ตอนที่แล้วSM:ตอนที่ 1 ระบบเงินตรา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSM:บทที่ 3 มหาวิทยาลัยฉินอู่

SM:บทที่ 2 พลังและทักษะวรยุทธ์


SM:บทที่ 2 พลังและทักษะวรยุทธ์

เผชิญหน้ากับเซี่ยเย่ที่มีใบหน้าฉายแววอารมณ์บางอย่าง หญิงสาวผมทองก็ไม่มีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่กลับเอ่ยออกมาช้า ๆ “อย่างแรกเลย สัดส่วนของเงินที่ใช้ซื้อค่าพลังนั้นมีฐานเป็นสิบ จะมีการจ่ายเงินทุกสิบครั้งและทุกค่าพลังจะเพิ่มขึ้นทีละศูนย์​จุดหนึ่งจำนวนสิบครั้ง อย่างเช่นว่าตอนนี้ค่าพลังของนายท่านมีค่าต่ำกว่าหนึ่ง และทุก ๆ ศูนย์จุดหนึ่งของการซื้อค่าพลังจะต้องใช้เงินหนึ่งหมื่นหยวน เมื่อพลังนายท่านมีค่าถึงหนึ่ง ทุกการซื้อศูนย์จุดหนึ่งของค่าพลังจะต้องใช้เงินหนึ่งแสนหยวน เช่นเดียวกันกับเมื่อตอนที่ค่าพลังของนายท่านเกินสิบ การซื้อศูนย์จุดหนึ่งของค่าพลังจะต้องใช้เงินหนึ่งล้านหยวน เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้านายท่านต้องการจะเป็นบุคคลผู้แข็งแกร่งจริง ๆ จำนวนเงินที่ต้องการนับว่ามหาศาลไม่น้อย”

หลังหยุดไปครู่หนึ่ง หญิงสาวผมทองก็เอ่ยต่อ “นอกจากนั้น ศักยภาพของทุกคนยังมีจำกัด เมื่อใดที่นายท่านมีศักยภาพสูงสุด ท่านจะไม่อาจซื้อค่าพลังเพิ่มได้อีก จากการทดสอบของข้ากับนายท่านแล้ว ค่าพลังของนายท่านมีค่าเพียงสามจุดสองเท่านั้น กล่าวได้ว่านายท่านสามารถเพิ่มค่าพลังของเขาได้ถึงแค่เพียงสามจุดสอง และพลังนี้ก็เป็นจุดสมมูลที่มนุษย์อย่างนายท่านมี ไม่ต้องกล่าวถึงจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ในโรงเรียนมัธยมเลย”

คำพูดของหญิงสาวผมทองไม่ได้สะกิดใจเซี่ยเย่แต่เขากลับสงบนิ่งและเอ่ยขึ้น “คุณบอกว่าฉันซื้อทุกอย่างที่นี่ได้ขอแค่จ่ายเงินใช่ไหม ฉันคิดว่ามันน่าจะมีทางแก้เกี่ยวกับศักยภาพของฉันสิน่า”

“ฉลาดเจ้าค่ะ” หญิงสาวผมทองมองเซี่ยเย่ด้วยความชื่นชมและเอ่ยขึ้น “ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ยากนักที่จะปรับปรุงศักยภาพของนายท่าน ท่านเพียงต้องจ่ายสองหมื่นหยวนเพื่อเปิดโหมดโกงพรสวรรค์ของระบบเงินตรา จากนั้นท่านก็จะสามารถสูบเอาศักยภาพของคนอื่นมาได้ ศักยภาพของค่าพลังท่านก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล”

“สองหมื่นหยวนนี่ก็เปิดใช้งานกลโกงแบบนั้นได้แล้วเหรอ?” เซี่ยเย่เอ่ยด้วยความประหลาดใจ

“ฮี่ ๆ ถือว่าถูกมากนะเจ้าคะ ความจริงแล้วการใช้งานนี้มันติดมากับระบบอยู่แล้วล่ะ เดิมทีมันก็ฟรีอยู่ แต่ในการที่จะทำให้นายท่านไม่รู้สึกว่ามันได้มาง่ายเกินไป ข้าเลยสร้างแผนให้ต้องจ่ายสองหมื่นหยวนน่ะค่ะ ท่านรู้ไหมว่าสิ่งที่ได้มาง่ายเกินไปมันไม่นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าหรอก” คำตอบของหญิงสาวผมทองทำให้เซี่ยเย่ไร้คำพูดไปครู่หนึ่ง เขาไม่คิดว่าจะหลงกลกับเรื่องเล็กน้อย โชคดีที่การตกหลุมพรางนั้นเสียเงินในจำนวนไม่มากนัก และเซี่ยเย่ก็ไม่ใช่คนขี้เหนียวขนาดนั้น

“งั้นตอนนี้ก็เพิ่มค่าพลังให้ฉันเป็นหนึ่งเลย”

มันเป็นการตัดสินใจที่เซี่ยเย่ครุ่นคิดแล้ว ตอนนี้เขามีเงินอยู่ในมือไม่มากนัก มันไม่ใช่เรื่องเกินตัวหากจะจ่ายเจ็ดหมื่นหยวนไปเพื่อเพิ่มค่าพลังให้ได้หนึ่ง แต่หลังจากนั้นจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนเพื่อเพิ่มค่าพลังทีละศูนย์จุดหนึ่ง แม้จะใช้เงินที่มีอยู่จำนวนสองแสนหกหมื่นหยวนไป มันก็เพิ่มค่าพลังได้แค่ศูนย์จุดสองหก ซึ่งนับว่าไม่ส่งผลกระทบมากนัก

“ตามที่นายท่านประสงค์ค่ะ”

หญิงสาวผมทองพึมพำ จากนั้นเซี่ยเย่ก็รู้สึกถึงเพียงกระแสไฟฟ้าที่แล่นกระตุ้นไปทั่วร่าง เขาพลันลืมตาตื่นและลุกขึ้นจากเตียง

“เป็นแค่ความฝันหรือเปล่าเนี่ย?” เซี่ยเย่ตื่นขึ้นด้วยความสับสนเล็กน้อย เขากางมือทั้งคู่ออกและสะบัดอย่างแรง

ฮึ่มมม - ทันทีที่เซี่ยเย่กำหมัด แสงสีฟ้าอ่อนก็ฉายในหมัดของเขา แววตื่นเต้นฉายวูบหนึ่งในดวงตาของเซี่ยเย่

“นี่คือพลังปราณ มันเป็นของที่เหล่าจอมยุทธ์มี ตอนนี้มันไม่ใช่ความฝันแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง”

“เป็นอย่างไรบ้างคะ? ตอนนี้นายท่านเป็นจอมยุทธ์แล้ว ท่านจะรู้สึกได้ถึงพลังปราณในร่างของท่าน”

เสียงของหญิงสาวผมทองดังในใจของเซี่ยเย่ซึ่งข่มความตื่นเต้นของเซี่ยเย่ลง

“เธอพูดกับฉันตรงๆ ได้ด้วยเหรอ? ดีนะเนี่ยที่คิดว่าเธอไม่ต้องเข้าไปในความฝันของฉันแล้ว” เซี่ยเย่ยิ้ม

“ตอนนี้ค่าพลังของนายท่านเป็นหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงพลังปราณในร่างท่าน แต่นี่ก็ยังไม่พอ นายท่านต้องรู้ว่าค่าพลังไม่ได้แสดงถึงความสามารถในกา่รต่อสู้ ซึ่งต้องใช้ทักษะในการดึงพลังความแข็งแกร่งออกมา เอาอย่างนี้ไหมคะ? ท่านต้องการซื้อเคล็ดวิชากังฟูจากข้าไหม?” เสียงของหญิงสาวผมทองมีแววยั่วเย้าปนอยู่

แม้จะรู้ว่าหญิงสาวผมทองกำลังพยายามรีดไถเงินจากเขา เซี่ยเย่ก็ไม่ปฏิเสธ เขาเอ่ยตรง ๆ “ตอนนี้ฉันมีเงินเพียงสองแสนหกหมื่นหยวน ฉันไม่อาจซื้อทักษะแข็งแกร่งแบบนั้นได้หรอก ถ้าเธอมีคำแนะนำอะไรก็เอ่ยมาได้ตรง ๆ เลย”

“อืม นายท่านช่างเจียมตนนักเจ้าค่ะ ความเเข็งแกร่งของจอมยุทธ์ไม่มีอะไรมากนอกจากสามอย่างนี้คือ พลังโจมตี ความเร็ว และพลังป้องกัน คำแนะนำของข้าก็คือนายท่านควรเลือกทักษะวิชาตัวเบาเพื่อเพิ่มความเร็วก่อน อย่างน้อยก็รับประกันความปลอดภัยของนายท่านได้ ถ้าสู้เขาไม่ได้ก็หนีได้” หญิงสาวผมทองเอ่ยต่อ “เห? เลือกได้ดี นี่คือวิชาตัวเบาที่เรียกว่า วิชาเก้าดาราแห่งหลิงซู มันไม่เพียงแต่จะรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่ยังมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งอีกด้วยเจ้าค่ะ ระดับแรกของวิชานี้จ่ายเพียงสองแสนหยวนหากจะเรียนรู้มันโดยตรง”

“สองแสนงั้นหรือ? บวกกับการเปิดใช้งานระบบดูดพลัง ฉันก็จะเหลือแค่สี่หมื่นหยวนในที่สุด แต่ไม่มีทางเลือกแล้วนี่ เพื่อพลังยุทธ์แล้วทุกอย่างก็นับว่าคุ้มค่า” เซี่ยเย่เริ่มตัดสินใจ แล้วก็พลันเอ่ยขึ้น “ส่งวิชา เก้าดาราแห่งหลิงซูมาให้ฉัน และเปิดการใช้งานระบบดูดพลังด้วย”

“ตึ้ง ๆ ได้รับเงินแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้นายท่านเริ่มรับมันได้เลย”

สิ้นเสียงของหญิงสาวผมทอง จิตของเซี่ยเย่ก็ได้รับข้อมูลวิชาเก้าดาราแห่งหลิงซูระดับแรกไปเรียบร้อย

ผู้สร้างวิชาเก้าดาราแห่งหลิงซูนั้นไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ทักษะวิชาทั้งหมดมีเพียงเก้าขั้น แต่หลังจากใช้มันแล้ว ไม่เพียงแต่มันจะประหลาดพิกล แต่หลังจากจบการฝึกปรือในแต่ละขั้น ผู้ฝึกก็จะสามารถเพิ่มพลังยุทธ์ได้เป็นสองเท่า หลังจบการศึกษาทั้งเก้าระดับแล้วก็จะมีพลังยุทธ์เพิ่มขึ้นสิบเท่า แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว

“แต่เก้าดารานี้มีเพียงข้อมูลในระดับแรกเท่านั้น อีกแปดระดับต่อมาจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นแน่ ๆ” เซี่ยเย่คิด จากนั้นก็เริ่มทำความเข้าใจวิชา เก้าดาราแห่งหลิงซู ระดับแรกอย่างช้า ๆ

“ฝีเท้าชุดนี้มาจากความลึกลับของจักระทั้งเก้า มันสามารถเคลื่อนความว่างเปล่าได้ด้วยพลังแห่งดวงดาว มันสามารถทลายความว่างเปล่าได้ในขั้นเดียว แต่ตอนนี้ขั้นแรกของมันห่างไกลจากระดับสุขาวดีนัก”

“แต่เพียงแค่ระดับแรกก็เพิ่มความเร็วของฉันและทำให้ฉันได้พลังในทันทีแล้ว เมื่อไหร่ที่ฉันได้สู้ ฉันก็จะนำเหนือทุกอย่าง นับว่าเป็นเรื่องดียิ่ง”

“อ้อจริงสิ เธอถือว่าเป็นอาจารย์ฉัน ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย” เซี่ยเย่ถามหญิงสาวผมทองอย่างใคร่รู้

หญิงสาวผมทองหรี่ตาลงและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะเป็นการดีถ้านายท่านจะเรียกข้าว่าจินตั๋วเจ้าค่ะ”

ฉันไม่อยากเรียกเธอด้วยชื่อเต็มเลย ชื่อหญิงสาวฟังดูแล้วช่างไม่ไพเราะ เป็นสาวสวยขนาดนี้แต่มีชื่อนี้เนี่ยนะ เซี่ยเย่คิดแล้วก็ตัดสินใจเรียกนางว่าตั่วตั๋ว เขาพลันรู้สึกนอนไม่หลับ และกระโดดออกจากเตียงด้วยความตื่นเต้นไปยังสวนหย่อมและเริ่มฝึกวรยุทธ์ท่ามกลางแสงจันทร์ทอนวล

สวนหย่อมเล็ก ๆ ถูกสร้างขึ้นในตระกูลยามที่บิดามารดาของเซี่ยเย่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้มันกลับถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการดูแลจากคนอื่นๆ มองดูวัชพืชที่เติบโตหนาแน่นในสวนแล้วเซี่ยเย่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ จากนั้นก็กำหมัดแน่น

“ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป!”

ในสวนหย่อมเล็ก ๆ เซี่ยเย่เริ่มฝึกวรยุทธ์ในสวนขณะนึกถึงความลึกลับของวิชาเก้าดารา ในตอนแรกเซี่ยเย่รู้สึกแปลกและยากที่จะเข้าใจในวิชานี้ แต่อาจเป็นเพราะเคล็ดวิชานี้ได้ถ่ายทอดโดยตรงเข้าไปในสมองด้วยระบบเงินตราแล้ว ความลึกลับของเคล็ดวิชานี้จึงค่อย ๆ กระจ่างขึ้นในใจของเขา

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง สวนหย่อมก็เต็มไปด้วยร่างของเซี่ยเย่ที่แวบไปมาราวกับวิญญาณ แม้ว่าฝีเท้าแบบนี้จะรวดเร็ว แต่มันก็ทำให้ผู้คนเงียบกริบได้