ตอนที่ 13 เพื่อนใหม่และสมบัติแห่งสไตน์เบ็ค ไฟต์ พาร์ท 1

ในร้านอาหารสุดพิเศษใกล้กับตลาดใต้ดิน ไคลด์ยอมรับข้อเสนอของสาวลึกลับในการปกป้องเธอเป็นบอดี้การ์ด หญิงสาวลึกลับไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน ไคลด์จึงตัดสินใจพาเธอไปกับพวกเขา

''ลูซิเฟอร์ เธอได้กลิ่นเลือดที่นี่ไหม? เกิดอะไรขึ้นกันนะ?''

''ไม่นิ มีแต่แมลงน่ารำคาญ จะปัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหมด''

ทางเข้าสู่ตลาดใต้ดิน ไคลด์กำลังเดินทางมาใกล้รถม้า เขาเห็นรอยเลือดติดอยู่ที่ประตู แต่เขาไม่เห็นซากศพใดๆ เขาถามลูซิเฟอร์ เธอยิ้มให้อย่างไม่แยแสก่อนเธอจะบอกกับเขาว่าแค่มีแมลงน่ารำคาญนิดหน่อยหน่ะ ไคลด์เดาได้ทันทีว่าแมลงที่ลูซิเฟอร์พูดถึงคือมนุษย์แน่ๆ เจ้าหญิงเซราสเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ไคลด์พาบุคคลลึกลับขึ้นรถม้ามากับเขา

''พี่ไคลด์ลักพาตัวสาวสวยอีกแล้วหรอ? น่าเจ็บปวดจริงๆ ทำไมพี่บ้ากามอย่างงี้''

''เอ่อคุณน้องลูซิเฟอร์ครับ ที่เธอกำลังว่าพี่ทำเรื่องโง่ๆ คงเข้าใจผิดไปนะครับ ผู้หญิงคนนี้คือผู้ลงทุนของเรา''

''น้องสาวตัวเล็กรู้ได้ยังไงหรอว่าฉันมีลักษณะเป็นไง''

''ความลับหน่ะ ทุกคนล้วนมีความลับเป็นของตัวเอง พี่สาวไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนหรอก ยังไงสะพี่ไคลด์ก็ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอกในตอนนี้อะนะ อย่า! อย่าตีฉันนะพี่ไคลด์''

เมื่อเห็นหญิงสาวลึกลับ เธอคนนี้มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้การจ้องทำให้หญิงสาวลึกลับคนนี้รู้สึกเขินอาย หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของลูซิเฟอร์เธอค่อยๆ ถอดหน้ากากของเธอออก ในที่สุดไคลด์ก็เห็นรูปร่างที่แท้จริงของนายจ้างเขา

ลูซิเฟอร์พูดถูกต้อง ความมีเสน่ห์ของหญิงสาวลึกลับผู้จ้างงานไคลด์คนนี้มีมากกว่าเจ้าหญิงเซราสสะอีก เธอมีผมสีเงินเหมือนกับลูซิเฟอร์ ผมของเธอประดับไปด้วยที่คาดผม เธอไว้ทรงผมทวินเทล ตาสีชมพูอมม่วงของเธอเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจมากที่สุด เธองดงามเกินไป นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องปกปิดรูปร่างที่แท้จริงไว้ ดวงตาสองสีของเธอดึงดูดทุกสายตาให้จับจ้อง

ในตอนแรกอิสตาร์ไม่มีท่าทีที่จะเปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงของเธอ หลังที่เธอเห็นลูซิเฟอร์เด็กสาวต่างเผ่าพันธุ์จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะเปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงให้เห็น อิสตาร์สวมชุดเดรสสีดำงดงามมีทับทิมตกแต่งตามจีบกระโปรงของเธอ บริเวณหน้าอกมีทับทิมประดับไว้

รอบคอของอิสตาร์สวมปลอกคอดอกไม้สีดำขาวสลับกัน เธอพยายามปกปิดตัวตนของเธอที่มีทั้งความรวย ความฉลาด พลังที่แท้จริง หลังจากที่เปิดเผยตัวตนอิสตาร์จึงเปิดเผยแหวนที่เธอสวมอยู่เช่นกัน ความงดงามและมีเสน่ห์ของอิสตาร์บดบังความสวยของเจ้าหญิงเซราสจากเผ่ามนุษย์จนหมดสิ้น ความงามของเธออยู่ในระดับที่เผ่ามนุษย์ไม่สามารถไปถึงได้ สิ่งที่เซราสชนะเพียงอย่างเดียวมีเพียงแค่ขนาดหน้าอกของเธอที่ใหญ่กว่าอิสตาร์

แต่อย่างไรอิสตาร์ก็ยังคงมีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบอยู่ดี จุดนี้เพียงจุดเดียวทำให้เจ้าหญิงเซราสพ่ายแพ้จนหมดสิ้น ไคลด์รู้สึกว่าลูซิเฟอร์จะสามารถแข่งกับเธอได้ ถ้าเธอโตพออะนะ แต่ตอนนี้ลูซิเฟอร์เป็นสาวน้อยตัวเล็กไม่อาจแข่งกับอิสตาร์ได้ในตอนนี้

''พี่สาวอิสตาร์ ทำไมถึงเลือกพี่ไคลด์หรอ? เขาเป็นเหมือนพวกมือใหม่นะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารับทำภารกิจด้วยซ้ำ''

''ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ใช้สัญชาตญาณหน่ะ แค่นั้นเองฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีนะ''

ภายในรถม้าลูซิเฟอร์พยายามรบเร้าอิสตาร์อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อเจอความอยากรู้อยากเห็นของสาวตัวน้อยทำให้อิสตาร์ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้ เจ้าหญิงเซราสยิ้มอย่างโล่งใจ เพราะก่อนที่อิสตาร์จะมาเซราสเองก็โดนลูซิเฟอร์รบเร้าอย่างไม่หยุดพัก ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

ไคลด์ขับรถม้าเพื่อจะมุ่งหน้าไปที่เมืองสไตน์เบ็ค ไฟต์ ตอนนี้เขามีอัญมณีสีขาวที่อิสตาร์มอบให้ ดูเหมือนว่ามันจะมีราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 เหรียญทอง อิสตาร์ไม่ได้บอกเอาไว้แต่เป็นลูซิเฟอร์ที่ใช้วิธีต่างๆ ในการตรวจสอบอัญมณีนี้ยืนยันเอง

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่รู้ภูมิหลังของอิสตาร์ แต่จากการพิจารณาของเธอแล้วอิสตาร์แท้จริงเป็นแม่มด เพราะว่าเธอมีสมบัติอัญมณีต่างๆ ที่แสนหายาก เธอสวมใส่ชุดปกปิดตัวตน และที่สำคัญเธอมีออร่าดำมืดบางอย่างรอบตัวของเธอ ถ้าหากไคลด์ใกล้อิสตาร์มากพอเขาก็จะเห็นออร่าด้วยเหมือนกัน ในตอนนี้ลูซิเฟอร์อยู่ใกล้กับอิสตาร์มากพอจึงทำให้อิสตาร์ไม่สามารถปกปิดความจริงทุกอย่างได้

แม้เธอจะเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์แต่ก็ไม่ใช่ผู้ใช้เวทย์มนตร์ระดับธรรมดา เธอต้องเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์ระดับสูง แหวนแต่ละนิ้วที่เธอสวมอยู่เหมือนกับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากเมืองต่างๆ เธอปกปิดพลังการต่อสู้ที่แท้จริงไว้ เธอบอกไว้ว่าเธอจบการศึกษาจากสถาบันการใช้เวทย์มนตร์มานานแล้ว ตอนนี้เธอเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์ระดับเริ่มต้น แต่ในความเป็นจริงอิสตาร์มีระดับมานาที่สูงมาก สูงกว่าผู้ใช้เวทย์มนตร์ระดับสูงของเผ่ามนุษย์หลายเท่ามาก โดยพื้นฐานแล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอแน่ๆ

ไคลด์ขี้เกียจจะใส่ใจเรื่องส่วนตัวเล็กน้อยของเธอ ตราบใดที่เธอจ่ายค่าจ้างให้เขาภูมิหลังของนายจ้างก็เปรียบเสมือนอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว เขาไม่จำเป็นจะต้องใส่ใจอะไร การออกเดินทางอีกครั้งของเขาไม่มีผู้ใดในตลาดมืดของเมืองแทสกล้ายุ่งกับพวกเขาอีก ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก เมื่อมีคนรู้ว่าในรถม้าคันนี้มีเด็กผู้หญิงอยู่เพียงสองคน ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะจับตัวผู้หญิงสองคนนี้ไปขายเป็นทาส แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเข้ามาใกล้รถม้า

โชคไม่ดีเท่าไหร่สำหรับเหล่าผู้เจตนาไม่ดี พวกเขากลายเป็นวิญญาณในทันที การจัดการของลูซิเฟอร์ทำให้พวกเขาไม่เหลือแม้แต่ซากศพ เมื่อเทียบกับวิธีการของไคลด์ วิธีลูซิเฟอร์สามารถซ่อนอำพรางได้ดีกว่า สำหรับพวกวิญญาณชั่วช้าเหล่านี้ การตายแบบลึกลับนี้คงจะเหมาะสมกับพวกเขาแล้ว เมื่อผ่านเหตุการณ์นั้นมากลุ่มเดินทางของไคลด์จึงเดินทางได้อย่างราบรื่น ไม่มีใครกล้ามาขวางทางพวกเขาอีก

ไคลด์เดินทางมาถึงธนาคารแห่งแม่น้ำลอว์เรน ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความครึกครื้น แม้ว่าสะพานที่จะเชื่อมทั้งสองฝั่งพังทลาย แต่มีคนกลุ่มใหญ่ลักษณะคล้ายกับทหารรับจ้างรวมตัวกัน ในกลุ่มทหารรับจ้างมีช่างฝีมือที่สร้างสะพานสำหรับข้ามฝั่งอยู่ด้วย สะพานที่ใช้ข้ามฝั่งชั่วคราวถูกสร้างเสร็จไปแล้วครึ่งทาง ไคลด์ที่พึ่งเห็นการสร้างสะพานนั้นถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการสร้างสะพานใหม่ ถ้าเขารู้เขาคงไม่ต้องเดินทางไปตลาดมืดแห่งเมืองแทส

''อ่าวพี่ชายอยากจะข้ามฝั่งเหมือนกันหรอ การซ่อมสะพานใกล้จะเสร็จแล้ว เอาอาหารไปกินรอก่อนนะ''

''โอ้ ขอบคุณมากนะ''

ทหารรับจ้างเหล่านี้เป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่รวมตัวกันจากหลากหลายที่ เมื่อพวกเขาเห็นไคลด์ เขาคิดว่าไคลด์ก็เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างที่ยอมทำภารกิจนี้ พวกเขาบอกไคลด์ให้ไปรับอาหารที่แจกจ่าย กลุ่มการเดินทางของไคลด์รับอาหารก่อนจะกินเลี้ยงฉลองสำหรับการเป็นเจ้าของดินแดนสไตน์เบ็ค ไฟต์ ขณะที่พวกเขากำลังจัดงานเลี้ยงกันมีแสงสีรุ้งลึกลับโผล่ออกมาจากเมืองสไตน์เบ็ค ไฟต์ มีข่าวลือบอกไว้ว่านั่นเป็นแสงจากสิ่งประดิษฐ์อันศักดิ์สิทธิ์

นี้เป็นเหตุผลที่กลุ่มทหารรับจ้างรวมพลมาจากหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเพื่อตามล่าสมบัติอันล้ำค่าในดินแดนแห่งนี้ พวกเขาพึ่งได้ข่าวมาว่ามีชนชั้นสูงพึ่งซื้อดินแดนแห่งนี้ไปเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ดังนั้นการบุกรุกดินแดนแห่งนี้ก่อนได้รับอนุญาติคงไม่มีปัญหาอะไร พวกเขารวมตัวกันบุกรุกดินแดนแห่งนี้โดยที่มีเจ้าของดินแดนตามไปด้วย...