ตอนที่แล้วบทที่ 16 - นักสำรวจดันเจี้ยนสามารถจะตื่นขึ้นได้เหมือนกันงั้นหรอ? (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 - นักสำรวจดันเจี้ยนสามารถจะตื่นขึ้นได้เหมือนกันงั้นหรอ? (4)

บทที่ 17 - นักสำรวจดันเจี้ยนสามารถจะตื่นขึ้นได้เหมือนกันงั้นหรอ? (3)


บทที่ 17 - นักสำรวจดันเจี้ยนสามารถจะตื่นขึ้นได้เหมือนกันงั้นหรอ? (3)

สี่เดือนครึ่งหลังจากที่ดวงจันทร์สองดวงปรากฏ เหล่ามนอสเตอร์ผู้บุกรุกได้ถูกฆ่าและขับไล่ออกไปจากเมือง ในขณะเดียวกันก็มีการซ่อมแซมพื้นที่ๆถูกทำลายไปอย่างเต็มที่

ด้วยพวกผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีที่ทำงานกันมากขึ้น โลกก็ดูเหมือนจะฟื้นคืนจากการพังทลาย ในตอนนี้มันเป็นเวลาแห่งการเปลื่ยนแปลง

แม้ว่าโรงเรียนจะยังไม่ได้กลับมาเปิด แต่มันก็มีข่าวลือว่ามหาวิทยาลัยจะทำการเปิดใหม่อีกรอบในฤดูใบไม้ร่วงและมีการเปิดภาคเรียน แถมมันยังมีแนวโน้มว่าโรงเรียนมัธยมปลายและต้นก็จะเปิดในเวลานั้นเช่นเดียวกัน

"พี่ชาย พี่แข็งแรงมากจริงๆ"

"อยู่แล้ว"

ฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟ้าเคียงข้างกับน้องสาว ถ้าหากว่ามันมีสิ่งใดที่ต่างไปจากฉันในอดีตก็คือฉันสามารถนั่งเคียงข้างกับคนในครอบครัวได้

ในอดีตฉันไม่สามารถจะนั่งคู่กับพวกเขาแม้กระทั่งนั่งในโวฟาสำหรับสี่ที่นั่ง

แม้ว่าแม่และยุยจะมีร่างกายที่เล็กมา แต่ว่าพ่อก็สูงและมีกล้ามเนื้อและฉันก็ดูเหมือนกับออร์ค มมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนั่งร่วมกับคนอื่นๆ

แต่ว่าตอนนี้มันแตกต่างออกไป เราสามารถจะนั่งเคียงข้างกันและกันพร้อมกับดูทีวีได้เหมือนกับพี่ชายน้องสาวที่รักกัน นี่มันคือพรของพระเจ้า

"พี่ชายฉันไม่หนักหรอ?"

"เธอดูเบาเหมือนขนนกเลยล่ะ อย่าไปพยายามไดเอทเลยยุย เธอจะตัวลีบและตายเอานะ"

"โถ๋ ฉันไม่ได้ผอมขนาดนั้นซะหน่อย"

ยุยหัวเราะออกมาอย่างขุ่นเคือง ในความเป็นจริงแล้วยุยเป็นเด็กที่น่าสงสาร เมื่อช่วงวัยเด็กของเธอควรจะถูกทำลายไปโดยพี่ชายของเธอ เขาได้ยุ่งมากๆและเหวี่ยงหอกออกไปพร้อมกับพูดถึงการไปดันเจี้ยน เธอสามารถจะทำนิสัยเอาแต่ใจของเด็กได้แค่ต่อหน้าแม่เท่านั้น

แต่แม้อย่างนั้นแม่ก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะตามใจพวกเราเลย ดังนั้นยุยขึงโตขึ้นมากลายเป็นสงบเรียบร้อยและจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุของเธอ

มันช่วยไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกผิด ฉันต้องการที่จะทำมันให้ถูกต้อง ยุยลังเลในตอนแรก แต่ว่าในตอนนี้เธอดูเหมือนจะเคยชินกับมันแล้ว ตอนนี้เธอมักจะทำตัวเอาแต่ใจเมื่ออยู่รอบๆฉัน

[นี่คือภาพจากผู้ใช้พลังของเกาหลีที่มีพลังระดับ SS เทพธิด่แห่งแมกม่า เย่ ฮั่วหยา เธอกำลังทำการล่ามอนสเตอร์ไวเวินระดับ S]

[เธอคือความภาคภูมิใจและความน่ายินดีของเกาหลี]

บนหน้าจอทีวีเป็นผู้หญิงที่ดูอายุ 20 กว่าๆ เธอกำลังเผาไวเวินอยู่ ซึ่งมันดูคล้ายกับมังกรยาว 10 เมตร บางทีอาจจะเป็นเพราะการตื่นขึ้น ไม่เพียงแค่ผมที่ยาวถึงเอลของเธอเท่านั้นแต่ดวงตาของเธอก็ยังเป็นสีแดงเพลิงอีกด้วย การเผาไวเวินมันดูเหมือนจะได้รับความทรมานอย่างมาก ฉันได้คิดขึ้นมาว่า 'ถ้าหากไฟนั่นโดนฉันขึ้นมามันคงจะเผาฉันไปในทันที'

ในโลกแห่งความจริงนั้นมันไม่ยุติธรรม ฉันจะต้องเริ่มจากระดับ 1 และทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่คนอื่นๆกลับมีโชคดีและตื่นขึ้นมากลายเป็นระดับ SS สามารถจะเอาชนะเหล่ามอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัวได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นมันก็เป็นอีกครั้ง มีคนที่ตื่นมาแล้วมีพลังที่อ่อนแอและสามารถจะอยู่ได้ในระดับ E หรือ D เท่านั้น ในทำนองเดียวตราบใดที่ฉันยังคงปีนดันเจี้ยนต่อไป มันก็แน่นอนว่าฉันสามารถจะได้รับความแข็งแกร่งที่มากยิ่งกว่าเธอ สิ่งที่ฉันได้รับมันเป็นไปได้มากกว่าความแข็งแกร่ง

และพวกผู้ใช้พลังนั้นเป็นเพียงคนธรรมดา มีคนจำนวนมากได้ตายไปในสถานการณ์นี้ที่พวกเขาสามารถจะมีชิวิตรอดได้เพราะว่าพวกเขาได้ตื่นขึ้นมาแม้ว่าจะมีพลังที่ต่ำสุด มีคนจำนวนมากที่ปฏิเสธที่จะออกไปจากบ้านเพราะว่าพวกเขานั้นไม่ได้ตื่นขึ้น

ฉันได้เรียนรู้วิชาหอกตั้งแต่ยังเด็ก แต่ว่าก็ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่เรียนศิลปะการต่อสู้ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถจะกลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน โชคนั้นเป็นสิ่งที่กำหนดปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด

ในกรณีนี้ฉันมีสิทธิ์ที่จะมองลงไปที่พวกอ่อนแอกว่าฉันมั้ย? ผู้ที่มีพลังเหล่านี้ทางทีวีได้ถูกผู้คนจำนวนมากแหงนมองใช่มั้ย?

แม้ว่าค่าสติปัญญาของฉันจะมี 20 แต่ฉันก็ไม่สามารถจะตอบคำถามนี้ได้เช่นกัน ทันใดนั้นที่ต้นขาของฉันก็รู้สึกคัน

"โอ๊ยย! อู.."

ด้วยเหตุผลบางอย่างยุยได้มองมาด้วยฉันพร้อมน้ำตาและในความเจ็บปวด เธอได้เป่านิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเธอที่เปลื่ยนเป็นสีแดงอย่างน่ารัก

"มันดูเหมือนจะบอบบาง ดังนั้นหนูจึงหยิกมัน แต่ว่ามันแข็งมากเกินไป"

"อา ขอโทษนะยุย เจ็บมากมั้ย? อืม มาดูสิ...โพชั่น..."

"มันไม่เป็นไรพี่ชาย พี่มัวแต่จ้องผู้หญิงในทีวีดังนั้นฉัน...."

"อืมม? ไม่นะ ยุยพี่ชายกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นะ"

"พี่ไม่ได้มองดูเธอเพราะว่าเธอสวยหรอกหรอ?"

จากคำพูดของเธอ ฉันได้มองไปที่ผู้ใช้พลังชาวเกาหลีระดับ SS เย่ ฮั่วหยาได้ยิ้มออกมาหลังจากที่เอาชนะไวเวิน

เธอสวยมากจริงๆ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นผลของการตื่นขึ้นของเธอหรือป่าว แต่ว่าเธอนั้นสูงและผอมบาง มีผิวที่ขาวและหน้าที่กระจ่างใส แม้ในขณะที่ผมของเธอกระพือไปตามแรงลม เธอก็ไม่ได้สนใจและมองออกไปที่ด้านข้างด้วยตาแดงเพลิงของเธอ

เหนือสิ่งอื่นใดเธอนั้นมีหน้าอกที่น่าทึ่ง นั่นมันไซด์ D มันอย่าน้อยก็ไซด์ นี่มันเป็นสิ่งที่น่าอับอายมาก มันเป็นเหมือนกับการดูถูกผู้ที่อยู่ในดับ D ไม่สิ บางทีมันอาจจะเป็นระดับ E ไม่สิ F ไม่ใช่หรอ มันเป็นแข็ง SS กับ Fs

"...พี่ชาย?"

"แค่กๆ ไม่ ยุย เธอนั่นสวยที่สุดในโลกแล้ว"

"จริงหรอ? ฮิฮิ"

แน่นอนว่าฉันนั้นคิดว่ายุยเป็นคนที่สวยที่สุด แม้ว่าเย่ ฮั่วหยาจะมีร่างกายที่เหนือกว่าก็ตาม...

ฉันได้ขยี้หัวของยุยและเก็บความคิดนี้ลงไปในใจ มิฉะนั้นการวางตัวในฐานะพี่ชายของเธอมันจะสามารถทำให้เกิดการแตกแยกได้

จากนั้นวันเวลาแห่งการโซโล่ราชินีวิญญาณมันก็ได้มาถึง หลังจากที่ฉันได้ใช้เวลาคิดว่าควรจะติดต่อเอลลอสดีไหม สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจไม่ทำ ฉันจะทำมันหลังจากที่ฉันทำมันสำเร็จแล้ว และเพลรูเดียด้วย...เพลรูเดีย

"ไม่นะ!"

ฉันได้ลืมมันไปอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่าความหนาวเหน็บไปมาที่หลังของฉัน ฉันหวาดกลัว ฉันหวาดกลัวอย่างแน่นอน ฉันควรจะทำยังไงดี? นั่นมันไม่ได้เปลื่ยนให้เธอไม่โกรธ ฉันแน่ใขว่า ถ้าฉันพูดคุยกับเธอ มันอาจจะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมาก ดังนั้น

ฮึ่ม

ฉันควรจะเมินเธอต่อไป? ฉันสามารถจะแกล้งทำเป็นว่าเธอไม่เคยมีตัว

มันรู้สึกว่านี่เป็นทางออกที่ยอมเยี่ยม แต่ยังไงก็ตามฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะทำแบบนี้ แม้ว่าเพลรูเดียวจะเป็นคนที่หยาบคาย แต่เธอก็ได้ส่งข้อความมาหาฉันด้วยความกังวล นอกจากนี้หลังจากแยกกันสามปีครึ่งก็เป็นผมที่ไม่ได้ติดต่อไปหาเธอและไม่ได้สนใจข้อความของเธอ

"เอาล่ะ ฉันจะติดต่อเธอไปเมื่อสิ้นสุดการจู่โจม ในคราวนี้ฉันจะไม่ลืม"

ฉันได้สาบานไว้กับตัวเองและกำหมัดของฉัน ฉันได้เปิดประตูเข้าไปในที่ๆราชินีวิญญาณกำลังรอคอยอยู่

"กรี๊ดดดด"

"เท็มเพรส"

ตอนที่ฉันได้เข้ามาในห้อง ฉันได้ใช้เท็มเพรสออกไป หลังจากที่มานาฉันเพิ่มขึ้นด้วยอิลิกเซอร์และวงจรเพรูต้า ฉันในตอนนี้มีมานาถึง 2200 ถ้าหากว่ามานาของฉันต่ำ ฉันก็ามารถจะดื่มมานาโพชั่นลงไปได้ แม้ว่ามานาโพชั่นจะมีราคาที่แพง แต่ฉันก็มีมานาโพชั่นเกรดต้ำอยู่มากว่า 100 ขวด ซึ่งมันจะเพิ่มมานาขึ้นขวดละ 100 ไม่ต้องคำนึงถึงเวลาคูลดาวล์ฉันในตอนนี้มีมานามากกว่า 10000

"อึก อึก อีกครั้ง! เท็มเพรส!"

ทุกๆครั้งที่ฉันพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับหอกของฉัน พวกวิญญาณนับสิบก็จะกรีดร้องและตายไป ราชินีวิญญาณได้เริ่มทำท่าอัญเชิญอย่างรวดเร็ว มันเป็นสิ่งที่ฉันคาดหวังให้มันเกิดขึ้น

"ไปกันเถอะ...ฮ่าห์!"

ฉันได้รีบวิ่งไปที่ราชินีวิญญาณ วิญญาณที่เหลืออยู่ได้เข้ามาโจมตีฉัน แต่ว่าฉันก็ได้ส่งมันกลับไปด้วยการเหวี่ยงหอกอย่างง่ายๆ แม้ว่าราชินีวิญญาณจะอัญเชิญพวกมันออกมาได้ครั้งละ 20 ตัว แต่มันก็จะต้องใช้เวลาการร่ายเวทย์ที่นาน มันจะต้องมีเวลามากพอที่ฉันจะเข้าไปหาเธอและโจมตีเธอ

หลังจากที่ฉันได้ฝึกฝนต่อสู้กับราชินีวิญญาณเป็นเวลาสองเดือยแล้ว ตอนนี้ฉันก็สามารถจะเดารูปแบบของมันได้อย่างง่ายดาย ฉันได้ใช้ทักษะที่คนอื่นๆได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า ฮีโรอิคึ สไตรค์

"ย่าห์ กินนี่ไปซะ"

"กรี๊ดดดดดด"

แสงสีขาวได้รวมกันที่ปลายหอกของฉัน มันได้พุ่งเข้าไปเจาะทะลวงที่กระเพาะของราชินีวิญญาณ มันเป็นการระเบิดได้อย่างสวยงาม ที่บัลลังก์ของราชินีวิญญาณมันได้แตกออกเป็นเสียงๆ ในขณธเดียวกันเธอก็ได้ลอยไปกระแตกกับกำแพง ฉันรู้ดีว่าเธอจะทำอะไรต่อไป ดังนั้นฉันจึงขยับตัวของฉันก่อน

"ตายยยย!"

ฉันได้รวบรวมพลังงานที่อยู่ใกล้ๆและระเบิดมันออกไปข้างนอก เสียงมันได้สะท้อนไปทั้งห้องทำให้ห้องนี้สั่นไหว ราชินีวิญญาณก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นร่างของเธอได้สั่น

[คุณได้ใช้วอคลาย! สมาชิกในปาตี้ทุกคนได้รับการเคลียสถานะด้านลบ ทุกคนในปาตี้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 50% ในระยะเวลาหนึ่ง และได้เข้าสู่สถานะสุดยอดเกราะไม่สกสะท้านกับการโจมตีของศัตรู]

"กรี๊ดดดด!"

[ราชินีวิญญาณได้ใช้เสียงกรีดร้องแห่งวิญญาณพยาบาท

สถานะของสุดยอดเกราะได้ไม่สนใจสถานะเหล่านี้]

เช่นเดียวกับที่ฉันได้คาดเอาไว้! มองไปที่ราชินีวิญญาณมันได้มองมาที่ฉันอย่างงุนงง ฉันได้ยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไรและหยิบมานาโพชั่นขึ้นมาดื่ม ฉันได้ประกาศกับเธอว่า

"ฉันไม่จำเป็นจะต้องใช้ไพ่ที่ซ่อนไว้ของฉัน ฉันจะจบมันในอีก 5 นาที"

สิ่งที่มันตามมาก็คือการต่อสู้อย่างง่ายๆ เช่นเดียวกับที่ฉันคิดการต่อสู้กับราชินีวิญญาณมันง่ายกว่าการต่อสู้กับออร์คลอร์ด ทักษะเวทมนตร์และลูกธนูของเธอมันไร้ผลเมื่อเจอกัยทักษะวอคลายและโล่สปิริต

ก่อนที่โล่สปิริตจะหมดลง ฉันก็สามารถจะสร้างความเสียหายแบบคริติคอลให้กับเธอได้ จากนั้นฉันก็ใช้มานาที่ฟื้นฟูมานาเพื่อที่ใช่ฉีโร่อิค สไตรค์อีกรอบ

แม้ว่ามันจะใช้เวลาถึงสามปีในการพิชิตออร์คลอร์ดให้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่นี่มันก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 เตือนเท่านั้นในการพิชิตราชินีวิญญาณ มันจะต้องใช่เวลานานแค่ไหนกันนะในการที่จะพิชิตบอสตัวถัดไป? มนุษย์หนูทมิฬ? ฉันได้ยิ้มในใจและตรวจสอบข้อความที่เด้งขึ้นมาเบื้องหน้าฉัน

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด