ตอนที่แล้วตอนที่ 36 ประดาบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 เอลฟ์และนครทองคำขาว

ตอนที่ 37 จักรวรรดิซีหลัวและจตุรเทพทั้งสี่


จักรวรรดิซีหลัวนั้นก่อตั้งขึ้นโดยการรวมดินแดนของหนองน้ำชีหลัว ทะเลทรายคาร์ดา และที่ราบสูงเบย่าร์ เข้าด้วยกัน ภูมิประเทศของสถานที่เหล่านี้นั้นช่างสลับซับซ้อน ง่ายต่อการป้องกัน แต่ก็ยากต่อการส่งกำลังออกไปทำศึกเช่นกัน... ที่จริง ถ้าจะพูดให้ชัดเจนกว่านั้นล่ะก็ สถานเหล่านี้นั้นเป็นสถานที่แสนบัดซบเกินกว่าที่เหล่าคนเป็นจะดำรงชีวิตอยู่ได้

หนองน้ำมรณะ ทะเลทรายรกร้างกว้างใหญ่ไพศาล และที่ราบสูงอันหนาวเหน็บ สถานที่ 3 แห่งนี้คือสถานที่ต้องห้ามของเหล่าคนเป็น เป็นดั่งขุมนรกสำหรับคนเป็น และเป็นดั่งสวนสนุกสำหรับคนตาย

มีผู้คนจำนวนไม่ใช่น้อยที่รับรู้ดีว่าในโลกเวทมนต์แห่งนี้นั้น ความโหดร้ายของธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่มิอาจต่อกรได้ ณ ส่วนลึก ของหนองน้ำมรณะอันกว้างใหญ่ ได้มีดินแดนที่ปกคลุมด้วยฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี อุดมด้วยพืชพรรณดอกไม้นานาชนิด สร้างทิวทิศน์บรรยากาศมิต่างจากภาพวาดศิลปะเลื่องชื่อ นี้คือที่ตั้งของนครหลวงแห่งจักรวรรดิซีหลัว – ซีหลัว เขตการปกครองเคลาร์

แม้ดินแดนแห่งนี้จะดูอัศจรรย์ตระการตา แต่ความอัศจรรย์นี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงลิบกับเวลาอีกมากมาย ที่รอบนอกของนครหลวงนั้นได้ล้อมรอบไปด้วยหอคอยวิญญาณที่คอยส่องประกายแสงแห่งวิญญาณและเวทมนต์ไปชั่วกาลนาน ถ้าเป็นในช่วงเวลาอื่นล่ะก็ ป่านนี้พื้นดินแถบนี้คงกลายเป็นผืนดินแห่งความตายที่เต็มไปด้วยโครงกระดูกสีขาวนวลไปแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ พื้นดินแถบนี้กลับเต็มไปด้วย แรงงานอันเดดที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง

ตราบใดที่ตัวตนนั้นๆมีสติปัญญา แม้ว่าตัวตนนั้นๆจะเป็นอันเดดชั้นสูงที่ชิงชังเหล่าคนเป็นก็ตาม เหล่าอันเดดก็ยังคงหลงเหลือรสนิยมความชอบทางสุนทรียะต่างๆจากเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ คงไม่มีใครหรอกที่ชอบเห็นบ้านที่พักอาศัยของตนเป็นรูหนูที่รกไปด้วยดินโคลนสกปรกหรือเศษซากนานาชนิดน่ะ

สำหรับอันเดดผู้เป็นอมตะแล้ว เวลาและกำลังคนถือเป็นสิ่งที่มีไม่เคยขาด ในขณะที่เหล่าคนเป็นจากโลกภายนอกต่างยังคงคิดว่าซีหลัวนั้นเป็นดินแดนแห่งความตายดั่งภาพขุมนรกตามตำนานเรื่องเล่าเหมือนเมื่อแต่ก่อน แต่แท้จริงแล้ว ดินแดนแห่งนี้เองก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปแล้วเช่นกัน

ชีหลัว นครหลวงแห่งจักรวรรดิซีหลัวนั้นมีประชากรอันเดดทรงสติปัญญาระดับชั้นเงินหรือสูงกว่าเกือบล้านชีวิต เหล่าคนเป็นที่คอยรับหน้าที่เป็นข้ารับใช้หรือทาสกว่าอีก 20 ล้านชีวิต นอกจากนี้ยังมีอันเดดชั้นต่ำไร้สติปัญญาอีกจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ภาพทิวทัศน์ภายในเมืองซีหลัวนั้นช่างชวนให้ลืมหายใจ ทั่วทั้งเมืองต่างติดตั้งด้วยโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค(ถนนหนทาง ระบบประปา ระบบจ่ายพลังงานต่างๆ ฯลฯ)และระบบขนส่งมวลชนอย่างครบครันไม่มีตกหล่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งระบบท่อใต้ดินหรือยานพาหนะลอยฟ้า ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยไปมากนัก แล้วถ้าดูแต่เพียงเรื่องขนาดและภาพลักษณ์ของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนของนครแห่งนี้ล่ะก็ แม้แต่เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิโอแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโอ่อ่ายังไม่ได้ครึ่งของซีหลัวเสียด้วยซ้ำ

บางทีแม้แต่รูปปั้นแกะสลักตามท้องถนนบางรูปอาจเป็นมรดกตกทอดกว่าพันปีจากตระกูลเชื้อพระวงศ์ของสักอาณาจักร เนี่ยแหละคือความมั่งคั่งของจักรวรรดิอันเดดที่ทำลายอาณาจักรมามากมายทั่วสารทิศ

ณ คฤหาสน์หรูหราแห่งหนึ่งในนครชีหลัว วุฒิสมาชิกลำดับ 7 แห่งจักรวรรดิซีหลัว มาร์ควิซแมงมุม ไลออนฮาร์ท กำลังจัดการงานบ้านงานเมืองต่างๆอยู่ ด้วยฐานะเดธไนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งจักรวรรดิ ทำให้ชายผู้นี้เป็นผู้บังคับบัญชาแต่ในนามของเหล่าเดธไนธ์ทั้งปวง รวมทั้งเป็นอาจารย์ที่คอยสอนสั่งอีกด้วย แต่ในสายตาของปวงชนชาวจักรวรรดิแล้ว ชายผู้นี้มักแต่งตัวในชุดหลวมโพรกคล้ายคลึงกับชุดของเหล่านักศึกษา จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ขุนศึกที่ทรงเชาว์ปัญญาและอ่อนโยนขึ้นมา

แต่ผู้ที่จะเข้าใจตัวตนจริงๆของชายผู้นี้นั้นก็มีแต่ผู้ที่เคยไปเหยียบสนามรบมาเท่านั้น ว่าเมื่อครั้งที่เข้าสู่สมรภูมิชายผู้นี้นั้นจะกลายเป็นเป็นอสูรร้ายที่มิอาจควบคุมได้อีก มีครั้งนึงที่ชายผู้นี้ได้ขัดต่อคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของตน ด้วยการสร้างสถิติเหนือมนุษย์ ออกเดินทางเป็นระยะทางกว่า 2000 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 17 วัน เพื่อไปล้างบางอาณาจักรแห่งนึงให้สิ้น ฉะนั้นชื่อ ‘ผู้ปกปักษ์รักษาประวัติศาสตร์’ หรือ ‘ขุนศึกนักศึกษาผู้สุภาพอ่อนโยน’ นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงงานอดิเรกหรือหน้ากากที่ไว้ปกปิดตัวตนจริงๆนอกสนามรบก็ได้

แต่ในวันนี้ ‘ราชครักษ์นิรันดร์แห่งองค์จักรพรรดิหย่งเยี่ย’ ‘เป็นบ้าในทันทีทันใดที่ขึ้นรถศึก ไอ้รถศึกอันเดดไร้สติ’ ที่กำลังพำนักอยู่ในบ้านพักของตน ได้ตกอยู่ในห้วงภวังค์ความคิดกับรายงานข่าวกรอง 2 ฉบับในมือ สีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าอันงามสง่าทรงภูมิฐานของชายผู้นี้นั้นตึงเครียด ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังเผชิญหน้ากับคำถามอันแสนยากเย็นอยู่

“นี่ไลออนฮาร์ท ทำไมเจ้าถึงทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ? เจ้าพวกหูยาวทางตะวันตกก่อเรื่องขึ้นเหรอไง? หรือว่า เจ้าพวกคนเถื่อนทางใต้ลงมาจากภูเขางั้นเหรอ? ถ้าเป็นเรื่องน่าสนุกเช่นนั้นล่ะก็ ก็ให้พี่สาวคนนี้ช่วยแบ่งปันความทุกข์ใจของเจ้าเอง”

น้ำเสียงเอื้อยเฉื่อยและเย็นชาของสตรีนางหนึ่งได้ดังขึ้นจากด้านนอกคฤหาสน์ ทั้งที่นี้เป็นคำถามแท้ๆ แต่ความรู้สึกยินดีแบบแปลกๆ รวมถึงการหยอกล้อเล็กๆสามารถสัมผัสได้จากภายในน้ำเสียงของสตรีนางนี้ ราวกับราวตัวนางนั้นกำลังตื่นเต้นกับความคิดเรื่องการสู้รบอยู่

“ป่าวหรอก ลอร์ด เกย์.ซิน ไม่มีการสู้รบใดๆเกิดขึ้นหรอก แล้วท่านเองก็ช่วยหยุดหาเรื่องจุดชนวนสงครามสักทีเถอะ ข้าก็เคยบอกท่านไปหลายครั้งหลายหนแล้วนิว่า ความระแวงที่เหล่าคนเป็นมีต่อพวกเรานั้นมากพอจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งต่อจักรวรรดิแล้ว สงครามที่ไร้ความหมายไม่ถือเป็นสิ่งที่ดีเลย”

“ชิ เช่นนั้นเจ้าจะเรียกข้ามาพบทำไมกัน เจ้าก็รู้นิว่าสิ่งที่ข้าสนใจนั้นมีเพียงสงครามเท่านั้น หรือว่า เจ้าพวกลิชในสภาจะเบื่อจนอยากหาอะไรทำแก้เบื่อกันน่ะ? หรือจะเป็นเรื่องปัญหาทางการทูตของเมื่อคราวก่อนกัน ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ไปหาวุฒิสมาชิกคนอื่นเถอะ ข้า วุฒิสมาชิกลำดับ 4 ดัชเชสแห่งจักรวรรดิ ราชินีมังกรกระดูก เกย์.ซิน ไม่สนใจในเรื่องพรรค์นั้นหรอก”

ถ้าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ราชินีมังกรกระดูก เกย์.ซิน นั้นอยู่ในรูปลักษณ์ของเอลฟ์สตรีร่างสูงหน้าตาเย็นชา ผมสีเงินยาวสวยสยายจนถึงเอว ผิวสีขาวซีดไร้ซึ่งสีเลือดใดๆ ที่เปล่งเสน่ห์อันลึกลับชวนให้หลง กระโปรงเดรสยาวสีแดงดำไขว้สลับกันที่ชายกระโปรงลากยาวจนถึงพื้น แต่ส่วนที่สะดุดตาที่สุดของสตรีนางนี้ก็คือดวงตาทั้งคู่ ดวงตาที่สีตาขาวตาดำสลับกัน ดวงตาที่เหมือนกับหลุมดำที่คอยดูดกลืนแสงสว่าง ราวกับว่ามีสิ่งใดซุกซ่อนอยู่ด้านใน แต่ก็เหมือนไม่มีเช่นกัน

บางทีโครงสร้างการปกครองของจักรวรรดิซีหลัวอาจจะเรียกได้ว่าแปลกที่สุดในโลกก็เป็นได้ ทั้งทีขึ้นชื่อว่าจักรวรรดิแท้ๆ แต่ประเทศแห่งนี้กลับไม่มีองค์จักรพรรดิคอยปกครอง อำนาจการปกครองทั้งหมดภายในประเทศนี้ถูกแบ่งปันกันในวุฒิสมาชิกทั้ง 12 โดยมีสภารัตติกาลคอยจัดการเรื่องทุกอย่างภายในจักรวรรดิ ซึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้า 12 วุฒิสมาชิกแล้ว สภารัตติกาลนั้นก็มีอำนาจเพียงแค่เสนอความคิดเท่านั้น...

สรุปง่ายๆ เจ้าพวกอันเดดลอร์ดทั้งหลาย(วุฒิสมาชิก)นั้นถือครองอำนาจทางการทหารไว้ทั้งหมด จนสภารัตติกาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงใดๆได้ แต่ทางวุฒิสมาชิกเองก็เข้าไปแทรกแซงอำนาจของสหพันธ์ลิช(สภารัตติกาล)ไม่ได้เช่นกัน เช่นนี้ เมื่อไร้ซึ่งจักรพรรดิอันเดดผู้ถือครองอำนาจสูงสุด ทั้งสองฝั่งขั้วอำนาจก็ได้แต่เดินทางใครทางมันไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกันและกัน จนเกิดเป็นโครงสร้างการปกครองประหลาดๆเยี่ยงนี้ขึ้นมา

และแน่นอนว่า ย่อมมีวุฒิสมาชิกที่โอนเอียงไปเข้ากับทางสภา ที่จริงแล้ว ประธานสภารัตติกาลนั้นคือ วุฒิสมาชิกลำดับ 2 เฟย์แมน แถมนอกจากนี้ ยังมีวุฒิสมาชิกอีกจำนวนพอสมควรเลยที่โอนเอียงไปเข้ากับทางสภา เช่นนี้ หัวข้ออภิปรายเรื่องการยุบสภารัตติกาลที่โดนหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันทุกปี ย่อมมีชะตากำหนดให้ไม่มีวันผ่าน ถ้าเหล่าอันเดดลอร์ดยังไม่คิดอยากที่จะเปิดฉากฆ่ากันเองล่ะก็นะ

ส่วนเกย์.ซินและไลออนฮาร์ทนั้นอยู่ในฝ่ายที่ไม่โอนเอียงเข้าหาสภารัตติกาล ที่จริง ในขณะที่วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่ต่างหมายตาในบัลลังก์จักรพรรดิ ทั้งคู่(เกย์.ซินและไลออนฮาร์ท)กลับเป็นสมาชิกที่มีอยู่น้อยนิดของฝ่ายภักดี ฝ่ายที่เชื่อว่าสักวันหนึ่งลอร์ดหย่งเยี่ยจะต้องกลับมา... ความเชื่ออันเป็นอุดมคตินี้นั้นได้รับตอบรับจากเหล่าทหารเฒ่าคนเก่าคนแก่จากสมัยที่องค์จักรพรรดิยังคงอยู่ แต่เนื่องด้วย ความเพ้อฝันของอุดมคตินี้ทำให้ขุมกำลังฝ่ายนี้มิอาจเป็นใหญ่เป็นโตได้ในเผ่าพันธุ์อันเดดที่นับวันจะยิ่งมองความเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้ ยิ่งเวลาผ่านไป สหายคนแล้วคนเล่าของทั้งคู่ต่างก็หันหลังเดินไปเข้ากับฝ่ายอื่นแทน

เมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายภักดีที่มีวุฒิสมาชิกอยู่ 4 ตน ได้สั่นคลอนอีกครั้งด้วยการแปรพักตร์ของหนึ่งในสี่จตุรเทพขององค์จักรพรรดิ ราชันย์กูล ดีแคร์ ที่หันไปเข้าร่วมกับฝ่ายสภาแทน จนเป็นการฝากรอยแผลรอยใหญ่ให้กับขุมกำลังเล็กๆนี้

ฝ่ายอยากเป็นหัวหน้าใหญ่จังเลย(วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่) ฝ่ายสภา (นำโดยวุฒิสมาชิกลำดับ 2) ฝ่ายภักดี และ ฝ่ายอยากใช้ชิวิตสโลว์ไลฟ์ไปวันๆ นี่คงเป็นขุมกำลังใหญ่ๆทั้งหมดในจักรวรรดิซีหลัว

แม้นี่จะแลฟังดูสลับซับซ้อน แต่ถ้าเจ้าลองไปเทียบกับจักรวรรดิของมนุษย์ที่มีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายแบ่งขั้วอำนาจเป็นร้อยๆฝ่าย แล้วล่ะก็ สถานการณ์ในดินแดนอันเดดที่มีตัวตนทรงสติปัญญาอยู่เกินกว่า 10 ล้านตัวตนก็คงเรียกได้ว่าเข้าใจง่ายแบบสุดๆแล้ว นี่ยังไม่รวมถึง เรื่องที่อันเดดแต่ละตนเอ่ยปากบอกความต้องการของตนเองออกมาแบบโต้งๆ ‘พวกเราจะเฝ้ารอให้องค์จักรพรรดิหวนคืนกลับมา’ ‘ให้สภาขึ้นปกครองซะ เดี่ยวข้าจะเป็นหัวหน้าให้เอง’ ‘อาตังไม่สนหรอกว่าใครจะเป็นหัวหน้า อาตังสนแต่กินเท่านั้น เรื่องกินเรื่องใหญ่’ ‘ถ้าให้ข้าคุม ข้าจะเริ่มภัยพิบัติอันเดดขึ้นอีกครั้ง’ การเอ่ยความต้องการของตนออกมาตรงๆเช่นนี้คงถูกมองว่าแปลกประหลาด จากสังคมมนุษย์ที่ชอบพูดอะไรอ้อมค้อมไปมา

ซึ่ง ณ ตอนนี้ 2 หัวหน้าจากฝ่ายภักดีกำลังนัดพบปะพูดคุยกันกลางวันแสกๆ บางทีป่านนี้ ข่าวลือเรื่องนี้คงแพร่สะพัดไปไกลแล้ว

ณ วินาทีนี้ ภายใต้คำถามของเกย์.ซิน ไลออนฮาร์ทที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองก็เปิดปากเอ่ยกับนางหนึ่งประโยค

“มีข่าวเรื่องคทาหย่งเยี่ย”

เกย์.ซินที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่สีหน้าตกใจจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“ไม่ใช่ว่า เจ้าเป็นคนบอกเองหรอกเหรอว่าคทาหย่งเยี่ยน่ะไม่มีวันมีอยู่จริงอย่างแน่นอน? แล้วไอ้บทความขึ้นชื่อของเจ้านั้นก็แค่เอาไว้ขู่ให้คนอื่นกลัวเฉยๆน่ะ?”

“อืม ถ้าว่าตามการวินิจฉัยของข้าแล้ว คทาหย่งเยี่ยนั้นคงเป็นเพียงมุกตลกขององค์จักรพรรดิเท่านั้น แถมยังเป็นมุกตลกร้ายอีกต่างหาก ส่วนเรื่องที่ข้าเขียนบทความเกี่ยวกับคทาหย่งเยี่ยนั้น ก็เพียงเพื่อหลอกให้เจ้าพวกมักใหญ่ใฝ่สูงที่คิดจะสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นจักรพรรดิต้องหัวหมุนเสียแรงเสียเวลาในการออกตามหาคทาไม้ที่ไม่มีวันพบ”

ไลออนฮาร์ทได้เงยหน้าของตนขึ้น ซึ่งตอนนี้คิ้วที่ตรงดุจดาบของชายผู้นี้ก็ขมวดเข้าหากัน พร้อมกับสีหน้าที่มีอารมณ์มากมายผสมปะปนกันอยู่ ไม่ว่าจะทั้งยินดี โกรธเคือง คะนึงหา และกังวลใจ...

“เมื่อวานนี้ ข้าได้รับข่าวกรอง 2 ฉบับเกี่ยวกับโลกใต้พิภพ หนึ่งในนั้นคือเรื่องคทาหย่งเยี่ย... แต่ ข้าแนะนำให้ท่านดูอีกเรื่องเสียก่อน”

เกย์.ซินที่ฉกกระดาษรายงานไป ก็...

“อะไรกัน ข้าคิดว่าจะเป็นข่าวกรองอะไรสำคัญๆเสียอีก นี่มันโบรชัวร์นำเที่ยวไม่ใช่รึไง? ไลออนฮาร์ท นี่เจ้าคิดจะหนีไปเที่ยวพักร้อนรึไงกัน? แถมจะมาชวนข้าไปด้วยอีก? ข้าขอโทษนะ ถึงเจ้าจะเป็นคนดี แต่นอกจากองค์จักรพรรดิแล้ว ข้าก็ไม่สนใจในอันเดดตนอื่นหรอก”

เนื่องด้วยความเคยชินกับการที่ต้องอยู่กับสหายผู้ไม่เต็มเต็งทั้งหลายแหล่ ถ้าให้เทียบกับจตุรเทพอีก 2 ตนที่เหลือ ราชินีมังกรกระดูกที่ชอบคิดมโนนู้นนี่นั้นไปเรื่อย นั้นถือว่ารับมือง่ายกว่ามากนัก ไลออนฮาร์ทที่ยอมรับเฟรนโซนไปอย่างหน้าตาเฉย ก็เอ่ยคำพูดออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“กรุณาดูให้ละเอียดกว่านั้นด้วย”

“สวนสนุกอันเดด เดธรอยัล สัปดาห์ท่องเที่ยวเทศกาลปล่อยผี เชิญร่วมสนุก เซอร์ไพรส์ไปกับความหรรษาจากความมืดและความตาย แถมถ้าท่านมาเร็วก่อนเราเปิดทำการเรายังมีตั๋วเข้าชมสวนสนุกแจกฟรีให้ท่านตั้ง 30 ใบ ช้าหมดนะขอบอก นี่อะไรฟะเนี่ย!! นี่มันเรื่องบ้าบอที่ไอ้ง่าวที่ไหนคิดขึ้นมาเนี่ย? น่าเบื่อชะมัด ถ้าเป็นสวนสนุกแนวสงครามข้าคงสนอยู่หรอก แต่สวนสนุกอันเดดกับเทศกาลปล่อยผีเนี่ย ไม่ใช่ว่าเมืองเรามีสองสิ่งนี้อยู่เป็นปกติทุกวันหรอกเหรอ?”

“กรุณาดูให้ละเอียดกว่านั้นอีก”

“นครภูผาหลิวฮวง? โอ้ ในที่สุดเจ้าอดัม ฮานต์ ก็เป็นบ้าไปแล้วงั้นสินะ? เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ ต้องฉลอง!!”

“กรุณาดูให้ละเอียดกว่านั้นทีเถอะ...” แม้แต่คนที่มีความอดทนสูงอย่างไลออนฮาร์ทยังต้องมีหลุดกันบ้าง เมื่อต้องมาเจอกับความสามารถในการออกทะเลและความติ้งต๊องของราชินีมังกรกระดูก เช่นนี้ น้ำเสียงของไลออนฮาร์ทในครั้งนี้ได้แฝงไปด้วยการอ้อนวอนและความจนใจ

เมื่อได้เห็นถึงใบหน้าอันแข็งทื่อของน้องชายนางผู้นี้ เกย์.ซินก็ตัดสินใจที่จะเริ่มดูอย่างจริงๆจังเสียที และเมื่อครั้งที่นางเปิดไปหน้าที่สอง นางก็ต้องตกใจ

ที่หน้าสองนั้นได้เป็นรูปภาพโฆษณาสีฉูดฉาดสดใส ในรูปภาพนั้นได้ฉายถึงอิริยาบถต่างๆของอันเดดมากมายที่สวมเสื้อผ้าหน้าตาประหลาดๆ เดินพาเหรดกันไปตามท้องถนน บางก็ตีฆ้องมือ บางก็ตีกลอง บางก็ร้องรำทำเพลง แต่ถ้าแค่นี้ล่ะก็ ไม่มีทางทำให้เกย์.ซินตกใจได้หรอก

ณ ตอนนี้ นางได้แต่อ้าปากค้าง ชี้นิ้วไปที่มุมนึงของภาพโฆษณา ภาพลักษณ์ในฐานะอันเดดลอร์ดของนางนั้นมลายสิ้นไม่มีเหลือแล้ว

ที่มุมนั้นได้มีภาพของสุนัขโครงกระดูกแต่งตัวด้วยชุดหลากสีพร้อมกับขนนกยุงที่ปักไปตามตัว ซึ่งสุนัขโครงกระดูกตัวนี้กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการยืนสองขา ซึ่งเบื้องหน้าของสุนัขตนนี้นั้นได้มีลูกบอลสีเขียวอยู่ อ่อนี่มันโชว์ สัตว์เลี้ยงน่ารักผลักลูกบอลนี่เอง

แต่ดูแล้ว ความสามารถในการทรงตัวของสุนัขโครงกระดูกตัวนี้นั้นจะไม่เป็นเลิศนัก ด้วยความผิดพลาดเล็กๆจากความประมาท สุนัขตนนี้ก็ลื่นล้มหน้าคะมำ ซึ่งตัวช่างวาดภาพก็สามารถบันทึกภาพความซุ่มซ่ามของสุนัขตนนี้ในยามลื่นล้มที่ได้อย่างทันท่วงที

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด... นี่มันหัวหน้านี่บาสเตียน หัวหน้าแห่งสี่จตุรเทพผู้แข็งแกร่งและอำมหิต หมาล่าเนื้อนรกมิติอสูร บาสเตียน!!”

แม้ตัวไลออนฮาร์ทจะอุดหูรอไว้แล้ว แต่เสียงกรีดร้องดุจไซเรนของราชินีมังกรกระดูกก็ยังคงบาดลึกไปถึงทรวงในอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เสียงของราชินีมังกรกระดูกโบราณนางนี้นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็น เสียงมรณะ กันมาอย่างช้านาน... “เสียงหลงผิดคีย์ระดับสุดยอดนี่มันอะไรกัน ถ้านางคิดจะร้องเพลงล่ะก็ ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าทุกคนกระทืบนางได้เต็มที่ – โดย องค์จักรพรรดิสักองค์”

แต่ก็ใช่ว่าตัวไลออนฮาร์ทจะไม่เข้าใจสาเหตุที่จู่ๆอีกฝ่ายก็ร้องกริ๊ดขึ้นมา เพราะครั้งแรกที่ตนเห็นภาพนี้เอง สภาพตัวไลออนฮาร์ทเองก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้เลย

หมาล่าเนื้อนรกมิติอสูร บาสเตียน, หัวหน้าแห่งราชองครักษ์ประจำลอร์ดหย่งเยี่ย หมาล่าเนื้อสีชาด, รองผู้บัญชาการรบสูงสุดแห่งกองทัพหย่งเยี่ย, หัวหน้าแห่งสี่จตุรเทพ นอกจากนี้ยังมีสมญานามและฉายาอีกมากมายที่ใช้เรียกสุนัขโครงกระดูกตนนี้ แต่สิ่งที่รู้กันทั่วเกี่ยวกับอันเดดตนนี้ก็คือ สุนัขอันเดดตนนี้นั้นเป็นอันเดดลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุด ประเทศและกองทัพที่ต้องสูญสิ้นไปภายใต้เขี้ยวเล็บของอันเดดตนนี้นั้นมีมากมายเหลือคณา และสถานที่แห่งใดที่สุนัขตนนี้ข้ามผ่าน สถานที่แห่งนั้นจะหลงเหลือแต่เพียงเศษซากจากการทำลายล้างเท่านั้น ทั้งนี้สุนัขโครงกระดูกตนนี้นั้นเป็นแม่ทัพที่ได้รับการไว้วางใจจากลอร์ดหย่งเยี่ยมากที่สุด

ทั้งที่ตัวบาสเตียนและเหล่าหมาล่าเนื้อสีชาดสมควรจะตายไปตั้งแต่สงครามในครั้งนั้นแล้วแท้ๆ แต่สุนัขอันเดดตนนี้กลับมาปรากฏอย่างกะทันหันเช่นนี้ แถมยังมาปรากฏตัวในสภาพน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้อีก เยี่ยงนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่เกย์.ซิน จะตื่นกลัวขนานหนักน่ะ

“ไม่ผิดอย่างแน่นอน หางที่บิดผิดรูปแบบแปลกๆ แผลเป็นบนกะโหลกนั้น และที่สำคัญกว่านั้น ภาพชวนสยองที่ขาซ้ายทั้งสองข้างมาเป็นขาหน้า ขาขวาทั้งสองข้างไปเป็นขาหลัง ไม่มีทางเป็นไปได้ที่สุนัขโครงกระดูกตนอื่นจะหน้าตาแบบนี้”

“ใช่แล้ว นอกจากท่านบาสเตียน ข้าก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีใครที่ชอบนอนละเมอถอดขาทั้งสี่ข้างของตนน่ะ แถมพอตื่นขึ้นมาท่านก็ยังชอบเอาขาตัวเองไปประกอบมั่วๆอีกต่างหาก ขาหน้า ขาหลัง ขาซ้าย ขาขวา ท่านล่ะชอบเอาไปประกอบมั่วซั่วตามใจตน จนเมื่อครั้งที่ท่านออกเดิน ขาทั้งสี่ของท่านก็ขยับตามหน้าที่เดิมของตน จนเป็นผลให้ท่านบาสเตียนเดินเป็นวงกลมในที่สุด...”

ความหมายแอบแฝงของการปรากฏตัวของหัวหน้าแห่งสี่จตุรเทพที่สมควรจะตายไปตั้งนานแล้ว ได้สร้างความสุขขึ้นในใจของเกย์.ซิน แต่เนื่องด้วยความสุขที่เข้ามากะทันหันเกินไป ก็ทำให้นางรู้สึกไม่มั่นใจในความสุขนี้เช่นกัน

“บางที คนวาดอาจจะวาดขึ้นมามั่วๆส่งๆไปอย่างงั้นก็ได้...”

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ท่านลองดูที่ด้านหลังสิ”

เมื่อเปิดไปหน้าต่อไป ก็เป็นภาพของขุนศึกโครงกระดูกที่มี 18 กร(มือ) ซึ่ง ณ ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ในมือของขุนศึกนายนี้นั้นไม่ใช่ดาบเปื้อนเลือด แต่เป็นพองไม้ที่หมุนจานอยู่ด้านบน

แถมใต้ภาพยังมีคำบรรยายบอกไว้อีกต่างหาก ‘นักแสดงผู้เล่นเป็นทุกอย่าง แต่ไม่เก่งสักกะอย่าง เด่เฟย์ จะโชว์การแสดงที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ ด้วยการหมุนจานพร้อมกันทีเดียว 18 ใบ!’

แม้ตัวเกย์.ซินจะหรี่ตาจ้องมองรูปภาพอยู่นาน แต่ตัวนางก็ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดอีกฝ่ายเสียที

“ตรงนี้ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติสักหน่อย ก็แค่สหายโครงกระดูกที่รู้จักหมุนจานหลายๆใบพร้อมกันเองนิ”

“เมื่อครั้งที่ขุนศึกโครงกระดูกเลื่อนระดับชั้น เหล่าขุนศึกโครงกระดูกจะสามารถเลือกที่จะเพิ่มแขนขึ้นมาอีกสองข้าง เพื่อหยิบจับอาวุธให้มากขึ้นได้ แต่ว่าดวงวิญญาณของคนเราน่ะมีขีดจำกัด การเอาแต่แบ่งสมาธิไปควบคุมอาวุธที่มากเกินไปนั้นรั้งแต่จะทำร้ายตัวเองเสียเปล่าๆ ขุนศึกโครงกระดูกธรรมดานั้นจะสามารถใช้อาวุธได้พร้อมกัน 4 ชิ้น แต่ถ้าขุนศึกโครงกระดูกตนนั้นเป็นยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธล่ะก็ โครงกระดูกตนนั้นก็จะสามารถใช้อาวุธได้พร้อมกันถึง 8 ชิ้น และถ้าเป็นขุนศึกโครงกระดูกชั้นอันเดดลอร์ดล่ะก็ โครงกระดูกตนนั้นก็จะใช้อาวุธได้ถึง 12 ชิ้น แต่มีอยู่ท่านผู้หนึ่งที่สามารถใช้อาวุธได้ถึง 16 ชิ้นพร้อมกัน ลูกน้องของท่านบาสเตียน หัวหน้าครูฝึกประจำกองทัพหมาล่าเนื้อสีชาด เซียนดาบ เฟย์เด่ ดูท่าฝีมือท่านจะพัฒนาขึ้นอีกแล้นะ”

“เด่เฟย์? เฟย์เด่? นี่พวกเจ้าจะไม่ลงแรงคิดชื่อปลอมกันหน่อยรึไงห๊า!”

“แถมตรงนี้ก็ยังมีอีกท่านหนึ่ง”

ในคราวนี้ เป็นภาพของดูลาฮาน(อัศวินหัวขาด)ที่เล่นโปโล โดยใช้ศีรษะของตัวเองแทนลูกโปโล... พร้อมทั้งคำบรรยายใต้ภาพว่า ‘ขอเชิญเข้าร่วมสนุกกับการแข่งขันสุดมันส์ที่ท่านไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน’

“คามิเซียร์ เจ้าตูดหมึกนั่น!! ไอ้หัวล้านหน้าโง่! ไอ้บ้าตาเข ต่อให้เจ้าเหลือเพียงขี้เถ้า ข้าก็ยังจำเจ้าได้”

“ใช่แล้ว ชายผู้มีพละกำลังแห่งยักษา แนวหน้าเบิกทางอันน่าสะพรึง รองหัวหน้าแห่งหมาล่าเนื้อสีชาด ท่านคามิเซียร์ แล้วยังมีท่านนี้อีก...”

ครั้งนี้ เป็นภาพของลิชสาวที่กำลังถูมือทั้งสองข้างเข้าหากัน ซึ่งในภาพ ลิสสาวตนนี้นั้นกำลังยิ้มแย้มเบิกบานพร้อมแบกถุงหนังที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเขียวอื่อ...โดยมีคำบรรยายใต้ภาพว่า ‘เจ้าต้องมิเคยดื่มเครื่องดื่มแสนหอมหวานเช่นนี้มาก่อนอย่างแน่นอน ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยนักเล่นแร่แปรธาตุชั้นปรมาจารย์ เฟย์เฟย์ เพื่อผู้มีอุปการะคุณทุกท่านโดยเฉพาะ ทั้งนี้เครื่องดื่มชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังเป็นอย่างยิ่ง’

“ตราสัญลักษณ์นักเล่นแร่แปรธาตุนี่ แล้วยังหมวกปีกบานอันเป็นเอกลักษณ์นี่อีก... เจ้าแม่แห่งโรคร้าย กาก้า แม้แต่อันเดดด้วยกันเองยังไม่กล้าดื่มยาที่นางปรุงขึ้นมาเลย แล้วถ้าเหล่าคนเป็น... พุ~~ ดื่มเข้าไป คงแข็งแรงปึ๋งปั๋งกันน่าดู แต่ข้าก็ขออวยพรให้พวกเจ้าจำรูปร่างหน้าตาของตัวเองกันได้นะ พวกเจ้าจะได้หาทางคืนร่างเดิมกันถูกน่ะ”

“แล้วยังมีนี่ นี่ แล้วก็นี่อีก”

“มังกรโครงกระดูกเป็นพาหนะเที่ยวชมสวนสนุก อสรพิษสาว(ครึ่งคนครึ่งงู)รับแสดงโชว์ระบำหน้าท้อง และแม่มดที่รับทำนายทายทักผ่านศาสตร์การหยั่งรู้... ข้าพอจะเข้าใจแล้วล่ะ”

“อืม หน่วยข่าวกรองของข้าได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว แล้วลองไปเที่ยวชมสวนสนุกแห่งนี้ดูแล้ว ถึงขนาดได้เข็มกัดที่ระลึกว่าเป็นลูกค้ารายที่ 9 กลับมาด้วยอีกต่างหาก ดูท่าธุรกิจสวนสนุกอันเดดจะไปได้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นะ อืม แล้วสายสืบของข้าได้ยืนยันมาแล้วล่ะว่าทุกคนในภาพวาดนั้นล้วนแล้วแต่มีตัวตนจริงๆ เท่านี้ ก็บอกได้แล้วล่ะว่า...”

เกย์.ซินได้ลุกขึ้นอย่างเฉียบพลัน ความสุขและความยินดีได้สะท้อนอยู่เต็มดวงตาชวนขนลุกทั้งคู่ของนาง

“ก็บอกได้แล้วล่ะว่าองค์จักรพรรดิของพวกเรายังมีชีวิตอยู่! มีแต่เพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้นแหละที่สามารถกล่อมให้นักรบชั้นยอดเหล่านี้ยอมแต่งตัวเช่นนี้ได้น่ะ แล้วยิ่งมีแต่องค์จักรพรรดิคนเดียวเท่านั้นที่สามารถบังคับให้หัวหน้ายอมเล่นลูกบอลได้อย่างโดยดีเช่นนี้น่ะ!!”

“อืม ถึงนี่จะเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน แต่เมื่อมาคิดๆดูแล้ว อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น นั้นไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ทำไมกองทัพหมาล่าเนื้อสีชาดถึงทอดทิ้งองค์จักรพรรดิไว้เบื้องหลัง แล้วออกเดินไปทางไปไกลหลายพันลี้ ทำไมจู่ๆกองทัพของจตุรเทพทั้ง 3 คนที่เหลือก็ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนทัพออกจากแนวหน้าไปที่ที่ไกลแสนไกล จนทำให้รอดพ้นจากศึกชิงอำนาจภายในที่ปะทุขึ้นในเวลาต่อมาได้อย่างหวุดหวิด... บางที โลกใต้พิภพอาจจะมีคำตอบให้กับพวกเราก็เป็นได้”

ทั้งที่ข่าวการปรากฏขึ้นของคทาหย่งเยี่ยควรจะเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการ แต่ในสายตาของอันเดดลอร์ดทั้งสองแล้ว ด้วยแผ่นโบรชัวร์นำเที่ยวเพียงแผ่นเดียว ก็ทำให้ข่าวใหญ่นี้ไร้ซึ่งความสำคัญใดๆ

“ข้าคงต้องไปที่โลกใต้พิภพเสียแล้ว ฮึม ไอ้บัดซบดีแคร์ ทั้งที่เจ้าที่เคยเป็นเพียงแค่กูลกระจอกๆตนนึงกลับเติบโตขึ้นมาถึงชั้นอันเดดลอร์ดได้ ก็เพราะความกรุณาขององค์จักรพรรดิแท้ๆ ทั้งที่แต่ก่อน ตัวเจ้าเป็นผู้ออกเสียงสนับสนุนการแก้แค้นให้กับองค์จักรพรรดิที่สุดแท้ๆ จนพวกเราหลงคิดว่าเจ้าเนี่ยแหละที่ภักดีที่สุดในหมู่พวกเรา แต่จนแล้วจนรอด เจ้าก็รักษาความภักดีนั้นไว้ได้เพียงร้อยปี ก่อนจะทรยศจากพวกเราไปในที่สุด คอยดูเถอะ เมื่อครั้ง ที่องค์จักรพรรดิกับหัวหน้ากลับมา ตัวเจ้าจะโดนลงโทษเช่นไร”

หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ ไลออนฮาร์ทก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ที่จริง การทรยศของลอร์ดดีแคร์เองก็น่าสงสัยไม่แพ้กัน เมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อครั้งที่พวกเราได้รับข่าวเกี่ยวกับ อดัม ฮานต์ แต่ข้อเสนอเรื่องการล้างแค้นกลับถูกบอกปัดไป แม้แต่พวกเราเองก็ไม่สนับสนุนให้ท่านดีแคร์ทำตามที่ใจต้องการ แล้วไม่ใช่ว่าหลังจากนั้น ท่านดีแคร์กลับออกเดินทางไปแก้แค้นอดัมที่นครภูผาหลิวฮวงด้วยตัวคนเดียวหรอกเหรอ? ในเวลานั้น พวกเราทั้งคู่ต่างก็คิดว่า พวกเราคงจะไม่ได้เห็นท่านดีแคร์อีกแล้ว...”

“อ่า ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ไม่เพียงแต่จะกลับมาแบบครบสามสิบสองแล้ว เจ้าหมอนั้นยังอารมณ์ดีจัดงานประลองยุทธ์ขึ้นอีกตั้งสองสามงาน แต่ขณะที่พวกเรากำลังดีใจว่าในที่สุดสหายผู้นี้ก็รู้จักคิดเสียที เจ้าหมอนั้นก็...”

“ในเพียงพริบตา ท่านดีแคร์ก็ทอดทิ้งพวกเราไปเข้ากับฝั่งสภา... บางที นี่อาจจะเป็นจุดที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดก็เป็นได้ มีหลายครั้งหลายคราที่องค์จักรพรรดิกล่าวชมท่านดีแคร์ว่าเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ ถึงแม้นี่จะดูเหมือนคำสบประมาท แต่ท่านก็รู้นิว่า จักรพรรดิของพวกเรานั้นรักสุนัขมากเพียงใด ฉะนั้นท่านดีแคร์ถึงได้ถือว่าฉายาสุนัขที่ซื่อสัตย์นี่เป็นดั่งเกียรติยศสูงสุดที่องค์จักรพรรดิทรงมอบให้กับตน”

“ก็นะ เมื่อสมัยนั้น เจ้าหมอนั้นยังอยากจะใช้ชื่อแปลกๆอย่าง ‘ราตรีแห่งฝูงหมาน้อย’ มาแทนที่ชื่อกองทัพ ‘ราตรีแห่งหมาป่าเหมันต์’ เลยนิ แต่ถือว่าโชคยังดี ที่เจ้าสามารถหยุดไอ้ดีแคร์ไว้ได้ทัน แต่ข้ายังเสียดายอยู่เลยเนี่ย ที่กองทัพของเหล่าราชองครักษ์ดันไปใช้ว่า หมาล่าเนื้อสีชาด กองทัพราชินีแป๋วแหววยังฟังดูดีกว่าตั้งเยอะ”

“แค่ก” เสียงกระแอ้มไปเบาๆได้ดังขึ้น พร้อมกับคำแอบด่าที่ดังก้องอยู่ในใจ “เพราะไอ้รสนิยมการตั้งชื่อแปลกๆที่เหมือนกับองค์จักรพรรดิของท่านนั้นแหละ แล้วยังมีไอ้คอหอยที่คอยเปล่งเสียงมรณะนั้นอีก เพราะแบบนี้ไง องค์จักรพรรดิถึงไม่เลือกท่าน แต่ไปเลือกท่านบาสเตียนให้เป็นหัวหน้าของเหล่าราชองครักษ์ที่ต้องคอยติดตามอารักขาพระองค์ไปทุกหนแห่งแทนน่ะ”

แน่นอนว่า ตัวไลออนฮาร์ทไม่กล้าพอจะเอ่ยคำเหล่านี้ออกไปดังๆ

“ข้านั้นเชื่อในการตัดสินคนขององค์จักรพรรดิ ในเมื่อพระองค์เชื่อในตัวท่านดีแคร์ถึงขนาดนั้น เช่นนั้นตัวท่านดีแคร์ก็สมควรจะคู่ควรให้พวกเราเชื่อใจสิ เยี่ยงนั้นท่านก็ไม่น่าจะทรยศพวกเรา... หรือไม่บางที ท่านดีแคร์อาจจะได้พบใครสักคนที่โลกใต้พิภพ คนที่มอบคำสั่งบางอย่างให้...”

ในระหว่างที่ถ้อยคำเหล่านี้ถูกเอ่ยออกไป สายตาของอันเดดทั้งสอง ก็หันไปมองใบโบรชัวร์นำเที่ยวบนโต๊ะอย่างพร้อมเพียง

“งั้น ข้าขอตัวออกเดินทางล่ะ”

“ตัวข้ามิอาจจะจากซีหลัวไปได้ เช่นนี้ ข้าคงต้องขอพึ่งท่านแล้ว โลกใต้พิภพในตอนนี้คงวุ่นวายยิ่งกว่าแต่ก่อนเป็นแน่ แล้วถ้าแม้แต่พวกเรา ‘เหล่าทหารหน้าโง่’(คำเหน็บแนมจากฝั่งสภา) ยังสามารถหาข่าวเรื่องคทาหย่งเยี่ยเจอ เช่นนี้เหล่าผู้ที่ตามหาของสิ่งนี้มาตลอดหนึ่งศตวรรษย่อมหาข่าวนี้เจอและย่อมยอมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อให้ได้ของสิ่งนี้มาครอบครองเป็นแน่ ลอร์ดเกย์.ซิน ข้าขอให้ท่านมุ่งความสำคัญไปที่การตามหาคน ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด คทานี้ต้องเป็นกับดักที่วางโดยท่านผู้นั้นเป็นแน่!”

เกย์.ซินนั้นไม่ใช่คนที่จะไม่รับฟังคำแนะนำจากผู้อื่น แล้วยิ่งเป็นคำแนะนำของน้องชายผู้นี้ น้องชายผู้ที่ไม่ใช่แม้แต่หนึ่งในสี่จตุรเทพ แต่กลับใช้ความภักดีที่มีต่อองค์จักรพรรดิและสติปัญญาที่มี ไต่เต้าขึ้นมาทีละขั้นทีละขั้นจนเป็นหนึ่งในหัวหน้าแห่งฝ่ายภักดี เช่นนี้คำแนะนำของชายผู้นี้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อคนเก่าคนแก่เยี่ยงนาง เยี่ยงนี้ย่อมเป็นธรรมดาที่นางจะพยายามรับฟังคำอีกฝ่าย

“จริงสิ ท่านช่วยพาลอร์ดอาตังไปด้วยทีสิ ถ้าข้าคาดไม่ผิด ในเมื่อท่านผู้นั้นจะก่อพายุขึ้นเช่นนี้ ท่านก็คงตั้งตารอที่จะพบกับท่านอาตังอีกครั้งเช่นกัน”

“นี่เจ้าเอาจริง? ก็ได้ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะพาเจ้าสิ่งนั้นไปด้วย”

ผู้กัดกิน อาตัง หัวหน้าคนสุดท้ายแห่งฝ่ายภักดี วุฒิสมาชิกลำดับที่ 12 แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าสิ่งนี้นั้นเป็นอาโบมิเนชั่นร่างยักษ์ ซึ่งถึงแม้สติปัญญาของอาตังจะไม่สูงนัก แต่ถ้าดูที่ความสามารถในการต่อสู้ล่ะก็ คงไม่มีอันเดดหน้าไหนในซีหลัวที่กล้าท้า ‘ไอ้เด็กสมองทึ่มปัญญานิ่มผู้ไม่คู่ควรกับตำแหน่งอันเดดลอร์ดและวุฒิสมาชิก’ ผู้นี้ประลองด้วย

หลังจากการจากไปขององค์จักรพรรดิ ตัวอาตังที่ไม่ค่อยจะฉลาดเท่าไหร่นัก ก็ทำตัวว่านอนสอนง่ายเชื่อฟังคำของเหล่าพี่ชายพี่สาวของตน ตราบใดที่เกย์.ซินขอร้องล่ะก็ อาตังนั้นทำได้แม้แต่ฉีกตึกของฝ่ายสภา แล้วลากสมาชิกสภาลิชที่บังอาจว่าร้ายองค์จักรพรรดิมาสั่งสอน

เมื่อมองดูร่างของเกย์.ซินที่จากไป ไลออนฮาร์ทก็ค่อยๆยืนขึ้น ก่อนจะมองออกไปที่ความศิวิไลซ์ด้านนอกหน้าต่างนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะตกอยู่ในภวังค์ความคิด

นี่คือคำสอนขององค์จักรพรรดิ...

“นี่หนูไลออนฮาร์ท แค่สู้เป็นอย่างเดียวน่ะ ไม่น่ารักหรอกนะ นักรบน่ะอายุไม่ยืนกันหรอก แล้วผู้ที่รู้จักแต่การบุกเข้าไปตรงๆ อย่างเดียวนั้นมักโดนคนอื่นมองว่าบ้า ว่าโง่ ฉะนั้น ถ้าจะให้ดีเจ้าควรเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ เจ้าจะได้มีงานดีๆทำ จริงสิ เจ้าชอบประวัติศาสตร์รึเปล่า? ข้าน่ะคิดเสมอเลยล่ะว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์น่ะ ทำให้คนเราฉลาดขึ้น ถ้าเจ้ามีเวลา ก็ลองไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ดูล่ะ”

เมื่อรำลึกถึงฝ่ามืออับอบอุ่นคู่ใหญ่นั้น (ผ่านการมโนจากความทรงจำล้วนๆ) น้ำเสียงทรงภูมิอันอ่อนโยนที่คอยเป็นห่วงเป็นใย (นี่ก็มโนเหมือนกัน) เด็กรับใช้ประจำตัวองค์จักรพรรดิ หนูไลออนฮาร์ท ในวันวานได้เติบใหญ่ขึ้นเป็น ผู้ปกปักษ์รักษาประวัติศาสตร์ ไลออนฮาร์ท แล้วในวันนี้ หลังจากที่พยายามร่ำเรียนประวัติศาสตร์เพื่อเข้าใจในปัจจุบัน ชายผู้นี้ก็ใช้ดวงตาทั้งคู่มองข้ามเส้นกั้นแห่งกาลเวลา

(TL: ย่อหน้านี้ค่อนข้างงงหน่อยนะครับ แต่โดยรวมแล้วเป็นการพูดถึงไลออนฮาร์ทที่นึกถึงลอร์ดหย่งเยี่ยน่ะครับ)

“ท่านมักอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เหล่านี้ด้วยสีหน้าเป็นกังวลอยู่เสมอ ราวกับว่าท่านกำลังหวั่นเกรงว่าภัยพิบัติที่ทำลายล้างยุคสมัยและโลกใบนี้จะหวนกลับคืนมาอีกครั้ง แล้วสมุดโน๊ตคำทำนายแปลกๆที่แม้แต่ตัวข้าก็มิอาจจะเข้าใจได้เหล่านี้คืออะไรกันแน่? เทพเจ้าฝ่ายกฎระเบียบ? เทพแห่งความตายไอเยอร์? ปฏิกิริยาลูกโซ่? ผลกระทบผีเสื้อขยับปีก? องค์จักรพรรดิ ท่านเห็นสิ่งใดกันแน่ อะไรกันที่ทำให้ท่านสิ้นหวัง จนขนาดยอมละทิ้งทุกสิ่งเพื่อเริ่มต้นใหม่... นั้นใคร!! ออกมา!”

หลังสิ้นเสียงคำราม ใบหน้าอันแสนคุ้นชินที่ตอนนี้กำลังหัวเราะแห้งๆอยู่ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านนอกของประตู ซึ่งก็คือ เกย์.ซิน ที่พึ่งจะจากไปเมื่อครู่นั้นเอง

“นี่น้องไลออนฮาร์ท ข้าว่าตอนที่เจ้าคุยกับตัวเอง เจ้าควรจะเบาเสียงลงเสียหน่อยนะ ไม่เช่นนั้น ถ้าคนอื่นรู้เข้าล่ะก็ คนเค้าจะมองว่าเจ้าจิตไม่ปกติน่ะ”

“นี่ท่านได้ยิน...”

“ป่าว ป่าว ข้าแค่กลับมาเพราะมีอะไรต้องบอกกับเจ้าเท่านั้นเอง ข้าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ยินอะไรเลย”

เมื่อได้เห็นราชินีมังกรกระดูกที่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างสุดความสามารถ ไลออนฮาร์ทที่แอบหมั่นไส้เล็กๆ อยู่ในใจก็หัวเราะออกมา อาตังและเกย์.ซินนั้นคือคนที่อันเดดหนุ่มผู้นี้เชื่อใจที่สุดในประเทศอันแสนอันตรายแห่งนี้

“มีอะไรจะบอกกับข้า งั้นเหรอ?”

“นับแต่นี้ไปอย่าเรียกข้าว่า เกย์.ซิน อีกล่ะ ให้เรียกข้าว่า เกียร์ แทน ระวังอย่าเรียกผิดซะล่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตัวไลออนฮาร์ทก็รู้สึกงงเล็กๆ

“ทำไมกันล่ะ? ท่านใช้ชื่อว่าเกย์.ซินมาตลอดพันปีที่ผ่าน แล้วทำไมจู่ๆ ถึงคิดจะเปลี่ยนชื่อขึ้นมากันล่ะ? นี่ท่านคงไม่ได้ไปฟังพวกหมอดูตามตรอกซอกซอยหรอกนะ ท่านก็รู้นิว่า พวกหมอดูพวกนั้นน่ะเป็นพวกปาหี่ไร้ฝีมือทั้งนั้นน่ะ”

“ป่าว ป่าว พอดีมีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยน่ะ ข้าเลยจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ”

“เป็นไปไม่ได้น่า! มีใครที่ทำให้ดัชเชสผู้เป็นวุฒิสมาชิกแห่งจักรวรรดิต้องเปลี่ยนชื่อได้ด้วยงั้นเหรอ?”

“ก็นะ เมื่อไม่นานมานี้ ไม่ใช่ว่าเหล่าผู้อาวุโสคิดที่จะจัดระเบียบระบบศักดินาของทั้งจักรวรรดิใหม่หรอกเหรอ? แล้วตอนนั้นเอง ที่เหล่าผู้อาวุโสรู้สึกตัวว่าชื่อของข้านั้นไม่สามารถไปปรากฏบนเว็บไซน์เวทมนต์ได้ พอเป็นแบบนี้ชื่อข้าก็เลยพิมพ์ลงไปไม่ได้น่ะ ฉะนั้น พวกท่านทั้งหลายเลยแนะนำให้ข้าไปเปลี่ยนชื่อซะ”

“ไม่สามารถปรากฏได้? ทำไมกัน?”

TL: ชื่อในเว็บจีนของเกย์.ซิน คือ Ge Lei. Si ซึ่งถ้าไม่มีจุดจะอ่านได้ว่า เกรช

“ก็ตรง Lei Si น่ะสิ ที่เป็นปัญหา รู้สึกว่า คำว่า Lei Si ในดินแดนขุนเขาอันห่างไกล จะเป็นคำเรียกเหล่าสตรีที่มีรสนิยมทางเพศอันเฉพาะเจาะจงน่ะ แล้วไม่ใช่ว่าระบบเว็บไซน์เวทมนต์ของพวกเราพึ่งจะอัปเดรตไปหรอกเหรอ พอมาเวอร์ชั่นนี้ เพื่อภาพลักษณ์จริยธรรมอันดีงามของสังคม ทางเว็บไซน์เวทมนต์ก็เลยจะเริ่มแบนคำต้องห้ามต่างๆตั้งแต่นี้ไป แล้วถ้าเกิดเจอคำต้องห้ามเข้าล่ะก็ทางเว็บก็จะเปลี่ยนให้เป็น XX โดยอัตโนมัติ”

“ฉะนั้น ถ้าเจ้ายังจะยืนกรานเรียกข้าว่า Ge Lei.Si ล่ะก็ ชื่อในป้ายชื่อที่แสดงให้ชาวโลกเห็นของข้าก็จะแสดงชื่อข้าออกมาเป็น วุฒิสมาชิกลำดับ 4 ดัชเชสแห่งจักรวรรดิ Ge XX... แบบนี้ มันน่าอายสุดๆเลยไม่ใช่เหรอไง? ฉะนั้น ข้าเลยไม่มีทางเลือกนอกจากจะเปลี่ยนชื่อเป็น เกียร์ (Ge Li Ya) น่ะ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็อย่าเรียกผิดซะล่ะ”

“จะมีเหตุผลเปลี่ยนชื่ออันไร้สาระเกินกว่านี้อีกไหมเนี่ย? ทั้งที่ดำรงฐานะวุฒิสมาชิกแห่งจักรวรรดิ ท่านกลับมาเปลี่ยนชื่อตัวเองด้วยเหตุผลไร้สาระเช่นนี้เนี่ยนะ? นี่ท่านไม่ได้ยินเสียงร่ำไห้ของศักดิ์ศรีในตัวท่านเลยรึไง?”

“ก็นะ ข้าได้ยินมาว่าเหตุผลหลักจริงๆนั้นคือ เจตจำนงแห่งจักรวาล(ผู้แต่ง) นั้นขี้เกียจที่จะพิมพ์จุดลงกลางชื่อข้าแล้ว ฉะนั้น ชื่อข้าเลยต้องเปลี่ยนน่ะ...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด