SM:ตอนที่ 1 ระบบเงินตรา

SM:ตอนที่ 1 ระบบเงินตรา

เมืองหนานจงที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นเมืองรากฐานที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังผ่านศตวรรษใหม่มาแล้ว เนื่องเพราะมันอยู่ห่างไกลจากทะเลมาก จึงกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่ค่อนฉันงปลอดภัยต่อการรอดชีวิตของมวลมนุษยชาติ

วังไห่เทียนเป็นคูหาค้าทองที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหนานจง ตราบใดที่คุณมีเงินอยู่ที่นี่ คุณก็สามารถรับความสำราญจากการปรนนิบัติเยี่ยงเทพเจ้า อาหาร สุรา และนารี

ในคูหาหนึ่งของวังไห่เทียน ชายหนุ่มผิวซีดคนหนึ่งผู้รายล้อมไปด้วยหญิงงามคือบุตรชายคนที่สามของตระกูลเซี่ยแห่งเมืองหนานจง

ในฐานะของบุตรชายคนที่สามแห่งตระกูลเซี่ยแล้ว เซี่ยเย่คนนี้ก็โตมาแบบคาบช้อนเงินช้อนทอง

แต่สภาพความเป็นอยู่ของเซี่ยเย่ไม่สู้ดีนัก การเป็นครอบครัวใหญ่ทำให้มีระยะห่างระหว่างกันอยู่ไม่น้อย แม้เซี่ยเย่จะเกิดในตระกูลสายตรง แต่สองปีผ่านมาหลังจากที่บิดามารดาของเขาเสียชีวิตกะทันหันท่ามกลางฝูงปีศาจ เซี่ยเย่ก็ได้กลายเป็นสวะลอยไปลอยมาในครอบครัวนี้

หลังจากนั้น เมื่อเซี่ยเย่ไร้ที่พึ่ง เขาก็ได้ใช้ชีวิตแบบสนุกสุดเหวี่ยง เขาถลุงทรัพย์สินของบิดามารดาไปเป็นจำนวนมาก บวกกับพรสวรรค์ของเขาที่ไม่สูงนัก ทำให้ตัวเขาที่มีอายุสิบแปดปีในตอนนี้ไม่ได้แตะถึงแม้กระทั่งฝั่งฝันของวรยุทธ์เลย ส่งผลให้เซี่ยเย่เป็นไอ้ขี้แพ้และหนุ่มเจ้าสำราญของตระกูลเซี่ยผู้เลื่องชื่อไป

“มา ลืมวันเวลาไปเสีย แล้วกินผลไม้พวกนี้อีกสักชิ้นดีกว่า” หญิงงามผมทองเอ่ยพร้อมกับคาบผลไม้สีม่วงไว้ในปาก

เซี่ยเย่หัวเราะพลางงับผลไม้ไว้ในคำเดียว ขณะเดียวกันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะฉกชิงความหอมหวานจากลิ้นของสาวงาม พร้อมกับมือทั้งคู่ที่เคลื่อนไหวอยู่ไม่สุขสัมผัสเคล้นคลึงไปตามร่างของหญิงสาว

ในตอนนี้สาวงามผมดำสยายเบื้องหลังนางก็โอบกอดทางด้านหลังของเซี่ยเย่และเอ่ยขึ้น “เซี่ยเย่ใจร้าย คุณรักแต่อลิซคนเดียวได้อย่างไร? ไม่เห็นสนใจคนอื่น ๆ บ้างเลย”

“ฮ่า ๆ คนสวย อย่ากังวลไป หนุ่มน้อยอยู่นี่แล้ว” เอ่ยแล้วเซี่ยเย่ก็โถมตัวเฉันไปในอ้อมกอดของสาวงามผมทอง และคว้าสาวงามผมดำเบื้องหลังเธอมาไว้ที่ขา

“มา ดื่มก่อน” สาวงามผมดำส่งจอกเหล้าจรดปากของเซี่ยเย่

ดวงตาของเซี่ยเย่หรี่ลง พร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ฉันอยากดื่มแบบนี้มากกว่า”

เอ่ยแล้วเซี่ยเย่ก็หยิบจอกเหล้าในมือของสาวงามและรินเหล้าใส่ร่องลึกระหว่างทรวงอกของหญิงสาว

ทันใดนั้นสุราสีเขียวก็ค่อย ๆ ไหลรินลงตามร่องขาวเนียน พร้อมกับริมฝีปากของเซี่ยเย่จูบซับลิ้มรส สุราสาวงาม

ในคูหามีสาวงามเกือบสิบคนที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน พวกนางดูคุ้นเคยกับหนุ่มเจ้าสำราญเลื่องชื่อของหนานจงคนนี้ไม่น้อย และพวกนางทั้งหมดก็ให้ความสนใจเซี่ยเย่เป็นอย่างมาก

หลังเวลาเที่ยงคืน เมื่อเซี่ยเย่สะบัดมือครั้งใหญ่ กองธนบัตรเป็นตั้งก็ร่วงกระจายลงสู่บรรดาสาวงามในคูหา จากนั้นเซี่ยเย่ก็ก้าวเท้าออกจากวังไห่เทียน

สายลมเย็นเยือกยามค่ำคืนทำให้เซี่ยเย่หนาวสั่น การเป็นเด็กจากตระกูลจอมยุทธ์ทำให้สายลมเย็นเป็นเรื่องไม่อาจทานทนได้ เห็นชัดว่าชีวิตของเซี่ยเย่ในสองปีที่ผ่านมานั้นเหลวแหลกจนถึงรากฐานของตระกูล

เขาเล่นเหรียญทองในมือและเมินต่อสายตาดูถูกจากยามรักษาการณ์และคนรับใช้ในบ้าน จากนั้นเซี่ยเย่ก็กลับไปยังที่พักอาศัยของเขา

“เฮ้อ”

มองห้องอันหนาวเหน็บและว่างเปล่าแล้ว เซี่ยเย่ก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ความเหงาฉายบนใบหน้าของเขาทำให้ผู้คนไม่อาจคาดคิดว่าคนชั้นต่ำเลื่องชื่อแห่งเมืองหนานจงจะมีสีหน้าแบบนี้ด้วย

“ฉันอายุสิบแปดแล้ว แต่ไม่คิดว่าวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของฉันจะเป็นเช่นนี้” เซี่ยเย่พึมพำกับตัวเองขณะนอนแผ่อยู่บนเตียงและมองเหรียญทองในมือ

มองย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน เซี่ยเย่ก็รู้สึกอับจนหนทางขึ้นมาอีกครั้ง คนอื่น ๆ รู้เพียงว่าเซี่ยเย่ไม่อยากจะสานหน้าที่ตระกูลต่อ จึงทำแต่เรื่องอับอายขายหน้าแก่ตระกูลและผลาญมรดกของบิดามารดา แต่ใครจะรู้ถึงความเศร้าโศกของเด็กที่เกิดในตระกูลใหญ่บ้างเล่า

การเป็นทายาทอันดับที่สามของตระกูลเซี่ย ทำให้เซี่ยเย่มีสิทธิ์รับมรดกเป็นเจ้าของตระกูลเซี่ย แม้เขาจะไม่ถูกผู้คนยกย่องเนื่องจากคุณสมบัติตั้งแต่ในวัยเด็ก แต่เขามีบิดามารดาสนับสนุนอยู่

แต่เมื่อทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิตทั้งคู่ เซี่ยเย่ก็สูญเสียสิทธิสุดท้ายไปด้วย แต่ผู้คนไม่ได้ทำร้ายหัวใจพยัคฆ์ เป็นพยัคฆต่างหากที่ทำร้ายผู้คน และเซี่ยเย่ผู้มีสิทธิ์รับมรดกก็เป็นอุปสรรคต่อทายาทคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

ดังนั้นคนฉลาดอย่างเขาจึงเริ่มสวมบทเป็นหนุ่มเจ้าสำราญและลดความหวาดระแวงของคนอื่นลง ทำให้เซี่ยเย่สามารถอยู่รอดมาได้โดยไร้ซึ่งหายนะ

ทว่านับตั้งแต่บิดามารดาของเขาเสียชีวิตในปากของเหล่าปีศาจ เมื่อได้เผชิญหน้ากับสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูล เซี่ยเย่ก็รู้ดีว่าถ้าเขาต้องการอยู่รอดในโลกใบนี้ สิ่งอื่น ๆ ต่างเป็นเรื่องไม่สำคัญ มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นของจริง

น่าเสียดายที่คุณสมบัติของเขามีจำกัด แม้เขาจะขยันหมั่นเพียรฝึกฝนทุกวัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่สู้ดีนัก บวกกับความเจ้าสำราญแล้ว เซี่ยเย่ก็ไม่สามารถใช้ทรัพยากรของตระกูลได้อย่างเปิดเผย ทำให้ช่องว่างระหว่างเซี่ยเย่กับญาติคนอื่น ๆ ห่างกันมากขึ้น ห่างไกลเสียจนเขาไม่อาจมาเป็นนักรบที่แท้จริงได้

“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสอะไรในชีวิตบ้าง”

เซี่ยเย่ผล็อยหลับไปช้า ๆ เหรียญทองที่เขาถือเล่นกับมือร่วงลงบนอก

เซี่ยเย่ไม่รู้ตัว ว่าเมื่อเหรียญทองหล่นบนอกของเขา ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองฉายวาบออกมา แล้วเหรียญทองนั้นก็ได้หายเข้าไปในร่างของเซี่ยเย่

ในความฝันของเขา เซี่ยเย่รู้สึกเพียงว่าเขาอยู่ท่ามกลางโลกแห่งสีทองเป็นประกาย พื้นดินทำมาจากอิฐทองคำ และท้องฟ้าก็มีเหรียญทองร่วงโปรยปรายลงมา

“เงินมาก่อนเสมอ! ระบบเงินตราเปิดตัวเป็นทางการแล้ว!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นในโลกแห่งทองคำ เซี่ยเย่รู้สึกเพียงเสียงคำรามภายในหู ชั่วขณะต่อมาหญิงสาวผมทองในชุดทองคำก็ปรากฏกายตรงหน้าเขา

“สวัสดีนายท่าน ยินดีต้อนรับสู่ระบบเงินตรา ที่นี่นายท่านจะได้รับทุกสิ่งอย่างตราบใดที่ท่านให้เงินแก่ข้า” หญิงสาวผมทองบนอากาศหมุนตัวอย่างงดงาม รูปโฉมของนางช่างดูน่ารักยิ่ง แต่นางกลับมีท่าทีที่ไม่ต้องการอะไรนอกจากเงิน ทำให้เซี่ยเย่ไม่อาจเอ่ยชมได้

เซี่ยเย่จับจ้องหญิงสาวผมทองตรงหน้าเขา ครู่หนึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไร หลังจากนั้นเป็นเวลานานเขาก็เค้นประโยคหนึ่งออกมาได้ “ฉันไม่ได้ฝันไปสินะ”

สาวผมทองหัวเราะคิกคักและเอ่ยตอบ “นายท่าน ท่านช่างน่าสนใจนัก แน่นอนว่าท่านกำลังฝัน แต่ความฝันนี้เป็นจริง”

“ความฝันที่แท้จริง?” เซี่ยเย่กระซิบ จากนั้นก็เหลือบมองขึ้นและเอ่ยออกมา “สิ่งที่คุณพูดตอนนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? แค่ให้เงินกับคุณ แล้วคุณก็จะบันดาลทุกอย่างให้ผมได้?”

“ตราบใดที่ท่านให้เงินกับข้า ท่านก็จะซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้” สาวผมทองเอ่ยอย่างใจเย็น

“แม้แต่พลังยุทธ์งั้นหรือ?” เซี่ยเย่กำหมัดแน่น จากนั้นมองหญิงสาวผมทองอย่างกระวนกระวาย

สาวผมทองมองเซี่ยเย่และเอ่ยตอบ “จากการประเมินพลังที่อยู่ในโลกของท่าน พลังยุทธ์คือมูลค่าพลังของท่านเอง ที่นี่ท่านสามารถซื้อมูลค่าพลังได้ด้วยเงินตรา แต่ถ้าท่านต้องการซื้อมูลค่าพลังโดยตรง จำนวนเงินที่ท่านต้องใช้นับว่ามหาศาลไม่น้อย”

“มากเท่าไหร่หรือ?” เซี่ยเย่ถาม

สาวผมทองมองเซี่ยเย่และชี้นิ้วจรดริมฝีปากก่อนเอ่ยขึ้น “อืม จากการประเมินระดับพลังของท่านแล้ว มูลค่าพลังของท่านตอนนี้อยู่ที่ 0.3 การจะไปให้ถึง 1 ได้นั้น ต้องบอกว่า ต้องใช้เงิน 70000 เหรียญ”

“เจ็ดหมื่นเหรียญ...ตอนนี้ในบัญชีฉันมีเพียงสามแสน แต่ก็ไม่ยากหรอกที่จะเพิ่มมูลค่าพลังให้ถึงหนึ่ง” เซี่ยเย่เอ่ยกับสาวผมทองอย่างตื่นเต้นบางส่วน

“ถูกต้อง” สาวผมทองเอ่ยทันที

“เยี่ยมไปเลย ตราบใดที่ฉันมีเงิน ฉันก็จะพัฒนาพลังได้เร็วขึ้น ฉันไม่ต้องแสร้งทำเป็นหนุ่มสำรวยเพื่อการอยู่รอดแล้ว” เซี่ยเย่กำหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น หลังจากลิ้มรสความขมขื่นเขาก็รู้ว่าความหวานชื่นนั้นเป็นอย่างไร แต่หลังจากเวลานั้นเซี่ยเย่ก็รู้ดีถึงความสำคัญของความแข็งแกร่งแล้ว

“นายท่านอย่าเพิ่งด่วนดีใจไปนัก มันมีข้อจำกัดอยู่ในการซื้อมูลค่าพลังโดยใช้เงิน”

ขณะที่เซี่ยเย่กำลังตื่นเต้น สาวผมทองพลันเอ่ยประโยคราวสาดน้ำเย็นใส่เขาถังหนึ่งให้เซี่ยเย่สงบลง

“ข้อห้ามเหรอ? อะไรคือข้อจำกัดของมันกันล่ะ?” เซี่ยเย่เอ่ยถามด้วยความสงสัย