ตอนที่แล้วตอนที่ 98 ไล่ตาม 1 หมัด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 ศักยภาพของเรือนจำที่แท้จริง

ตอนที่ 99 ระเบิดหัวก็ยังไม่ตาย? วิชาเงากาฝาก


ตอนที่ 99 ระเบิดหัวก็ยังไม่ตาย? วิชาเงากาฝาก

  

“เสียใจภายหลัง?”

ในขณะที่มองไปยังท่าทางสีหน้าและเสียงที่ดูอ่อนลงของชายชุดดำคนนั้น  ภาพที่ชายชุดดำคนนี้สังหารทหารเหล่านั้นอย่างโหดร้าย ในเทปวิดีโอก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของฮวางซางอย่างฉับพลัน  หลังจากนั้นแววตาสังหารภายในดวงตาก็ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น

“นายเข้าใจผิดแล้ว ถ้าฉันไม่ฆ่าน่าครั้งนี้  ฉันถึงจะเสียใจภายหลังจริงๆ!”

“นายหมายความว่าอย่างไร?หรือว่านายกับฉันมีความแค้นต่อกัน?”

ในขณะที่มองไปยังนัยน์ตาของฮวางซาง ที่ฉายแววสังหารอย่างเลือดเย็นออกมา ในใจของลูกพี่เป้าก็ตึงเครียดขึ้นมาทันใด ก่อนจะกัดฟันถามขึ้น

“แค้น? น่าจะใช่มั้ง......”

“เอาละ ไม่อยากพูดจาไร้สาระกับนายแล้ว ถึงเวลาชำระหนี้แล้ว!”

ฮวางซางไม่อยากพูดจาไร้สาระ กับเจ้าคนที่ชอบก่อกรรมทำชั่วอย่างเจ้านี่อีก  ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น เขาจึงได้แต่ส่ายหน้า หลังจากนั้นก็กระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า  จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาชายชุดดำที่ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสคนนั้นอีกครั้ง

“แม่งเอ๊ย!”

เมื่อเห็นฮวางซางไม่ให้โอกาสกับตัวเองแต่อย่างใด  อีกทั้งยังคงพุ่งเจ้ามาด้วยเจตนาฆ่าเขา  สีหน้าของลูกพี่เป้าก็แปรเปลี่ยนไปทันที  หลังจากนั้นก็เปล่งพลังเหนือมนุษย์ขั้นสุดท้ายออกมา ร่างกายของเขาก็ค่อยๆกลายเป็นเงา พยายามหนีออกไปจากที่นี่

ถึงแม้ว่าอัตราที่เป็นไปได้มันจะดูมีความหวังเพียงน้อยนิดก็ตาม แต่ต่อให้มีเพียงแค่ความหวังใยเดียว ใครจะไปยอมรับความตายกันละ?

แต่ความจริงก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้ว ว่าการดิ้นรนแบบนี้เสียแรงเปล่า

ในช่วงพริบตาเดียวที่ร่างกายของพี่ใหญ่เป้ากลายร่างเป็นเงา เพื่อพยายามหลบหนีออกไปจากที่นั้น ฮวางซางที่พุ่งเข้ามาถึงด้านหน้าของเขาราวกับเสือชีตาร์  หลังจากนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมา แล้วเตะไปที่ขาขวาของลูกพี่เป้าที่กำลังกลายร่างเป็นเงาดำอย่างโหดเหี้ยมทันที

กร๊อบ!

เมื่อมีพลังเกราะกาสาวพัสตร์สีดำขาวของฮวางซางมาอยู่เบื้องหน้า จึงพูดได้ว่าพลังเหนือมนุษย์กลายร่างเป็นเงาของพี่ใหญ่เป้านั้น ได้ถูกสะกดข่มไว้ทั้งหมดแล้ว  ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น  เสียงแตกหักของกระดูกก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน  ขาขวาของลูกพี่เป้าก็ถูกเท้าของฮวางซางเตะใส่  จนกลับมาเป็นรูปร่างเป็นตัวเป็นตนอีกครั้ง ต้นขาที่หักนั้นก็มีเลือดเนื้อโผล่ออกมาสัมผัสกับอากาศภายนอก  พร้อมกับที่เลือดสดๆจำนวนมากก็พุ่งทะลักออกมาจากบาดแผลอันน่ากลัวนี้เช่นเดียวกัน

“อ่า!!!!!!”

ขาขวาได้แผ่ขยายความเจ็บปวดออกมา ทำให้ลูกพี่เป้าอดที่จะกรีดร้องอย่างน่าเวทนาออกมาไม่ได้  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ร่างกายเกิดการสูญเสียสมดุล  และล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหนักหน่วง

กร๊อบ!

จากนั้นเสียงดังกร๊อบก็ดังขึ้น ขาซ้ายของลูกพี่เป้าก็ถูกฮวางซางเตะใส่  ส่งผลให้ร่างทั้งร่างล้มลงไปกองกับพื้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องโอดครวญของเขา

“นายต้องตาย  นายต้องตาย  นายรู้หรือไม่ว่าตัวเองทำเรื่องโง่เง่าแค่ไหน?”

ความเจ็บปวดที่รุนแรงและความหวาดกลัวความตาย  รวมถึงความสิ้นหวังภายในใจ  ทำให้ลูกพี่เป้าคลุ้มคลั่งออกมาในที่สุด  จากนั้นก็ตะโกนเสียงแหลมอย่างคนเสียสติออกมา

“นายจะต้องเสียใจ  พี่ใหญ่ของฉันจะต้องมาตามล้างแค้นนายให้ฉัน  ถึงตอนนั้นนายจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ! ไม่สิ  ไม่เพียงแค่นายเท่านั้น เพื่อนและครอบครัวของนายทั้งหมดก็จะต้องตายเพราะนาย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

“นายพูดถึงชายหนุ่มสวมแว่นคนนั้นใช่ไหม?”

ในขณะที่มองไปยังท่าทางที่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ราวกับคนเป็นเสียสติของชายชุดดำคนนี้  ฮวางซางก็ยิ้มอย่างเย็นชาออกมาทันใด

“หึ วางใจเถอะ  ไม่นานฉันก็จะไปหาพวกเขาที่เรือนจำอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็จะส่งเขาไปอยู่ในนรกเป็นเพื่อนนาย!”

“นายเป็นใครกันแน่?”

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ทั้งเสียงหัวเราะและเสียงกรีดร้องของลูกพี่เป้าก็หยุดลงอย่างฉับพลัน  พร้อมกับปรากฏสีหน้าอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อขึ้นมาทันใด

เขาคิดมาโดยตลอดว่า ฮวางซางน่าจะเป็นพวกชอบอยู่แบบสันโดษ  ความแค้นระหว่างพวกเขา ก็มีจำกัดอยู่แค่เรื่องราวระหว่างเขากับพี่ชายของเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนเด็กหนุ่มผู้นี้ ไม่เพียงแต่จะรู้ที่มาที่ไปของพวกเขาแล้วเท่านั้น   อีกทั้งยังต้องการไปแก้แค้นพี่หลงที่เรือนจำอีกด้วย?

เจ้านี่เป็นใครกันแน่?

เขาเอาความกล้าหาญและความมั่นใจ มาจากไหน ถึงจะไปสร้างความยุ่งยากให้กับพี่ใหญ่หลง?

หรือจะพึ่งพาสัตว์ประหลาดน้อยประหลาดๆตัวนั้น? หรือว่าจะพึ่งเจ้าเด็กหนุ่มที่ขี่ไดโนเสาร์คนนั้น?

พวกเขาคิดว่าการพึ่งศักยภาพเพียงน้อยนิดนี้ จะชนะการต่อสู้กับพี่ใหญ่หลงได้เหรอ?  หรือจะชนะทั้งเรือนจำนั้นได้?

นี่มันช่างน่าขันมากเสียจริง!

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ลูกพี่เป้าคนนี้ก็อดที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้

“ฉันไม่สนว่านายจะเป็นใคร แต่นายจะต้องตายจริงๆแน่ นายคิดว่านายสามารถฆ่าฉันได้แล้ว นายก็จะมีคุณสมบัติเพียงพอไปต่อกรกับพี่หลงอย่างนั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า   นายนี้มันไร้เดียงสาจริงๆ ฉัน........”

ผลัวะ!

แต่ทว่า ยังไม่ทันที่พี่ใหญ่เป้าคนนี้จะพูดจบแต่อย่างใด ฮวางซางกลับยกขาข้างหนึ่งขึ้นมา แล้ววางไปบนใบหน้าของลูกพี่เป้าคนนั้น จากนั้นก็เหยียบหัวของเขาที่อยู่บนพื้นอย่างหนักหน่วง   จนเกิดเสียงน่าหดหู่ใจขึ้น  และเป็นเวลาเดียวกับที่คำพูดของพี่ใหญ่เป้าก็ได้หยุดลงทันใด

“พูดจาไร้สาระมากจริงๆ!”

วินาทีต่อจากนั้น พี่ใหญ่เป้าก็ได้ยินเสียงของประโยคสุดท้ายในชีวิตของเขา

กร๊อบ!

สิ้นสุดเสียง ฮวางซางก็ออกแรงบนขาขวาข้างนั้น หลังจากนั้นก็เหยียบมันจนระเบิดราวซอสมะเขือเทศอย่างไรอย่างนั้น หัวของพี่ใหญ่เป้าก็ถูกเหยียบจนระเบิดกระจายอย่างรุนแรง  เลือดสดและมันสมองจำนวนมากก็ไหลปะปนออกมา กับเศษกระดูกจากใต้เท้าของเขา  ทำให้พื้นดินในบริเวณนั้นถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดงฉานอย่างรวดเร็ว

ในสายตาของฮวางซาง  ไอ้พวกเวรระยำที่ชอบก่อกรรมทำชั่ว ฆ่าทหารจนตายไปไม่รู้กี่ศพคนนี้ และดูหมิ่นการเสียสละของทหารเหล่านั้น ที่ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้นานแค่ไหน  ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาสอบถามความลับอะไร ประกอบกับความโกรธแค้นที่ท่วมท้นจนเต็มอกของเขา จึงทำให้เขาจัดการสังหารเจ้านี่ทันที

แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรที่จูเก๋อโหย๋วหลง ก็ยังมีนักโทษกว่าสิบคน และฉิวหลาวซื่อก็ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ซักถามดีๆ ก็น่าจะได้รับข่าวจากพวกเขาจำนวนไม่น้อยเลย

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ขาขวาของฮวางซางก็ยกขึ้น จากนั้นก็เอาเลือดและมันสมองที่ติดอยู่ใต้รองเท้า ไปเช็ดบนร่างไร้หัวของลูกพี่เป้า  หลังจากนั้นก็กระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า เพื่อออกจากห้องนี้ไป

หวือ!

แต่ทว่าหลังจากที่ฮวางซางจากไปได้ไม่นาน ร่างไร้หัวของพี่ใหญ่เป้ากลับเปล่งแสงสีดำอ่อนออกมา  หลังจากนั้นแสงสีดำเหล่านี้ก็ค่อยๆรวมตัวกันเป็นเงาดำ  แล้วกลายสภาพเป็นรูปร่างคนอันเลือนลางขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

“บัดซบ!”

ในขณะที่มองไปยังร่างไร้หัวบนพื้น เงาสีดำอันเลือนรางนั้นก็อดสบถด่าทอออกมาไม่ได้

“ทำลายกายเนื้อของฉัน  ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมีวิชาเงากาฝากละก็  ฉันคงจะถูกเจ้านั่นจัดการจริงๆไปแล้ว!”

“ช่างเถอะ ถึงแม้ว่าหลังจากนี้จะมีแค่รูปเงา  ไม่สามารถเสพสุขได้แบบคนก็ตาม  แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าตาย!” “งั้นกลับไปหาพี่ใหญ่หลงก่อนดีกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ยังไงฉันก็ต้องระบายความแค้นนี้ให้ได้ !”

เมื่อพูดจบ เงาดำนี้ก็เตรียมที่จะออกไปจากที่นี่ เพื่อกลับไปยังเรือนจำ พร้อมกับนำข่าวเกี่ยวกับฮวางซางไปบอกพี่หลง  ให้พี่หลงมาแก้แค้นเพื่อเขา

“นายไม่มีโอกาสแก้แค้นแล้วละ!”

แต่ทว่าในเวลานั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งกลับดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน  จนทำให้เงาดำนี้สั่นเทาอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น ฮวางซางก็ปราฏตัวขึ้นมาตรงประตูห้องอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าเยาะเย้ย พลางมองไปทางเขาด้วยสายตาเลือดเย็น

“ทำไมนาย.........?”

เมื่อเห็นฮวางซางย้อนกลับมา ในใจของเงาดำนั้นก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันใด ก่อนส่งเสียงตะโกนออกไปด้วยความตกใจ

เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าได้เผยพิรุธให้เห็นตอนไหน  จึงทำให้เจ้าเด็กนี้รู้ว่าตัวเองนั้นยังไม่ตายจริงๆ  เพราะถึงยังไงกายเนื้อที่ตายไปแล้วก็ไม่สามารถตายอีกครั้งได้ ตามหลักเหตุผลแล้ว พูดได้ว่าน่าจะไม่มีทางจับพิรุธนี้ได้อย่างแน่นอน!

“นายอยากถามฉันไหมว่าทำไมฉันถึงรู้ว่านายยังไม่ตาย?”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงตกใจของเงาดำนั้น ฮวางซางก็หัวเราะอย่างเย็นชาออกมา

“หึ  ขอโทษด้วยนะ  ฉันไม่บอกนายหรอก——  เพราะฉันอยากให้นายตายตาไม่หลับ!”

เมื่อพูดจบ ฮวางซางก็กระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า จากนั้นก็พุ่งไปด้านหน้าของเงาดำนี้  แล้วยกมือขวาขึ้น  แล้วจับไปบนลำคอของเงาดำนี้ทันที!

“ตายซะเถอะ!”

วินาทีต่อจากนั้น ฮวางซางก็ได้ตะโกนอย่างสุดเสียงออกไป นิ้วทั้งห้าบนมือขวาก็หุบเข้าหากัน จากนั้นพลังแห่งความตายก็กลายร่างเป็นแสงสีดำเปล่งประกายออกมาจากฝ่ามือของฮวางซาง  ก่อนผสานเข้าไปในตัวของเงาดำนั้นทันที

“อ่า!!!!!”

การกัดกร่อนของพลังแห่งความตาย นำพาซึ่งความเจ็บปวดอันน่ากลัวจนยากที่พรรณนาออกมาได้  ดังนั้นภายใต้การสผานเข้าไปของแสงสีดำ  เงาดำที่กลายร่างมาจากพี่ใหญ่เป้า ก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนาจนผิดมนุษย์มนาออกมาอย่างฉับพลัน  หลังจากนั้นเงาดำก็ค่อยๆมลายหายไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาและโหดร้ายนั้น สุดท้ายก็กลายเป็นความว่างเปล่าทันที

หวือ!

เมื่อเป็นเช่นนี้ แสงสีฟ้าอ่อนๆก็เปล่งประกายออกมาจากตัวของลูกพี่เป้าทันที  จากนั้นมันก็ผสานเข้าไปในร่างกายของฮวางซาง ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด

“นึกไม่ถึงว่าขนาดเจ้านี่จะถูกระเบิดหัวแล้วก็ยังไม่ตาย  อีกทั้งยังมีวิชาฟื้นคืนชีพประหลาดๆอีกด้วย ดูเหมือนว่าหลังจากนี้จะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ซะแล้ว!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันอบอุ่นที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายอย่างต่อเนื่อง  จนทำให้พลังเหนือธรรมชาติสีดำขาว หลังจากการกลายพันธุ์ของตัวเองเต็มอิ่มมากขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้น นัยน์ตาของฮวางซางก็ปรากฏแววตาเด็ดเดี่ยวขึ้นมาทันใด

ถ้าเมื่อสักครู่ไม่ใช่เพราะ เขาไม่ได้รับพลังเหนือธรรมชาติ หลังจากที่เหยียบหัวเจ้านั่นจนระเบิดแล้วละก็  เกรงว่าเขาก็คงจะถูกตบตาไปแล้วจริงๆ แต่ฮวางซางที่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน เขาจึงรับรู้ได้อย่างชัดเจน  ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ดังนั้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะพบเจอศัตรูรูปแบบไหน ต่อให้เขาจะจัดการทำลายหัวของพวกเขาจนแตกกระจายไปแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจชะล่าใจได้แม้แต่เพียงนิดเดียว ไม่อย่างนั้นตัวเองก็อาจจะต้องชดใช้ด้วยเลือดเช่นนี้อีกเป็นแน่!

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ฮวางซางก็ส่ายหน้า หลังจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเตรียมจากไป

เพียงแต่เมื่อหลังจากที่มองไปทางร่างไร้หัว ของลูกพี่เป้าคนนั้นอีกครั้ง เขากลับเกิดความลังเลขึ้นมาอีกเล็กน้อย  หลังจากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่ง แบกซากศพของลูกพี่เป้านั้นขึ้นมา แล้วกระโดดพุ่งพรวดไปด้านหน้า ตรงไปยังทิศทางของค่ายพลเรือนทันที

ถึงแม้ว่าลูกพี่เป้าจะตายไปแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีพลังเหนือมนุษย์อันแข็งแกร่งคนหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องยังมีพลังจำนวนไม่น้อยไหลเวียนอยู่ในกายเนื้อของเขาอย่างแน่นอน พลังเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อเขา แต่สำหรับเจ้าเด็กนั้นกลับน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีของเขาได้

ถึงอย่างไรก็เป็นแค่เศษซากศพของคนเท่านั้น ถือซะว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากขยะก็แล้วกัน ถือว่าชดใช้บาปกรรมที่เขาได้ทำลงไปสักหน่อยเถอะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด