ตอนที่แล้วAtW ตอนที่ 32 สัตว์ขี่ของอาเบล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAtW ตอนที่ 34 ธนูทดกำลัง

AtW ตอนที่ 33 กลับสู่ปราสาทแฮรี่


AtW ตอนที่ 33 กลับสู่ปราสาทแฮรี่

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

เมื่อกลับไปที่ห้องโถงหลักของปราสาทแฮรี่แล้วอาเบลก้ได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับอัศวินมาแชลฟัง ในเวลาเดียวกันนี้อาเบลก็ได้นำแผนที่ที่ได้มาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนังออกมาให้กับอัศวินมาแชลได้ดู

โชคดีที่อัศวินมาแชลพอจะมีความรู้อยู่บ้างเขาจึงอ่านตัวหนังสือของภาษาออร์คออก อัศวินมาแชลจำได้ว่าสถานที่ที่แผนที่ถูกระบุไว้ในแผนที่คือที่ไหนและที่สำคัญกว่านั้นอัศวินมาแชลยังรู้อีกว่าผู้บุกรุกนั้นจะบุกมาทางไหน

อัศวินมาแชลเดินไปรอบๆ ห้องโถงพร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างจริงจังออกมา "แผนที่นี่มีความสำคัญต่อพวกเรามากนะอาเบล ด้วยแผนที่อันนี้จะทำให้พวกเราหยุดการรุกรานของพวกออร์คไม่ให้พวกมันรุกรานเข้ามาที่อาณาจักรของมนุษย์ได้"

"ผมไม่คิดว่าพวกเราจะสู้กับพวกออร์คได้ง่ายๆ เลยในตอนนี้" อาเบลพูดอย่างกังวล "ผมไม่รู้เลยว่าพวกวูฟไรเดอร์นั้นมีกี่คนกันแน่ แต่พวกวูฟไรเดอร์ที่ผมเผชิญหน้าด้วยมีพลังต่อสู้ไม่ต่ำกว่าระดับ 6 อย่างแน่นอน พวกเราเองก็ไม่มีพลธนูมากพอที่จะป้องกันปราสาทได้ถ้าหากมันบุกตีมาในเวลานี้"

อัศวินมาแชลไม่ได้ดูเป็นกังวลเท่ากับอาเบลเพราะว่าตอนนี้พวกเขานั้นได้มีข้อมูลทางการทหารที่สำคัญแล้ว "แน่นอนว่าพวกเราไม่ต้องจัดการกับพวกออร์คทั้งหมดก็ได้ ตอนนี้แค่เรามอบให้แผนที่และข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้นำเมืองฮาเวสจัดการ จนถึงตอนนั้นพวกเราก็จะสามารถที่จะจัดการพวกออร์คโดยที่ไม่ต้องเสียใคร เมื่่อถึงเวลานั้นแล้วอาเบล ลูกจะได้รับความดีความชอบไป"

อัศวินมาแชลพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไปกว่าเดิมว่า "ตอนนี้อาเบล ลูกต้องห้ามออกจากปราสาทไปเพียงลำพังแล้วนะ ถ้าหากลูกจะออกจากปราสาทไปลูกต้องพาทหารยามไปกับลูกด้วย ดูเหมือนว่าหมาป่าที่ลูกเก็บมานั้นจะได้เลือก...เอ่อ อืม อาเบลลูกอย่าเพิ่งบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ พ่อเองก็จะให้ทุกคนปิดปากเงียบเอาไว้เหมือนกัน"

"เมื่อผู้ที่เป็นเจ้านายอยู่กับหมาป่านานพอแล้วเมื่อถึงตอนนั้นมันจะจงรักภักดีต่อเจ้าของตลอดไป" อัศวินมาแชลพูดเสร็จแล้วจึงถอนหายใจ "แต่จะถึงตอนนั้นได้จะต้องมีผู้ไม่หวังดีที่หวังจะเอาลูกหมาป่าไปอย่างแน่นอน"

"นั่นสิครับ คงต้องเป็นอย่างงั้น" อาเบลพูดโดยที่ไม่มีข้อโต้แย้งอะไรกับอัศวินมาแชล สำหรับเป้าหมายของพวกขุนนางและชนชั้นสูงนั้นอัศวินมาแชลรู้ดีว่าเป้าหมายของพวกเขานั้นคืออะไรกัน นอกจากนี้อาเบลยังมีลูกหมาป่าที่ชื่อว่าลมทมิฬอยู่ด้วย เมื่อลูกหมาป่าตัวนี้โตเต็มวัยแล้วมันจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งพอจนไม่มีใครสามารถพรากมันไปจากอาเบลได้อย่างแน่นอน

ความคิดของอัศวินมาแชลนั้นไม่ได้ผิดไปซะทีเดียว ถ้าหากอัศวินมาแชลและอาเบลนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของสหพันธ์ช่างตีเหล็ก และมีเบธแฮมอยู่ที่นี่ เหล่าผู้บุกรุกทั้งหลายที่หมายตาลูกหมาป่าเอาไว้ก็คงจะไม่กล้าพอที่จะบุกรุกปราสาทแฮรี่แห่งนี้ได้อย่างง่ายๆ ด้วยชื่อของ "ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก" จะทำให้ผู้คนทั้งหลายนั้นให้ความเคารพและความเกรงกลัวต่อตัวอาเบลนั่นเอง

"ตอนนี้ลูกยังมีกับดักเหลืออยู่ไหม" อัศวินมาแชลถามอาเบล ในตอนนี้อาเบลรู้แล้วว่าพวกวูฟไรเดอร์นั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ตอนนี้ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้พวกวูฟไรเดอร์นั้นช้าลง

"ตอนนี้ผมไม่มีเหลือแล้ว" อาเบลตอบกลับโดยไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกถามถึงกับดักที่เขาสร้าง "ผมได้่ติดตั้งกับดักทั้ง 10 ชิ้นไว้ที่ป่าด้านหลังปราสาทหมดแล้ว ถ้าจะเอากับดักทั้ง 10 กลับมาก็คงจะต้องรอพรุ่งนี้เช้าเท่านั้น"

"แล้วขอให้พวกช่างตีเหล็กสร้างได้ไหมลูก?" อัศวินมาแชลถามอาเบลอย่างร้อนใจ

อาเบลส่ายหัวก่อนจะตอบว่า "ผมคิดว่าคงจะไม่ได้ เพราะกับดักที่ผมสร้างจะต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย"

ตอนนี้อาเบลได้เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กในโลกใบนี้ไปแล้ว การที่เขาจะสามารถสร้างสรรเทคนิคพิเศษใหม่ๆ ในโลกใบนี้ได้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย ถ้าหากจะให้อาเบลประเมินแล้วคงมีคนในโลกนี้ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสร้างกับดักแบบอาเบลได้ การจะสร้างกับดักได้นั้นจะต้องใช้เทคนิคพิเศษในการสร้างสปริงขึ้น การสร้างสปริงจะต้องใช้คาร์บอนจำนวนมากเพื่อทำให้เหล็กสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นได้ คงจะมีแต่มนุษย์ที่เป็นถึงขั้นปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถทำงานได้อย่างประณีตแบบนี้ได้

"แล้วลูกสร้างกับดักพวกนี้ได้อีกเยอะไหมอาเบล? พ่อรู้นะว่ากับดักพวกนี้จำเป็นต่อการล่าสัตว์นะ แต่ในเวลานี้พวกเราจะต้องการกับดักของลูกเพื่อป้องกันปราสาท"

"ได้ครับ" อาเบลตอบรับ "ผมต้องทำชิ้นส่วนที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษเองทั้งหมด แต่พ่อต้องให้ช่างตีเหล็กที่เหลือช่วยทำชิ้นส่วนอื่นๆ ของกับดักให้"

"ได้เลยอาเบล พ่อจะให้คนทั้งหมดทำชิ้นส่วนของกับดักที่เหลือเอง ตอนนี้ฝากลูกทำชิ้นส่วนของกับดักที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษด้วยนะ พ่อต้องการกับดักให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" อัศวินมาแชลพูดทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความหงุดหงิด "ลูกไปบอกจุดที่วางกับดักกับพวกทหารยามเอาไว้ละกัน พ่อจะให้พวกเขาไปเก็บกับดักในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า ตอนนี้พ่อคิดว่าลูกอย่าเพิ่งออกไปไหนจะดีกว่านะ ข้างนอกอันตรายเกินไป พ่อให้ช่างตีเหล็กทุกคนย้ายมาที่ปราสาทแฮรี่ของเราแล้ว"

ในตอนกลางคืนหลังจากที่กลับไปห้องนอนของตัวเอง อาเบลได้นำนมแกะอุ่นๆ จากลินด์เซ่ไปให้กับลมทมิฬ เพื่อที่จะไม่ให้นมหก อาเบลต้องให้นมแกะอุ่นๆ กับลูกหมาป่าในแบบเดียวกับที่ให้อาหารหนูเจอร์บิล

หนูเจอร์บิลเป็นหนูขนาดเล็กชนิดหนึ่ง เพราะขนาดที่เล็กของมันจึงทำให้ต้องอาศัยความเบามือในการให้อาหารนั่นเอง และการที่จะให้อาหารนั้นจะต้องใช้สิ่งทอขนาดเล็กในการโอบอุ้มมันไว้เพื่อให้หนูรู้สึกปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ด้วยประสบการณ์นี้เองอาเบลจึงขอให้สาวใช้ในปราสาทแฮรี่ทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นให้กับอาเบล แน่นอนว่าจะต้องมีทั้งสิ่งทอรวมไปถึงขวดนมสำหรับให้นมด้วย

ตอนนี้อาเบลได้ใช้จุกนมที่สร้างขึ้นจ่อไว้ใกล้ๆ ปากของลมทมิฬ ไม่นานนักลมทมิฬจึงเริ่มดูดนมแกะผ่านจุกนมอันนี้ ตอนนี้ลมทมิฬยังเป็นลูกหมาป่าแรกเกิดเท่านั้น เพราะเหตุนี้เองมันจึงไม่มีฟันมากพอที่จะกัดจุกนมเอาไว้ ใบหน้าของลมทมิฬในตอนที่กำลังจะดูดนมจากจุกนั้นดูมีความพยายามมากเป็นพิเศษ

อาเบลไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาก่อนในตอนที่อาศัยอยู่ในโลกเดิม อาเบลเลยไม่รู้มาก่อนว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นจะต้องดูแลมันมากน้อยขนาดไหน อาเบลไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นจะเหมือนกับการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งก็ว่าได้ แม้ว่าลมทมิฬจะไม่ใช่ลูกของอาเบล แต่สุดท้ายแล้วอาเบลก็ต้องดูแลมันอย่างดีให้เปรียบเสมือนลูกของตัวเอง

ในขณะเดียวกันอัศวินมาแชลได้ส่งแผนที่พร้อมกับข้อความอะไรบางอย่างไปให้กับลอร์ดดิ้กเคน เพื่อทำให้ลอร์ดดิ้กเคนเชื่อใจอัศวินมาแชลจึงตัดสินใจที่จะส่งศพของโวร์แกนไปยืนยัน ถ้าหากนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอัศวินมาแชลจะต้องไปเยี่ยมลอร์ดดิ้กเคนด้วยตัวของเขาเองแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้นในตอนที่อาเบลตื่นนอน เขาก็ได้มาที่โรงตีเหล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะกิจภายในปราสาทแฮรี่ อาเบลต้องการความช่วยเหลือของช่างตีเหล็กทุกคนรวมไปถึงอาจารย์เบธแฮมในการสร้างส่วนประกอบต่างๆ ที่จะนำมาประกอบกันเป็นกับดักหมียักษ์นั่นเอง

ถึงตอนนี้อาเบลจะคุ้นเคยกับการสร้างกับดักไปแล้ว แต่การที่จะสร้างสปริงให้มีคุณภาพตามที่ต้องการนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับอาเบลอยู่ดี อาเบลต้องใช้เวลาในวันนี้ทั้งวันในการสร้างสปริง อาเบลสามารถสร้างสปริงได้มากถึง 15 ชิ้นในเวลา 3 วัน ส่วนช่างตีเหล็กคนอื่นๆ นั้นก็ต้องสร้างชิ้นส่วนของกับดักตามที่อาเบลต้องการต่อไป ภายใต้คำแนะนำของอาเบลแล้วพวกช่างตีเหล็กทั้งหมดก็สามารถสร้างชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับการทำกับดักเสร็จภายในเวลา 3 วันเช่นกัน

เมื่อได้ชิ้นส่วนของกับดักทั้งหมดแล้วอาเบลก็ได้ประกอบมันเข้าด้วยกัน อาจารย์เบธแฮมเองเป็นคนที่ทำที่ฟันหนีบของกับดักทั้งหมดด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว ถ้าหากให้ช่างตีเหล็กคนอื่นๆ ทำแล้ว กับดักที่ได้ก็คงจะมีความแหลมคมที่น้อยเกินไป ถ้าหากกับดักมีฟันหนีบที่แหลมคมที่มากพอแล้วกับดักจะสามารถเจาะทะลุลงไปในขาของเหยื่อผู้โชคร้ายได้ เหยื่อผู้โชคร้ายตัวนั้นที่เหยียบกับดักก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหมือนเดิมได้อีกต่ไป

ในตอนที่ทหารยามลาดตระเวนตามเก็บกู้กับดักของอาเบลที่อยู่ในป่าหลังปราสาท ทำให้พวกทหารเองได้มีประสบการณ์ในการทดลองใช้และทดลองติดตั้งกับดักนั่นเอง ตอนนี้กับดักหมียักษ์กว่า 25 ชิ้นได้ถูกติดตั้งล้อมรอบปราสาทแฮรี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพื่อที่จะทดสอบประสิทธิภาพของกับดักอันใหม่ อาเบลได้ทดลองโยนกิ่งไม้ไปที่แผ่นกลไก ในพริบตาที่กิ่งไม้อันนั้นกระทบเข้ากับแผ่นกลไก ฟันอันแหลมคมของกับดักก็ได้กัดกิ่งไม้ที่อาเบลโยนไปอย่างรวดเร็ว ถ้าหากกิ่งไม้อันนั้นเป็นขาของพวกหมาป่าแล้วละก็ โวร์แกนที่ขี่หมาป่าอยู่นั้นจะต้องสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนที่ไปอย่างแน่นอน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เริ่มเตรียมพร้อมจนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อัศวินมาแชลที่เฝ้าดูอยู่นั้นรู้สึกพอใจในกับดักของอาเบลมาก

พวกออร์คทั้งหลายไม่เคยบุกโจมตีปราสาทโดยใช้กลุ่มทหารเพียงไม่กี่คนมาก่อน ปราสาทส่วนใหญ่นั้นจะมีกำแพงคอยป้องกันสูงเกินกว่าที่พวกหมาป่านั้นจะกระโดดก้าวข้ามมาได้ การที่จะบุกชิดปราสาทได้จะทำให้พวกออร์คนั้นสูญเสียกำลังทหารไป ดังนั้นแล้วการบุกโจมตีปราสาทโดยใช้กำลังพลเพียงน้อยนิดนั้นก็เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายดีๆ นี่เอง ตอนนี้พวกออร์คยังไม่มีแผนการรบที่ดีพอพวกมันจึงไม่เคยใช้เทคนิคการบุกตีแบบโอบล้อมมาก่อน ในตอนนี้แม้แต่วูฟไรเดอร์ที่มีความสามารถในการต่อสู้ถึงระดับ 7 ก็ยังไม่สามารถที่จะกระโดดข้ามกำแพงของปราสาทได้

พวกออร์คทั้งหลายจะต้องผิดหวังกับการโจมตีในครั้งนี้ อัศวินมาแชลได้ให้ทุกคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ไปรวมอยู่ในจุดศูนย์กลางของปราสาทแฮรี่ อัศวินมาแชลได้เสริมการป้องกันของปราสาทโดยวางแนวป้องกันที่ทำมาจากไม้อันแหลมคมไว้ทั่วทั้งจุดบอดของปราสาทแฮรี่ ถ้าหากออร์คบุกเข้ามาตีปราสาทแฮรี่พวกมันจะต้องผ่านด่านแนวป้องกันพวกนี้มาให้ได้ก่อน แน่นอนว่าแนวป้องกันทั้งหลายนี้จะต้องเป็นอุปสรรคของวูฟไรเดอร์อย่างแน่นอน อัศวินมาแชลเลือกที่จะไม่วางกับดักเอาไว้ไกลกับปราสาทจนเกินไป ถ้าหากพวกออร์คส่งหน่วยสอดแนมมาพวกมันจะติดกับดักนั่นเอง และเมื่อถึงเวลานั้นพวกออร์คก็จะสามารถหลบกับดักที่มีอยู่ทั้งหมดได้

หลังจากที่ทำกับดักเสร็จจนหมดแล้ว ในที่สุดอาเบลก็ได้ใช้เวลาว่างกับตัวเองอีกครั้ง แต่แทนที่อาเบลจะหยุดพักผ่อน เขากลับนึกถึงตอนที่เผชิญหน้ากับโวร์แกนแทน

เมื่อมองย้อนกลับไปอาเบลคิดว่าการต่อสู้ระหว่างตัวเขาเองกับโวร์แกนนั้นช่างแตกต่างกันจนเกินไป การที่อัศวินฝึกหัดระดับห้าอย่างอาเบลจะไปต่อสู้กับนักสู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนนั้นด้วยพลังของอัศวินฝึกหัดระดับห้าคงไม่สามารถที่จะต่อกรกับคู่ต่อสู้พวกนั้นได้เลย

แม้ว่าตอนนั้นโวร์แกนจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่อาเบลจะชนะการต่อสู้ในครั้งนั้นอย่างยุติธรรม ถ้าหากไม่ได้กับดักและดาบเวทย์ที่ถูกสร้างอย่างล้มเหลวของอาเบลแล้วในตอนนี้อาเบลก็คงจะต้องเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน

เมื่อฝึกฝนตนเองจนสามารถก้าวข้ามผ่านระดับฝึกหัดไปได้ ในตอนนั้นการที่จะใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่เพียงแต่พลังลมปราณจะช่วยเพิ่มทักษะความสามารถของร่างกายแล้ว พลังลมปราณยังสามารถที่จะใช้กับอาวุธได้อีกด้วย เทคนิคนี้อาเบลได้เคยเห็นแล้วนั่นเอง ในตอนที่อัศวินมาแชลได้ต่อสู้อยู่ใกล้ๆ กับเมืองฮาเวสนั้น ในตอนนั้นอัศวินมาแชลได้ถ่ายโอนพลังลมปราณของตัวเองไปที่ดาบใหญ่ของเขา ด้วยพลังลมปราณทำให้การโจมตีของอัศวินมาแชลนั้นรุนแรงและทรงพลังมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ถ้าหากอาเบลสามารถเลียนแบบเทคนิคของอัศวินมาแชลได้เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน

ถ้าหากสามารถฝึกฝนจนใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ได้แล้วการที่จะสู้กับคนนับร้อยในสนามรบนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด