ตอนที่แล้วบทที่ 114
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 116

บทที่ 115


หลังจากจัดการกลุ่มโจรเงามายาผ่านพ้นไปสองวัน ข่าวก็ถูกกระจายประดุจไฟลามทุ่ง ยอดฝีมืออายุน้อยจากสำนักพยัคฆ์สายลม มีส่วนช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่น้อย การจัดการอสรพิษฟ้าสัตว์อสูรระดับสีแดงขั้นกลางอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังจับกุมตัวหัวหน้ากลุ่มโจรได้อีกด้วย ชื่อเสียงของทั้งสองโด่งดังในชั่วข้ามคืน ข่าวยังถูกกระจายไปทั่วเขตดินแดนทั้งแปดเขต เจ้าสำนักจางหลิงเมื่อได้ทราบข่าวก็นั่งยกยิ้มอยู่ในห้องพัก แต่ตอนนี้ทั้งสองคนยังคงอยู่ที่เขาสัตว์อสูรเช่นเดิม ทั้งสองตระเวนไปมาทั่วทั้งเขา แต่ก็ยังไม่พบเจอสิ่งใดที่เป็นเบาะแสเกี่ยวกับศิลาจารึกแม้แต่น้อย

เสียงหอบหายใจเหนื่อยดังออกมาจากหยางเวยที่ตอนนี้นั่งพิงก้อนหินขนาดใหญ่ข้างต้นไม้ ด้วยความเหนื่อยล้าเพราะตลอดสองวันที่ผ่านมาหลังจากจัดการกับกลุ่มโจรมายาเสร็จสิ้น ทั้งสองก็วิ่งวนไปมาตรวจสอบจุดสำคัญในแผนที่แต่ก็ยังไม่พบเจอสิ่งใด

“ไอ้บ้าเนี่ยฟง ตกลงมันมีจริงหรือไม่ หรือว่าเราถูกหลอก”

“ไม่น่าเป็นไปได้ มันอาจจะเป็นเพราะสภาพเขาสัตว์อสูรมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ ทำให้จุดสังเกตถูกเคลื่อนย้าย”

ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ เนี่ยฟงก็ได้ยินเสียงแว่วเข้ามา

“ไอ้หนู เหตุใดเจ้าไม่ใช้ปราณของเจ้าตรวจสอบละ”

“ทำอย่างไรขอรับท่านลุ่ยกง”

“ทำเช่นเดียวกับที่เจ้าบังคับกระบี่ เพียงแต่ให้ประกายสายฟ้าของเจ้าตรวจสอบอักขระศักดิ์สิทธิ์”

สิ้นเสียงกล่าว เนี่ยฟงก็แผ่ลมปราณออกจากร่างประกายสายฟ้าพุ่งออกจากร่าง ไม่ถึงสองลมหายใจประกายสายฟ้าก็พุ่งไปข้างหน้า เนี่ยฟงไม่กล่าวสิ่งใดรีบพุ่งออกไปติดตาม หยางเวยที่เห็นเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นพุ่งติดตามไป

“ไอ้บ้าเอ๊ย ข้ายังไม่หายเหนื่อยเลย รอก่อนสิโว้ยยย”

เนี่ยฟงยังคงพุ่งติดตามประกายสายฟ้าไปอย่างไม่ลดละ ไม่นานมันก็พุ่งหายเข้าไปในก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ทั้งสองหยุดเดินสำรวจรอบด้านก็ไม่พบเจอสิ่งใด เสียงสะบัดมือดังแว่ว ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากมือไปที่ก้อนหิน ไม่ถึงสองลมหายใจก็ปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงออกมา

“หยางเวยคุ้มกันข้าที”

สิ้นเสียงของเนี่ยฟง หนางเวยก็เรียกมีดอันแปลกประหลาดออกมา อสรพิษดำก็ปรากฏกายออกมาเช่นกัน เนี่ยฟงรีบแก้ไขอักขระศักดิ์สิทธิ์ทันที ประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดง มันค่อยๆเปลี่ยนอักษรภายในอย่างช้าๆให้กลายเป็นสีฟ้า เกือบสองเค่อทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

“ไอ้หนูระวังตัวมียอดฝีมือพุ่งมาทางนี้”

เนี่ยฟงรีบโบกสะบัดมือวางอักขระศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่พื้นด้านหน้าของหิน พร้อมกับตะโกนเรียกหยางเวย

“หยางเวยรีบเข้ามาเร็วมีคนกำลังมาที่นี่”

เมื่อกล่าวจบเนี่ยฟงก็พุ่งหายเข้าไปในหิน หยางเวยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็พุ่งติดตามเข้าไปเช่นกันพร้อมกับเรียกอสรพิษดำกลับเข้าร่าง ทันทีที่หยางเวยเข้ามาด้านใน เนี่ยฟงก็สะบัดมืออีกครั้ง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ปิดหน้าก้อนหินไว้เช่นเดิม ทั้งสองยังคงไม่ไปไหนยังคงยืนอยู่ด้านในก้อนหิน ไม่นานก็มีชายชราผู้หนึ่งผมสีดอกเลาพุ่งเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่ง ทั้งสองสวมชุดสีเทา

“บัดซบพวกมันหายไปไหนแล้ว เมื่อครู่ข้าตรวจสอบว่าพวกมันอยู่แถวนี้”

“ไม่เอาน่าไอ้หลานชาย เจ้ามุ่งหน้ากลับไปรายงานที่ผาไม้ดำเถอะ ว่าข้าตามตัวไอ้เด็กสารเลวนั้นได้แล้ว”

“เหอะ หากข้ากลับ ไม่ใช่ว่าท่านจะเป็นคนสังหารไอ้เด็กน้อยนั่นแล้วไปรับเงินรางวัลค่าหัวของมันรึ”

“ตามใจเจ้าก็แล้วกันไอ้หลานชาย แต่หากมาวุ่นวายกับข้านัก อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

เมื่อกล่าวจบชายชราก็พุ่งออกไปทางขวา ส่วนชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งพุ่งออกไปทางขวา เนี่ยฟงและหยางเวยเมื่อทั้งสองไปแล้วก็หันหลังเดินเข้าไปที่ทางเดินยาวด้านใน มีทางเดินลงไปด้านล่าง หยางเวยรับนำตะเกียงไฟออกมาถือ เนี่ยฟงเรียกเกราะสายฟ้าออกมาหมุนวนร่างกาย ทั้งสองเดินลงมาเกือบสองเค่อก็เจอกับม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เนี่ยฟงรีบเข้าไปตรวจสอบพบว่า มันเป็นเพียงอักขระศักดิ์สิทธิ์ประเภทเคลื่อนย้าย เนี่ยฟงจึงหันมาหาหยางเวย

“หนางเวย เจ้าพร้อมหรือไม่”

“หวังว่าครั้งนี้จะมีสมบัตินะ”

เนี่ยฟงเดินนำหยางเวยเข้าไปในม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ ไม่นานทั้งสองก็มาโผล่อีกที่หนึ่ง เป็นห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง มีศาลาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ด้านข้างมีศิลาจารึกตั้งวางอยู่ มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง อีกฝั่งหนึ่งมีต้นไผ่ขึ้นเต็ม ด้านข้างมีต้นท้อขึ้นสองต้น มองเข้าไปด้านในมีกองสมบัติจำนวนไม่น้อยวางอยู่ หยางเวยไม่รีบรอพุ่งทะยานอ้อมทางด้านหลังของสระน้ำ พร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง

“สมบัติ สมบัติของข้า”

เนี่ยฟงได้แต่ส่ายศีรษะไปมา เดินสำรวจจนทั่วก็ไม่มีสิ่งใด จึงใช้ลมปราณตรวจสอบอีกครั้งก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ กำลังจะเดินไปสำรวจที่ศิลาจารึก ก็ได้ยินหยางเวยตะโกนออกมาเสียงดัง

“ไอ้บ้าเนี่ยฟง มาทางนี้หน่อย ข้าเจออะไรบางอย่าง”

เนี่ยฟงรีบพุ่งทะยานไปหาหยางเวยอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็พบหยางเวยยืนอยู่หน้าหีบเหล็กขนาดเล็ก หยางเวยรีบหยิบสิ่งของด้านในออกมาเป็นป้ายหินสามป้ายมีอักษรโบราณสลักอยู่ด้านใน ยื่นให้แก่เนี่ยฟง เนี่ยฟงรีบตรวจสอบแผ่นป้ายทั้งสามอยู่นาน ก็ยกยิ้มให้หยางเวย

“เกิดสิ่งใดขึ้น”

“เจ้าคงร่ำรวยไม่น้อยหากว่าเราเดินทางไปทั้งสามที่นี่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยางเวยก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมบัติของข้า”

“ข้าจะตรวจสอบศิลาจารึกเสียก่อน เจ้าก็ควรจะเพิ่มพลังปราณได้แล้ว หากออกไปด้านนอกต้องพบเจอกับสองคนนั้นอีก”

เนี่ยฟงไม่รอให้หยางเวยกล่าวตอบรีบพุ่งทะยานออกไปที่ศิลาจารึก ส่วนหยางเวยเมื่อเห็นว่าเนี่ยฟงพุ่งออกไปก็โบกสะบัดมือนำแก่นพลังปราณของอสรพิษฟ้าออกมา รีบนั่งโคจรลมปราณโดยถือแก่นพลังปราณเอาไว้ ทั้งสองคนจมอยู่ในช่วงเวลาของความคิดอยู่นาน เกือบสองชั่วยามเนี่ยฟงก็อ่านบันทึกที่อยู่ในศิลาจารึกจนหมดถึงได้ทราบว่า ดินแดนเขตทั้งแปดเป็นเพียงส่วนแยกออกมาจากดินแดนใหญ่ ก่อนที่จะมีการเรียนรู้อักขระศักดิ์สิทธิ์ มีเรือขนาดใหญ่แล่นอยู่บนท้องฟ้า มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งลงมาจากเรือขนาดใหญ่เพื่อสั่งสอนวิธีการใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงวิธีการเอาชนะปีศาจและสัตว์อสูรโดยใช้ลมปราณ

“ท่านลุ่ยกง ท่านพอทราบเรื่องนี้หรือไม่”

“ข้าไม่เคยรับรู้มาก่อน”

หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็เข้าไปนั่งพักที่ศาลาพร้อมกับนำสมุนไพรออกมาปรุงยาเพื่อรอหยางเวย เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่ทราบเนี่ยฟงปรุงยาในส่วนที่ต้องการเสร็จหมดสิ้น สมุนไพรกองท่วมตัวหายไปจนหมด ขวดยาสีขาวนวลถูกแบ่งแยกเป็นกองๆ เมื่อหันไปมองหยางเวยก็พบว่ายังคงนั่งโคจรลมปราณอยู่ เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมผ่านร่างกาย เสื้อผ้าสวมใส่เปียกชุ่มไปหมด ไม่นานหยางเวยก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับสภาพที่อ่อนแรง เนี่ยฟงรีบโยนขวดยาไปให้หนึ่งขวด

“หยางเวย รับไป”

หยางเวยรีบคว้าขวดยาแล้วรับเทเม็ดยาออก เป็นเม็ดยาสีเขียวมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย หยางเวยรีบนำมันกลืนลงท้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับโคจรลมปราณต่อ เกือบสองเค่อหยางเวยก็ระเบิดพลังลมปราณระดับสีส้มขั้นสูงออกมาอย่างเต็มกำลัง ตูม พร้อมกับเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าคิดว่าข้าเกือบจะไม่รอดเสียแล้ว เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าสภาพข้าต้องเป็นแบบนี้”

“เหอะ ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน”

หยางเวยได้ยินเช่นนั้นก็ตื่นตกใจไม่น้อย

“บัดซบไอ้บ้าเนี่ยฟงหากยาที่เจ้าให้มา มันใช้ไม่ได้ผล ข้าคงไม่ตกตายไปแล้วรึ”

“เอาน่า อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ตาย จริงไหม เอาเถอะเจ้าชำระร่างกายที่สระน้ำเถอะ เวลานี้ผ่านไปกี่วันแล้วข้าก็ไม่รู้ ถึงเวลาที่เราต้องออกไปแล้ว เอาไว้ข้าจะบอกต่อเจ้าเกี่ยวกับข้อมูลในศิลาจารึก รับรองว่าเจ้าต้องประหลาดใจเป็นแน่”

เนี่ยฟงและหยางเวยอาบน้ำในสระไม่นานทั้งสองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่พร้อมกับเดินออกมา หลังจากเดินออกมาถึงหน้าปากทางเข้า เนี่ยฟงก็ใช้ลมปราณตรวจสอบด้านนอกพบว่าไม่มีใคร จึงพากันเดินออกมา ก่อนจากเนี่ยฟงแก้ไขอักขระศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นทั้งสองก็พุ่งทะยานลงเขา เกือบสองเค่อเนี่ยฟงที่พุ่งทะยานนำหน้าก็รีบเบี่ยงตัวหลบบางอย่าง ฟิ้ว ตูม เป็นหอกเหล็กปลายแหลมพุ่งลงมาปักไปที่พื้นดิน

“เหอะพวกเจ้าร้ายกาจยิ่งนัก หายตัวไปหลายวัน คิดว่าหลอกข้าคนนี้ได้รึ”

เนี่ยฟงและหยางเวยรับหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีเทา ยืนแสยะยิ้มอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด