ตอนที่แล้ว===== [ องก์ที่หนึ่ง : โหมโรง ] =====
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 : ติดตามอาการ

ตอนที่ 1 : จัดสรรจับคู่


เรื่อง : รัตติกาลไม่สิ้นแสง (长夜余火 Embers Ad Infinitum)

ตอนที่ 1 : จัดสรรจับคู่

* * * * * * * * * * * * * * *

เขต C ชั้นที่ 495 ของอาคารศูนย์กิจกรรม ผนังสีเขียวอมเทาด้านนอกเต็มไปด้วยกราฟิตี้สารพัดลวดลาย หญิงสาวหกเจ็ดคนเดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าเจืออารมณ์ตื่นเต้น ความหวัง และประหม่า

พวกเธอสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย ไม่ได้มีสีสันมากมาย หลักๆ ก็เป็นสีน้ำเงิน ดำ ขาว และเขียว แต่ว่าแต่ละคนก็ล้วนดูงดงามและอ่อนเยาว์

ระหว่างที่พวกเธอมองดูหน้าจอ LCD ซึ่งมีเพียงจอเดียวในชั้นนี้ หญิงสาวที่อยู่หัวแถวด้านหน้าอดกระซิบขึ้นไม่ได้

“ไม่รู้ว่าทางบริษัทจะหาสามีแบบไหนให้ฉันกันนะ”

“เรื่องสำคัญคือเขาเป็นคนยังไงต่างหากล่ะ” หญิงสาวด้านข้างที่สวมเสื้อเขียวกางเกงน้ำเงิน กัดริมฝีปากและพูดขึ้น

เนื่องเพราะเป็นประชากรหนุ่มสาวรุ่นที่สองแล้วที่การใช้ยาปรับปรุงพันธุกรรมนั้นได้รับความนิยมจนใช้กันแพร่หลาย พวกเธอจึงไม่ต้องกังวลเรื่องรูปลักษณ์และส่วนสูงของว่าที่สามี เพราะอย่างไรเสียก็มีระดับสูงกว่ามาตรฐานโดยเฉลี่ยอยู่แล้ว

หญิงสาวหัวแถวคนนั้นเหลือบมองเพื่อนของเธอ แล้วพูดขึ้น

“เธอลืมแล้วเหรอ คนที่เข้าร่วมการจัดสรรจับคู่ไม่ได้มีแค่คนวัยพวกเราเท่านั้น ยังมีพ่อม่ายเมียตายด้วยนะ บางคนก็อายุปาไปสี่ห้าสิบปีแล้ว พวกเขาไม่ได้รับยาปรับปรุงพันธุกรรมตอนเป็นทารกในครรภ์ มีความบกพร่องอยู่เต็มไปหมด”

เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีทารกเกิดใหม่เพียงพอ บริษัทของพวกเธอจึงมีมาตรการกำหนดไว้ ผู้ที่มีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ หรือสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาแล้ว หากยังไม่ได้เลือกคู่ชีวิตของตนเอง จะต้องเข้ารับจัดสรรคู่ชีวิตที่ทางบริษัทจัดการให้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษจาก “แผนกตรวจสอบความเรียบร้อย” การฝ่าฝืนครั้งแรกจะถูกลดการปันส่วนพลังงานและถูกตัดคะแนนความร่วมมือ การฝ่าฝืนครั้งที่สองจะถูกเนรเทศออกจากบริษัท และต้องขวนขวายดิ้นรนเอาตัวรอดในแดนธุลีด้วยตัวเอง

ผู้ที่คู่ครองเสียไปแล้วและไม่มีบุตรธิดา หลังจากที่เป็นม่ายแล้วสามปีและอายุยังไม่เกิน 60 ปี ก็จะต้องเข้าร่วมการจัดสรรจับคู่เช่นเดียวกัน

“ยังไม่ต้องพูดถึงคนพวกนั้นหรอก นี่เธอคงไม่ได้หวังว่าว่าที่สามีจะมาจากครอบครัวระดับ M หรอกนะ?” หญิงสาวอีกคนร่วมวงสนทนาด้วย แซวขึ้นมาขำๆ

กลุ่มคนภายในบริษัทนั้นถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรก-พนักงานระดับ D มีระดับ D1 ถึง D9

กลุ่มสอง-ผู้บริหารระดับ M เริ่มจาก M1 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ ไปจนถึง M3 ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์

ส่วนกลุ่มสามนั้นไม่มีรหัสตัวอักษรกำกับ มีเพียงชื่อเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ “หัวหน้าใหญ่” ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ลึกลับเป็นอย่างยิ่ง

หญิงสาวเสื้อเขียวกางเกงน้ำเงินยิ้มมุมปากแล้วกล่าวขึ้น

“นี่เธอไปได้ยินมาจากไหนว่าคนระดับธรรมดาถูกจับคู่กับคนจากชั้น 346 347 348 349 ได้ด้วยน่ะ?”

ชั้น 346-349 นั้นเป็นชั้นที่ผู้บริหารระดับ M พักอาศัยอยู่ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรพลังงานต่อคนมากกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานทั่วไปถึงสิบเท่า นอกจากนั้นแล้วทั้งสี่ชั้นนั้นก็ยังมีระบบสาธารณูปโภคแยกออกมาต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์ น้ำสะอาด การระบายอากาศ ระบบระบายน้ำและการศึกษา และโดยปกติแล้วลูกหลานของพวกเขาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานทั่วไป

ข้อยกเว้นประการเดียวก็คือการศึกษาระดับอุดมศึกษา เพราะว่าทั้งบริษัทมีมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ชั้นที่ 350

ลูกของพนักงานธรรมดาจะต้องสอบคัดเลือกเพื่อเข้าทำงานหรือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ต่างจากลูกของผู้บริหารที่ไม่ต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา

ในบริษัท ไม่มีใครไม่ต้องการยกระดับตัวเองขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร และไม่มีใครที่ไม่ปรารถนาจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริหาร

สำหรับ “หัวหน้าใหญ่” นั้น พนักงานทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหน้าตาเป็นเช่นไร อย่างมากแล้วก็มีเพียงวันสิ้นปี ปีใหม่ หรือมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ถึงจะได้ยินเสียงเธอออกอากาศผ่านทางวิทยุ ดังนั้นจึงมีพนักงานจำนวนน้อยมากที่จะเข้าตาหัวหน้าใหญ่จนได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับผู้บริหาร

แน่นอนว่า คำว่า ‘น้อยมาก’ แปลว่า ‘ยังมีอยู่’ เพียงแต่ ‘มีไม่มาก’

หญิงสาวหัวแถวผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ดังนั้นตอนที่อยู่โรงเรียน ฉันถึงได้ให้พวกเธอหาแฟนไงล่ะ ดูอย่างเฉินเป้ยสิ สามีของเธอนั้นพอเรียนจบปุ๊บก็ถูก ‘แผนกพัสดุภัณฑ์’ จองตัวปั๊บ ครอบครัวต้องมีแบ็คไม่ธรรมดาแหง!”

“เหรออออออ เมิ่งเซี่ย งั้นทำไมเธอไม่หาบ้างล่ะ หญิงสาวอีกคนสัพยอกขึ้น

“อย่างกับพวกเธอไม่รู้จักฉันงั้นแหละ เรื่องที่ฉันเก่งที่สุดก็คือพูดไปเรื่อยเปื่อยไง” เมิ่งเซี่ยยอมรับอย่างไม่อายว่าเธอไม่มีความกล้าพอจะทำ

หลังจากหัวเราะกันพอหอมปากหอมคอ หญิงสาวเสื้อเขียวกางเกงน้ำเงินก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เมิ่งเซี่ย เธอรู้เปล่าว่าครอบครัวเฉินเป้ยอยู่ระดับไหน? พวกเธอสองคนซี้กันมากนี่”

เมิ่งเซี่ยเหลียวซ้ายแลขวาก่อนเอ่ยเบาๆ

“เห็นว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการของแผนกความมั่นคงน่ะ”

“โห…” ขณะที่บรรดาสาวๆ ร้องอุทานกัน ประตูศูนย์กิจกรรมก็มีกลุ่มชายหนุ่มเดินเข้ามา

คนทั้งสองกลุ่มมองดูกันชั่วแวบหนึ่งแล้วก็เบือนหน้าหลบด้วยความเขินอาย ต่างก็ไม่มีใครรู้ว่าว่าที่สามีภรรยาของตนนั้นจะเป็นคนในกลุ่มตรงหน้านี้หรือไม่

ชายหนุ่มที่สูงราว 175 เซนติเมตรคนหนึ่งซึ่งไว้ผมเกรียนดูโล่งสบายตา มองดูโต๊ะเก่าๆ ม้านั่ง และเก้าอี้พนักสูงที่วางเรียงรายในศูนย์กิจกรรม แล้วพูดอย่างประหม่ากับเพื่อนที่มาด้วยกัน

“ซางเจี้ยนเย่า นายว่าบริษัทจะเลือกภรรยาแบบไหนมาให้ฉัน?”

เพื่อนของเขาที่มาด้วยกันนั้นสูง 185 เซนติเมตร คิ้วเป็นแนวตรง ดวงตาสีน้ำตาลสดใส ใบหน้าเป็นเหลี่ยมมุมชัดเจน เรือนผมสีดำที่ยุ่งเล็กน้อยนั้นปรกหน้าผากลงมาครึ่งหนึ่ง

ชายหนุ่มเจ้าของนามซางเจี้ยนเย่า หันหน้ามามองเพื่อนแล้วเอ่ยขึ้น

“ก่อนอื่น นายต้องได้รับการจับคู่ซะก่อน ถึงค่อยมาคุยกันต่อว่าภรรยาเป็นยังไง”

เขาสวมเสื้อแบบสองชิ้นสีกรมท่า กล้ามเนื้อแขนที่เป็นลำทำให้เสื้อผ้าดูยับย่นเล็กน้อย มองดูแข็งแกร่งกำยำสมชายชาตรี

“ฮ่า คงไม่โชคร้ายนักหรอกมั้ง รอบนี้มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแค่สองคนเอง” ชายหนุ่มสูง 175 เซนติเมตร หน้าตาดูธรรมดาสามัญหัวเราะขึ้นมา

แล้วเขากระซิบกระซาบด้วยท่าทีเคร่งขรึม

“พวกสาวๆ เขาจะดูถูกฉันหรือเปล่านะ ฉันได้รับยาปรับปรุงแบบธรรมดา เลยสูงแค่ 175 เอง หล่อก็ไม่หล่อ เรียนก็กลางๆ”

ซางเจี้ยนเย่าพูดตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือชื่อนายต่างหาก”

“ชื่อ? หลงเยว่หง ชื่อนี้มีปัญหายังไง? พ่อฉันแซ่หลง แม่ฉันก็มีคำว่า ‘หง’ อยู่ในชื่อ เห็นไหมว่าชื่อออกจะมีความหมาย” หลงเยว่หงพึมพำด้วยความสงสัย

“นอกจากนั้น บริษัทไม่ได้จับคู่ให้ฉันจากหน้าตาหรือความสูงต่ำดำขาวซักหน่อย ว่ากันว่าหลังจากตัดเอาความสัมพันธ์ทางสายเลือดออกไปแล้วก็ใช้วิธีการสุ่มเลือก… เอ๊ะ ไม่รู้ว่าเพราะชื่อฉัน เขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงหรือเปล่านะ แล้วก็ไปจับคู่หาผัวมาให้ แบบนั้นก็งานเข้ากันพอดี จะทำไงดีเนี่ย”

ซางเจี้ยนเย่ามองหลงเยว่หงหัวจรดเท้าแล้วกล่าวว่า

“ปลูกถ่ายอวัยวะ สร้างเส้นประสาทใหม่ ใส่มดลูกเทียม เท่านี้ก็เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ”

หลงเยว่หงหัวเราะกระอักกระอ่วน

“เหอๆ จะทำแบบนั้นได้ไงเล่า ฉันหมายถึงว่าพวกเขาจะทำพลาดได้ยังไง เอกสารทุกฉบับฉันเขียนไว้ว่าเป็นผู้ชายเฟ้ย!

“วิธีคิดของนายนี่มันโคตรพิลึก คนปกติทั่วไปเขาต้องไปแจ้งขอแก้ไขข้อมูลไม่ใช่รึไง”

ไม่รอให้ซางเจี้ยนเย่าตอบกลับมา เขาก็ถามต่อ

“แล้วทำไมประเด็นสำคัญมันถึงเป็นชื่อฉันล่ะ?”

“ชื่อนั้นแทนชะตาชีวิตของแต่ละคน การสุ่มจับคู่นั้นก็ดูที่โชคชะตา” ซางเจี้ยนเย่าตอบอย่างจริงจัง

หลงเยว่หงถึงกับอึ้งตะลึงไปสองวินาทีก่อนจะตอบกลับ

“ฉันน่าจะรู้อยู่นะแล้วว่านายไม่มีทางพูดเข้าหูคนหรอก!”

ไม่ทันขาดคำก็ถามต่อ

“ซางเจี้ยนเย่า นายอยากได้เมียแบบไหน?”

ซางเจี้ยนเย่าเชิดหน้าแล้วพูดว่า

“ฉันไม่ต้องมีหรอก

“บริษัทมีทรัพยากรไม่เพียงพอ มนุษย์บนแดนธุลีนั้นต้องผจญอยู่ท่ามกลางน้ำลึกเพลิงผลาญ [ความลำบากแร้นแค้น] ภายใต้เงาแห่งความอดอยากหิวโหย โรคภัยไข้เจ็บ กลายพันธุ์ และสัตว์ร้ายที่ปกคลุมไปทั่วทั้งโลก แล้วแบบนี้ฉันจะแต่งงานได้ยังไงกัน?”

“…” หลงเยว่หงปล่อยฮาออกมาคำหนึ่ง “นายนี่นับวันก็ยิ่งตลกขึ้นทุกที”

ซางเจี้ยนเย่ามองเขา แล้วพูดโดยไม่ยิ้ม

“ฉันแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการจัดสรรจับคู่ในวันนี้ไปแล้ว”

“เอาจริงดิ? ไม่สิ… บริษัทไม่มีทางอนุมัติคำขอของนายแน่! ฉันเกือบเชื่อนายไปแล้วนะเนี่ย!” หลงเยว่หงตกใจในตอนแรก แต่แล้วก็ถอนหายใจโล่งอก

ทันทีที่เขาพูดจบ เฉินเสียนอวี่ผู้ดูแลชั้นที่ 495 ของศูนย์กิจกรรมแห่งนี้ ก็ลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินไปที่หน้าจอ LCD เพื่อปรับตั้งค่า

ชายสูงวัยผมสีดอกเลาผู้นี้ฝีเท้าซวนเซอยู่บ้าง เขาเคยอยู่แผนกความมั่นคง รับผิดชอบดูแลพนักงานสำรวจโลกภายนอก เป็นถึงตำแหน่งหัวหน้าระดับ D7 ต่อมาภายหลังเนื่องด้วยปัญหาด้านอายุจึงได้ลาออกจากแผนกความมั่นคง และได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นระดับ D8 ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบชั้นนี้ของศูนย์กิจกรรม

ซางเจี้ยนเย่าและหลงเยว่หงต่างก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของคุณปู่สูงวัยผู้นี้ พวกเขาชอบแวะมาเยือนศูนย์กิจกรรมและถามนู่นถามนี่ แต่เฉินเสียนอวี่นั้นรักษากฎการรักษาความลับอย่างเคร่งครัด เพียงแค่บอกเล่าเฉพาะเรื่องราวที่ทุกคนได้รู้ได้ยินมาแล้วเท่านั้น และเขาเองก็เฉกเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ ใน “เขตนิเวศน์ภายใน” ที่ถือกำเนิด เติบโต ศึกษาเล่าเรียน ทำงาน เติบใหญ่ โรยราชราวัย ตลอดชีวิตไม่เคยได้ย่างเท้าก้าวออกจากอาคารใต้ดินแห่งนี้หรือมองเห็นผืนฟ้าท้องนภาของจริง

“เอาล่ะ จะเริ่มกันแล้ว” เฉินเสียนอวี่ถือรีโมทคอนโทรลไว้ แล้วกดลงไปอย่างแรง

หน้าจอกะพริบอยู่สองสามทีก่อนจะฉายแสงเรืองออกมา

หลงเยว่หง เมิ่งเซี่ย และคนอื่นๆ ต่างพากันกลั้นหายใจขณะที่กำลังรอผลการจับคู่ปรากฏขึ้นมา

พวกเขาไม่ต้องกังวลว่ารายชื่อจะเลื่อนหายเร็วเกินไปจนดูไม่ทัน เพราะแต่ละชั้นในศูนย์กิจกรรมนั้นจะแสดงเฉพาะรายชื่อของประชากรในชั้นนั้นเท่านั้น


[หมายเหตุ]

คะแนนความร่วมมือ ภาษาจีนใช้คำว่า 贡献点 หมายถึงคะแนนที่มาจากการเสียสละ การมีส่วนร่วม การทำคุณประโยชน์ เคยเห็นนิยายบางเรื่องใช้คำว่า ‘คะแนนคุณานุคุณ’ หรือไม่ก็ ‘แต้มคุณูปการ’

หลงเยว่หง 龙悦红 ปกติแล้วชื่อคนจีนที่มีคำว่า “หง” อยู่ในชื่อ มักจะเป็นชื่อผู้หญิง เขาจึงถูกล้อเรื่องชื่อที่เหมือนชื่อผู้หญิง

เฉินเสียนอวี่ ไม่รู้ว่าคนเขียนหลงเรื่องข้อมูลหรือเปล่า บอกว่าเฉินเสียนอวี่เป็น “负责对外行动的员工” คือ รับผิดชอบพนักงานที่ออกปฏิบัติการภายนอก มีตำแหน่ง “D7组长级” คือ ระดับ D7 หัวหน้าทีมปฏิบัติการ แต่พอถัดลงมากลับบอกว่าเขาเป็นเหมือนกับพนักงานคนอื่น ที่ไม่เคยเห็นท้องฟ้าของจริง ทั้งๆ ที่หัวหน้าทีมนั้นต้องออกปฏิบัติการพร้อมกับลูกทีม (เนื้อเรื่องต่อๆ ไปจะมีพูดเรื่องปฏิบัติการภายนอกบริษัทซึ่งเป็นอาคารใต้ดิน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด