ตอนที่แล้วตอนที่ 32 ดัชนีปีศาจจำแลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34 ผนึกมังกรลึกล้ำ

ตอนที่ 33 แผนการอันน่าตกตะลึง


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

หลงเฉินกู่ร้องคำรามและกลายร่างเป็นเงามังกรสีแดงซึ่งมีแรงขับเคลื่อนมหาศาล  จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ไป๋ซื่อจีพร้อมกับเสียงปะทะดึงกึกก้อง!

 

ในตอนนี้ นิ้วของไป๋ซื่อจีเปล่งประกายด้วยแสงสีดำ  เขาหัวเราะอย่างเย็นชา ดัชนีแรกของกระบวนท่าดัชนีสวรรค์ทมิฬ --- ‘ดัชนีปีศาจจำแลง’ พุ่งออกไปในทันที แสงสีดำเปล่งประกายออกมาราวกับลูกศรที่พุ่งเข้าใส่เงามังกร  พลังรุนแรงทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน เกิดเป็นพลังมหาศาลระเบิดออกมาจนกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบ!

 

‘พลังครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของผนึกมังกรของหลงเฉิน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดัชนีปีศาจจำแลงของไป๋ซื่อจีแน่!’

 

เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นในใจของหยางอู่

 

เมื่อสัมผัสได้ว่าปราณแท้จริงนั้นไม่แข็งแกร่งเท่า ไป๋ซื่อจีจึงคิดว่าหลงเฉินด้อยฝีมือกว่าตนเอง อย่างไรก็ตาม ในครู่ต่อมา คลื่นพลังที่ทำให้ใจของเขาเต้นระทึกกลับมาจากฝั่งของหลงเฉิน ความรู้สึกที่เก่าแก่โบราณนี้ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดในทันที!

 

จากนั้น เขาเฝ้ามองขณะที่ดัชนีปีศาจจำแลงของตนถูกผลักกลับมาโดยเงามังกรสีแดง   เงามังกรนั้นทำให้ดัชนีปีศาจจำแลงแตกสลาย แต่อนที่ไป๋ซื่อจีจะทันได้โต้ตอบ ดัชนีปีศาจจำแลงก็ระเบิดและพุ่งกระแทกกับร่างของเขา  ไป๋ซื่อจีส่งเสียงร้องพร้อมกับกระอักเลือดออกมาก่อนจะล้มลงกับพื้น!

 

ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความเหลือเชื่อ

 

เขามิอาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดผนึกมังกรของผู้ที่บรรลุเพียงขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกจะทรงพลังได้ถึงเพียงนี้?   และคลื่นพลังที่ปรากฏขึ้นนั้นคือสิ่งใดกันแน่? คลื่นพลังนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ!

 

แม้ว่าผนึกมังกรจะด้อยกว่าเล็กน้อย  แต่มันก็พุ่งตรงเข้าใส่ไป๋ซื่อจีและทำให้อวัยวะภายในของเขาเสียหาย   ความเจ็บปวดที่บีบรัดหัวใจทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวและเลือดสีดำก็ยังทะลักออกมาจากปากของเขาไม่หยุด  นิ้วมือที่ไร้เรี่ยวแรงกำดินบนพื้นไว้แน่น เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็มิอาจทำได้!

 

ทันใดนั้น หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยที่เคยมีสีหน้าสิ้นหวังกลับผงะไปในทันที  หยางอู่ตกใจจนอ้าปากค้าง เขาส่ายศีรษะอย่างแรงหลายครั้งเพื่อจะได้ตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริง  เขาร้องออกมาในทันที

 

“เป็นไปไม่ได้ ... นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

 

ดวงตาของหยางหลิงเยวี่ยกลับเบิกโพลงยิ่งกว่า เสื้อผ้าที่นางเคยจับเอาไว้ร่วงลงกับพื้น แม้จะเกือบโป๊เปลือยแต่นางก็ไม่รู้ตัว เป็นเพราะความตกใจที่มีต่อหลงเฉินนั้นช่างมากมายนัก

 

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!  เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!”

 

นางไม่คิดเลยว่าแกะดำอย่างหลงเฉินที่แทบจะไม่เคยเรียนรู้ทักษะอะไร อีกทั้งยังเพิ่งเริ่มฝึกฝนได้ไม่นาน  และคงเป็นเพราะโชคช่วยที่ทำให้หลงเฉินสามารถเอาชนะหยางจ้านได้ แต่เรื่องที่หยางหลิงเยวี่ยต้องพ่ายแพ้ต่อหลงเฉินก็น่าเหลือเชื่อมากพอแล้ว ในครานี้ สิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าคือหลงเฉินสามารถเอาชนะไป๋ซื่อจี ผู้ซึ่งหยางหลิงเยวี่ยเคยคิดว่าเขาเป็นชายในฝันได้อีก

 

‘ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้น!’

 

สำหรับไป๋จื้อซิงและไป๋ซื่อตง  พวกเขาหวาดกลัวเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

 

ไป๋ซื่อตงนึกถึงคำพูดที่เคยพูดกับไป๋ซื่อจีก่อนหน้า และรู้สึกว่าขาของตนเองอ่อนยวบลงทันที และไม่สามารถควบคุมอวัยวะตรงหว่างขาของตนเองได้

 

แม้ว่าไป๋ซื่อจีในตอนนี้จะพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่มันก็รังแต่จะทำให้อาการบาดเจ็บภายในของเขาแย่ลง  เขารู้สึกได้ว่าวิสัยทัศน์ของตนเองเริ่มเลือนรางลงเล็กน้อย และแสงอาทิตย์ก็ดูเหมือนจะเป็นประกายอย่างน่าประหลาดขณะที่ร่างร่างหนึ่งมองลงมาที่เขา ไป๋ซื่อจีตระหนักได้อย่างช้า ๆ ว่าร่างนั้นคือหลงเฉิน

 

ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็ยื่นมาคว้าคอเขาไว้   เขารู้สึกได้ถึงพลังเย็นยะเยือกผ่านนิ้วมือนั้น  ไป๋ซื่อจีคิดในใจขณะที่ตัวเขาเองยังมึนงง

 

‘นี่ข้ากำลังจะตายงั้นรึ? เขาจะฆ่าข้าแล้วสินะ? ทำไมกัน? มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้เลย!’

 

แต่แล้วมือนั้นก็ผละจากคอของเขา

 

หลงเฉินถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“บัดซบ รอให้ข้าไปช่วยหลิงชิงก่อนเถอะ แล้วข้าจะกลับมาฆ่าเจ้า!”

 

ขณะที่หลงเฉินยังจับจ้องไปที่ไป๋ซื่อจี  ร่างของเขาก็หายวับไปอย่างฉับพลัน ก่อนที่ไป๋จื้อซิงและไป๋ซื่อตงที่ยืนคุมเชิงอยู่ข้าง ๆ หยางอู่จะกรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช

 

ไป๋จื้อซิงถูกหลงเฉินจัดการจนหมดสติไปเป็นคนแรก  สำหรับไป๋ซื่อตงที่ถูกต่อยจนล้มลงกับพื้น เขามองหลงเฉินด้วยสีหน้าซีดเผือดราวกับคนตาย  และกลิ่นฉี่ก็ลอยเตะจมูกของทุกคนในทันที

 

หลงเฉินเตะไป๋ซื่อตงจนเขาหมดสติไปอีกคน

 

“สารเลว! เจ้าฉี่รดกางเกงอีกแล้วรึนี่? ข้าจะเตะเจ้าทุกครั้งที่ข้าเห็น  ดูสิว่าวันหนึ่งเจ้าจะฉี่ราดได้สักกี่ครั้ง!”

 

เมื่อหลงเฉินพูดจบ  เขาไม่แม้แต่จะมองไปที่หยางอู่ซึ่งกำลังจับจ้องมาที่เขาด้วยความตกใจกลัว แต่เขากลับหันไปหาหยางหลิงเยวี่ยที่สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ  เขายิ้มพลางเอ่ยขึ้น

 

“หยางหลิงเยวี่ย เจ้าไม่คิดบ้างรึว่ามันไม่สุภาพที่จะเปิดเผยเรือนร่างอันงดงามของตนเองต่อหน้าญาติผู้น้อง?”

 

หยางหลิงเยวี่ยรู้ตัวในทันทีว่าบนเรือนร่างของนางไม่มีเสื้อผ้าอยู่อีกแล้ว  นางจึงกรีดร้องดังลั่น มือของนางคว้าผ้าบนพื้นอย่างลนลานและมองหลงเฉินด้วยความเศร้าโศกและขุ่นเคือง

 

หลงเฉินไม่สนใจนางอีก เขาจึงไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับนาง หากแต่เอ่ยขึ้นอย่างห้วน ๆ

 

“ข้าจะไปช่วยหลิงชิงและปล่อยให้พวกเจ้าจัดการที่เหลือ  อย่าลืมคอยดูสามคนนี้ไว้ให้ดีล่ะ ทีนี้ก็บอกข้ามาได้แล้วว่าหลิงชิงอยู่ที่ใด?”

 

หยางหลิงเยวี่ยในตอนนี้ช่างซีดเผือด  แต่ในขณะเดียวกัน หยางอู่ก็ชี้ทางและเอ่ยขึ้น

 

“หลิงชิงไปทางนั้น และไป๋ซื่อเฉินก็ไปทางนั้นเช่นกัน!”

 

หลงเฉินไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลง และมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่หยางอู่ชี้ทันที

 

หยางอู่มองเขาจนหายลับตาไปด้วยความงุนงง  จากนั้นจึงมองไป๋ซื่อจีที่ยังกระอักเลือดอยู่บนพื้น  และยังมีไป๋ซื่อตงกับไป๋จื้อซิงที่หมดสติอยู่

 

“เสี่ยวเยวี่ย เจ้าคิดว่าเขาจะเอาชนะไป๋ซื่อเฉินได้หรือไม่?”

 

“หืม?”

 

ในตอนนี้ หยางหลิงเยวี่ยกำลังสวมเสื้อผ้า ในเมื่อไม่มีผ้าเหลือมากนักและเสื้อผ้าของไป๋ซื่อตงก็เปียกโชก  นางจึงถอดเสื้อคลุมตัวนอกของไป๋จื้อซิงออกและสวมให้ตนเอง

 

ตระกูลไป๋ไล่ล่าเพื่อสังหารพวกเขา  เช่นนั้นแล้ว หยางหลิงเยวี่ยในตอนนี้จึงเกลียดชังตระกูลไป๋เข้ากระดูกดำ

 

“บอกข้ามาเถอะ เขาจะเอาชนะไป๋ซื่อเฉินได้หรือไม่?”

 

เมื่อนั้นเองที่หยางหลิงเยวี่ยเริ่มได้สติ  นางมองไปรอบ ๆ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“หลิงชิงคงไม่เป็นไรหรอก...”

 

เมื่อได้ยินคำตอบของนาง  หยางอู่ก็ค่อย ๆ หลับตาลง  เขาตระหนักดีว่านับจากวันนี้ไป  ตำแหน่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหยางจะไม่ใช่เขาอีกแล้ว แต่จะตกเป็นของเด็กหนุ่มเลือดร้อนผู้นั้น  เมื่อตอนที่หลงเฉินใช้ผนึกมังกรเอาชนะไป๋ซื่อจี หยางอู่เห็นภาพลวงตาบางอย่าง ราวกับว่าหลงเฉินไม่ใช่มนุษย์  แต่ทว่าเป็นมังกรสีเลือด…

 

มังกรคือจอมราชันมาโดยตลอด

 

และสีของเลือดคือสัญลักษณ์ของการเข่นฆ่า

 

‘ราชันแห่งนักฆ่า’

 

นี่คือสมญาที่หยางอู่ตั้งให้หลงเฉิน

 

เขาใช้เพียงหมัดดาวตกและผนึกมังกรในการเอาชนะไป๋ซื่อจีในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป อย่างไรก็ตาม หลงเฉินยังเป็นห่วงหยางหลิงชิงอีกด้วย

 

ไป๋ซื่อเฉินแข็งแกร่งกว่าหยางหลิงชิงมาก หากเขาไม่คิดจะหยอกนางเล่น  บางทีหยางหลิงชิงคงถูกเขาเล่นงานไปแล้ว!

 

เมื่อเขาคิดว่าหยางหลิงชิงอาจถูกกระทำชำเรา  เปลวเพลิงก็แทบจะปะทุออกมาจากดวงตาของหลงเฉิน และปราณแท้จริงในตัวเขาแทนที่จะลดลงจากการเอาชนะไป๋ซื่อจี  แต่กลับเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูง!

 

“หลงเฉิน ข้าสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังของพวกเขาตรงนั้น!”

 

หลิงซีส่งเสียงบอกทางออกมาจากกระบี่หลิงซี  เมื่อมีหลิงซีอยู่ด้วย หลงเฉินย่อมรู้สึกสะดวกสบายกว่ามากในการเดินทางไปมาในภูเขาเดียวดายแห่งนี้ เขาใช้ความเร็วสูงสุดและตรงไปตามทางที่หลิงซีบอก

 

เมื่อเห็นว่าเขาใกล้จะถึงตัวพวกนั้นแล้ว  หลงเฉินรู้สึกกระวนกระวายอย่างมาก เพราะกลัวว่าจะได้เห็นภาพที่ทำให้เขาต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง  หลิงซีก็เอ่ยขึ้น

 

“ไม่ต้องกังวล น้องสาวของเจ้าสบายดี  พวกเขากำลังคุยกันอยู่”

 

คำพูดเหล่านั้นทำให้หลงเฉินโล่งใจ  แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องการสังหารไป๋ซื่อเฉินให้ได้อยู่ดี

 

ในเมื่อตอนนี้ตระกูลไป๋ได้ทำการคุกคามตระกูลหยางครั้งใหญ่ หลงเฉินและไป๋ซื่อเฉินต่างก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งสองฝ่าย  ยิ่งไปกว่านั้น หลงเฉินยังทำร้ายไป๋ซื่อจีและหยางอู่ก็บาดเจ็บสาหัส คงเป็นเรื่องแปลกหากพวกเขาจะไม่ต่อสู้กันทันทีหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากัน

 

เมื่อได้ยินว่าพวกเขากำลังคุยกัน  หลงเฉินจึงลดฝีเท้าลงและแอบย่องไปหาพวกเขาโดยไม่ให้รู้ตัว ไม่นานเขาก็เห็นว่าหยางหลิงชิงถูกไป๋ซื่อเฉินต้อนจนจนมุม

 

ดวงตาของหยางหลิงชิงแดงก่ำ ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา  นางมองไป๋ซื่อเฉินด้วยดวงตาเย็นชาและขบฟันแน่นในขณะที่ร่างของนางสั่นเทาด้วยความโกรธ

 

อย่างไรก็ตาม  ไป๋ซื่อเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

 

“หลิงชิง เจ้าต้องเชื่อว่าข้าพอใจในตัวเจ้ามาก  ความจริงแล้วข้าเคยเห็นเจ้าหลายครั้ง แต่ข้าแค่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าเท่านั้นเอง  หากเจ้ายอมแต่งงานกับข้าละก็ เจ้าจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน”

 

หยางหลิงชิงได้แต่จ้องมองเขาด้วยความเกลียดชังและไม่ยอมปริปากพูดอะไร

 

เมื่อเห็นว่าหยางหลิงชิงยังคงไม่ยอมอ่อนข้อ  น้ำเสียงของไป๋ซื่อเฉินจึงเริ่มเย็นชาขึ้น

 

“หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยถูกพวกเราจัดการไปแล้ว เมื่อใดที่การแต่งงานเริ่มขึ้น ตระกูลหยางของพวกเจ้าทุกคนก็จะต้องดื่มเหล้าพิษ และเวลานั้นก็จะไม่มีใครเหลือรอดสักคน  หยางอู่ก็จะต้องตาย สำหรับหยางหลิงเยวี่ย ข้าคิดว่านางคงฉลาดพอที่จะแต่งงานกับไป๋ซื่อจี”

 

“แม้แต่หยางเสวี่ยชิงยังเลือกพ่อของข้าและละทิ้งตระกูลหยาง  ข้าเองก็พอใจในตัวเจ้า เช่นนั้นแล้ว ตราบใดที่เจ้าและข้าอยู่ด้วยกัน แม้จะไม่มีตระกูลหยาง  ผู้หญิงตระกูลหยางทั้งสามก็ยังสามารถมีความสุขต่อไปได้ รู้ไว้ด้วยนะว่าคำสั่งของท่านปู่ข้า คือสังหารลูกหลานตระกูลหยางในภูเขาเดียวดายให้หมดทุกคน!”

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่ไป๋ซื่อเฉินเอ่ย  สีหน้าของหลงเฉินเปลี่ยนไปในทันที

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาต่อสู้กับลูกหลานตระกูลหยางในภูเขาเดียวดาย ที่แท้ตระกูลไป๋ก็ตั้งใจจะกำจัดตระกูลหยางนี่เอง!’

 

ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น หลงเฉินรู้สึกสับสนอย่างมาก

 

ทั้ง ๆ ที่ผู้นำตระกูลไป๋ดูเป็นคนดีและมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำตระกูลหยาง  อย่างไรเสีย หลงเฉินไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีแผนการเช่นนี้ ทำให้ได้รู้ว่าจิตใจมนุษย์นั้นช่างโหดร้ายเพียงใด

 

‘ผู้นำตระกูลไป๋มีจุดประสงค์ใดกันแน่? หากเป็นเรื่องของสิทธิ์การปกครองยี่สิบปี เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของลูกหลานตระกูลไป๋แล้ว  พวกเขาสามารถครอบครองมันได้โดยง่าย และไม่จำเป็นจะต้องสังหารหมู่ลูกหลานตระกูลหยางเลยด้วยซ้ำ!’

 

การให้คนตระกูลหยางดื่มเหล้าพิษในงานแต่งงานนับว่าเป็นความคิดที่ฉลาดหลักแหลมมาก  ผู้นำตระกูลหยางมีความสุขกับการแต่งงานของลูกสาวของตนเองอย่างเหลือล้น แม้จะเป็นจอกที่เต็มไปด้วยปัสสาวะ  เขาก็คงสามารถดื่มให้หมดในอึกเดียวได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงเหล้าพิษเพียงหนึ่งจอก

 

เมื่อผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลหยางตาย และลูกหลานตระกูลไป๋ก็สังหารลูกหลานตระกูลหยางเสียที่นี่  แผนการของตระกูลไป๋นับว่าชั่วร้ายอย่างที่สุด และสามารถล้างบางตระกูลหยางทั้งหมดได้ภายในวันเดียว

 

จากการแต่งงาน  เห็นได้ว่าพวกเขาเตรียมการเรื่องนี้มานานแล้ว  และการแต่งงานระหว่างหยางเสวี่ยชิงและไป๋จ้านสงคือฉากที่สำคัญที่สุด!

 

เมื่อคิดถึงหยางเสวี่ยชิง ดวงตาของหลงเฉินแดงก่ำขึ้นมาในทันที

 

‘แม้ข้าเคยรู้สึกว่าท่านไม่เคยสนใจไยดีข้า  แต่ท่านก็ยังเป็นคน ท่านรู้จักเคารพพ่อแม่ เป็นมิตรกับผู้อื่น และคอยอบรมสั่งสอนคนรุ่นเยาว์ แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่าท่านจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้!  ท่านช่วยผู้อื่นสังหารครอบครัวของตนเอง! หยางเสวี่ยชิง! ท่านเป็นบ้าไปแล้วรึอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับท่านกันแน่?’

 

หลงเฉินมิอาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดหยางเสวี่ยชิงจึงทำการเช่นนี้  นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดฝันเอาไว้เลยสักนิด

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหยางเสวี่ยชิงจะละทิ้งตระกูลหยาง  แต่หลงเฉินจะไม่ทำเช่นนั้น เขาตัดสินใจแล้ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือสังหารไป๋ซื่อเฉิน  ช่วยหยางหลิงชิง จากนั้นก็แก้แค้นตระกูลไป๋!

 

เวลานี้ เมื่อเห็นว่าหยางหลิงชิงไม่ถูกชักจูงได้ง่าย ๆ ไป๋ซื่อเฉินจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“หยางหลิงชิง ในเมื่อเจ้าปฏิเสธข้อเสนอ ข้าก็จะไม่สุภาพกับเจ้าอีกต่อไป ดูสิว่าเจ้าจะทำอะไรได้อีกหลังจากที่ข้าขืนใจเจ้าแล้ว!”

***************************

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด