ตอนที่แล้วบทที่ 26 คริสตัลเมไจ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 ก้าวแรก (1)

บทที่ 27 คริสตัลเมไจ (5)


บทที่ 27 คริสตัลเมไจ (5)

“อ้า! ออกไปให้พ้น!”

ลุคกระโดดลงจากพื้นและสะบัดหัวไปมาอย่างดุเดือด

ในขณะนั้นเองเมไจที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆร่างกายของเขาก็เริ่มหายไปราวกับว่ามันกำลังระเหย

ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นปกติ เล็บและเขี้ยวของเขาก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน ความเจ็บปวดและการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้หายไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น

“อึก! มันเกือบได้ชีวิตของข้าไปแล้ว!”

ไม่มีจิตใจของปีศาจที่เป็นพิษในคริสตัลเมไจ

สิ่งที่เขาเพิ่งเห็นไปก็คือความชั่วร้ายที่อยู่ภายในความคิดและจิตใจของเขาเอง

ถ้าจิตวิญญาณของลุคไม่ได้เป็นของพ่อมดที่ขยันขันแข็งในการต่อสู้กับความคิดอันชั่วร้ายแล้วละก็ ผลที่ตามมามันก็จะ...

....

“ข้าทำสำเร็จแล้ว!”

ในตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะดีขึ้นกว่าเดิมอยู่เล็กน้อย

กล้ามเนื้อของเขาในตอนนี้ ทุกส่วนต่างก็เต็มไปด้วยพละกำลังและระบบการหายใจของเขาก็เช่นกัน มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาวิ่งไปมาทั้งวันโดยไม่เหนื่อย เมื่อการเผาผลาญของเขาเริ่มทำงาน ร่างกายของเขาก็เริ่มมีพลังเอ่อล้นออกมา

“และเหนือสิ่งอื่นใด…”

ลุคยิ้มจาง ๆ

อัตราการเต้นของหัวใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นอัตราที่คุ้นเคย

“วงเวทย์สีดำได้รับการฟื้นฟูแล้ว’

คริสตัลเมไจไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเดิม  มันยังวางรากฐานสำหรับการใช้เวทมนตร์แห่งความมืดไว้อีกด้วย

“ว้าว ระดับของวงเวทย์น่าจะอยู่ในขั้นที่ 3”

เพื่อทดสอบพลังของเขา ลุคจึงใช้ “เพลิงทมิฬ” ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทมนตร์แห่งความมืดที่เขาถนัด

เขาเร่งใช้เวทมนตร์แห่งความมืดและใช้เทคนิคต่างๆแบบเดียวกันกับที่เขาได้เคยเรียนรู้ในอดีต ทันใดนั้นดอกไม้ไฟสีม่วงโผล่ขึ้นมาจากมือของเขา

ลุคเบิกตากว้าง

"ฮะ?ทำไมมันถึงเป็นสีม่วง? ไม่ใช่ว่าเปลวไฟควรจะเป็นสีดำหรอกหรอ”

ในท้ายที่สุดสถานะของวงเวทย์สีดำก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย คลื่นมานาที่ปล่อยออกมาจากมันก็เริ่มให้ความรู้สึกแปลกๆ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อน

เมื่อเปรียบเทียบมันกับดนตรี วงเวทย์สีดำของเซย์ม่อนในอดีตก็เป็นเหมือนโน้ตโซโล่ที่โดดเดี่ยว แต่ในตอนนี้มันเป็นเหมือนวงนักร้องประสานเสียงที่มีท่วงทำนองมากมาย

“นี่เป็นเพราะเมไจที่ถูกกรองรึเปล่านะ”

เขาลองใช้เวทมนตร์แห่งความมืดอันอื่นๆในระดับของเขา เพื่อดูว่ายังมีปัญหาอื่นๆอีกหรือไม่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ มันมีเพียงสีและคลื่นมานาเท่านั้นที่แตกต่างกันอย่างแปลกประหลาด

นอกจากนั้นยังมีสิ่งแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง

เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงเศษซากของเมไจที่ควรจะเกิดขึ้นในกระบวนการร่ายเวทมนตร์แห่งความมืด

หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวตนของเมไจอีก

“แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่ด้วยวิธีนี้มันก็น่าจะง่ายกว่า”

ลุคตัดสินใจที่จะมองมันในแง่ดีและหันมาทำความสะอาดห้องทดลองใต้ดินที่ยุ่งเหยิงของเขาแทน

"อย่างไรก็ตามคำสาปบนร่างกายนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม"

คำสาปนั้นค่อนข้างเป็นอะไรที่บึกลับและดื้อด้าน

แม้จะยอมรับคริสตัลเมไจนั้นให้ผลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่คำสาปก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“มันไม่เหมือนกับเวทมนตร์ทั่วไป คำสาปมนต์ดำนั้นค่อนข้างด้อยกว่ามาก ผู้ที่แข็งแกร่งจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเวทย์คำสาปที่ถูกร่ายโดยคนที่อ่อนแอกว่า”

นั่นหมายความว่าคนที่สาปแช่งสายเลือดของรากันย์นั้นจะไม่มีทางเป็นพ่อมดขั้น 3 แน่นอน

“ไม่ รากันต์ไม่ใช่คนที่ถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์อะไรก็ได้ คู่ต่อสู้ของเขาต้องเป็นพ่อมดขั้น 9 ที่สามารถเทียบได้กับระดับของข้าอย่างแน่นอน”

“แต่ในเวลานั้นมันยังมีพ่อมดที่เทียบเท่ากับข้าได้อีกหรือหรือ?”

มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังซุกซ่อนอยู่ในโลกใบนี้ แต่ลุคก็มั่นใจว่ามันไม่มีพ่อมดหรือแม่มดคนใดที่บรรลุถึงขั้นที่ 9 ภายในช่วงเวลานั้นนอกจากพ่อมดขาว

อย่างไรก็ตามด้วยพลังจากคริสตัลเมไจ มันก็ได้ทำให้เขากลายเป็นพ่อมดขั้นที่ 3

แต่พลังนั่นก็ยังไม่เพียงพอ หากเขาต้องการที่จะขจัดความขุ่นเคืองในใจออกไป

เพื่อที่จะต่อสู้กับหอคอยเวทมนร์เวอร์ริทัส ผู้ซึ่งมีอิทธิพลสูงมากต่อทั้งจักรวรรดิและทวีปโรดีเซีย อย่างน้อยๆเขาก็ควรมีคนหนุนหลังและความสามารถแบบเดียวกับที่เขามีในอดีต

“ยังไงซะข้าก็รู้ทั้งทฤษฎีและวิธีการที่จะเข้าถึงในแต่ละขั้น ดังนั้นมันจะไม่มีปัญหาใดๆ ในการเติบโตไปสู่ขั้นที่ 9 แต่กว่าจะไปถึงวงที่ 9 ของวงเวทย์สีดำ ข้าก็คงจะต้องรอและใช้เวลาอีกนานในการรวบรวมเมไจ…”

แม้ว่าร่างกายของเขายังเด็กมาก แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะมองโลกในแง่ดีต่อไปได้ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะคำสาปที่อบู่ในร่างกายองเขา แม้มันจะมีลูกหลานของรากันต์เพียงไม่กี่คนที่เสียชีวิตในวัยเด็กแต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มี

หากมีความผิดปกติเล็กๆน้อยๆอะไรเกิดขึ้นกับหัวใจหรือสมองของเขา มันก็อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่างกายของเขาในตอนนี้

หากคำสาปนี้สามารถสร้างโรคให้กับเขาได้ ลุคก็คิดว่าเขาอาจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้มากเท่าที่ควร

ลุคขมวดคิ้วขณะที่เขากำลังคิด

“ยังไงซะเวทมนตร์ก็ได้พัฒนาไปมากแล้วในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา”

ลุคตัดสินใจออกไปจากห้องทดลอง เขาเปิดประตูลับอีกบานและเดินเข้าไปในห้องเล็กๆเขาโดยไม่ส่งเสียงดังอะไรมากนัก เขาเดินไปที่ลิฟต์และเดินลงไปยังห้องวิจัยใต้ดิน

มันเป็นพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่ 100 ตารางเมตร และพื้นที่ทั้งหมดนี้ก็ถูกผนึกไว้

มันคือห้องวิจัยโกเลมนั่นเอง

เวิร์คช็อปที่ผลิตโกเลมซึ่งเป็นกองกำลังหลักของกองทัพแห่งความมืดล้วนจมอยู่ภายใต้ความมืดมิดอย่างเงียบๆ

“ปลดผนึก!”

ลุคยกเลิกผนึกเวทมนตร์ที่เขาวางเอาไว้เพื่อปกป้องสถานที่นั้นปลอดภัยจากผู้รุกราน ในไม่ช้าผนึกเวทมนตร์ก็ถูกปลดแกและในห้องวิจัยก็เริ่มส่องสว่างขึ้น

เครื่องจักรและอุปกรณ์วิเศษทั้งหมดที่ลุคเคยใช้และผลงานวิจัยของเขาที่ยังทำไม่เสร็จก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

ลุคมองไปยังรอบๆแล้วกล่าวว่า

“มันเป็นอะไรที่ยากจริงๆ ที่จะกลับไปทำงานในตอนนี้”

ต้องขอบคุณผนึกเวทมนตร์ที่ลุควางเอาไว้ อุปกรณ์ทั้งหมดของเขาในตอนนี้จึงยังอยู่ในสภาพดี

อย่างไรก็ตาม ตัวจ่ายมานานั้นได้พังไปแล้วมันจึงทำให้ห้องวิจัยแห่งนี้ขาดแคลนมานาและเป็นผลให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดมีประสิทธิภาพลดลง

สำหรับการซ่อมแซมตัวจ่ายมานานั้นจำเป็นจะต้องใช้วัสดุและชิ้นส่วนอีกหลายอย่าง

“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาสิ่งของที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมก่อนสินะ”

หลังจากกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง เสียงของคนรับใช้และทหารยามก็ดังขึ้นที่ทางเดินของปราสาท

“นายน้อย ท่านอยู่ที่ไหนกัน?”

“ได้โปรดออกมาเถิดนายน้อย!”

บางทีพวกเขาอาจมาหาเขาหลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากคนเฝ้าประตู

“บางทีนายน้อยอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”

“ข้าก็คิดเหมือนกัน ข้าคิดว่าเขาคงไปที่อื่นแล้ว…”

....

โรเจอร์และฟิลิปที่เพิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็รู้สึกประหลาดใจทันทีที่พบว่าลุคกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาปีศาจ

“นายน้อย!”

“ข้าไม่เข้าใจ ท่านจะซ่อนตัวจากเหล่าคนรับใช้ก่อนหน้านี้ทำไม?”

ลุคหัวเราะให้กับคำถามของฟิลิป เมื่อเห็นว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะระงับอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา

“ข้าไม่ได้ซ่อนตัว พวกเจ้าหาข้าไม่เจอเองต่างหาก”

“ไม่ ไม่มีทาง…ตอนแรกท่านไม่ได้นั่งอยุูที่นี่!”

ฟิลิปส่ายหัวเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดูจะเป็นอะไรที่ไร้สาระ

ในตอนที่พวกเขาทราบข่าวว่าลุคออกไปจากคฤหาสน์ เหล่าทหารยามทั้งหมดก็รีบเข้ามารุมล้อมรอบปราสาทราชาปีศาจไว้

และเมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็รีบทำการยืนยัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่พบอะไรเลย

โรเจอร์ผู้ซึ่งกำลังมองฟิลิปอย่างงงงวย ก็ได้หันกลับมามองยังลุคและถามขึ้นมา..

“ว่าแต่ทำไมจู่ๆท่านถึงอยากมาที่นี่ล่ะ”

“ข้าก็แค่อยากมองไปรอบๆ สถานที่ที่บรรพบุรุษของข้าเคยอยู่ เพื่อที่ข้าจะได้เก็บความทรงจำเหล่านั้นกลับคืนมา ข้าผิดหรือเปล่าที่ทำเช่นนั้น”

“ไม่ ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”

โรเจอร์รู้สึกภาคภูมิใจเมื่อได้ยินคำพูดของลุคโดยที่เขาไม่ได้ทราบเลยว่ามันเป็นเรื่องโกหก

“ว่าแต่.. ตอนนี้ท่านดูมีความมั่นใจขึ้นมากเลยนะ ไม่ทราบว่าท่านจำอะไรได้บ้างไหม”

สาเหตุที่แท้จริงที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาปีศาจก็เป็นเพราะเขาต้องการที่จะดูสง่างาม แต่โรเจอร์ก็ยังคงภูมิใจในตัวลุค

“เราก็กลับกันเถอะ ข้าหิวแล้ว.. อ๋อใช่ อย่าลืมบอกพวกทหารด้วยละ ว่าให้หยุดทำการค้นหาข้าได้แล้ว”

“รับทราบ ข้าเข้าใจแล้ว”

ด้วยเหตุประการเช่นนี้ คดีการหลบหนีเล็กๆของลุคจึงถูกปิดลงโดยไม่มีใครสามารถสังเหตุได้เห็นถึงความจริง....

ติดตามอ่านต่อได้ที่เพจ : นอนน้อยโนเวล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด