ตอนที่แล้วPTH31 งานประมูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปPTH33 ปรมาจารย์ยันต์เว่ย

PTH32 ที่นั่งพิเศษ


“หลี่หงหลิน?” หนานกงยู่ฉิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยชื่อของผู้ที่กล่าวทักนาง

“ปกติแล้วจะเห็นเจ้าสามเกราะหนังสีแดงรัดรูปก็งดงามมากแล้ว คาดไม่ถึงว่าสวมอาภรณ์แบบนี้จะงดงามยิ่งกว่า” หลี่หงหลินยิ้มพลางกล่าว “ข้าว่างานประมูลในครั้งนี้เจ้าคงเป็นสตรีที่งดงามที่สุด”

ในระหว่างที่กล่าว หลี่หงหลินมองเพียงหนานกงยู่ฉิง ไม่ได้สนใจเว่ยสั่ว แม้ว่ามันไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าในเชิงเย้ยหยัน แต่ในใจมันรังเกียจในความต้อยต้ำ เป็นเพียงผู้ฝึกตนทั่วไปไม่ควรค่าให้กล่าวถึงของเว่ยสั่ว

“นายน้อยหลี่ล้อข้าเล่นแล้ว” หนานกงยู่ฉิงยิ้มเล็กน้อย “เหตุใดท่านสนใจการประมูลเล็กๆแบบนี้”

“เจ้าเองก็สนใจเช่นกัน ขนาดเจ้ายังสนใจ ทำไมข้าจะสนใจด้วยไม่ได้? อีกอย่าง พลับพลาหยกทองยังแจ้งข่าวมาหาข้าอีกว่า ถึงงานประมูลครั้งนี้ไม่ได้ใหญ่นัก แต่มีของดีอยู่มากมาย”หลี่หงหลินยิ้มพลางกล่าว

ในขณะเดียวกัน เว่ยสั่วสังเกตุเห็นลูกกลมทองที่อยู่ในมือหลี่หงหลิน มีขนาดเท่าไข่ไก่แต่เปล่งประกายดุจดารา พวกมันคือแก่นอสูรของเหยี่ยวทองคำ อสูรระดับ 3

แก่นอสูรของเหยี่ยวทองคำนั้นไม่ต้องใช้สมุนไพรเสริมในการดูดซับ สามารถดูดซับปราณได้ทันที เช่นหลี่หงหลินที่กำแก่นอสูรเอาไว้ ปราณจากแก่นอสูรจะซึมผ่านมือเข้าไปในร่าง และด้วยที่เป็นปราณของอสูรจะยิ่งเสริมให้ร่างกายของผู้ดูดซับแข็งแกร่งขึ้น แต่แก่นอสูรระดับนี้อย่างน้อยจะขายอยู่ในราคา 60 ศิลาวิญญาณระดับล่าง สองก้อนมีราคาถึง 120 ศิลาวิญญาณระดับล่างเป็นอย่างน้อย

เว่ยสั่วไม่ค่อยพอใจหลี่หงหลินนัก แม้ว่าลักษณะของมันดูคล้ายจะวางตัวราวกับคนทั่วไป ไม่ได้กล่าวถึงศักดิ์ฐานะของตนออกมา แต่คำกล่าวที่บอกว่าพลับพลาหยกทองแจ้งว่ามีของดีมากมายในงานประมูล แสดงให้เห็นว่าพลับพลาหยกทองให้ความสำคัญกับมันมาก

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใด มันดูไม่ออกเหรอว่าเว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิงจะเข้างานด้วยกัน มันสมควรหลีกทางไปได้แล้ว

เว่ยสั่วไม่ใช่พวกที่จะประจบประแจงคนของขุมกำลังใหญ่ ชายชราตัวเขียวเองก็บอกว่าอย่าไปยุ่งกับคนเหล่านั้น แต่หลี่หงหลินที่มาไม่รู้ประสีประสา เข้าขวางทางทำเมิน เว่ยสั่วย่อมไม่เกี่ยงที่จะหาเรื่องมัน

เว่ยสั่วแกล้งหาวด้วยความเบื่อหน่าย

“นั่นสหายเจ้าเหรอ?” หลี่หงหลินที่ไม่ได้สนใจเว่ยสั่วมาตั้งแต่ต้น ยามนี้กลับหันมองเว่ยสั่ว “สหายเจ้าก็เข้าร่วมงานประมูลเหรอ? ข้ามีที่นั่งสำหรับแขกคนสำคัญเหลือให้นั่งอยู่ตัวนึง จะไปด้วยกันเลยก็ได้”

หลี่หงหลินกล่าว สีหน้าที่แสดงออกมาราวกับคิดว่าเว่ยสั่วไม่มีปัญญาประมูลของในงาน

“ไม่จำเป็น” หนานกงยู่ฉิงกล่าวขึ้นทันทีโดยไม่ต้องให้เว่ยสั่วกล่าว พลางหันไปยิ้มให้เว่ยสั่ว “เขาก็ได้ที่นั่งของแขกคนสำคัญเช่นกัน ข้าจะไปนั่งกับเขา”

คำกล่าวของนางทำให้หลี่หงหลินตกตะลึง

“ฮ่าฮ่า!”

เว่ยสั่วหัวเราะร่าด้วยความพอใจ รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

คาดไม่ถึงว่าหนานกงยู่ฉิงจะกล้าหาญและตรงไปตรงมา ถึงขนาดที่บอกปฏิเสธอีกฝ่ายตรงๆ

“งั้นเหรอ? แล้วเขาชื่ออะไร? เป็นคนของเถี่ยเซ่อหรือเปล่า?”

“เขาชื่อเว่ยสั่ว ข้าเคยชวนเขาเข้าร่วมเถี่ยเซ่อ แต่เขาปฏิเสธ” นางยิ้มอย่างงดงาม

เว่ยสั่วหยุดหัวเราะพลางสังเกตุสีหน้าแววตาของหลี่หงหลิน เห็นหางตาของมันกระตุกเล็กน้อย

“พี่หลี่ ท่านก็ไปยังที่ของท่าน พวกข้าก็จะไปยังที่ของพวกข้า ที่ของพวกข้าจัดไว้เป็นพิเศษถึง 4 ที่ ท่านอยากไปกับพวกข้าหรือเปล่า?” เว่ยสั่วยิ้ม

“ไม่จำเป็น” หลี่หงหลินยิ้มด้วยหน้าเย็นชา “ไว้งานประมูลจบเมื่อไหร่ เราคงได้รู้จักกันมากขึ้น”

เดิมทีหลี่หงหลินอยากจะชวนหนานกงยู่ฉิงไปนั่งด้วย แต่นางกลับปฏิเสธ… หลี่หงหลินไม่ได้โง่ แม้ว่าเว่ยสั่วจะไม่ได้ดูมียศศักดิ์ยิ่งใหญ่ แต่มันยังไม่รู้ว่าเว่ยสั่วเป็นใคร มีขุมกำลังไหนหนุนหลัง มันจึงยังไม่อยากมีเรื่อง

ทั้งสามเดินเข้างานไปพร้อมกับ หลี่หงหลินเดินนำ เว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิงเดินเคียงคู่ จงใจเดินช้าเพื่อเว้นระยะห่าง

“แม่นางยู่ฉิง… คนๆนั้นเป็นใคร? เมื่อครู่ข้าโม้ไปว่าพวกเราได้ที่นั่งพิเศษ ถ้าเกิดที่นั่งที่เราได้นั่งของคนทั่วไป เราคงเสียหน้าและโดนมันหัวเราะเยาะแน่” เว่ยสั่วกระซิบข้างๆหูนาง

“ไม่หรอก พลับพลาหยกทองยึดถือเรื่องการค้าเป็นสำคัญ ผู้ดูแลร้านย่อมจัดที่นั่งพิเศษให้เรา” นางก็กระซิบกล่าวที่ข้างหูเว่ยสั่วเช่นกัน “เขาชื่อหลี่หงหลิน เป็นบุตรชายของจ้าววังเหยี่ยวทองคำ”

“บุตรชายจ้าววังเหยี่ยวทองคำ?” เว่ยสั่วเข้าใจแล้วว่าเหตุใดหลี่หงหลินถึงมีแก่นอสูรสองลูกนั้น เมื่อประมาณสองหมื่นปีก่อนขุมกำลังบางแห่งและผู้ฝึกตนบางคนค้นพบวิธีนำอสูรเข้ามาเป็นสัตว์เลี้ยง หนึ่งในนั้นคือวังเหยี่ยวทองคำ

วังเหยี่ยวทองคำเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงอสูรระดับ 3 และ 2 หลายชนิด รายได้หลักมาจากการขายอสูร แต่หากเทียบกับอสูรที่อยู่ตามธรรมชาติได้ อสูรเลี้ยงไม่แข็งแกร่งเท่า

นอกจากนี้ วังเหยี่ยวทองคำยังมีผู้ฝึกตนเขตขั้นแตกฉานอยู่หลายคน จึงจัดเป็นหนึ่งในขุมกำลังใหญ่ของเมืองจิตวิญญาณสูงสุด

“ข้าว่ามันน่าจะสนใจในตัวเจ้า?” เว่ยสั่วกระซิบข้างหูนาง “แต่ดูเหมือนเจ้าไม่ได้สนใจมันเลย”

“อืม ข้าเลยใช้เจ้าเป็นโล่… เจ้ากลัวหรือเปล่า?” นางยิ้มพลางกล่าว

เว่ยสั่วหัวเราะ “นี่ข้าดีพอที่จะเป็นโล่คุ้มบุรุษให้เจ้าแล้วเหรอ?”

นางจ้องมองเว่ยสั่วด้วยแววตาที่จริงจัง “ก็… เกือบแล้ว” นางหัวเราะขบขัน

หลี่หงหลินไม่ได้ยินสิ่งที่เว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิงพูดคุย แต่คนอื่นๆที่อยู่ใกล้ทั้งสองได้ยิน คนเหล่านั้นล้วนประหลาดใจ เพราะสตรีผู้งดงามของเถี่ยเซ่อกลับสนิทสนมกับผู้ฝึกตนไร้สังกัดที่แสนจะธรรมดา ทั้งยังหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน

แต่ในระหว่างที่นางหัวเราะ หลี่หงหลินที่ได้ยินเสียงหัวเราะ ก็แอบรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด