ตอนที่แล้วตอนที่ 33 องค์กรเซเว่นคิล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 พวกพ้อง

ตอนที่ 34 เขี้ยวหมาป่า VS เซเว่นคิล


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

ถึงแม้ว่าชายผู้สวมหน้ากากเขาจะไม่รู้ว่าเย่เชียนเป็นผู้นำของกองกำลังทหารรับจ้างที่ถูกขนามนามว่าราชาหมาป่าเย่เชียนก็ตาม แต่เขารู้ว่าสมาชิกของเขี้ยวหมาป่านั้นไม่ง่ายเลยที่จะต่อกรด้วย ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ากองกำลังทหารรับจ้างหน่วยเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นดั่งราชาแห่งโลกของหทารรับจ้างทั้งหมดทั้งมวล

“ได้..ฉันสัญญา!” ชายผู้สวมหน้ากากตอบอย่างเคร่งขรึม

เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “ตกลง!”

ชายผู้สวมหน้ากากมองเย่เชียนอีกครั้งแล้วหันหลังกลับ..

“ระ..รอ” จ้าวเทียนห่าวกำลังจะอ้าปากเพื่อเรียกชายผู้สวมหน้ากากคนนั้นแต่เย่เชียนห้ามเขาด้วยการส่งสัญญาณมือพร้อมพูดเบาๆว่า “เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลัวหยา!..” นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่ากฎขององค์กรเซเว่นคิลนั้นเป็นอย่างไร ชายสวมผู้หน้ากากถามเขาแค่เพียงเพราะต้องการยืนยันว่าจ้าวเทียนห่าวเป็นคนที่ทรยศหักหลังจริงหรือไม่ ทว่าจ้าวเทียนห่าวกลับคิดว่าเขาเป็นลูกหลานของหลัวหยาโดยไม่คาดคิดและเต็มใจที่จะตาย

จ้าวเทียนห่าวผงะไปชั่วครู่และต้องการถามเย่เชียนว่าเขารู้ได้อย่างไรแต่ท้ายที่สุดตนก็ตัดสินใจไม่ถาม ขณะนั้นเย่เชียนก็หันหน้ามองจ้าวเทียนห่าวและพูดว่า “มันดึกแล้ว..ถ้าคุณไม่รังเกียจไปที่บ้านของผมก่อนไหม?”

เมื่อจ้าวเทียนห่าวเห็นสัญลักษณ์บนเครื่องแบบบนเสื้อของเย่เชียนแล้วจ้าวเทียนห่าวก็แต่จ้องมองอย่างว่างเปล่า เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ปของเขาเองมันจึงทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า “ได้ฉันขอรบกวนคุณด้วย” จ้าวเทียนห่าวไม่มีท่าทีที่อวดดี เขาได้ยินการสนทนาระหว่างเย่เชียนกับชายผู้สวมหน้ากากแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลัวความตาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้เขายังอยากที่จะรู้จักกับชายหนุ่มผู้นี้ที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเผชิญหน้ากับนักฆ่าและยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้ เหตุใดเขาจึงเต็มใจทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยชั้นผู้น้อยในบริษัทเทียนหยากรุ๊ป

“ฉันยังไม่ทราบชื่อของคุณเลย..ฉันชื่อจ้าวเทียนห่าว” จ้าวเทียนห่าวพูดอย่างเป็นกันเอง

“เย่เชียน!” เย่เชียนตอบอย่างห้วนๆและยิ้มเบาๆจากนั้นก็พูดต่อว่า “ที่พักของผมอยู่ข้างหน้านี้เอง..ไปกันเถอะ”

“คุณดูเหมือนว่าคุณรู้จักกับนักฆ่าคนนั้นหรือ?” จ้าวเทียนห่าวพูดด้วยความสงสัย

เย่เชียนยิ้มเจื่อนๆและตอบว่า “คุณคิดว่าผมเป็นพวกเดียวกับเขาหรือ? คุณคิดว่าเราเพิ่งจะเล่นละครเพื่อตบตาคุณหรอกหรือ?”

“ไม่ๆๆไม่แน่นอน” จ้าวเทียนห่าวตอบอย่างเร่งรีบ

“หากคุณต้องการที่จะฆ่าฉันจริงๆแล้วล่ะก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องลำบากเล่นละครพวกนี้เลย..แล้วฉันก็หนีไปไหนไม่พ้นอยู่ดี..ฉันแค่เห็นทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันเฉยๆน่ะ”

เย่เชียนไม่ได้พูดชี้แจงอะไร และเข้าใจอย่างดีว่าความรู้สึกของจ้าวเทียนห่าวนั้นถูกต้อง เขาก็แค่ยิ้มเบาๆและพูดว่า “เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเราไม่รู้จักกัน..แต่เราเคยได้ยินเรื่องราวของกันและกัน”

จ้าวเทียนห่าวมองอย่างหมดหนทางและค่อนข้างสับสนกับคำตอบของเย่เชียน และเมื่อครู่นี้ระหว่างที่เย่เชียนสนทนากับชายผู้สวมหน้ากากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีใครเปิดเผยชื่อของตนเลย พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร แต่ทว่าเย่เชียนไม่ต้องการที่จะอธิบายและมันก็ไม่ใช่สถานะที่ดีสำหรับเขาในตอนนี้ที่จะถามเช่นนั้น

“คุณเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเทียนหยากรุ๊ปหรือ?” จ้าวเทียนห่าวเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและถาม

“ใช่..และวันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงาน” เย่เชียนตอบกลับ

“เป็นยังไงบ้าง?..คุณคุ้นเคยกับมันบ้างหรือยัง?” จ้าวเทียนห่าวถามแล้วหัวเราะ

“มันค่อนข้างดีเลย..เงินเดือนก็ดี..อาหารไม่เลวแม้แต่เสื้อผ้า..ผมจะไปหาสิ่งดีๆเหล่านี้ได้ที่ไหนอีก” เย่เชียนตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูจริงใจ

“ด้วยทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมและความใจเย็นของคุณแล้วคุณไม่รู้สึกเสียใจที่คุณได้เป็นเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยชั้นผู้น้อยหรือ?” จ้าวเทียนห่าวถามด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ไม่เลย..ยังพอมีโอกาสที่จะเติบโตอยู่มันยอดเยี่ยมมากและนอกจากนี้ผมก็ไม่มีภูมิหลังการศึกษาที่ดีหรือประสบการณ์ด้านอื่นๆเลย..ถ้าผมไม่ทำงานด้านรักษาความปลอดภัยผมจะไปทำอะไรได้อีกล่ะ” เย่เชียนตอบอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

ผู้ที่มีพรสวรรค์ที่แท้จริงมักถูกซ่อนอยู่ในหลืบและบางทีชายหนุ่มผู้นี้ที่อยู่ต่อหน้าเขาอาจจจะเป็นพรสวรรค์ที่ถูกซ่อนอยู่ในเมืองนี้ก็เป็นได้ จ้าวเทียนห่าวคิดกับตัวเองเพราะเขาได้เห็นคนที่มีพรสวรรค์มามากมาย แต่ไม่มีคนไหนที่ทัศนคติดีเหมือนเย่เชียนมาก่อน จ้าวเทียนห่าวคิดกับตัวเองอยู่ในใจว่าถ้าเขาให้เย่เชียนมาเป็นผู้ติดตามของเขาล่ะก็เย่เชียนจะต้องช่วยตนได้มากมายหลายโขอย่างแน่นอน

“ผมพักอยู่ที่นี่คุณจ้าว” เย่เชียนเปิดประตูและทำท่าทางต้อนรับ “บ้านของผมโล่งๆเรียบง่ายน่ะถ้าคุณจ้าวไม่รังเกียจเชิญเลยครับ!”

จ้าวเทียนห่าวหัวเราะและพูดว่า “ตอนที่ฉันเป็นเด็กฐานะที่บ้านฉันก็ไม่ได้ดีฉันก็อยู่แบบนี้เหมือนกันฉันชอบใช้ชีวิตที่เรียบง่ายน่ะบ้านฉันสร้างด้วยคอนกรีตธรรมดาๆและฉันก็ย้ายมาที่เซี่ยงไฮ้นี้และฉันก็นอนใต้สะพานน่ะ..เย่เชียนอย่าเรียกฉันว่าคุณจ้าวเลยถ้าคุณไม่รังเกียจก็เรียกฉันลุงจ้าวเถิดและฉันขอเรียกเย่เชียนว่านายก็แล้วกันนะ!”

เย่เชียนหัวเราะเจื่อนๆและไม่ได้พูดอะไรอีกและก็ไม่ได้ปฏิเสธ ส่วนจ้าวเทียนห่าวก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเพียงการพบกันครั้งแรกของพวกเขาและมันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้คนอื่นคุ้นเคยอย่างสนิทสนมกับตัวเองเช่นนี้ “พ่อของผมยังอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ..คืนนี้ลุงนอนในห้องของพ่อนะ” เย่เชียนพาจ้าวเทียนห่าวไปที่ห้องของพ่อแล้วเปิดประตู

“ขอบใจ!” จ้าวเทียนห่าวตอบอย่างเกรงใจเล็กน้อย

เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “พักผ่อนเถอะ” เมื่อพูดเสร็จจ้าวเทียนห่าวก็เข้าไปในห้อง

ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นเย่เชียนลุกออกจากเตียงแต่เช้า เขาตัดสินใจไม่ไปทำงานในวันนี้เพราะเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่นักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลจะปรากฏอีกตัวเขาจึงไม่สามารถออกไปทำงานได้ หลังจากนั้นไม่นานจ้าวเทียนห่าวก็ลุกขึ้นจากเตียง และหลังจากที่รอให้จ้าวเทียนห่าวยืดเส้นยืดสายได้สติแล้ว เย่เชียนก็พูดว่า “รอสักครู่นะผมขอโทรไปหาที่ทำงานหน่อย”

“ตามนั้น!” จ้าวเทียนห่าวพูดด้วยรอยยิ้มอย่างสะลึมสะลือที่เพิ่งตื่นจากการนอน

เย่เชียนหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและกดหมายเลขของแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ป “สวัสดีครับหัวหน้าเจิ้งผมเย่เชียนนะ..มีปัญหาเกิดขึ้นที่บ้านของผม!..ผมขอลาสามสามวันได้ไหม” เย่เชียนพูดเมื่อโทรศัพท์ถูกรับสาย

“อะไรนะ?..ลา?..เย่เชียนนายทำงานได้แค่วันเดียวแต่จะขอลาแล้วเหรอ! จรรยาบรรณในการทำงานของนายแย่มาก! นายคิดว่าที่นี่คือที่ไหนบริษัทเทียนหยากรุ๊ปคืออะไร? นายคิดว่ามันเป็นสวนผักสวนปลาหลังบ้านของนายเหรอ? เอาล่ะถ้าวันนี้นายมาสายไม่ตรงเวลานายก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาอีก!” เสียงโกรธของเจิ้งซินทะลุผ่านทางโทรศัพท์

เมื่อวานนี้ช่วงที่เกือบจวนจะถึงเวลาเลิกงานเจิ้งซินได้ยินมาว่าเย่เชียนรังแกเลขาลี่ และเขาก็วางแผนไว้ว่าจะสั่งสอนเย่เชียนในวันนี้ แต่ไม่คิดว่าน้องชายคนนี้จะขอลาในทันที เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกได้แต่ปล่อยให้เขาไป

เยเชี่ยนขมวดคิ้วของเขาและหงุดหงิดเล็กน้อยในขณะที่เขาวางสายโทรศัพท์ เย่เชียนไม่ได้สนใจที่จะทำงานนักและเขาไปทำงานก็เพื่อให้พ่อรู้สึกโล่งใจไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก็คือการปกป้องชีวิตของจ้าวเทียนห่าวเป็นเวลาสามวัน ในตอนแรกเขาช่วยจ้าวเทียนห่าวเพียงเพราะว่าเขารู้สึกว่าชายคนนี้เป็นคนที่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ทว่าในตอนนี้ก็มีอีกเหตุผลหนึ่งเพราะนี่เป็นศักดิ์ศรีการเดิมพันระหว่างเขี้ยวหมาป่าและเซเว่นคิล หากเย่เชียนพ่ายแพ้นั่นก็หมายความว่าเขี้ยวหมาป่าพ่ายแพ้เช่นกัน

เมื่อเขาเห็นสีหน้าของเย่เชียนแล้วจ้าวเทียนห่าวก็เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น “ให้ฉันยืมโทรศัพท์โทรออกหน่อยสิ” จ้าวเทียนห่าวพูดพร้อมกับยิ้มเล็กยิ้มน้อย

เขาหยิบโทรศัพท์จากเย่เชียนจากนั้นจ้าวเทียนห่าวก็พยักหน้าให้และหันกลับไปแล้วเดินเข้าไปในห้องพร้อมปิดประตูจากนั้นเขาก็โทรไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ปและพูดอย่างสุขุมว่า “ฉันคือจ้าวเทียนห่าว..ต่อสายให้เฉาต้าหัวรับที”

ผู้ที่รับสายคือเจิ้งซินเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจ้าวเทียนห่าวเขาก็งงงุนและเขาก็ดูที่หน้าจอโทรศัพท์และเห็นว่ามันเป็นเบอร์ของเย่เชียนที่เพิ่งจะโทรมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างเดือดดาลว่า “ไอ้เวรเอ้ย ถ้าแกเป็นจ้าวเทียนห่าวฉันก็เป็นพ่อของจ้าวเทียนห่าว”

.

.

.

.

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด