ตอนที่แล้วตอนที่1อุบัติเหตุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่3 ผีปอบอาละวาด NC

ตอนที่2แขกยามวิกาล


ตอนที่2แขกยามวิกาล

“เจ็บไหม..?”เหมือนฉันจะช็อกจนลืมไปเลยว่าที่คุยอยู่ด้วยไม่ใช่คน

“เจ็บ..มาก..”เจ้าตัวครวญคราวเบาๆ

“เกิดอะไรขึ้น”ฉันพยายามคลานตัวลงจากเตียงไปที่มุมห้องหาชีเปลือยที่นั่งขดตัวแน่นกับความมืด เหมือนกำลังหลบอะไรสักอย่าง

“อย่าเข้ามานะ...”เจ้าตัวตะเบ็งเสียงแข็งใส่ฉันที่กำลังจะคลานไปหาจนหยุดชะงัก

“ทำไมล่ะ..”ฉันถึงกับชะงักตัวไปครู่นึงตอนได้ยินเสียงห้ามเอ่ยเตือนเบาๆ แต่ฉันก็ไม่สนใจกับคลานสี่ขาเข้าไปหาแล้วใช้มือตัวเองสัมผัสเบาๆ ที่หัวไหล่เย็นชืดของชีเปลือยในห้อง

“อื้อ..” ชีเปลือยพยายามถดตัวหนีจากฝ่ามือของฉันในทันที

“เจ็บเหรอ?? ..”

ชีเปลือยพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะดันมือของฉันออกห่างจากไหล่ของหล่อน ใช้คำว่าหล่อนแทนไปก่อนล่ะกัน

“เกิดอะไรขึ้นพอจะบอกฉันได้ไหม?? ..”

“ไม่..ได้”เสียงเย็นๆพูดเบาๆก่อนจะผลุบสายตาหนีจากฉัน เอ๊ะยังไงกันเนี่ยอุส่าห์ถามเพราะห่วงนะ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรพูดออกมาสักคำ ฉันก็เลยคลานสี่ขากลับขึ้นเตียงแล้วกอดหมอนข้างหนีบกันไว้อย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะได้ยินเสียงคำรามดังออกมาจากความมืด

“โฮก..เอื้อ..โฮกก..อื้อ..”เหมือนหล่อนจะเจ็บมากไม่ใช่น้อย แถมคำรามดังสนั่นขนาดนั้น กลัวย่าจะตื่นจังเลยนี่ก็5ทุ่มแล้วทำไมไวจัง

“โฮกกก...อั๊ก..เจ็บ..อื้อ..โฮกกกก..”คุณหล่อนยังคงคำรามสนั่นห้องฉันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจเวลากลางดึก เสียงเล็บยาวครูดกับแผ่นไม้พื้นห้องฉันจนสนั่นไปหมด

“โฮกก..อ๊ากก..แฮ่ก..แฮ่กๆ..อือ..”สักพักก็ได้ยินเสียงดังตุ๊บทรุดลงกับพื้นตามด้วยเสียงหอบหายใจเฮือกๆของหล่อนที่นอนเหงื่อท่วมจนอกกระเพื่อม

“เป็นไงบ้าง..”

“เจ็บ..อื้อ..ร้อนไปหมดเลย..ช่วยข้า..ด้วย”

“จะให้ช่วยยังไงล่ะ..”

“น้ำ..”

“น้ำ??..”เลิกคิ้วขึ้นอย่างมึนๆในความมืด ก่อนจะยันตัวลุกเตรียมเดินออกจากห้องไปเอาน้ำมาให้หล่อนกิน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเดินเล็บยาวๆ ก็จิกเข้ากับข้อเท้าของฉันก่อนจะออกแรงดึงพรืดจนฉันล้มตึงกับพื้นสนั่น

“อั๊ก..เจ็บๆๆ..ทำอะไรเนี่ย..อื๋อ..”สะดุ้งตัวเฮือกใหญ่ตอนที่ถูกปลายลิ้นเย็นๆ ตวัดเลียที่ต้นขาของฉันก่อนจะไล่ขึ้นสูงมาเรื่อยๆ จนถึงต้นขา

“อ๊ะ..อย่านะ..!!”ฉันเบิกตาโพลงอย่างสุดขีดเมื่อถูกคุณหล่อนฉวยโอกาสจะทำมิดีมิร้าย

“แผล่บ..จุ๊บ..น้ำ..”คุณหล่อนเสียสติไปแล้ววว ช่วยด้วยฉันจะโดนแดกแล้ววว

ตะเกียดตะกายเอามือตัวเองดันหัวนุ่มๆนั่นและหูดุ๊กดิ๊กๆ ออกให้ห่างจากต้นขาของฉัน แต่ก็ดันไม่ออกเพราะแรงบีบของหล่อนบีบแน่นหนึบกับต้นขาของฉันจนขยับตัวไม่ได้ แรงบีบที่กดไว้มันมากกว่าคนธรรมดาซะอีกมันเจ็บลึกไปยันกระดูกเชียว ฉันร้องทั้งน้ำตาว่าจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือกลายมาเป็นอ้าปากค้างหวอ

“อื๋อ..อย่านะ...อื้อ..อ่า..อู้วววววว”ถดสะโพกหนีทันทีตอนที่ถูกลิ้นเปียกๆ ตวัดเลียลงไปที่ซอกขาด้านในจนจั๊กจี้ลิ้นเย็นๆ นั่นยังคงไล่ตวัดเลียชิมด้านในของฉันอย่างหิวกระหายฉันที่ถูกดูดอย่างมั่วซั่วจนฉันถึงกับสะอึกเป็นพักๆ เพราะโดนไรฟันกัดเข้านิดหน่อย ปลายลิ้นนั่นยังคงชอนไชไล่ตวัดเขี่ยติ่งเนื้อฉันอย่างหิวโหย เสียงดูดดังจ๊วบๆ ออกมาเป็นระยะจนฉันเผลอปล่อยน้ำตาไหลลงมาอย่างหวาดกลัว เพราะตอนนี้ฉันไม่สามารถดิ้นรนได้นอกจากต้องอดกลั้นเสียงครางลามกๆ ของตัวเองที่สะอื้นออกมาเป็นช่วงๆ ตามแรงตวัดของปลายลิ้นเย็นๆ นั่น สัมผัสเปียกปอนเต็มหน้าขาและน้ำเสียงลามกจกเปรตของฉันยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดตามแรงโยกเข้าออกของลิ้นที่ยังคงทำหน้าที่ตวัดเลียชิมไม่ยอมหยุด

“อื๋ออ..อย่านะ..ออกไปนะ..อื้อ”

แขม่วหน้าท้องเป็นช่วงๆตอนที่ถูกริมฝีปากนิ่มๆนั่นดูดม๊วบๆ ที่น้องหอยของฉันรัวๆเหมือนกับว่าหอยของฉันจะลอยติดออกมาตามแรงดูดนั่น

“อื๋อ..อย่านะ..”ปลายลิ้นเย็นๆนั่นยังคงไล่ตวัดชอนไชเข้าใส่ด้านในอย่างดูดดันจนกระทั่ง ตัวฉันเกร็งเป็นพักๆ ก่อนจะครางออกมายาวๆ รอบหนึ่งแล้วก็หอบแดกจ้านอนหมดสารรูปแผ่หลาบนพื้นอย่างหมดสภาพ

“แฮ่ก..แฮ่ก..ฮ่า..ปล่อยนะ..อื้อ..”

“แผล่บ..ม๊วบ..ฮ่า..”หน้าเปื้อนๆนั่นกำลังดันผ้าถุงฉันเลิกขึ้นจนเห็นน้องขนอุยทั้งหลายยับเยินไปหมดเพราะน้ำลายเหนียวๆ นั่นหยดใส่จนเปียกปอน

“อื้อ..ออกไปนะ..พลัวะ!!”ยกตีนตัวเองไหวก็ยันเข้าเต็มคางใส่ยัยชีเปลือยเต็มแรงจนเซล้มตึงไปข้างหลังทันที

“ฮือ..กูสิได่มีผัวกับเขาบ่..กูผิดผี..ตอนถืกผีเลียจิ๊มิ๊”เอาหลังมือปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ ก่อนจะยืนตัวตรงเอาปลายตีนตัวเองเขี่ยๆ ที่ชีเปลือยนั่น แต่ก็ไม่มีการกระตุกกระติกใดๆ เพราะตอนนี้สลบไปแล้วจ้า

สุดท้ายก็ต้องลากยัยชีเปลือยนั่นเข้ามุ้งไปด้วยก่อนจะดึงมุ้งลง พอเช้าฉันก็ตื่นขึ้นมาตามปกติกระพริบตาเบาๆ มองกวาดไปรอบตัวแต่ก็ไม่เจออะไร ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงมานั่งส่องดูรอบห้องแต่ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต ที่แปลกสุดก็คงจะเป็นรอยครูดแดงๆ ที่ข้อเท้าแล้วก็มีรอยครูดอะไรไม่รู้ที่พื้นตรงตู้เสื้อผ้าอีกแห่ง

“เมื่อคืน..เกิดอะไรขึ้นทำไม..เราจำไม่ได้เลย..หาวววว”เกาหัวแกร่กๆกับตัวเองแล้วเลิกมุ้งออกไปทันที เดินลงบันไดบ้านเต๊าะแตะไปหาย่าที่กำลังนั่งเคี้ยวหมากดูข่าวเช้า

“ย่าเบิ่งหยัง??”

(ย่าดูอะไรอยู่?)

“ข่าวเซ้า..เบิ่งบ่”

(ข่าวรอบเช้า..ดูไหมล่ะ)

“บ่จ้า..หิวเข่า..หาวว”

(ไม่เอาหรอกจ้า..หิวข้าวมากกว่า)

ตบปากตัวเองกลั้นหาวไปเรื่อยๆจนถึงโต๊ะกินข้าว นั่งกินเสร็จก็เก็บไปล้าง เตรียมไปสวนตามปกติวันนี้ฟ้าดูมืดๆผิดปกติทั้งๆที่พยากรณ์บอกไม่มีฝนแท้ๆ

“ฝนเก๋รึไงเนี่ย..เฮ้อไม่ไหวๆ”สะบัดหัวยิกๆจนคอแทบเคล็ดพลางหยิบหมวกฟางขึ้นสวมหยิบตะกร้าแล้วก็รถเข็นคันเล็กลากไปตามทางเรื่อยๆจนเข้าสู่ทางขึ้นเขา ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างสวนของฉันที่อยู่ติดตีนเขาพอดีแบบเป๊ะๆ

“ไม่ใช่มีคนมาแอบลักไก่ฉันหมดเล้าแล้วรึไงเนี่ย..”จอดรถเข็นทิ้งไว้หน้าประตูระหว่างเดินเข้าไปในเล้าไก่ตรวจเช็คไก่ทั้งหลายที่จะมีปลอกคอห้อยไว้ตามชื่อเลย

“กุ๊กๆ..กินเข่าๆ..กุ๊กๆ”โยนข้าวเปลือกทั้งหลายให้เหล่าแม่ไก่อ้วนต้วนที่เดินจิกดินกันทั่วหน้า พอเสร็จจากการให้อาหารฉันก็เดินไล่เก็บไข่ที่กระจายตามรังแล้วก็ตามพื้นฟาง

“ฮึบ..เสร็จแล้วต่อไปก็ให้อาหารปลาต่อ”เดินก้มหัวลอดตัวออกจากเล้าไก่เพื่อเอาไข่ไก่ไปใส่ตะกร้าก่อนจะหยิบตักอาหารเม็ดใส่ถังเดินไปที่สระน้ำทันที

“ซ่า..ซ่า..กินๆจะได้โตไวๆจะได้ขายมีราคาดี”มองดูเหล่าปลาอ้วนที่กระโดดขึ้นจากน้ำมาฮุบอาหารเม็ดที่ฉันสาดลงเมื่อกี้ปัดมือแปะๆ ก่อนจะเดินไปที่แปลงผักตัวเองที่ปลูกไว้ เก็บผักเต็มกำมือก็ยัดลงตะกร้าก่อนจะเดินเช็คอีกรอบเพื่อความแน่ใจแล้วเดินเอาตะกร้าไปใส่รถเข็น จัดการล็อคกุญแจคล้องโซ่เรียบร้อยก็เข็นรถออกจากสวนทันที แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็เสียวสันหลังวูบจนต้องหันหน้าไปที่เขา แต่ก็ไม่เจออะไรนอกจากเสียงลมพัด

“สงสัยนอนไม่พอแหง”เข็นรถไปตามทางเรื่อยๆโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่ข้างหลังจนกระทั้งฉันได้ยินเสียงตึกๆไล่หลังมาติดๆ ฉันก็ออกแรงไสรถเข็นวิ่งกระเจิงหนีไปแต่เสียงบ้าๆนั่นก็ยังคงวิ่งไล่ตามตัวฉันติดๆ จนมาประชิดตัว ฉันเข็นรถตัวเองลงนาซะงั้นจนตัวเองเซล้มตัวกระแทกกับดินเต็มๆ

“แท่กๆๆ...พรืดดด..ตุ๊บ”

“สิฟ้าวไปไสปา...คือแล่นหนีหัวซุกหัวซุนจั่งซั่นล่ะ”เสียงทุ้มๆดังขึ้นพร้อมกับมือด้านๆ ที่ยื่นมาให้ฉันจับลุก

(จะรีบไปไหนปา ทำไมวิ่งหนีแบบนั่นล่ะยังกับหนีอะไรใครมา)

“ลุงเบิ้ม..แงะ..แกล้งข้อยเฮ็ดหยัง..”

(ลุงเบิ้ม..แงะ..แกล้งฉันทำไมเนี่ยฉันตกใจหมดแล้วนะ)

“ฮ่าๆแล้วโตสิฟ้าวไปไส..ฮ่วยขึ้นมาๆนาเข่าเพิ่ลสิพังเบิ่ด”

(ฮ่าๆ แล้วเจ้าของน่ะจะรีบไปไหน..โธ่ขึ้นมาๆ นาข้าวเขาจะพังหมดแล้วเนี่ย)

ปัดมือแปะๆ ก่อนจะยกรถเข็นตัวเองขึ้นมาจากนาข้าวขึ้นถนนได้ก่อนจะไสตามทางไปเรื่อยๆ โดยมีลุงเบิ้มที่ทำหน้าที่เข็นให้ไปตลอดทาง

“ลุงไปไสมา”

(ลุงไปไหนมา)

“หาอึ่งในป่า...ได่บ่พอขุนึงส่ำ”

(หาอึ่งในป่า..ได้ไม่พอถัง1เลย)

“อือๆ..ระวังโตนำแมะ”

(อือๆ..ระวังตัวด้วยนะ)

“มีหยัง??คือสิให่ระวังโตแมะ”

(มีอะไร? ทำไมถึงให้ระวังตัว)

“บ่ๆข้อยบอกสื่อๆได่ยินข่าวจากหมู่ซาวบ้านบอกว่า ตอนกลางคืนมันมีหมู่ผีกระสือ ออกมาแหมะ”

(ไม่ๆ ฉันบอกเฉยๆ ได้ยินข่าวจากพวกชาวบ้านว่า ตอนกลางคืนมันจะมีพวกผีกระสือออกมา)

“กระสือติ??...บ่แม่นหมู่หมามันกินบ่คือสิคิดว่ามันเป็นกระสือแหมะ”

(กระสือเหรอ??...ไม่ใช่พวกหมามันกินเหรอทำไมถึงคิดว่ามันเป็นเป็นกระสือล่ะ)

“บ่ฮู้คือกันลุง..ข้อยพึ่งกลับมาจากโรงบาลเมื่อวาน..บ่ฮู้อีหยังนำเพิ่ลดอก”

(ไม่รู้เหมือนกันลุง..ฉันพึ่งกลับมาจากโรงบาลเมื่อวาน..ไม่รู้อะไรที่คนอื่นพูดหรอก)

“ฮอดบ้านแล้ว..ขอบใจหลายเด้อลุง”

(ถึงบ้านแล้ว..ขอบคุณมากๆเลยนะลุง)

“บ่เป็นหยังดอก ถ่าอยากได่หยังกะบอกลุงเด้อปา!!”ยืนมองดูลุงเบิ้มที่เดินห่างลับออกไปอีกเส้นทางหนึ่งของหมู่บ้าน ลุงแกเป็นชาวไร่เหมือนกันรู้จักแกมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ แล้วล่ะ

(ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าถ้าอยากได้อะไรก็บอกลุงเอานะปา)

“ว่าแต่เมื่อคืนฉัน..เห็นอะไรนะทำไมถึงจำอะไรไม่ได้เลย..เลิกคิดๆสงสัยเบลอยาแหง”

เข็นรถไปเรื่อยๆ จนถึงบ้าน ยกตะกร้าออกจากรถเดินต้อยๆ เข้าไปในบ้านเรียกหาย่าแต่ก็ไม่อยู่

“ไปวัดรึเปล่าเนี่ย..”

ยักไหล่อย่างไม่คิดเพราะว่าย่าน่าจะไปวัดจริงๆ อย่างที่คิดเพราะไม่เห็นตะกร้าหมากของย่าที่ชอบวางไว้ตรงโต๊ะกินข้าว ถอดร้องเท้าบูทเสร็จก็ยืนถูเท้ากับผ้าขี้ริ้วจนสะอาดถึงเดินเอาตะกร้าเข้าไปเก็บที่ครัว

“ปึง..เฮ้อออ..ร้อนๆๆ..พึ่บๆ”สะบัดเสื้อเชิ้ตเบาๆก่อนจะยกปกเสื้อมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากกำลังไหลหยดย้อย สงสัยฝนจะมาแหงมิน่าร้อนอบอาวแปลกๆ

“พึ่บๆๆ..ร้อนๆๆอาบน้ำดีกว่า..เฮ้ออ”

หยิบผ้าถุงจากตะกร้าผ้าขึ้นติดมือก่อนจะเดินมุ่งหน้าดุ่มๆ ไปที่ห้องอาบน้ำทันที แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูก็มีเสียงอะไรไม่รู้ดังขึ้น

“เปล้ง..!!..แกร๊กๆๆ..”

“หื้ม??..อะไรน่ะ??”หันหน้าควับไปที่ต้นเสียงจากหลังโอ่งน้ำกินข้างบ้าน แต่ก็ไม่เจออะไรจู่ๆ ก็มีแมวกระโดดออกมาจากซอกโอ่งซะดื้อๆ จนฉันตกใจเผลอร้องกริ๊ดเบาๆ ก่อนจะถอดหายใจอย่างโล่งอกตอนเห็นว่ามันเป็นแมว

“แมว?? ..เหมี๊ยวๆๆแกมาจากไหนไอ้เหมียว?”ย่อตัวลงเล็กน้อยก็จะทำนิ้วดีดเปาะๆ เรียกมันมา แล้วมันก็เดินมาจริงๆ แต่ฉันก็อดสงสัยจริงๆ ไม่ได้ว่าทำไมมันลายเหมือนเสือเลยแหะ

“เหมียววว..ม๊าววว”มันอ้าปากร้องเหมียวๆ ตลอดเวลาที่ฉันลูบหัวมันเบาๆ แล้วก็เกาคางอ้อนๆ มันถูไถหัวใส่หัวเข่าฉันใหญ่เลยจนขนตามตัวนะหลุดเป็นกระจุกๆเลยแหละ

“เหมียวๆๆ..น่ารักจังเลยยย..”

แล้วฉันก็เลิกเกาหัวมันก่อนจะลุกขึ้นเตรียมไปอาบน้ำต่อเพราะเสียเวลาเล่นกับมันมากพอแหละ

“ฮ่า..พอเลยไอ้เหมียวแกไม่ต้องตามฉันมาอาบน้ำหรอก..หยุดเลยนะอย่าเดินแบบนั้น”

ไอ้แมวบ้านี่มันเดินขัดแข้งขัดขาฉันตลอดเวลาที่ฉันจะเดินไปอาบน้ำ แถมยังมาร้องเสียงอ้อนแล้วก็ทำตาหวานใส่ซะงั้น

“เหมียวววว..”

“อย่านะ..ฉันจะไปอาบน้ำ..โอ๊ยเลิกทำตาหวานใส่ซะที..”

สุดท้ายฉันก็หนีไอ้แมวบ้าไม่พ้นเพราะมันดันตามฉันต้อยๆเข้าไปในห้องน้ำอ่าคิดดู

“แกห้ามแอบดูฉันอาบน้ำนะ..พรืดดด..”แอบหันตัวมาดูไอ้แมวบ้าที่นั่งเลียขนแผล่บๆอยู่มุมห้อง ก่อนจะกลับไปจัดการถอดเสื้อผ้าอาบน้ำต่อ

“ซ่า..ซ่า..ฮ่า..เย็นนน”ตักน้ำเย็นๆราดตัวสองสามขันก่อนจะหยิบสบู่มาถูใส่มือจนฟองฟอด แล้วพอกตัวลูบไล้ตั้งแต่ต้นคอลงมาเรื่อยๆ ผ่านอกต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงสะดือ ก่อนจะไล่มาถึงโหนกเนินของฉันนั่นแหละ ถูทุกซอกทุกมุมจนสะอาดก่อนจะราดน้ำใส่อีกหลายขันจนตัวสะอาดหอมกรุ่น

“ซ่า..ซ่าๆๆ..”ราดน้ำจนตัวเปียกโชกก่อนจะหันมาดูว่าเจ้าแมวนั่นยังอยู่ไหมแต่สิ่งที่ฉันเจอคืออากาศที่ว่างเปล่าไม่มีเจ้าแมวลายเสือเหมือนตอนแรกที่มันนั่งเลียขนอยู่

“ไอ้เหมี๊ยว? ..อยู่ไหนเนี่ย..เฮ้อสงสัยออกไปแล้วมั้ง”ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าถุงที่ราวแขนจู่ๆ ตัวของฉันก็ถูกอะไรสักอย่างรัดไว้ก่อนจะดันตัวฉันจนถอยหลังออกไปกระแทกกับกำแพงปูน

“ปึก..โอ๊ยอะไรเนี่ย..”

*เจ้า..ชื่ออะไร*

“กะ..อุ๊บบบบ..อื้อออ..”เงาดำทะมึนสูงกว่าฉันกำลังใช้มือกลิ่นสาปโคลนอุดปากฉันแน่นหนึบจนหายใจไม่ออก ฉันพยายามดีดตัวดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะตัวของฉันเหมือนถูกแรงกดอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็นตรึงไว้ ฉันเบิกตาโผล่งตอนที่เห็นสายตาสีเหลืองทองอร่ามในความมืดกำลังทอประกายวิบวับจ้องฉันเขม็งไม่กระพริบ ฉันถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัวตอนที่ฝ่ามือสีดำนั่นลูบไล้ไปตามตัวฉันอย่างวิสาสะปลายเล็บยาวๆนั่นครูดไปตามผิวของฉันจนเจ็บแสบไปหมด ฉันพยายามที่จะกลั้นเสียงร้องเอาไว้ให้นานมากที่สุดเพราะตอนนี้เจ้าของร่างดำทะมึนกำลังอ้าปากแยกเขี้ยวแหลมๆ น้ำลายยืดให้ฉันเห็นกับตา

“อื้อออออออออ”ดีดตัวดิ้นหนีสุดชีวิตตอนที่ฟันแหลมๆนั่นกำลังจ่อมาใกล้ต้นคอฉันเรื่อยๆ ก่อนที่ผิวของฉันจะฉีกออกจากกันตามแรงกัดที่กดทับลงมา

“อื้อออออออออออออออออออออ...”

กำมือตัวเองให้แน่นที่สุดในชีวิตเท่าที่จะกำได้ แต่แล้วสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะทุกสิ่งที่ฉันคิดไปมันคือการมโน ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมตอนที่ฉันกระพริบตาปิ๊บๆ มองดูรอบห้องน้ำแต่ก็ไม่มีอะไร นอกจากเจ้าเหมียวที่กำลังนอนกลิ้งซุกไซ้ไปมากับกองเสื้อผ้ากางเกงในของฉันจนผ้าฉันกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้นเพราะน้ำมือของมัน

“แฮ่กๆ..แค่กๆ..เหมือนจริง..เกินไปแล้ว..”กวักน้ำใส่มือลูบหน้าตัวเองออกเบาๆ ตอนนี้ทั้งตัวฉันสั่นเป็นเจ้าเข้าไปหมดเพราะว่าภาพที่เห็นเมื่อกี้มันยังติดตาและสัมผัสจากรอยกัดที่กดทับลงมายิ่งตอกย้ำให้ฉันได้รู้สึกว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่ใช่แค่ความฝันแน่ๆ

“อือ..อ่า..”ยกมือสั่นระริกๆของตัวเองขึ้นมากำๆคลายๆออกก่อนจะยกผ้าถุงมาสวมสะบัดๆ แล้วรัดอก หยิบกองเสื้อผ้าตัวเองติดมือก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าจ้ำอ้าวโดยไม่หันมามองที่ห้องน้ำอีก ฉันไม่สนใจเจ้าแมวนั่นอีกต่อไปตอนที่รู้สึกแปลกๆ มาจากเมื่อกี้ว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจ้องมองฉันจากที่ไหนสักแห่ง

ทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างหมดแรงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกหาย่า

*ฮัลโหลย่า..อยู่ไสนิ..แล้วสิเมียบ้านจักโมงปาสิไปฮับ*

(ฮัลโหลย่า..อยู่ไหนเนี่ย..แล้วจะกลับบ้านกี่โมงปาจะได้ไปรับถูก)

*เมียมื้ออื่นเซ้า...มื้อนี่ย่าสินอนวัดกับหมู่*

(กลับพรุ่งนี้เช้า...วันนี้ย่าจะนอนวัดกับเพื่อนๆ)

*จ้า..มื้ออื่นเซ้าปาสิไปฮับเด้อ*

(จ้า..พรุ่งนี้เช้าปาจะไปรับนะ)

*จ้า..ปิ๊บ*

“ขอให้พรุ่งนี้ไม่มีอะไรทีเถอะ..เฮ้อ”

ถึงจะบอกแบบนั้นก็เถอะแต่รู้อะไรไหมฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันพรรคนี้ ถึงเจอแต่เรื่องแปลกๆ เข้ามาตลอดไม่เว้นวัน รู้ไหมว่ามันน่ากลัวแต่ถึงกระนั่นฉันก็ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีคงต้องพึ่งน้ำมนต์หลวงพ่อซะแล้วมั้งเนี่ย

“บางทีฉัน..อาจจะโดนทำของใส่อยู่ก็ได้มั้ง..เฮ้อ”

นอนบิดตัวไปมาอย่างไม่สบายตัว เพราะรู้สึกร้อนแปลกๆ ในตัวแถมยังรู้สึกคันที่หัวนมหน่อยๆ

“อือ..อะไรเนี่ยทำไมมันคันแปลกๆ..นมฉันจะใหญ่ขึ้นรึไง”

เกาหัวนมไปมาอย่างรำคาญจนสุดท้ายต้องถอดเสื้ออกก่อนจะเดินไปหยิบแป้งมาเคาะๆ ที่หน้าอกแต่สุดท้ายมันก็ไม่หายคันจนสุดท้ายต้องนอนบิดตัวอย่างทรมานบนเตียงไปทั้งแบบนั้น

ระหว่างที่จำปากำลังบิดกายทรมานจากอาการกำหนัดขึ้น บนต้นมะม่วงข้างบ้านกลับมีอะไรบางอย่างกำลังนั่งเกาะต้นมะม่วงจ้องเขม็งไปที่จำปาอย่างหิวกระหายด้วยสายตาที่วิบวับ

*เจ้า..ช่างเหมือน..ของข้ายิ่งนัก*

นางหรือเขา?นั่งจ้องมองอกสวยสีชมพูเข้มตามสีผิวที่สะบัดดิ้นไปมาเพราะแรงกระตุ้นจากร่องรอยเมื่อวันวานที่ทำลงไปกับจำปาอย่างจงใจ จนเป็นเหตุให้จำปาต้องทรมานจากอารมณ์กำหนัดของตัวเองที่พลุ่งพล่านออกมาจนมิอาจควบคุมได้ไหว

*เจ้าทรมาน..ข้า..เสียใจ..*นางนั่งจ้องมองดูจำปาอย่างไม่วอกแวก สายตาที่แข็งกราวตอนนี้เปลี่ยนเป็นสายตาที่เบิกโพลงอย่างสงสัยกับท่าทีของจำปาที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุราย ผ่านช่องหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดอ้าออก

“อ๊ะ...อือ..ร้อน..อือ”ฉันที่กำลังนอนดีดดิ้นไปมาเริ่มคุมตัวเองไม่ไหวเพราะ ความอยากกระสันที่มีมากอย่างมากมายจนต้องหาทางปลดปล่อยในเร็ววัน

“อ่า..อื้อออ...อื๋อ...อ่า..ท..ทำไมฉันอยาก..มากถึงขนาดนี้..อือ”

ฉันมีทางเลือกไม่มากนอกจากถกผ้าถุงขึ้นแล้วจัดการอ้าขาตัวเองออกอย่างร้อนรน

“ฮ่า..ฮ่า..ไม่ไหวแล้ว..อือ”

ไล่มือต่ำลงไปเรื่อยๆผ่านหน้าท้อง สะดือ จนมาอยู่บริเวณเนินนูนอย่างเก้ๆกังๆ แตะนิ้วลงไปที่จุดกลางลำตัวอย่างเบาๆมือและลูบขึ้นลงช้าๆก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีก

“อ๊ะ..อื้อ..อื้อๆๆๆ”

*อ..อึก*เจ้าตัวที่กำลังยืนลอบมองจำปาด้วยความตั้งอดตั้งใจก็เผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างไม่เข้าใจตัวเองกับภาพลามกตรงหน้า ด้วยความไม่รู้ตัวนางก็ยังคงจ้องมองจำปาไม่ไปไหนเพื่อจดจำทุกภาพและรายละเอียดท่วงท่าลีลาของจำปา

“อ๊ะๆๆ..อื้อๆๆ...จะ..เสร็จแล้ว..อืออออออออออออ”

“...”

น้ำรักสีใสไหลทะลักเปียกปอนเต็มหน้าขาไปหมด จำปานอนแผ่หลาหอบหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดแรงจนอกกระเพื่อมขึ้นลง

“ฮ่า..ฮ่า...อือ...ฮ่า..ฮ่า”แต่เหมือนจำปาจะรู้ตัวจึงหันควับไปที่หน้าต่างและเจอเข้ากับหล่อนที่กำลังจ้องมองจนหอบหายใจดังหนักๆอยู่ใกล้มากจนเธอได้ยิน

“อื๋อ!!!!!!!!!”จำปาเบิกตาโพลงอย่างตกใจที่ถูกเจอ ก่อนหล่อนจะกระโดดหนีหายไปจากตรงนั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด