ตอนที่แล้วตอนที่ 9 สมบัติล้ำค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 กระบี่หลิงซี

ตอนที่ 10 อาณาเขตรกร้างของสัตว์อสูร


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

“ลำแสงนั้นจะต้องเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์บางอย่างแน่ ๆ สีหน้าของไป๋ซื่อซวินดูราวกับเห็นสมบัติล้ำค่า”

 

ไป๋ซื่อซวินวิ่งตามลำแสงนั้นไปอย่างบ้าคลั่ง  ในเมื่อหลงเฉินคุ้นเคยกับเมืองพฤกษาหมอกเป็นอย่างดี เขาจึงสามารถตามไปได้ทัน  วิชาเกราะดาราจรัสแสงขั้นแรกที่อยู่ภายใต้แสงดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้านั้นยิ่งทรงพลังมากขึ้น  ทำให้เขาไล่ตามไป๋ซื่อซวินได้ทันโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงเต็มที่

 

ลำแสงบนท้องฟ้าเลือนรางลงเรื่อย ๆ มันสั่นไหวเล็กน้อย  หลงเฉินสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันคือกระบี่ กระบี่ที่บินได้ด้วยตัวเองเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน  จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาจึงคิดว่ามันต้องเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน

 

แม้มันจะส่ายไหวไปมา เขาก็ยังมุ่งมั่นไล่ตามอยู่นานถึงครึ่งชั่วยาม  ในตอนนี้เขาอยู่ห่างจากเมืองพฤกษาหมอกมากแล้ว หลงเฉินจึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องที่หยางหยุนเทียนอาจไล่หลังมา

 

“เจ้าเด็กนี่ดันทุรังจริง ๆ กล้าออกห่างจากเมืองพฤกษาหมอกถึงเพียงนี้”

 

ระหว่างที่สะกดรอยตาม  หลงเฉินใช้เศษผ้าสีดำอำพรางใบหน้าเอาไว้  จึงยากที่คนทั่วไปจะคาดเดาได้ว่าเขาคือหลงเฉิน และนั่นก็คือสิ่งที่เขาต้องการ

 

“ไป๋ซื่อซวินผู้นี้ อย่างมากก็น่าจะอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสาม ซึ่งเท่ากันกับข้า แต่ข้ามีทั้งเพลงหมัดดาวตกและวิชาเกราะดาราจรัสแสง”

 

หลังจากพุ่งเข้าไปในป่าลึกแล้ว แสงของกระบี่เรืองแสงนั้นก็ร่วงหล่นลงมา  มันพุ่งทแยงไปด้านข้าง ก่อนจะปักลงบนพื้นในที่สุด

 

เมื่อไป๋ซื่อซวินรีบรุดเข้ามาในป่าและเห็นว่ากระบี่เรืองแสงอยู่ตรงหน้า  เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหมอบลงไปกับพื้นราวสุนัขและพยายามหายใจให้ทัน จากนั้นจึงมองไปยังกระบี่ที่อยู่เบื้องหน้าด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

“กระบี่เล่มนี้บินได้เอง มันจะต้องเป็นสมบัติชั้นเลิศแน่ ๆ หากข้าได้ครอบครอง หรือมอบมันให้กับตระกูลของข้า คงถือเป็นความดีความชอบใหญ่หลวงทีเดียว!”

 

เมื่อคิดถึงอนาคตอันรุ่งโรจน์ ไป๋ซื่อซวินก็หัวเราะร่า แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง ชายที่ปิดบังใบหน้าก็ปรากฏตัว

 

“เจ้าเป็นใครกัน? ต้องการอะไร?”

 

ด้วยขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสาม ทำให้ความเร็วของหลงเฉินนั้นมากกว่าเขาหลายเท่า ในสายตาของไป๋ซื่อซวิน  จู่ ๆ ร่างของหลงเฉินก็ปรากฏขึ้นและอันตรธานหายไป เสี้ยววินาทีต่อมา การโจมตีอันรุนแรงก็ปะทะเข้ากับร่างของเขาจนล้มลงกับพื้น  พลังมหาศาลนั้นทำให้ฟันของเขาหักไปหลายซี่

 

เมื่อเห็นว่าชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเย็นชา  ไป๋ซื่อซวินก็ร้องออกมา

 

“พี่ชาย... ข้า... ข้าบังเอิญเห็นกระบี่ล้ำค่านี่เข้า  ถ้าท่านต้องการ ข้ายกให้ท่านก็ได้... อย่าฆ่าข้าเลยนะ จะให้ข้าทำอะไรก็ได้...”

 

หลงเฉินหัวเราะร่วน และเอ่ยขึ้น

 

“เจ้าพูดจริงรึ? อย่างไรก็ตาม ในเมื่อข้าได้กระบี่ล้ำค่าเล่มนี้มา คงเลี่ยงไม่ได้ที่เรื่องนี้อาจเล็ดลอดออกไป ข้าปิดปากเจ้าเสียน่าจะดีกว่า”

 

ไป๋ซื่อซวินกรีดร้องน่าเวทนา

 

“อย่าฆ่าข้าเลย พี่ชาย ข้าไม่เห็นหน้าท่านและไม่รู้จักท่านด้วย”

 

“ก็จริงอยู่”

 

หลงเฉินหัวเราะ เขาคว้าคอไป๋ซื่อซวินและยกขึ้น เดาะลิ้นพลางมองเขาและเอ่ยขึ้น

 

“เจ้านี่ผิวพรรณดูดีมีชาติตระกูล ดูเหมือนพ่อเจ้าจะเป็นคนสูงศักดิ์สินะ  แต่สิ่งที่ข้าทนไม่ได้ที่สุดก็คือคนที่รูปงามกว่าข้า เช่นนั้นแล้ว ...”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฉิน  ไป๋ซื่อซวินก็มีทีท่าวิตกกังวลและเริ่มดิ้นรน

 

“พี่ชาย  อย่าทำข้าเสียโฉมเลย ไม่ว่าท่านต้องการอะไร ท่านพ่อข้าก็ให้ท่านได้ ... ท่านปู่ของข้าคือเจ้าเมืองพฤกษาหมอก ท่าน ... ท่านรู้จักใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นปล่อยข้าไปเถอะนะ!”

 

“เหลวไหลน่า ข้าจะทำให้เจ้าเสียโฉมไปเพื่ออะไร?”

 

เสียงของหลงเฉินเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เขาแอบหยิบมีดสั้นออกมา แล้วแทงมันเข้าไปที่หว่างขาของอีกฝ่ายดังสวบ พร้อมบิดมีดไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋ซื่อซวินส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาขณะมองหลงเฉินด้วยสายตาสิ้นหวัง

 

หลงเฉินโยนเขาลงบนพื้น

 

“ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าเสียโฉม ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าเป็นผู้ชายต่อไปก็เท่านั้น ไป๋ซื่อซวิน หากไม่ใช่เพราะความฉลาดมีไหวพริบของข้าเอง ข้าก็คงไม่ได้สมเป็นชายชาตรีเช่นทุกวันนี้ และเพื่อตอบแทนบุญคุณ นี่เป็นเพียงกฎแห่งกรรมเท่านั้น...”

 

เขาหันไปมองกระบี่

 

มันเป็นกระบี่สีดำสนิท แตกต่างจากกระบี่เล่มอื่น ๆ ตรงที่มันเป็นกระบี่ที่แคบมาก มีความกว้างเพียงแค่สองชุน ส่วนตัวกระบี่มีความยาวสองฉื่อ และคมกระบี่ทำจากเหล็ก

 

หลงเฉินหัวเราะอย่างขมขื่น

 

“อุตส่าห์ไล่ตามมาตั้งนาน ไม่คิดเลยว่าจะได้กระบี่พัง ๆ แบบนี้”

 

เขาเดินเข้าไป มองส่วนด้ามของกระบี่ แล้วยื่นมือไปจับ

 

ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงหญิงสาวกรีดร้องดังไปทั่ว  กระบี่เล่มนั้นเริ่มปล่อยพลังรุนแรงออกมา และหลงเฉินไม่สามารถต้านทานได้ มันส่งให้เขาลอยตัวขึ้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ และรู้สึกหวาดกลัวจนใบหน้าถอดสี  เพราะจู่ ๆ กระบี่ก็บินขึ้นไปอีกครั้ง และตัวเขาก็ลอยสูงขึ้นไปบนฟ้าพร้อม ๆ กัน

 

ความเร็วของกระบี่เหล็กในครั้งนี้เร็วกว่าเดิมนับสิบเท่า และยังบินสูงขึ้นอีกด้วย  ป่าเบื้องล่างกลายเป็นเพียงที่ดินขนาดเล็ก หลงเฉินตกตะลึงอย่างมากพลางกรีดร้องโหยหวน

 

“ถ้าข้าตกลงไปละก็  ต้องแหลกเป็นชิ้น ๆ แน่!”

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น  เขาจึงรีบคว้าด้ามกระบี่เอาไว้ด้วยสองมือ และพยุงตัวขึ้น จับกระบี่ไว้ให้มั่น แต่กระบี่เหล็กนั้นก็ยังคงกวัดแกว่งไปมาราวกับต้องการจะสลัดหลงเฉินให้หลุดออก

 

“กระบี่เหล็กเล่มนี้มีสติปัญญาสินะ แถมยังเป็นสมบัติล้ำค่าอีกด้วย  แต่ถ้าข้าร่วงลงไปคงตายแน่ ๆ แล้วคงไม่ได้มีความสุขกับชีวิตอีก”

 

ชายหนุ่มและกระบี่จึงบินข้ามขอบฟ้าไป

 

หลงเฉินโอบกระบี่ไว้แน่น  แม้ว่ากระบี่เหล็กจะพยายามสลัดเขาออกด้วยวิธีการนับไม่ถ้วน แต่ด้วยความรักตัวกลัวตาย หลงเฉินจึงทุ่มเทกำลังทั้งหมดที่มี

 

ทันใดนั้น เสียงเกรี้ยวกราดของหญิงสาวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

 

“เจ้าคนลามก เจ้ากอดข้าไม่ปล่อยแบบนี้ได้อย่างไรกัน ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้น ข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่!”

 

หลงเฉินตกใจ เพราะเสียงนั้นดังออกมาจากกระบี่ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะกระบี่เล่มนี้จะดุด่าว่าเขาเป็นคนลามก

 

“กระบี่เล่มนี้เป็นผู้หญิงหรือนี่?”

 

“ไม่ได้ยินรึอย่างไร? รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเล่นงานเจ้า!”

 

อีกครั้งที่เสียงดังขึ้น และกระบี่เหล็กก็เริ่มส่ายไปมารุนแรงยิ่งกว่าเดิม

 

หลงเฉินรีบตอบ

 

“ม... แม่นาง ข้าก็อยากจะปล่อยมืออยู่หรอกนะ  แต่ท่านบินสูงเสียขนาดนี้ ร่างข้าคงแหลกละเอียดแน่ถ้าข้าปล่อยมือ”

 

หลังจากพูดจบ กระบี่เหล็กก็หยุดสะบัด และนางก็ตอบด้วยน้ำเสียงงุนงง

 

“จริงด้วย... ข้าต้องขออภัย ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ข้าจะลงไปข้างล่างก็แล้วกัน แต่เจ้าต้องสัญญาว่าเจ้าต้องปล่อยข้านะ ... มันไม่เหมาะสมที่ชายหญิงจะถูกเนื้อต้องตัวกัน”

 

หลงเฉินคิดในใจ

 

‘ข้ารู้ว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน แต่ท่านเป็นกระบี่นะ ข้าจะไปล่วงเกินอะไรท่านได้เล่า?’

 

อย่างไรก็ตาม เขารีบพูดขึ้น

 

“แน่นอน ข้าก็ขออภัยที่เสียมารยาทกับร่างที่เลอค่าของท่าน”

 

“ไม่เป็นไรหรอก มาคิดดูแล้ว มันก็เป็นความผิดของข้าเอง เอาล่ะ ลงไปข้างล่างกันเถอะ”

 

หลงเฉินอยากจะสำรอกออกมาเป็นเลือดและตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด  นางบินมาเกือบครึ่งวันก่อนจะรู้ว่าถ้าเขาปล่อยมือ เขาจะตกลงไปตาย

 

ในที่สุด ก็ลงมาได้อย่างปลอดภัย

 

หลงเฉินมองไปรอบ ๆ เพียงเพื่อจะพบว่าตนเองอยู่ในเทือกเขาที่แห้งแล้งแห่งหนึ่ง  มีหินผาและต้นไม้เหี่ยวเฉาอยู่ทุกที่ มันคือพื้นที่รกร้าง เสียงสัตว์ร้ายมากมายคำรามก้องทำให้รู้สึกขนหัวลุก

 

โพละ!!  หลงเฉินเหยียบลงบนกะโหลกที่แตกร้าว  เมื่อเขาตระหนักได้ว่ามีกระดูกสัตว์มากมายกลาดเกลื่อนอยู่โดยรอบ

 

“ม... แม่นาง บอกข้าที ที่นี่คืออาณาเขตรกร้างของสัตว์อสูรใช่หรือไม่...”

 

‘อาณาเขตรกร้างของสัตว์อสูร’ เป็นพื้นที่ที่ลึกที่สุดของหุบเขารกร้างอันกว้างใหญ่  เป็นที่ที่ยากจะเอาชีวิตรอดไปได้ หลงเฉินได้ยินตำนานการผจญภัยมามากมาย เขาไม่รู้ว่าตนเองจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานเหล่านั้นหรือไม่

 

เขามองกระบี่เหล็กที่อยู่ข้างตัว ในตอนนั้น กระบี่เหล็กก็เปล่งเสียงของหญิงสาวออกมาอีกครั้ง

 

“อา... ขอโทษด้วย ข้าสัมผัสได้ว่ามีสัตว์อสูรมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก ถ้าข้าปล่อยเจ้าไว้ที่นี่ เจ้าคงรอดไปได้ไม่นานหรอก เราควรทำเช่นไรดี? จะทำอย่างไรต่อไปดี?”

 

หญิงสาวดูวิตกกังวล  หลงเฉินเองก็พูดอะไรไม่ออก

 

หลังจากเวลาผ่านไป เขาก็เอ่ยขึ้น

 

“นี่... ก็เหมือนที่พวกเราเข้ามาที่นี่ในตอนแรกอย่างไรล่ะ ท่านพาข้ากลับไป เหมือนที่ท่านพาข้ามามิได้หรือ?”

 

ในตอนนี้ กระบี่เหล็กไม่พูดอะไรอีกเลย

 

หลงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

 

“นี่... แม่นาง ท่านเป็นอะไรไปหรือ?  ท่านจะไม่พูดแล้วรึอย่างไร?”

 

หลังจากที่พูดจบ เขาก็เอื้อมไปจับกระบี่

 

กระบี่เหล็กพูดด้วยน้ำเสียงวิตก

 

“เอ่อ... ข้าขอโทษ ข้า... ข้าไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ ข้าอยากจะรีบสลัดเจ้า จึงไม่ทันสังเกตเขตแดนมหาศาลของที่นี่เลย ข้าบินเข้ามาได้ แต่บินออกไปไม่ได้...”

 

“โธ่...”

 

ทันทีที่นางพูดจบ นางก็เริ่มร้อง

 

หลงเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ  หากเขาไม่ได้ควบคุมมันไว้อย่างสุดกำลัง ป่านนี้เขาคงตายเพราะแรงกระแทกไปแล้ว

 

“ไม่คิดเลยว่า ข้า ... หลิงซี จะต้องมาตายในที่บ้า ๆ แบบนี้ ... ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าคงไม่แตะกระบี่พัง ๆ นี่หรอก โธ่ ...  ท่านแม่ ท่านพ่อ ... ข้ากลัวเหลือเกิน ข้ายังไม่อยากตาย...”

 

“เงียบก่อน!”

 

หลงเฉินรีบคว้ากระบี่และซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่  เขาสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่อันตรายกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้

 

ในอาณาเขตรกร้างของสัตว์อสูรแห่งนี้  หากกระบี่เหล็กส่งเสียงดัง และอาจทำให้พวกเขาถึงฆาตได้

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่รอบตัว  นางจึงไม่กล้าส่งเสียงอีก นางอยู่ในกำมือของหลงเฉิน และไม่กล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องความเหมาะสมของหญิงชายอีกแล้ว

 

หัวใจของหลงเฉินเต้นรัวด้วยรู้สึกหวาดกลัว  เขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง และซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่  แนบหูลงกับพื้นเพื่อฟังเสียงที่เกิดขึ้น

 

เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว ๆ

 

หัวใจของหลงเฉินหล่นวูบ เขาไม่สามารถควบคุมตนเองไม่ให้สั่นเทิ้มได้  เพราะเห็นได้ชัดว่าเวลานี้ช่างอันตรายเพียงใด

 

เขาสูดหายใจเข้า

 

ชะลอจังหวะการเต้นของหัวใจ  พยายามอย่างสุดความสามารถในการควบคุมสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้  อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของเขากำลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ

 

สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือยัยซื่อบื้อที่เขาถืออยู่นี้จะส่งเสียงออกมา  อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเตือนนางได้ หากนางส่งเสียงออกมาจริง ๆ ก็อาจทำให้เขากลายเป็นศพภายในชั่วพริบตา

 

ฝีเท้าหนักแน่น ลมหายใจรุนแรง กลิ่นสาบที่คละคลุ้งในอากาศทำให้ขนหัวลุก แม้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่สามารถทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้

 

บรู้ววว …

 

เสียงคำรามต่ำดังมาจากอีกฟากของก้อนหิน  เมื่อหลงเฉินได้ยินเข้า ขนก็ลุกชันไปทั่วทั้งร่าง  หากเขาเคลื่อนไหวอย่างไม่ระวัง เขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

 

โชคดีที่เขาทำได้ดี เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงนั้นอีก  หลงเฉินจึงหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น ในตอนนั้น เขาถึงรู้ตัวว่าเหงื่อที่ไหลออกมาทำให้ผมของเขาเปียกชุ่ม

 

“เมื่อครู่ ... คือ ‘อสูรหมาป่ากลืนจันทรา’  ด้วยกำลังของเจ้า แค่มันกัดเข้าครั้งเดียวก็กลืนเจ้าลงคอได้แล้ว...”

 

กระบี่เหล็กในมือของเขาผ่อนคลายลงในที่สุด

 

หลงเฉินลุกขึ้นยืนและเอ่ยขึ้น

 

“จะอย่างไรก็เถอะ ข้าต้องไปจากที่นี่ให้ได้ภายในครึ่งเดือน ท่านต้องไปกับข้าด้วย  จริงสิ ท่านชื่อ หลิงซี สินะ? ข้าชื่อว่า หลงเฉิน!”

***********************************

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด