่น ๆ ก็ยังไม่กล้าขยับ พวกเขาไม่ได้โง่ คนที่ต่อยฟลอยด์ที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำร่วงในหมัดเดียวได้นั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

อีกอย่างพวกมันก็มองไปที่คริสตัลที่หน้าผากของไนเรลซึ่งมันคือสัญลักษณ์ที่บอกถึงพลังของมนุษย์ชั้นสูงตอนนี้ไนเรลเป็นระดับสีน้ำเงิน

“เออ พี่ชายคือเรื่องนี้ผมขอไม่ยุ่งดีกว่าพวกคุณจัดการกันเองเลยนะ” ฮาร์มผู้ที่มาจากค่ายหมาป่าทมิฬที่เห็นระดับของไนเรลมันก็ไม่ได้โง่รีบแสดงจุดยืนของตัวเองทันที

คนของฟลอยด์ได้ยินก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปตาม ๆ กัน แต่เพราะไม่สามารถขัดคำพูดของฟลอยด์ได้จะพากันเล็งปืนไปที่ไนเรล

เมื่อเกลเห็นดังนั้นก็พาคนของตนเองยกปืนเล็งไปทางคนของฟลอยด์เช่นกัน เพราะถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็อยู่บนเรือลำเดียวกันกับไนเรลแล้ว

“พวกนายถอยไปก่อน” ไนเรลยกมือห้ามทุกคนจากนั้นก็หันไปบอกกับเซลี่ “เธอไปหลบข้างหลังของโรวันก่อน”

เซลี่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นแค่คนธรรมดา ถ้าเกิดการต่อสู้บานปลายขึ้นมาคนที่จะตายก่อนใครเพื่อนคงเป็นเธออย่างแน่นอน

โรวันพาเซลี่มาหลบด้านหลังพร้อมกับถอยออกไปรวมตัวกับเกล

ขณะที่ไนเรลกำลังจะลงมือปะทะกับคนของค่ายโลหะที่นำโดยฟลอยด์ แต่ก็มีคนมาขัดจังหวะอีกครั้งนั้นก็คือ ไอรินาเจ้าหญิงดอกไม้พร้อมพักพวกที่เข้ามาพอดี

“หืมเกิดอะไรขึ้น” เธอถามออกมาด้วยความสงสัย แต่แล้วเมื่อเห็นไนเรล เธอก็ระวังตัวขึ้นมาเล็กน้อย เพราะระดับพลังสีน้ำเงินของไนเรล

“คุณคือ...?” ไอรินาถามด้วยความสงสัย

“ไนเรล” ไนเรลตอบไปด้วยเสียงที่ราบเรียบ

“ไนเรล คุณมาทำอะไรที่นี่ หรือว่าเป็นเพราะผลยกระดับ ถ้างั้นคงต้องเสียใจเพราะผลยกระดับมันมีแค่ 40 ผล พวกเราแบ่งกันคนละ 10 ผลแล้วส่วนที่เหลือก็ต้อเอาไปให้พวกทหารคุณคงไม่อยากมีปัญหากับพวกทหารสินะ” ไอรินากล่าวเข้าประเด็นทันทีโดยไม่อ้อมค้อม

“หมายความว่าไง?” ไนเรลฟังก็แปลกใจมันเกี่ยวอะไรกับพวกทหาร

“เพราะต้นผลยกระดับที่พวกเรากำลังจะเก็บมีรัฐบาลหนุนหลัง พวกนั้นต้องการต้นของผลยกระดับและผลยกระดับส่วนหนึ่งจึงให้ยืมของบางอย่างมาและพวกเราก็ตกลงไปแล้วพร้อมกับ 3 ค่ายที่รวมมือจึงไม่มีที่ว่างให้กับคุณ ถ้าคุณมีปัญหาก็ไปคุยกับพวกรัฐบาล” ไอรินาอธิบาย ส่วนคนอื่น ๆ ได้แต่นิ่งเงียบ แม้แต่ฟลอยด์ก็เงียบลงเพราะในบรรดาคนของทั้งสามค่ายไอรินามีพลังมากที่สุด เธอคือมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียว

ซึ่งเป็นผู้นำของค่ายดอกไม้สีเงินที่แท้จริงส่วนฟลอยด์และฮาร์มเป็นแค่ตัวแทนจากสองค่ายเท่านั้น

“ดูเหมือนเธอจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ถึงฉันจะอยากได้ผลยกระดับ แต่ทำไมต้องไปร่วมมือกับพวกเธอเพื่อแย่งที่ว่างบ้าบออะไรนั้น ด้วยพลังของฉันกับแค่พวกกบหนองพิษพวกนี้...” ไนเรลจงใจลากเสียงให้ยาวขึ้นพร้อมกับยิ้มมองไปทางไอรินา

ไอรินาถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอรู้ว่าไนเรลนั้นมีพลังที่สูงมาก แต่ถ้าจะให้ปล่อยผลยกระดับไปก็คงไม่ได้ เธอต้องการมันเช่นกัน ดูจากท่าทีชายที่ชื่อไนเรลแล้วเขาทำราวกับว่าต้องการผลยกระดับทั้งหมด

“ฉันบอกแล้ว ฆ่ามันซะเรื่องจะได้จบ ๆ พวกเราจะได้ลงมือเอาผลยกระดับมาสักที” ฟลอยด์ที่ยืนอยู่ด้านข้างพยายามพูดชักจูงไอรินาและฮาร์มให้ลงมือ

บรรยากาศนั้นน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก แม้แต่ฮาร์มที่เป็นคนนำกลุ่มจากค่ายหมาป่าทมิฬก็ตั้งท่าระวังแล้ว ถึงอย่างไรทั้งสามค่ายก็ยังคงมีสัญญาการร่วมมืออยู่ ถ้าเกิดไนเรลคิดจะมาแย่งผลยกระดับไปทั้งหมดพวกเขาก็คงต้องเข้าสู้ด้วย

ไนเรลมองไปที่เหล่าลูกเจียบทั้งหลายอย่างนิ่งเงียบ แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ยิ้มออกมา “ก็ได้...คงต้องหาที่ว่างสักหน่อย”

“หมายความว่าไง” ไอรินาถามออกมาด้วยความสงสัยในคำพูดของไนเรลที่ว่าหาที่ว่าง แต่ไนเรลก็ไม่ปล่อยให้เธอสงสัยอยู่นานนัก เพราะทันทีทันในนั้นไนเรลก็หายตัวไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าของฟลอยด์จากนั้นก็หักคอเขาต่อหน้าทุก ๆ คน

กร๊อบ!

เสียงกระดูกคอของฟลอยด์หักแหลกละเอียดคามือของไนเรล

“เรียบร้อยแค่นี้ส่วนแบ่งของเขาก็เป็นของฉัน เอาละเรามาลงมือฆ่ากอหนองพิษกันเถอะ” ไนเรลโยนศพของฟลอยด์ที่ยังคงตาเหลือกอยู่ไปด้านข้างอย่างไม่ไยดี ทำเอาทุกคนถึงกับพูดไม่ออก

ใบหน้าของไอรินาและฮาร์มก็บิดเบี้ยวทันที แต่คนที่หนักกว่าเห็นจะเป็นคนของค่ายเหล็กที่ยืนอึ้งเพราะฟลอยด์ที่ตายไปต่อหน้าต่อตา

“บัดซับ ฆ่า...” คนของค่ายโลหะคนหนึ่งไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้อีกลงมือเปิดฉากยิงไนเรลทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด