ตอนที่แล้วGE380 ทดสอบเพื่อเป็นผู้อาวุโสแห่งวิหารพิรุณ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE382 ถานไท่เว่ยหยู [ฟรี]

GE381 เจตจำนงค์ที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น [ฟรี]


ภายในวังไผ่ฟ้ามีสถานพิเศษนับร้อยแห่งที่ถูกจัดไว้สำหรับดื่มสุรา ผู้ที่เข้าไปยังบริเวณนั้นได้ คือผู้ที่มีป้ายวังไผ่ฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ

นอกจากนั้นยังมีเพิงเล็กๆระหว่างทางที่จัดเป็นซุ้มสุรา ให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรได้ดื่มกินและพูดคุย

ค่าสุราที่ทุกคนต้องจ่ายก่อนเข้ามาดื่มนั้นจะกลายเป็นรายได้ของวังไผ่ฟ้า และกระจายให้กับศิษย์ของพวกมันในภายหลัง

บริเวณที่จัดให้ดื่มสุรานั้น มีการแสดงการต้มสุราของเหล่าศิษย์นิกายเพื่อฝึกฝนและเรียกลูกค้า วิธีนี้นอกจากจะได้ฝึกฝนเหล่าศิษย์ในการทำสุราแล้ว ยังสร้างรายได้ให้วังไผ่ฟ้าเป็นจำนวนมาก

หนิงฝานเดินท่องไปตามเส้นทาง สูดกลิ่นสุรานานาชนิด จิตใจที่ว้าวุ่นจากการสังหารสงบ สมกับคำกล่าวของหานหยวนจี๋ว่า สตรีและสุราคือเครื่องผ่อนคลายจิตใจ

ระหว่างทางมีสตรีเยาว์วัยจำนวนมากส่งสายตาให้กับผู้ที่เที่ยวชมงาน บุรุษจำนวนมากที่เห็นสายตาพวกนางล้วนไปตามคำเชื้อเชิญ มีเพียงหนิงฝานที่ยังสงบใจและยิ้มตอบพวกนางเท่านั้น

หนิงฝานแวะตามซุ้มต่างๆที่จัดไว้ ชิมสุราเล็กน้อยเพื่อรับรสชาติ ก่อนจะเดินไปยังซุ้มอื่นๆ

สุราที่เขาดื่มส่วนใหญ่เป็นสุราระดับ 1 ไม่มีสมุนไพรผสม

เช่าคงที่ติดตามหนิงฝานไม่พอใจ มันติดตามก็หวังจะได้ดื่มสุราระดับ 2 เพื่ออาศัยฤทธิ์สุรา ช่วยให้ทะลวงจุดตีบตันจากขอบเขตประสาณวิญญาณขั้นกลางไปยังขั้นสูง

แม้มันจะนำหนิงฝานไปยังบริเวณที่มีสุราระดับสูง แต่หนิงฝานราวกับรู้เส้นทาง และเลือกเดินไปยังบริเวณที่มีสุราระดับ 1 เท่านั้น

หรือผู้เยาว์ผู้นี้จะรู้เส้นทาง? ไม่...ผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรที่มาวังไผ่ฟ้าเป็นครั้งแรกไม่มีทางรู้เส้นทางเด็ดขาด

“สหายน้อยหยุนฝานน่าจะเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก เหตุที่รู้เส้นทางเช่นนี้มีเพียงแต่ต้องใช้สัมผัสเทพสำรวจโดยรอบ… หรือหยุนฝานจะทำเช่นนั้นจริงๆ เป็นไปไม่ได้!”

แม้จะคิดเช่นนั้น แต่มันก็ยังไร้เหตุผล การแผ่สัมผัสเทพสำรวจโดยรอบนั้นไม่ผิดกฏ แต่ผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรยังไม่มีสัมผัสเทพ อีกอย่างที่นี่มีการจำกัดสัมผัสเทพไว้ ว่าหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ สัมผัสเทพจะไม่ทรงพลังพอที่จะสำรวจที่นี่ได้

“ช่างเถอะ… หากหยุนฝานอยากดื่มสุราระดับ 1 ข้าก็คงต้องดื่มเป็นเพื่อน บางทีอาจได้หยกสวรรค์พิเศษก็ได้”

ส่วนใหญ่เช่าคงมาร่วมดื่มก็เพื่อหวังจะหลอกเอาหยกสวรค์ แต่ดูยามนี้มันจะเปลี่ยนไป

มันไม่ได้สนว่าจะเป็นสุราชนิดไหนระดับใด แค่ติดตามหนิงฝานไปร่ำสุราก็เท่านั้น

หนิงฝานเองก็ไม่ได้ใส่ใจเช่าคง ยามนี้ เขากำลังเพลิดเพลินกับรสสุราด้วยจิตใจที่สงบ

หยิบจอกสุราดื่ม สุราไหลผ่านลำคอให้ความรู้สึกร้อนผ่าว คนทั่วไปมักจะดื่มยามเศร้าหมอง เพื่อให้ฤทธิ์สุราดับความเศร้าเหล่านั้น

แต่ในโอกาสเฉลิมฉลองมีความสุข ผู้คนก็ร่ำสุราเช่นกัน

เหตุใดบางคนถึงร่ำสุราดับทุกข์… เหตุใดบางคนถึงร่ำสุราหลายจอกโดยที่ตนเองไม่เมา… เหตุใดบางคนถึงร่ำเพื่อดับความเศร้า

หนิงฝานขบคิดถึงสิ่งที่แฝงอยู่ในสุรา แท้จริงแล้วมันมีสิ่งใดซ่อนอยู่ เหตุใดมันถึงได้สำคัญขนาดนั้น

สุราไม่สามารถเปลี่ยนคนได้ สิ่งที่เปลี่ยนผู้คนได้ก็มีแต่ตนเองเท่านั้น

หากดื่มมากไปก็เมา แต่เหตุใดผู้เชี่ยวชาญดื่มถึงไม่เมา?

หนิงฝานจ้องมองสุราในจอกที่ถือ ยิ่งขบคิดยิ่งเข้าใจ ยิ่งขบคิดยิ่งทำให้เจตจำนงค์เทพของเขากระจ่างชัด

การที่เจตจำนงค์เทพจะยกระดับได้นั้น มีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน

เมื่อยามที่อยู่เกาะดารา หนิงฝานทำให้เจตจำนงค์เทพ อสูร และปีศาจยกระดับ จนก้าวหน้าไปไม่น้อย

ในวิหารสาบสูญ หนิงฝานผสานเจตจำนงค์ทั้ง 3 เข้าด้วยกัน กลับคืนสู่จุดเริ่มต้นของพวกมัน

เจตจำนงค์พิรุณระดับ 8… เจตจำนงค์ปีศาจภูเขาทมิฬระดับ 6 และเจตจำนงค์อสูรฟู่ลี่ระดับ 1

เมื่อผสานทั้งสามเข้าด้วยกัน… สิ่งที่ได้คืออะไร? ระดับไหน? หนิงฝานก็ยังไม่รู้

สุราหนึ่งจอกในมือราวกับจะดึงเอาสิ่งที่อยู่ภายในของหนิงฝานออกมา มันแฝงด้วยความเข้าใจของเจตจำนงค์ชนิดใหม่ ไม่อย่างนั้น เหตุใดแค่ดื่มสุราจึงทำให้ขบคิดมากขนาดนั้น

“เจตจำนงค์เทพใหม่ของข้าคืออะไร? ระดับไหน?”

“สุราจอกนี้มีอะไรแฝงอยู่ เหตุใดข้าถึงสัมผัสมันได้?”

“ข้าคิดไม่ออกจริงๆ...”

หนิงฝานดื่มสุราในจอก จอกแล้วจอกเล่า ซุ้มแล้วซุ้มเล่าอยู่เช่นนั้น แต่กลับต้องผิดหวัง

สิ่งที่เขาใฝ่หาไม่ใช่สุรา สุราไม่ได้ช่วยให้เจตจำนงค์เทพของเขายกระดับ หรือทำความเข้าใจ

ความผิดหวังและล้มเหลวในการหาความหมายเกาะกุมในใจ ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ยามที่ตนยังเป็นเพียงมนุษย์ ถูกเอาเปรียบเหยียดหยามเมื่อยามอยู่ในตระกูลหนิง

“เหตุใดเหตุการณ์ในอดีตถึงผุดขึ้นในความคิดข้า...” หนิงฝานขมวดคิ้ว

เช่าคงที่ตามหนิงฝานเองก็ประหลาดใจ มันไม่รู้ว่าเหตุใดหนิงฝานจึงหยุดดื่ม หรือหนิงฝานกำลังมองหาสุราระดับสูง?

ในขณะที่เช่าคงขบคิดอยู่นั้น กลับมีเสียงกระอักโลหิตดังขึ้น

“สุรานี่...”

หนิงฝานถือจอกสุรา จิบเข้าไปเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นมันกลับทำให้เขากระอักโลหิต

เช่าคงแตกตื่น เมื่อครู่ยังเห็นหนิงฝานดื่มอยู่ดีๆ เหตุใดถึงกระอักโลหิต มันเร่งเดินเข้าไปยังซุ้มที่หนิงฝานดื่ม จ้องมองสุราด้วยสายตาเย็น

สุราชนิดนั้นคือสุราระดับหนึ่ง มีสมุนไพรอยู่เบาบางมากๆ ฤทธิ์ไม่ได้รุนแรง เหตุใดถึงกระอักโลหิต

“หรือสุราที่สหายน้อยหยุนดื่มจะมีพิษ! หรือฤทธิ์สุราจะรุนแรงเกินไปจนเป็นอันตรายกับเส้นลมปราณ? กลิ่นของมันก็ไม่ได้มีสมุนไพรผสม… หรือจะมีพิษจริงๆ!”

เช่าคงลองดมดลิ่นสุราดีๆ แต่ยิ่งดมมันยิ่งรู้สึกแปลกใจ

สุราชนิดนี้เป็นเพียงสุราธรรมดา ไร้ซึ่งสมุนไพรเจือปน พิษเองก็ไม่มี

ยิ่งขบคิดยิ่งไม่พบเหตุที่จะทำให้หนิงฝานกระอักโลหิต

“เจ้าเป็นคนต้มสุรานี่ใช่มั้ย? บอกมาว่าเหตุใดมันถึงทำให้สหายข้ากระอักโลหิต?”

เช่าคงจ้องมองคนต้มสุราด้วยสายตาเย็นชา ผู้ที่ต้มเป็นเพียงผู้เยาว์ในขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 3

เช่าคงคิดว่าหากกล่าวถามคนต้มสุราคงได้เรื่องมากกว่า ที่สำคัญ อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เยาว์ขอบเขตเปิดเส้นชีพจร ย่อมไม่กล้าโกหกมัน

ผู้เยาว์คนนั้นหน้าซีดด้วยความกลัว มันต้มสุราตามวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างครบถ้วน แม้จะไม่ได้ล้ำเลิศเทียบเท่าสุราระดับ 1 แต่ย่อมไม่เป็นพิษอย่างแน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนที่ดื่มกระอักโลหิต

ผู้เยาว์คนนั้นรู้ดีว่า หากมันไม่ให้คำตอบที่ทำให้เช่าคงพอใจ มันคงไม่รอดแน่

เช่าคงกล่าวอย่างชัดเจนว่าเหตุใดสุราถึงทำให้สหายของมันกระอักโลหิต… ผู้เยาว์เปิดเส้นชีพจรมีสหายเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แบบนั้นแล้วใครจะกล้าแตะ

“ท่านเช่า… ข้าไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นสหายของท่านถึงได้กระอักโลหิต แต่เพื่อไถ่โทษข้าจะชดใช้ให้...”

“ดี! ชดใช้มาแล้วข้าจะไม่เอาความ!” เช่าคงหันมองหนิงฝานที่กำลังเช็ดคราบโลหิต เมื่อเห็นว่าหนิงฝานไม่เป็นอะไร มันก็ผ่อนคลาย และไม่อยากทำให้เรื่องราวลุกลามบานปลาย

“ข้าต้องขอโทษสหายของท่านจริงๆ นี่หยกสวรรค์ถือเป็นสิ่งแทนคำขอโทษของข้า...”

ผู้เยาว์คนนั้นหวาดกลัว เช่าคงเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ เป็นผู้ดูแลศิษย์แห่งวังไผ่ฟ้า มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลศิษย์โดยตรง

มันคิดว่าหยกสวรรค์สามารถชดเชยได้ เพียงแต่มันเองก็มีหยกสวรรค์ไม่มาก

“แค่ 10 หยกสวรรค์เนี่ยนะ?” มันอุตส่าห์ให้โอกาสได้ไถ่โทษ เหตุใดผู้เยาว์เบื้องหน้าถึงได้ตระหนี่ขนาดนี้

สุราของมันทำให้หนิงฝานกระอักโลหิต แต่กลับจ่ายแค่ 10 หยกสวรรค์เพื่อไถ่โทษ?

หยุนฝานผู้นี้แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจร แต่สามารถจ่ายหยกสวรรค์จำนวนมากได้ แค่ 10 หยกสวรรค์ของมันจะไปมีค่าอะไร?

“จ่ายมา 100 หยกสวรรค์” เช่าคงกล่าวอย่างเย็นชา

“ข้าไม่มีจ่ายหรอก! 100 หยกสวรรค์เท่าหยกสวรรค์ที่ทั้งตระกูลข้ามี ผู้อาวุโสเห็นใจข้าด้วย...” ผู้เยาว์คนนั้นขอความเมตตา

“ฮึ่ม!” เช่าคงโกรธ มันอุตส่าห์ให้โอกาส แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องร้ายแรง มันรับหยกสวรรค์มาแล้ว 1000 แต่กลับปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นได้

“เจ้ามานี่! สหายข้ากระอักโลหิตไปมากเท่าไหร่ เจ้าก็ต้องกระอักโลหิตมากเท่านั้น!” เช่าคงพับแขนอาภรณ์ราวกับเตรียมจะทุบตีผู้เยาว์คนนั้น

หนิงฝานที่เฝ้ามองส่ายหน้า เช่าคงคิดจะลงโทษผู้เยาว์คนนี้เพราะคิดว่าสุราที่คนผู้นั้นต้มทำให้เขากระอักโลหิต

“สหายเต๋าเช่าใจเย็นก่อน สุรานี่ไม่ได้มีพิษอะไรหรอก ข้ากระอักโลหิตด้วยสาเหตุอื่น ไม่เกี่ยวกับเขาแม้แต่น้อย”

หนิงฝานคว้าแขนเช่าคงไว้ เช่าคงรู้สึกราวกับมันไร้เรี่ยวแรงทันที มันเป็นผู้ที่ทรงพลังในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้มันประหลาดใจ

“สหายน้อยหยุน เจ้าไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ?”

“อืม… นี่เป็นสุราที่ดี ข้าต้องการเพิ่ม เจ้าขายเท่าไหร่?” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว

“เจ้าไม่กลัวกระอักโลหิตอีกเหรอ?” เช่าคงประหลาดใจ

“ไม่หรอก โลหิตเมื่อครู่เป็นโลหิตที่คั่งค้างอยู่ในร่างกายข้ามานาน โชคดีที่เอามันออกมาได้ และโชคดีที่สุราจอกเมื่อครู่ทำให้ข้าเข้าใจบางสิ่ง”

สุราทั่วไปไร้ความพิเศษ แต่กลับทำให้หนิงฝานตระหนักรู้ถึงบางสิ่ง

“ข้าดีใจที่ท่านไม่เป็นอะไร… สุรานี้ข้าต้มเอง ราคาทั้งหมดแค่ 200 หยกสวรรค์เท่านั้น แต่ว่า… ข้าไม่กล้ารับหยกสวรรค์กับท่านหรอก ท่านเป็นสหายของผู้อาวุโสเช่า สุราเหล่านี้ถือว่าข้าให้ท่านเป็นของขวัญก็แล้วกัน”

ผู้เยาว์คนนั้นกลัวเช่าคงมาก จนไม่กล้าเก็บหยกสวรรค์กับหนิงฝาน

“ไม่ได้หรอก… ข้าหยุนฝานไม่เคยรับสิ่งใดโดยไม่ตอบแทน สุราของเจ้าคือสุราที่ดี เหมือนสุราที่มาจากบ้านเกิดของข้า… เจ้าเป็นคนแคว้นหวู่หรือเปล่า?” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าวถาม

“ใช่แล้ว ข้าเป็นคนของแคว้นหวู่”

“อืม… ข้าไม่เคยลืมรสชาติของสุราแคว้นหวู่ มันติดตรึงอยู่ในใจข้า และทำให้ข้าหวนนึกถึงบางสิ่งที่ข้าลืมเลือนไป… ในโลกใบนี้มีเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้น มีบางเรื่องที่ข้าไม่อาจปล่อยวาง จนทำให้โลหิตเมื่อครู่ถูกสะกดเอาไว้ในใจข้า แต่เมื่อได้ดื่มสุราของเจ้าเข้าไป กลับช่วยขับโลหิตนั่นออกมาได้… ความแค้นไม่อาจปล่อยวาง สุราเองก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกเหล่านั้นจางหายไป แต่มันกลับทำให้ความรู้สึกเหล่านั้นชัดขึ้น”

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้เช่าคงและผู้เยาว์ตกตะลึงและสับสน หนิงฝานนำขวดโอสถเปิดเส้นชีพจรออกมาแล้วยื่นให้ผู้เยาว์คนนั้น

“ในเมื่อเจ้ารับหยกสวรรค์ไม่ได้ ข้าก็มอบโอสถให้เจ้าแทนแล้วกัน… เจ้ายังอ่อนแออยู่มาก ถูกข่มเหงรังแกได้ง่าย... ชีวิตของผู้ฝึกตนนั้น ผู้ใดแข็งแกร่งกว่าผู้นั้นย่อมเป็นผู้ที่ถูกต้องเสมอ”

เมื่อมอบขวดโอสถให้ผู้เยาว์คนนั้นแล้ว หนิงฝานก็นำสุราทั้งหมดแล้วจากไป ทิ้งให้เช่าคงตกตะลึง

โอสถเปิดเส้นชีพจร! หนิงฝานมอบโอสถให้ทั้งขวด ซึ่งในนั้นอย่างน้อยต้องมีโอสถ 20 เม็ด!

ราคาโอสถนั่นอย่างต่ำสมควรขายได้ 1000 หยกสวรรค์

โอสถล้ำค่าแลกกับสุราไร้ระดับ นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่สมเหตุสมผล

“สุรุ่ยสุร่ายจริงๆ! ใช้หยกสวรรค์ได้สุรุ่ยสุร่ายมาก! ไม่รู้หรือไงว่าโอสถเปิดเส้นชีพจรล้ำค่ามาก แม้เด็กนั่นไม่ได้แข็งแกร่ง แต่สมควรมาจากตระกูลที่ไม่ธรรมดา ถึงได้กล้ามอบโอสถล้ำค่าเช่นนั้นได้โดยไม่เสียดาย หรือจะมาจากตระกูลที่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ”

เช่าคงสูดหายใจลึกพลางจ้องมองแผ่นหลังหนิงฝานและเชื่อมันคิดไม่ผิด

เช่าคงหันมองผู้เยาว์ที่ต้มสุราพลางกล่าว “โชคดีที่สหายข้าไม่เป็นอะไร! ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครและต้องเก็บไว้เป็นความลับ… ต้มสุราต่อไปได้แล้ว”

“ขอรับ ผู้เยาว์จะไม่บอกใครเด็ดขาด” ผู้เยาว์คนนั้นกำขวดโอสถไว้แน่น และพยายามข่มความตื่นเต้นลง

เช่าคงแค่นเสียงก่อนจะเร่งเดินตามหนิงฝานไป

หนิงฝานเดินชิมสุราระดับ 1 ทั้งหมด เช่าคงที่ติดตามหนิงฝานอยู่นั้นแทบอยากจะร่ำไห้ มันคิดว่าจะได้ร่ำสุราระดับ 2 จนอิ่มหนำใจ แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

“สหายน้อย ยังเหลือสุราที่เจ้ายังไม่ได้ลิ้มรสอีกมาก… ข้ารู้จักสุราระดับ 2 ดีๆที่อยากให้เจ้าได้ลอง หากเจ้าถูกใจจะซื้อกลับไปด้วย หรือจะซื้อแบ่งข้าก็ไม่เกี่ยง ข้ารู้จักคนในนั้นดี พวกเขาย่อมลดราคาให้เจ้าได้” เช่าคงพยายามโน้มน้าวใจหนิงฝาน

“ไม่เป็นไร แค่นี้ข้าก็คิดว่าดีแล้ว”

“เห้อ...” เช่าคงถอนหายใจ

ดูเหมือนหนิงฝานจะคอแข็งกว่าที่มันคิดมาก แต่บางทีการเช่นนั้นก็ดูจะไม่ถูกเสียทีเดียว แต่บอกว่าหนิงฝานเป็นพวกที่ไม่รู้จักเมา และดื่มสุราราวกับเททิ้ง

มันคิดอยากจะปล่อยให้หนิงฝานไปดื่มคนเดียว ส่วนมันจะไปดื่มสุราระดับ 2 ให้หนำใจ แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับห่วงว่าหนิงฝานจะถูกผู้อื่นหลอก

“เห้อ… ดูท่าข้าคงต้องคอยตามสหายน้อยหยุนไม่ให้ถูกคนอื่นหลอกเอา… เรื่องสุราระดับ 2 คงต้องเอาไว้ก่อน”

เช่าคังไม่มีทางรู้ว่าหนิงฝานคิดอะไร หลังจากได้ชิมสุราระดับ 1 ทั้งหมดแล้ว หนิงฝานถูกใจสุราของผู้เยาว์คนนั้นมากที่สุด เขานำเหยือกออกมาใบหนึ่ง เทสุราที่ได้มาลงไปแล้วดื่มกินอย่างมีความสุข

“สุราเลิศรส” หนิงฝานกล่าว

“สุราที่เจ้าดื่มไม่ได้ดีเลิศอะไรขนาดนั้นหรอก...” เช่าคงกล่าว

สำหรับมันแล้ว สุราที่ดีคือต้องมีโอสถชั้นยอดผสมอยู่ แต่สำหรับหนิงฝาน สุราที่ดีคือสุราแท้โดยไม่มีสิ่งใดเจือปน

สำหรับหนิงฝานแล้วสุราของแคว้นหวู่ทำให้ความคับแค้นที่สะกดไว้ในใจมานานเผยออกมา ทำให้จิตใจและความคิดของเขากระจ่างใสขึ้น

“สุราแคว้นหวู่ทำให้ข้านึกถึงเรื่องในอดีต ทำให้ข้าขับความคับข้องใจออกมา สะกดจิตใจที่ว่าวุ่น ชะล้างความหมองเศร้า คงไว้เพียงความสุข… แม้จะมีคำกล่าวว่าร่ำสุราเพื่อลืมความทุกข์ แต่จริงๆไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะไม่มีสิ่งที่เราจะลืมได้อย่างสมบูรณ์”

“ถึงข้าจะลบความทรงจำที่มีแต่โลหิตและซากศพไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็แช่แข็งมันไว้ในใจข้า… แช่แข็ง… ความทรงจำที่ไม่อาจลืม...”

“ความทรงจำ! เจตจำนงค์เทพของข้าคือความทรงจำ!”

ในที่สุดสุราก็ช่วยให้เขาเข้าใจในเจตจำนงค์เทพของตน

การผสานกันของเจตจำนงค์ทั้งสาม ทำให้เขาได้เจตจำนงค์ใหม่ คือเจตจำนงค์ความทรงจำ! เป็นเจตจำนงค์ที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง

พิรุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตน ภูเขาสัมผัสจับต้องได้ แต่ความทรงจำ… คือสิ่งที่รู้แต่ไม่อาจสัมผัสได้ ราวกับเป็นการยกระดับไปสู่ความว่างเปล่า เป็นรากฐานของการก้าวไปยังขอบเขตเซียน

เจตจำนงค์พิรุณสามารถควบคุมสภาพอากาศ เจตจำนงค์ภูเขาปีศาจสามารถหยิบยืมพลังจากภูเขา

แต่เจตจำนงค์ความทรงจำ คือการควบคุมอารมณ์และความทรงจำของศัตรู ทำให้สับสนและพ่ายแพ้ไป

หนิงฝานเดินวนรอบซุ้มสุราระดับ 1 ที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เมินหนี สำหรับหนิงฝานแล้ว สุราธรรมดาเหล่านี้ล้ำค่ามาก เพราะมันช่วยทำให้ความทรงจำของเขาเด่นชัดขึ้น

ความรัก… ความเกลียดชัง… การเข่นฆ่าสังหาร… ทุกสิ่งปรากฏขึ้นในความคิดอย่างชัดเจน ทำให้เจตจำนงค์ความทรงจำของเขายกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากเจตจำนงค์เทพขั้นสูง มุ่งไปสู่ขั้นสมบูรณ์แบบอย่างช้าๆ สำหรับหนิงฝานแล้วความทรงจำถือเป็นสมบัติล้ำค่า ถึงมันจะเป็นเพียงสิ่งธรรมดาสามัญสำหรับคนทั่วไปก็ตาม

หนิงฝานแค่อยากจะปกป้องครอบครัวของเขา จึงต้องมุ่งไปยังจุดสูงสุด

“สุราเหล่านี้เป็นสุราธรรมดาทั่วไป ข้าเองก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป แต่จิตใจที่ไม่ยอมของข้า ทำให้ข้าเหนือกว่าผู้ใด”

“เจตจำนงค์พิรุณ เจตจำนงค์ปีศาจภูเขาทมิฬ เจตจำนงค์อสูรฟู่ลี่… สามเจตจำนงค์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงไม่อาจผสานเข้ากัน แต่หากที่มันผสานเข้ากันได้เพราะความทรงจำของข้า… ความทรงจำที่ข้านึกถึงเมืองฉีเหม่ย สายลมและหิมะโปรยปราย ทำให้พวกมันทั้งสามผสานเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นเจตจำนงค์ใหม่ที่เหนือชั้นกว่า… เจตจำนงค์ความทรงจำ!”

“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เข้าใจเหตุใดมนุษย์ถึงได้ร่ำสุรา แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว...”

“แม้มนุษย์จะใช้สุรามอมเมาตน แต่ก็มอมเมาได้เพียงร่างกาย ไม่อาจมอมเมาจิตใจ… แม้ปราณจะปกป้องร่างกายได้ แต่ไม่สามารถปกป้องจิตใจ... หากจิตใจเจ็บปวด แม้ร่ำสุราก็ไม่ได้ช่วยอะไร เช่นนั้นแล้วจะร่ำสุราไปเพื่อสิ่งใด? ต่อให้ร่ำสุราจนตายก็ไม่มีทางหายเจ็บ แต่หากมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แม้ไม่พึ่งสุราก็ยังทนได้”

หนิงฝานดื่มสุราจอกสุดท้ายเข้าไปแล้วขับพิษสุราออกทั้งหมด เขาไม่อยากดื่มต่อ เขาเพียงเลือกที่จะลืมหรือไม่ลืม

ความรู้สึกและศัตรูคือสิ่งที่ไม่อาจลืม แต่นอกเหนือจากนี้เขาย่อมลืมได้

เช่าคังในยามนี้ได้รับผลกระทบบางอย่างจากหนิงฝาน และสิ่งนั้นคืออารมณ์ความรู้สึก

ยามนี้ ความทรงจำในอดีตได้ปรากฏในหัว จนทำให้มันจมลงสู่ความรู้เหล่านั้นอีกครั้ง

ยามเด็กมันกล่าวลาบิดามารดาเพื่อฝึกฝนวิชา แต่หลังจากนั้นไม่นาน บิดาและมารดาของมันก็ตายโดยที่มันเองก็ไม่ทราบ ความโศกเศร้าพรั่งพรูไม่อาจหยุดยั้ง ความต้องการในสุราเพื่อดับจิตใจที่เศร้าหมองปรากฏ

มันยกจอกสุราอย่างต่อเนื่องโดยไม่อาจควบคุม… หนิงฝานทำให้จิตใจของมันปั่นป่วน

แต่ไม่นานนัก จิตใจของมันราวกับถูกบางสิ่งเปลี่ยนไปอีกครั้ง ราวกับกำลังถูกใครบางคนควบคุม

มันไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดที่สามารถควบคุมความทรงจำและจิตใจได้

แม้วิชาอ่านความทรงจำ หรือวิชาทำลายความทรงจำจะทรงผลกระทบต่อความทรงจำ แต่ก็ไม่อาจใช้ควบคุมได้

นอกจากเต๋าแห่งสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่แล้วก็ไม่สมควรมีผู้ใดที่ควบคุมจิตใจและความทรงจำได้อีก

เช่าคงขบคิด บางทีผู้ที่เป็นต้นเหตุคือหนิงฝาน มันเริ่มเอะใจว่าหนิงฝานอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรเหมือนอย่างที่มันคิด

“สหายน้อยหยุน… หรือเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ! ไม่ใช่ขอบเขตเปิดเส้นชีพจรอย่างที่ข้าคิด?”

“ข้าก็คือข้า...” หนิงฝานชงักฝีเท้า แววตากระจ่างใส่ ถอนเจตจำนงค์ความคิด ยามนี้ อีกไม่นานเจตจำนงค์ของเขาจะทะลวงระดับไปอีกขั้น

เหตุที่เขายังไม่เร่งทะลวงระดับเจตจำนงค์ เพราะยามนี้มีผู้คนจำนวนมากขวางทาง

คนกลุ่มนั้นเป็นสตรีทั้งหมด 14 คน มี 2 คนที่โดดเด่น อีก 12 คนเป็นผู้ติดตาม

“พวกเจ้าถอยไปเดี๋ยวนี้! คุณหนูถานไท่จะดื่มสุราที่นี่!”

ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ 4 คนช่วยกันคนให้พวกนาง ทั้งสี่คนนั้นหันมองหนิงฝาน เมื่อเห็นว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจร และมีเช่าคังเป็นผู้ติดตาม ทั้งสี่คนนั้นจึงมองด้วยสายตาเย้ยหยัน

“เช่าคัง… แขกคนสำคัญของวังไผ่ฟ้ามา เจ้ารีบๆพาเด็กของเจ้าไปได้แล้ว!” ผู้ที่กล่าวมีนามว่ากงเหมา ลักษณะท่าทางดูเหมือนมันจะไม่ค่อยถูกกันกับเช่าคงเท่าไหร่นัก...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด