ตอนที่แล้วตอนทีี่ 11 : เคลียร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : พ่อแง่แม่งอน

ตอนที่ 12 : ฝึกให้ชิน


กล้ารักกันต์ โดย ศศิศิลป์

ตอนที่ 12 : ฝึกให้ชิน

___________________________________________

- กันติทัต -

งัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เริ่มชินเสียแล้วกับการมีใครอีกคนนอนกอดไม่ห่าง เพิ่งรู้ว่ามันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง เคยคิดว่าชอบอยู่คัวคนเดียว ที่จริงเราไม่เคยลองหรือได้พบมันมากกว่า

"อืมมมม..." ช่วงนี้ปวดเมื่อยไปทั้งตัวบ่อยๆ แม่บอกว่าท้องโตจะหนักกว่านี้อีก

ค่อยๆยกแขนที่กอดรัดเอวออก แล้วลุกให้เบาเท้าที่สุด เมื่อคืนมันกลับมาก็ดึกแล้วเพราะเคลียร์งาน

ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็มาเปิดดูอีเมลที่โต๊ะทำงานเสียหน่อย แต่แจ้งเตือนก็ทำเอาใจเต้นแรง

"พรีม..." รีบกดเข้าไปดูในกล่องข้อความทันที

Preem : เป็นไงบ้าง

: คิดถึงจัง...สบายดีนะ?

Kan't  : สบายดีมากๆ มึงอยู่ที่โน่นสบายดีมั้ย?

Preem : สบายดี แต่ตอนนี้อยู่ไทยแล้ว

:  พรุ่งนี้จะไปที่นั่น ว่างมาเจอมั้ย?

Kan't : ได้สิ ไว้เรานัดเจอกัน คิดถึงม๊ากมาก

Preem : มากเลย ไม่ได้เจอกัน7-8ปีได้แล้วนะ

Kan't : นั่นน่ะสิ มึงไม่ค่อยอัพชีวิตลงโซเชี่ยลเลยนะ

Preem : อืม แต่ก็ยังสอดส่องเพื่อนทุกคนตลอดนะ

: โดยเฉพาะกล้า...

ชะงักไปเองโดยอัตโนมัติ ...

Kan't : ยังไม่ลืมกล้าอีกหรอ

: ได้คุยกันกี่ทีก็ถามหาตลอดเลย

ลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

Preem : ฮ่าๆ ก็อย่างที่บอก ว่ายังรักเสมอ

: รักแรกนี่เนอะ...สารภาพเลยว่าไม่เคยลืม

: เป็นความทรงจำความรักที่ดีครั้งนึงในชีวิต

: เจอใครกี่คนก็ไม่มีความสุขเท่าตอนได้รักข้างเดียวครั้งนั้นเลย

พรีมไม่ผิดที่กล้าเล่าทุกอย่างออกมาอย่างนี้เพราะเธอไม่รู้...เราสองคนไม่ได้อัพเดทชีวิตกันขนาดนั้น และเพราะเรื่องระหว่างกล้าไม่ได้ถูกประกาศลฃในโซเชี่ยลตามนิสัยของเรา ที่ไม่ได้เปิดเผยทุกอย่างในชีวิตบนโลกออนไลน์

"อืมม ...กันต์" รีบปิดพับจอลงทันทีเมื่อไก้ยินเสียงอีกคนงัวเงีย

"ตื่นนานแล้วหรอ"

"สักพักแล้ว.."

"ทำอะไรอยู่อะ หืม" มันลุกขึ้นมากอดที่คอเอียงหน้าถาม

"ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปดูว่ามีอะไรกินบ้างข้างล่าง.." ผมผละออกจากมันแล้วเดินหนีออกมา

ในใจโคตรรู้สึกผิด เพราพรีมรักกล้ามาก เธอบอกผมทุกครั้งที่มีโอกาสได้ติดต่อกัน จะผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็ยังรัก ผมไม่รู้หรอกว่ามันคือรักแบบไหน....

เพราะมีหน้าที่รับฟังมาตั้งแต่แรก และไม่เคยบอกให้เธอเสียใจเลยว่าผมก็รักกล้ามาก่อน ก่อนเธอเสียด้วยซ้ำ

"มึง ทำไมคนชอบมันเยอะจังวะ ... ดูสิ ได้คบกับดิวด้วยแล้วดิวอย่างน่ารักอะ" แคนบ่น เพราะเพื่อนๆซุบซิบกันว่าเบลเด็กผู้หญิงที่เรียนเก่งที่สุดในชั้นก็ชอบกล้าเข้าอีกคน

"เพราะกูน่ารักไม่พอใช่มั้ย..." พรีมทำหน้าสลดลง

"ไม่เอาอย่าคิดอย่างนั้น" ผมปลอบเธอ ทั้งที่ใจก็อิจฉาดิวอยู่เหมือนกัน

"ก็มันจริงนี่ กูชอบกล้ามาก่อนใครๆ ตั้งแต่ยังไม่เจอ ตั้งแต่วันแรกที่แคนส่งภาพเด็กใหม่มาให้ในข้อตวามก็ตกหลุมรักเขาเลยนะเว้ย..."

เธอพร่ำบอกอย่างนั้นเสมอ ฟังดูตลกสิ้นดี รักแรกพบวันนั้นพรีมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยซ้ำ เป็นเขาที่เงียบมาตลอดตรงนี้ต่างหาก ...

ตลอดเวลาที่นั่งเรียนด้วยกัน ทั้งที่ไม่ใช่ที่ของกล้า...แต่เขากลับมานั่งอยู่ข้างๆ

ช่วยเขาให้เรียนหนังสือ เราแบ่งปันของกินกันใต้โต๊ะ ...ช่วยกันทำการบ้าน

ทั้งหมดนั่นควรเป็นเขาที่ได้บอกออกไปว่าเขาน่ะ ชอบและรู้จักปาณัสม์ดีที่สุด...แค่เพราะบอกช้าไป แค่เพราะไม่กล้าพอ...

มาถึงวันนี้ทั้งกลัวว่าพรีมจะเสียใจ ทั้งกลัวกล้าจะไม่ใกล้ชิดเหมือนเดิม

- ปาณัสม์ -

"กันต์ทำอะไรกินอะ?" ผมเดินลงมาก็มองหาไปเห็นคนที่กำลังหั่นอะไรสักอย่างบนเขียง

"กันต์..." ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ ตามองแต่ก็เหมือนไม่ได้บมองของที่หั่นเลย

"กันต์ระวัง..." เอ่ยเตือนเสียงดังไปหน่อยเพราะมันหันใกล้นิ้วมาก แต่มันสะดุ้งตัวโยน

"โอ้ย!!" นั่นไง บาดเข้าให้

"เฉยๆ" ดุที่มันยกนิ้วขึ้นมาจะเอาเข้าปากแล้วดึงข้อมือไปล้างที่ก๊อกกับน้ำสะอาดแทน

"ใจลอยอะไรของมึงอยู่ทำไมไม่ระวังเลย!"

"แล้วจะดุทำไม ไม่ได้ตั้งใจมั้ย!"

"ก็ต้องระวังมั้ยกันต์! ได้เลือดเลยเนี่ย...ท้องอยู่นะมึงน่ะ..." มันหน้าบูดไม่เถียงกลับมาสักคำ

"อ่ะ แปะแล้ว ไปนั่งไปกูทำเอง..."

ใครจะปล่อยให้ทำอีกได้ มันเดินเซ็งๆไปนั่งที่โซฟาหยิบมือถือมากดยุกยิกๆแทน ก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก

"อร่อยมั้ย?"

"อืม...แต่เบื่ออาหารไทยแล้วอะ มื้อหน้าขอทำเองนะ" มันกินได้น้อยลงจริงๆ คงเพราะช่วงนี้เริ่มเบื่ออาหาร

"ได้ แต่กูต้องอยู่ด้วยนะเกิดลื่นล้มหรือใจลอยอีก มึงไม่ระวังตัว.."

"บ่นอยู่ได้น่ารำคาญชะมัด.."

"กันต์..." ผมมองมันดุๆ มันเลยเงียบไป

"ปากดีจริงจริ๊งงงง วันไหนเขาไม่บ่นแล้วอย่าเรียกร้องนะ.." แม่เดินเข้ามาหยิบของแล้วได้ยินเข้าเลยเหน็บลูกชาย

"อะไรคุณวันดี ไม่บ่นก็ดีสิ สบายหู...ยิ้มอะไรมึง.." ดูสิ พาลอีก

"สรรพนามไม่สบายหูเลย จะมีลูกกันแล้วหัดเรียกกันให้มันดีๆหน่อยจะได้มั้ย?"

"ก็จริงครับแม่.." ผมเห็นด้วยเต็มประดา แต่กันต์ทำหน้าม่อย

"จะให้เรียกว่าอะไรอะแม่ เค้า เตงงี้อ่อ จะอ้วก...."

"แพ้ท้องขึ้นมารึไง?"

"แม่!! พอเลยไม่อยากคุย.." ดูมันทำหน้าเข้า

"ก็เลือกๆเอาที่ไม่อ้วกแล้วกัน...อย่าใช้ศัพท์พ่อขุนรามมาเรียกกัน เด็กในท้องก็ได้ยินนะ เดี๋ยวท้องโตเข้าเรื่อยจะได้พูดกันเพราะๆ.." เธอบ่นแล้วก็เดินจากไป

"เรียกอะไรดีกันต์?" ผมยกยิ้มแซว

"ขอคิดก่อน.."

"เรียกว่ากันต์กับกล้าก็ได้นะ อาจจะง่ายสุด..โอเคมั้ยกันต์?" ผมเริ่มก่อนให้มันดู

"เน่าไปปะวะ.."

"อย่าเรื่องมาก หรือจะเอาเค้ากับเตงอะ แกกับเรา เค้ากับแก ..หรือที่รัก.."

ผลัก!

มันยกขาขึ้นถีบขาผมจากใต้โต๊ะ

"พอเลยมึง...ก กู กูขอเวลา.."

"หึ รู้แหละนา ค่อยๆฝึกให้ชินปากแล้วกัน.." ผมยกยิ้มให้มันสบายใจ ว่าไม่ได้เร่งเร้าอะไร

"กล้า...แล้วเรื่องเพื่อนๆ มึงโอเคใช่มั้ย...กูยังไม่พร้อมจะบอกใครเรื่องท้อง"

"อืม...ก็เอาที่กันต์สบายใจแหละ กล้ายังไงก็ได้" มันหน้าแดงแปร้ด

"เขินหรอ?" ผมถามมัน

"หยุดแซวสิ! อยากให้กูกล้าพูดก็ห้ามทำหน้าล้อ!"

"เอ้า...ก็ต้องลองต้องเริ่มเลยไง ไม่งั้นเมื่อไหร่จะชิน ไม่ได้จะล้อสักหน่อย"

"เออๆ แล้วก็นั่นแหละ...ค่อยเป็นค่อยไปนะ แต่ถ้าต้องบอกก็บอกไม่ต้องโกหก แค่ไม่ต้องป่าวประกาศก็พอ.." ผมพยักหน้ารับ

เข้าใจว่ามันเป็นคนอุ้มท้องมันคงคิดอะไรมากมายอยู่ในนั้น พอจะเข้าใจได้...ไม่สิ ผมพร้อมจะปรับความเข้าใจกับความคิดมัน

"เดี๋ยววันนี้กลับค่ำนะ อยากกินอะไรพิเศษมั้ย กล้าจะซื้ิอมาให้.." ผมถามก่อนจะออกไปออฟฟิศ

"ไม่อะ...แล้วก็กินมาเลยแล้วกันนะ ไม่ต้องห่วง"

"ครับ..ดูแลตัวเองด้วยนะ มีอะไรก็โทรบอก"

"อืมรู้แล้วรีบไปสักทีเหอะนา..."

ไล่เก่งชิบหาย ผมผลักหัวมันไปเบาๆก่อนเกินออกมา หมั่นไส้มัน...นี่เป็นผัวแล้วนะ มีลูกด้วยกันในท้องแล้ว ไม่มีวี่แววว่ามันจะเบาลงเลย

คิดถึงมันจังวะ นั่งทำงานไปก็ทั้งคิดถึงทั้วเป็นห่วงได้ขนาดนี้

"อะไรวะกล้า เดี๋ยวนี้มีเมียแล้วมันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่.." พี่เชิดคนช่วยดูแลงานแซว

"ธรรมดาปะพี่ เป็นพี่เมียท้องอ่อนอยู่บ้านไม่ห่วงหรอ?"

"ไม่น่าจะหนักเท่าเอ็งนะ.. "

"จะเป็นพ่อคนแล้วนี่นะ..." พี่แกหัวเราะร่า พี่ๆที่บ้านผมทราบเรื่องกันทุกคนเพราะพ่อแม่แนะนำฝากฝังกันต์ไว้จะได้ทราบว่าใครเป็นใครช่วยเหลือดูแลเวลากันต์มาที่นี่

"อะไรนะไอ้กล้า...มึงทำใครท้องวะ?"

ชิบหายแล้วมั้ยละวะ มากันพร้อมหน้าเชียว

"เออมึงทำใครท้อง เป็นพ่ออะไรวะทำไมพวกกูไม่รู้..." ไอทิวเสริมอีกคน ไอ้ต๊อดข้างๆก็งงตาแตก

"เออกูกำลังจะมีลูก.."

"อะไรวะ กับใคร?" ไอ้บังเดินเข้ามาอีกคน

"กันต์..."

"เชี่ย!!!!" มันประสานเสียงกันเอ็ดตะโร

"มึงกับกันต์หรอวะ โถ่เอ้ยยย! กูว่าแล้วมั้ยวันนี้ต้องมาถึง คลั่งรักขนาดนั้น!"

"เกินไปไอ้บัง มันรักกันปล้วมีลูกด้วยกันก็ไม่แปลกมั้ย.." ไอ้ทิวตบกะโหลกเพื่อนหน้าแขกครึ่งอินเดียไปที

"กี่เดือนแล้ว.." ต๊อดที่ปกติสุดถาม

"2เดือนกว่า.." ผมตอบ ไอ้ทิวทำท่าขนลุก

"ทำไมไม่คิดจะบอกพวกกูวะ ข่าวดีแบบนี้" บังถาม

"กันต์มันไม่อยากให้ป่าวประกาศ แต่ใครถามก็ไม่ได้ต้องโกหกอะไร.." ผมตอบตามที่กันต์บอกมาเป๊ะ

"เชี่ยเอ้ย ติดโคตรเร็วอะ.." ทิวพูดทรามๆออกมา ต๊อดตาเขียวใส่

"พวกมึงรู้แล้วก็อย่าเสียงดังไปละ กันต์มันอยากให้ค่อยเป็นค่อยไป.."

"แล้วตัวมึงละ" ต๊อดถามด้วยใบหน้านิ่งๆ

"กูตามใจมัน อยากให้มันสบายใจที่สุด ตัวกูยังไงก็ได้..."

"นี่เจอกันไม่คิดจะบอกใบ้เลยนะ ต้องรอให้กูมาได้ยินเอง ก็ว่าทำไมช่วงนี้ไม่ให้กันต์ไปแดกเหล้าเลย.." บังพล่ามไม่หยุด

"แม่งเอ้ยแค่คิดภาพกูก็อิจฉามึงแล้ว มึงโชคดีว่ะ ได้แบบกันต์เป็นแม่ของลูก โอ๊ะ สัส!!" ทิวโดนต๊อดตบหัวไปฉาดใหญ่

"ปากมึงให้มีหูรูดบ้างเถอะ นั่นเพื่อนนะ แล้วที่นั่งอยู่นี่ก็พ่อของลูกเขา ยิ่งต่อหน้ากันต์แล้วพวกมึงยิ่งต้องระวังเลย.." ทุกคนมองต๊อดอึ้งๆ แม้แต่ผมเอง...มันดูใส่ใจและให้เกียรติกันต์มาก แทบไม่มีที่จะพูดไม่ดีแถมยังคอยห้ามพวกนี้

"ขอบใจมึงนะ...และใช่กูต้องขอให้พวกมึงระวังหน่อย เมื่อก่อนมันไม่ชอบใจมันอาจจะปล่อยผ่าน แต่พอมีลูกกูไม่อยากให้มันมีอะไรไม่สบายใจเลย.." พวกมันฟังแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ

"แต่เอ๊ะ...เมื่อกี๊พวกกูเพิ่งเห็...อุ่บบบ!" ทิวโดนปิดปากทั้งที่มันยังพูดไม่จบ

"มีอะไร?" ผมย่นคิ้วทันที ดูพวกมันมีอะไรปิดบัง

"ปล่าว อย่าฟังเลยไร้สาระ.." ต๊อดส่ายหน้า

"เฮ้ย ต้องบอกปะวะถ้ามันไม่มีอะไรอะ?" ทิวโวยวาย

"พูดมา!" ผมไม่ชอบเลยว่ะอาการแบบนี้ ที่ทุกคนพยายามซ่อนบางอย่าง

"คือพวกกูเห็นไอ้กันต์.." บังบอกตะล่อม ส่วนต๊อดดูงุ่นง่านไม่อยากให้พวกมันพูด

"เห็นที่ไหน มึงรีบพูดสิวะ!" มือเผลอกำเอกสารแน่นไปหมดแล้ว

"มึงได้คุยกับมันมั้ย?" ต๊อดถามออกมาก่อน

ผมยกมือถือดู

"มันไม่ตอบตั้งแต่เที่ยงแล้ว...มึงจะพูดเองหรือให้กูขับไปดูที่บ้าน.."

"มึงพูดดิต๊อด.." ทิวโยนขี้ให้เพื่อน

"ใจเย็น..พวกกูแค่ขับผ่านร้านหน้าโรงแรมไอ้ปราบ..แล้วเจอกันต์เดินจากรถด้วยกัน.."

ไอ้ปราบอีกแล้วหรอวะ...

12.08.2020

ตอนที่แล้วตอนทีี่ 11 : เคลียร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : พ่อแง่แม่งอน
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด