ตอนที่แล้วบทที่ 35 เย่โม่ไม่กลับมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 37 เย่โม่ ฉันขอโทษ

บทที่ 36 คงเป็นฝีมือเย่โม่


ซู่เวยพยักหน้าตอบ  “ใช่  เย่โม่บอกเธอหรือ?  แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอชื่ออะไร?”

“ฉันชื่อหนิงชิงเชวี่ย  ฉันอยากถามอะไรสักหน่อย… เธอรู้ไหมว่าเย่โม่ไปไหน?  ทำไมจนป่านนี้เขายังไม่กลับมาอีก?”  จากที่หนิงชิงเชวี่ยเห็น  เย่โม่กับซู่เวยอยู่ด้วยกัน  ถ้าเย่โม่ไปที่ไหนซู่เวยก็ต้องรู้แน่นอน

“เย่โม่?  ฉันเองก็ไม่ได้เจอเขามา 2 วันแล้ว  เขาไม่ได้อยู่กับเธอหรือ?”  ซู่เวยถามกลับด้วยความประหลาดใจ  เธอคิดในใจว่าหาแฟนตัวเองไม่เจอ  แล้วจะมาถามเธอทำไม?

“อยู่กับฉัน?”  หนิงชิงเชวี่ยก็ประหลาดใจเช่นเดียวกับซู่เวย  เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป   เหมือนกับว่าเรื่องราวจะต่างจากที่เธอจินตนาการไว้เสียแล้ว  เธอมองดูสีหน้าของซู่เวยแล้วได้แต่พูดว่า  “เธอเป็นแฟนของเขา  เธอไม่ได้อยู่กับเขางั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินหนิงชิงเชวี่ยพูดแบบนั้นใบหน้าของซู่เวยก็แดงขึ้นและรู้สึกรำคาญเล็กน้อย  ทว่าหนิงชิงเชวี่ยก็สวยขนาดนี้  อีกทั้งดูจากลักษณะท่าทางนั้นแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด  ถ้าเธอแสดงท่าทีโกรธเคืองไปตรงๆ ก็คงจะไม่ดี  จึงได้แต่พูดเสียงเย็น  “ฉันไปเป็นแฟนเขาตอนไหนกัน  แปลกนะ…เธออยู่กับเขาในห้องทุกวันแล้วยังมาบอกว่าฉันเป็นแฟนเขาอีก  นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว”

หนิงชิงเชวี่ยถามอย่างประหลาดใจ  “อะไรนะ?  ทุกคืนเย่โม่ไม่ได้ไปอยู่กับเธองั้นหรือ?”

ดูแล้วเหมือนหนิงชิงเชวี่ยจะไม่ได้มีเจตนาพูดโกหก  ซู่เวยจึงตอบ  “พวกเราก็แค่เช่าห้องอยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น  ที่จริงแล้วพวกเราก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก  หรือว่าเธอไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับเขา?”

ตอนนี้หนิงชิงเชวี่ยเข้าใจแล้วว่าเธอเข้าใจเย่โม่ผิดไป  แต่ถ้าเย่โม่ไม่ได้อยู่กับเธอหรือซู่เว่ยล่ะก็  แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนได้?  คงเป็นโรงแรมล่ะมั้ง  ถึงยังไงตอนนี้เขาก็เป็นคนมีเงินแล้ว

“อ่า...เขาคงจะไปอยู่โรงแรม  แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เขาไปไหนทั้งวันเลย”  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกอายเล็กน้อยที่เข้าใจเย่โม่ผิดอยู่บ้าง

“อยู่โรงแรม?  เป็นไปไม่ได้หรอก  ปกติฉันจะตื่นก่อน 6 โมงเช้า  ทุกเช้าฉันก็เห็นเขาอยู่ในสวน...”  คำพูดของซู่เวยชะงักไปทันที  ถ้าเธอพูดแบบนี้ก็เหมือนกับจะชี้ชัดว่าเย่โม่อยู่กับหนิงชิงเชวี่ยไม่ใช่หรือ?  ในเมื่อตัวหนิงชิงเชวี่ยเองไม่อยากจะยอมรับ  แล้วเธอจะพูดไปทำไมเล่า

ซู่เวยที่หยุดคำพูดของตัวเองกลางคันพูดขึ้นอย่างอายๆ  “นั่นแหละ  บางที... บางทีเขาอาจจะอยู่โรงแรมจริงๆ ก็ได้  ฉันมีธุระ  ขอตัวก่อนนะ”

แน่นอนว่าหนิงชิงเชวี่ยเข้าใจความคิดของซู่เวย  เธอจึงรีบดึงซู่เวยไว้แล้วพูดขึ้นอย่างอึดอัดเล็กน้อย “ขอโทษนะ…ซู่เวย  ฉันไม่ได้อยู่กับเขาจริงๆ  แต่เขาจะมาอยู่ในสวนนี้ทุกเช้าก่อน 6 โมงได้อย่างไรกัน?”

เดิมทีซู่เวยนั้นรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าหัวเราะอยู่บ้าง  แต่เมื่อเห็นว่าหนิงชิงเชวี่ยเหมือนไม่ได้กำลังโกหกอยู่   เธอจึงขมวดคิ้วแล้วคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกประหลาดเกินไปหน่อยแล้ว  เป็นเรื่องที่ทำให้คนที่คิดถึงมันรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา  หรือว่าเย่โม่จะเป็น... เธอไม่กล้าคิดต่อแล้ว

ทันใดนั้นซู่เวยก็คิดอะไรขึ้นมาได้จึงพูดขึ้นทันที  “เจ้าของบ้านติดกล้องวงจรปิดไว้ข้างหน้าและข้างหลังสวน  จอมอนิเตอร์ตั้งอยู่ในห้องเก็บของ  ฉันจะพาเธอไปดู”

เมื่อหนิงชิงเชวี่ยได้ยินว่ามีกล้องวงจรปิด  เธอก็รีบตามซู่เวยไปยังประตูห้องเก็บของที่อยู่ตรงมุม  ของห้องนั่งเล่น  ภายในห้องเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย  หนิงชิงเชวี่ยอยู่ที่นี่มาก็นานแล้ว  แต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าที่นี่มีห้องเก็บของอยู่  ภายในมีจอมอนิเตอร์อยู่อันหนึ่งแต่กลับเต็มไปด้วยฝุ่น  อีกทั้งยังถูกปิดสวิตซ์ไฟเอาไว้ด้วย

ทั้ง 2 คนกดเปิดหน้าจอขึ้นมา  พบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ 2 ภาพ  ภาพหนึ่งฉายประตูใหญ่ของสวน  ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นด้านหลังของสวน  ดูท่าแล้วเจ้าของบ้านจะละเอียดรอบคอบน่าดู  เมื่อเปิดภาพที่บันทึกไว้ล่าสุดก็พบกับภาพที่เย่โม่ออกไปข้างนอกทุกเช้า  แต่ไม่เห็นว่าเย่โม่จะออกไปที่ไหนตอนเย็นเลย

เมื่อพวกเธอเปลี่ยนไปดูกล้องด้านหลัง  ก็ได้พบทันทีว่าเย่โม่มักจะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ตอนกลางคืน   นอกจากบางครั้งที่เขามานอนบนพื้นหินใต้ชายคากันฝนสัก 2-3 ชั่วโมง  เวลาส่วนใหญ่เขาจะนอนบนต้นไม้

นี่เขานอนบนต้นไม้มาตลอดเลยหรือ?  หนิงชิงเชวี่ยและซู่เวยเงยหน้าขึ้นมามองตากันด้วยความตกใจ  ซู่เวยคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าแล้วถ้าวันที่ฝนตกล่ะ  ถ้าซู่เวยคิดได้  หนิงชิงเชวี่ยก็คิดได้เช่นกัน  จำได้ว่าสัปดาห์ก่อนมีอยู่วันหนึ่งที่ฝนตกหนักมาก  พวกเธอรีบเปลี่ยนภาพไปช่วงที่ฝนตกวันนั้น  ที่ทำให้พวกเธอตกใจก็คือเย่โม่ยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่เหมือนเดิม  แต่คล้ายกับว่ารอบตัวเย่โม่เกิดเป็นม่านฝนล้อมรอบ  พวกเธอมองได้ไม่ชัดเจนทำให้คิดไปว่ากล้องวงจรปิดคงมีปัญหาแล้ว  ผ่านไป 1 ชั่วโมงให้หลังเย่โม่จึงเดินออกจากใต้ต้นไม้ต้นนั้นแล้วไปนอนบนพื้นหินแทน

ซู่เวยถือได้ว่าเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวคนหนึ่ง  เมื่อได้เห็นเย่โม่ไม่มีที่จะอยู่แบบนี้เธอก็รู้สึกไม่ชอบหนิงชิงเชวี่ยขึ้นมา  น้ำตาของเธอไหลออกมา  คิดในใจว่าเย่โม่ช่างน่าสงสารจริงๆ  ผู้หญิงคนนี้ถึงจะเกิดมาหน้าตาดีนิดหน่อย  แต่เธอก็ไม่มีสิทธิไปทำแบบนี้กับเย่โม่นะ!  ยัยปีศาจจิ้งจอก!

ซู่เวยปาดน้ำตาแล้วกวาดตามองหนิงชิงเชวี่ยครั้งหนึ่ง  เธอไม่อยากอยู่ที่เดียวกับผู้หญิงคนนี้แล้ว   จากนั้นซู่เวยก็หันหลังเดินออกจากห้องเก็บของไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย

ซู่เวยเดินออกไปแล้ว…อันนี้หนิงชิงเชวี่ยรู้  ซู่เวยรู้สึกเป็นศัตรูกับเธอ…อันนี้เธอก็รู้แล้วเช่นกัน   เพียงแต่ตอนนี้สายตาของเธอยังคงจ้องมองไปที่เย่โม่ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นหินอยู่  เธอรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาทันที   แต่เป็นความเจ็บปวดอีกรูปแบบที่ต่างจากของซู่เวย

เขามีเงินมากขนาดนั้น  ทำไมไม่ไปนอนโรงแรมแต่กลับมาอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ใหญ่คืนแล้วคืนเล่ากัน?  แม้ว่าเขาจะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่  แต่ตอนฝนตกเขาก็ควรมาหลบใต้ชายคาสิ  อีกอย่างถ้าเขาอยากจะมานอนห้องเดียวกัน  เธอจะไม่ปฏิเสธแน่นอน  ที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อนอนห้องเดียวกันกับเขาด้วยซ้ำ

การร้องไห้ของซู่เวยเมื่อครู่ทำให้หัวใจของหนิงชิงเชวี่ยราวกับจะแข็งค้างไป  เธอรู้สึกว่าเย่โม่จะขี้งกเกินไปแล้ว  ถึงในใจของเธอเองจะรู้สึกไม่ดีนัก  แต่เธอก็คิดถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาได้  ‘คนที่น่าสงสารมักจะมีจุดที่น่ารังเกียจเช่นกัน’  ตัวหนิงชิงเชวี่ยก็ไม่รู้เช่นกันว่าเย่โม่เองก็คิดเช่นเดียวกันนี้กับเธอ

หนิงชิงเชวี่ยถอนหายใจ  หรือที่เขาประหยัดเงินขนาดนี้ก็เพราะเมื่อก่อนเขาจนมากกันนะ?  ถึงแม้การที่เย่โม่จะออกจากห้องไปเพื่อให้หนิงชิงเชวี่ยนอนนั้นจะทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งอยู่บ้าง  แต่โดยรวมแล้วเธอยังรู้สึกว่าเป็นเพราะเขาเห็นแก่เงินห้าแสนหยวนของเธอมากกว่า

กล้องวงจรปิดเปลี่ยนภาพเป็นเมื่อคืนวาน  เย่โม่ยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่ครึ่งคืน  พอเวลาล่วงเลยจนถึงตี 1 เขาก็นอนลงบนพื้นหิน

แต่ภาพถัดมาที่หน้าจอแสดงออกมานั้นทำให้หนิงชิงเชวี่ยเกือบจะกรีดร้องออกมา

ปรากฏร่างของซ่งเฉ่าเหวินปีนกำแพงเข้ามาข้างใน  อีกทั้งยังมีลูกสมุนทั้ง 2 ของเขาด้วย  หนิงชิงเชวี่ยหวนนึกถึงโทรศัพท์จากหลี่มู่เหมยเมื่อตอนบ่ายขึ้นมาทันที  ไม่ใช่ซ่งเฉ่าเหวินตายไปแล้วหรือ?  แล้วทำไมคืนก่อนถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?

คิดถึงตรงนี้หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที  แต่ภาพเหตุการณ์หลังจากนั้นก็ทำให้เธอเข้าใจเรื่องราวได้ทั้งหมด  เย่โม่ที่นอนอยู่บนพื้นหินพูดคุยกับพวกซ่งเฉ่าเหวินอยู่ 2-3 ประโยค  จากนั้นซ่งเฉ่าเหวินและพรรคพวกทั้ง 2 คนก็พาเย่โม่ไป  จากนั้นสถานการณ์ก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

หนิงชิงเชวี่ยไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกัน  ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว  ดูท่าว่าเย่โม่และพวกของซ่งเฉ่าเหวินคงมีข้อตกลงอะไรกันซักอย่าง  จึงได้จากไปพร้อมกันแบบนี้  ปกติแล้วในเมื่อซ่งเฉ่าเหวินมาถึงที่นี่  แต่กลับไม่ได้เอาตัวเธอไปด้วย  แล้วทำไมถึงได้จากไปง่ายๆ แบบนี้  ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ซ่งเฉ่าเหวินตามหาที่นี่จนเจอ  นี่มันบ้าไปแล้ว  แค่คิดหนิงชิงเชวี่ยก็รู้สึกกลัวแล้ว  ถ้าไม่ใช่เพราะเย่โม่แล้วเรื่องราวจะออกมาเป็นยังไงกัน?  เธอไม่กล้าจะคิดต่อ

รถของซ่งเฉ่าเหวินร่วงตกหน้าผาไป  แล้วเย่โม่จะเป็นอะไรหรือเปล่า?  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกกระวนกระวายใจจนทนไม่ไหว  หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาหลี่มู่เหมยทันที

“มู่เหมย…เธอบอกว่าพวกซ่งเฉ่าเหวินตายหมดทั้ง 3 คน  แล้วในรถยังมีคนอื่นอีกหรือเปล่า?”  นี่คือสิ่งที่หนิงชิงเชวี่ยอยากจะรู้มากที่สุด  ถึงแม้เย่โม่จะเอาเงินของเธอไปห้าแสนหยวน  ถ้าเกิดว่าเย่โม่ต้องมาตายเพราะเงินพวกนี้  เธอรับไม่ได้แน่นอน  อีกอย่าง…คนพวกนี้ก็มาเพราะเธอ  เย่โม่เป็นแค่ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเท่านั้นเอง

“ไม่มีนะ  เกิดอะไรขึ้น?  ในรถก็มีแค่พวกเขา 3 คนเท่านั้น  ทางนิติเวชพิสูจน์แล้ว  ตอนนี้ตระกูลซ่งกำลังวุ่นวายอยู่  ชิงเชวี่ย…เธอไม่ต้องคิดมากไปหรอก  ไว้พรุ่งนี้ฉันจะไปอยู่ด้วย”  หลี่มู่เหมยปลอบใจ

หลังวางสาย  ใจของหนิงชิงเชวี่ยก็ยังไม่อาจสงบลงได้  วิดีโอเทปนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจให้คนอื่นรู้เด็ดขาด  คิดถึงตรงนี้หนิงชิงเชวี่ยก็รีบหยิบแฟลชไดรฟ์ของตัวเองขึ้นมาก็อปปี้คลิปวิดีโอชุดนี้ทันที  จากนั้นก็ลบไฟล์ออกจากคอมพิวเตอร์  ทำเสร็จแล้วเธอจึงค่อยรู้สึกวางใจลงบ้าง

แต่เธอก็คิดได้อีกอย่างหนึ่ง  หากตระกูลซ่งรู้ว่าซ่งเฉ่าเหวินมาที่หนิงไห่ล่ะ?  ถ้าพวกเขาตรวจสอบดูล่ะก็  คลิปวิดีโอชุดนี้คงถูกกู้คืนกลับมาได้แน่นอน  หนิงชิงเชวี่ยตกสู่สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว  เธอแน่ใจแล้วว่าการตายของซ่งเฉ่าเหวินต้องเกี่ยวข้องกับเย่โม่แน่  แต่รถของซ่งเฉ่าเหวินร่วงลงหน้าผาจากทางด่วนเฟิงจิ้น ตระกูลซ่งคงสืบสาวมาไม่ถึงเธอหรอก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด