ตอนที่แล้วChapter 67 - Black Market Seventh Shopping (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 69 - Dark Elven City (2)

Chapter 68 - Dark Elven City


Chapter 68 - Dark Elven City

ซังจินได้เปิดตาขึ้น ทำให้เพดานได้เข้ามาในมุมมองของเขา

'อะ...'

แม้ว่าเขาเพิ่งจะหลับตาลงไปได้พักนึง แต่ว่าเขาก็ได้หลับเพียงพอแล้ว ซังจินได้ลุกยืนขึ้นมาและมองออกไปมางหน้าต่าง พระอาทิตย์ได้ลอยขึ้นมาเหนือตลาดมืดแล้ว

"โอเปอเรเตอร์เหลือเวลาอีกเท่าไหร่ก่อนที่จะเริ่มการจู่โจม?"

[1 ชม. 21 นาที 21 วินาที]

มันยังไม่ได้สายเกินไป เขายังคงสามารถที่จะกินอาหารเช้าและเตรียมตัวก่อนการจู่โจมได้ สิ่งแรกที่ซังจินทำเลยในตอนนี้ก็คืออัพสเตตัสของเขา

"อัพค่าความแข็งแรง 2000 ความคล่องแคล่ว 2000 ความอดทน 1000 พลังเวท 1000 และพลังจิตใจ 2153"

[เรียบร้อยแล้ว]

"แสดงสเตตัสของฉัน]


ฉายา: ผู้พิพากษา

พลังชีวิต: 61120 มานา: 68800

ความแข็งแรง 8412 (+1262)

ความคล่องแคล่ว: 9093 (+1364)

ความอดทน: 5315 (+797)

พลังเวท: 3119 (+468)

พลังจิตใจ: 5983 (+897)

แต้มที่ยังไม่ได้ใช้: 0


ซังจินมองไปที่หน้าต่างสถานะของเขาเป็นอย่างแรก เขากำลังจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไป แม้ว่าเขาจะได้รับผลของฉายาสุดยอดนักล่าเพียงครึ่งเดียว ค่าสถานะความคล่องแคล่วของเขาก็เกิน 10000 ไปแล้ว

สเตตัสของเขาสูงมากพอแล้วที่จะสามารถฆ่านักล่าปกติได้อย่างง่ายดาย ปัญหาเดียวที่เขาจะพบก็คือมองเป้าหมายของตนต่ำเกินไปและดูถูกศัตรู

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทักษะที่ติดอยู่กับอุปกรณ์มีความสำคัญที่มากกว่าค่าสถานะ เพื่อที่ซังจินจะรักษาความต่างชั้นนี้เขาก็จะต้องเก็บสะสมเหรียญดำอย่างขยันขันแข็ง

เมื่อเขาอัพสเตตัมเสร็จสิ้น ซังจินก็ลุกขึ้นยืนและหยิบกระดาษข้อมูลที่เขาได้เก็บเอาไว้แล้วจากนั้นก็ลงไปข้างล่าง

"ดารูปิน ช่วยทำ...โจ๊กข้าวเป็นอาหารเช้าให้ฉันที"

"รับทราบ"

เมื่อสั่งอาหารเช้าเสร็จเขาก็นั่งลงบนโต๊ะตัวที่ใกล้ที่สุด จากนั้นเคนก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับส่ายหาง ในขณะที่ซังจินกำลังยิ้มและเล่นกับเคน ซาดาเมียร์ก็ได้เดินตามเข้ามาทักททวเขา

"หลับสบายดีไหมนายท่าน?"

ซังจินหันไปพูดกับซาดาเมียร์ทันทีที่เขาเข้ามา

"มานี่แปปนึงสิ เราจำเป็นจะต้องคุยกันเกี่ยวกับแผนในบทต่อไป"

ซาดาเมียร์ได้เดินเข้ามาใกล้ๆเขา และซังจินก็ถามออกมา

"ฉันคิดว่าพวกเขาจะต้องเคลียการจู่โจมด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น...เพราะจะมีวิธีไหม?"

ซาดาเมียร์เอียงหัวของเขาและถามออกมา

"เร็วขึ้น?"

"ใช่แล้ว แม้ว่าในตอนนี้เราจะเร็วแล้ว แต่เราก็จะต้องเร็วขึ้นอีก"

ซาดาเมียร์ได้ลูบคางของเขา เนื่องจากว่าเขาไม่เคยได้มีประสบการณ์ในการข้ามมิติ เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมซังจินถึงได้ต้องการให้เคลียการจู่โจมเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

ซังจินจึงหยิบหินแสวงหาฆาตกรทั้งสามอันออกมาและกล่าวอธิบาย

"ฉันต้องการที่จะสามารถเคลียการจู่โจมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และจากนั้นก็เข้าไปแทรกแซงการจู่โจมอื่นๆ"

ซาดาเมียรได้หยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาดู

"โอ้..."

แม้ว่าจะไม่มีความช่วยเหลือจากหน้าต่างข้อมูลของโอเปอเรเตอร์ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ถึงความสามารถของหินก้อนนี้ ตามที่คาดเอาไว้ดูเหมือนเขาจะเป็นจอมเวทที่ยอดเยี่ยมที่สุดในคูตาล จากนั้นซังจินก็หยิบกระดาษข้อมูลออกมาและมองไปที่มัน


Information pertaining to Rudala – Dark Elven City

Boss Monster – ‘Mayan Priestess’ Kerenis

Time limit: 1 hour 30 minutes.


เวลาทั้งหมดที่มีคือ 1 ชม. 30 นาที แม้ว่าถ้าหากเราสามารถจะจัดการบอสและบอสลับได้ภายใน 30 นาที มันก็จะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 20 นาทีต่อรอบเท่านั้นที่เราจะสามารถไปจัดการฆาตกร นายคิดว่ายังไงช่วงเวลาอย่างนี้มันเหมาะสมดีไหม ในการที่จะค้นหาและฆ่าพวกฆาตกร"

ซาดาเมียร์ได้ตอบกลับมา

"ท่านไม่สามารถจะล้มศัตรูเหมือนอย่างที่ท่านเคยทำได้หรือ"

"ฉันทำได้และฉันก็สามารถจะทำมันได้จนถึงตอนนี้ แต่ว่าในตอนนี้ฉันต้องการที่จะให้มันใช้เวลาที่น้อยลงไปอีกเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าสำหรับฉันเอง ฉันก็จะต้องเสียเวลาไปบ้างกับการกำจัดพวกมอนสเตอร์ปกติ"

ซาดาเมียร์ได้รับฟังซังจินเงียบๆ และซังจินก็กล่าวต่อ

"และเมื่อพิจารณาจากการไปกำจัดพวกมอนสเตอร์ปกติ มันก็จะเป็นการใช้เวลาไปอย่างเสียเปล่าและไร้ประสิทธิภาพในแง่ของผลงาน การที่พยายามจะไม่ใช้เวทมนตร์และทักษะในการฆ่าพวกมอนสเตอร์ปกติมันจะใช้เวลานานเกินไป แต่ในขณะเดียวสิ่งเหล่านั้นมันก็ควรที่จะเก็บไว้เพื่อใช้เผชิญหน้ากับบอส บอสลับ หรือไม่ก็พวกฆาตกรในมิติอื่น ถูกไหมหละ?"

ซาดาเมียร์หยักหน้ารับ แม้ว่าซังจินจะมีความสามารถที่มากกว่าพวกนักล่าคนอื่นๆ แต่ว่าการที่จะกวาดล้างพวกมอนสเตอร์ปกติโดยที่ไม่ใช้ทักษะใดๆช่วยเลย มันก็จะต้องเสียเวลาไปบ้าง

"ดังนั้นแล้วสุดท้ายนี้ ฉันจึงต้องการเส้นทางที่จะเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เข้ามจใช่ไหม?"

"หืมมม..."

ซาดาเมียร์ได้ลูบเคราของเขา ในขณะเดียวกันซังจินก็มองออกไปและพูดต่อ

"แล้วก็...อย่างที่นายได้เห็นในการจู่โจมล่าสุด..ถ้าหากว่าฉันฆ่าพวกมอนสเตอร์ทั้งหมด มันก็จะทำให้เกิดความเสียที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ตั้งใจ ตั้งแต่นี้ไปฉันจะเลิกผูกขาดพวกมันทั้งหมด"

ซาดาเมียร์ยกคิ้วขึ้น มันดูเหมือนกับเขาอยากจะพูดว่า 'แต่ว่าท่านก็ได้ทำมันดีตลอดมาจนถึงตอนนี้' ซังจินรู้สึกได้ถึงมันเขาจึงกล่าวออกมาอีก

"เหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงถูกขาดแต้มทั้งหมดก็เพราะว่าฉันจะต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถที่จะสร้างความแตกต่างขึ้นได้ และอีกอย่างหนึ่งนักล่าที่สามารถจะมาถึง 0.01% ก็...."

ซังจินหยุดกลืนน้ำลายไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ

"...ไม่มีศักยภาพที่มากพอ ดังนั้นฉันจึงจะต้องผูกขาดแต้มทั้งหมดทั้งที่รู้ว่ามันจะส่งผลเสียให้กับเพื่อนร่วมทีม...แต่ว่าในตอนนี้ฉันต้องการที่จะพิจารณาถึงภาพรวมและช่วยเหลือนักล่าคนอื่นๆ"

ซังจินได้หมุนหินบนโต๊ะในขณะที่กล่าวต่อ

"ตั้งแต่ที่ฉันได้ลับสิ่งใหม่ๆเหล่านี้มา ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องผูขากแต้มทั้งหมดแล้ว มันจะดีกว่าถ้าหากว่าฉันใช้เวลาที่เหลืออยู่ไปกับการล่าพวกฆาตกร"

ซาดาเมียร์ได้หยักหน้ารับอีกครั้ง เขาเป็นคนที่มีสติปัญญาที่มากเป็นพิเศษและดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการคำอธิบายมี่มากขึ้นเพื่อที่จะเข้าใจ

"ดังนั้นพอจะมีวิธีการใดที่จะทำให้สามารถเคลียการจู่โจมได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ก่อปัญหาให้กับคนอื่นๆได้บ้าง?"

"สำหรับคำถามนี้ ซาดาเมียร์ก็ได้ตอบสนองกลับมา

"เกี่ยวกับสิ่งนี้....การลอบสังหารบอสดีไหม?"

"ลอบสังหาร? ยังไง?"

ซาดาเมียร์ได้เริ่มร่ายเวทมนตร์ออกมาโดยที่ไม่อธิบายอะไรอีก

"ก้าวเดินไปในความมืดมิดโดยที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง ชาโดววอร์ค"

แสงที่มืดมิดได้ส่องสว่สงออกมาจากมือและหลังจากนั้นครู่หนึ่งเคนก็ได้หายไป

"หืมมม?"

ในขณะที่ซังจำกำลังตกใจ ซาดาเมียร์ก็ได้อธิบายออกมา

"มันเป็นเวทมนตร์ดำที่สามารถจะซ่อนสิ่งมีชีวิตไว้ในเงามืดได้ ถ้าหากว่าท่านสามารถเข้าไปอยู่ในเงาได้ภายใน 5 วินาที ท่านก็สามารถจะคงสถานะล่องหนไปได้เรื่อยๆ แต่หากว่าท่านอยู่นอกเงาเกิน 5 วินาทีผลของเวทนี้ก็จะหายไป"

ในขณะที่เขาพูดอยู่ เคนก็ได้หายล่องหนหลังจากผ่านไป 5 วินาที

"ถ้าหากว่าท่านใช้มัน...ท่านก็อาจจะสามารถเข้าไปถึงบอสได้โดยที่ไม่เกิดการต่อสู้ขึ้นเลยซักครั้ง ถ้าหากท่านทำเช่นนั้นมันก็จะช่วยลดเวลาในการจบการจู่โจมให้สั้นลงและมันก็ไม่ส่งผลกระทบกับผู้อื่นอีกด้วย ข้าพูดถูกไหม?"

ซังจินหยักหน้ารับ ตราบเท่าที่เขาไม่เจอกับการที่จะต้องเจอกับการที่ต้องฆ่าให้ครบจำนวนเพื่ออัญเชิญบอสมา เขาก็จะสามารถลอบฆ่าบอสได้ และมันก็โชคดีที่บอสตัวต่อไปเป็น 'นักบวชหญิง เคเรนิส' ซึ่งเธอเป็นบอสประเภทที่รออยู่กับที่

"แต่ว่าเพื่อที่จะทำอย่างนั้น...ท่านก็จำเป็นจะต้องใช้เวทมนตร์ตั้งแต่เริ่มต้น"

"ถ้าหากว่าท่านไม่ได้ใช้เวทมนตร์อื่นอีก ท่านก็จะสามารถรักษาสถานะล่องหนได้ถึง 30 นาที"

ซังจินหยักหน้ารับ แต่แล้วเขาก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวออกมา

"แต่ว่าฉันไม่สามารถจะใช้วิธีนี้ได้ในทุกๆบท มันจะเป็นการเสียพลังมากเกินไป เพราะมันหมายความว่านายจะไท่สามารถที่จะช่วยฉันต่อสู้ได้เลย"

ซาดาเมียร์ได้ก้มหัวต่ำลงให้ซังจิน

"จากนี้..ถ้าหากท่านได้ไปร้านเวทมนตร์ นายจะสามารถหาเวทมนตร์ระดับสูงที่เรียกว่า 'ล่องหน' ได้ เนื่องจากที่มันเป็นเวทมนตร์ขาว ข้าจึงไม่สามารถจะใช้มันได้แต่ว่า...ด้วยระดับมานาของท่าน ท่านก็ควรจะสามารถใช้มันได้โดยที่ไม่มีปัญหา"

"หืมม..."

ซักจินหยักหน้ารับและมองไปทางประตูที่ตลาดมืดอยู่ไกลออกไป

ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะตาย เขาเคยไปที่ร้านเวทมนตร์นั้นอยู่เพื่อที่จะขายม้วนคัมภีร์

"ใช่แล้ว...ก่อนที่จะถึงตอนนี้ฉันนั้นไม่ค่อยจะมีเงินสำรองมากนักเพื่อที่จะซื้อหนังสือเวทมนตร์นอกเหลือจากอันที่ดรอปมาจากบอส แต่ว่า...ในตอนนี้ฉันก็ควรจะมีเงินสำรองที่มากพอที่จะไปซื้อมัน ดังนั้นตอนนี้มันก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาสมแล้วที่ควรจะนำเงินไปลงทุนที่หนังสือเวทเช่นกัน ฉันจะไปที่นั้นหลังจากที่จบการจู่โจมในวันนี้ นายช่วยแนะนำฉันด้วยว่าควรจะซื้ออะไรที่เป็นประโยชน์บ้างเมื่อเราไปที่นั้น"

ซาดาเมียร์ได้รวบมือขึ้นและโค้งคำนับในขณะที่กล่าวออกมา

"รับทราบนายท่าน"

การที่เจ้านายของเขาสนใจในด้านความเชี่ยวชาญของเขา เขาก็ควรที่จะตอบรับอย่างดีที่สุด หลังจากที่เขาคุยกับซาดาเมียร์จบก็....

"ขอประทานโทษด้วยครับ ท่าน..."

ดารูปินได้ถามออกมา ซังจินหันหน้าไปมองที่เขา เขากำลังยืนรออยู่ห่างออกไปสองสามเก้าพร้อมด้วยถ้วยที่อยู่ด้านบนถาดที่เขาถืออยู่ มันจะต้องเป็นโจ๊กข้าวที่เขาได้สั่งเอาไว้

"ฉันรู้ว่าท่านกำลังยุ่งกับการวางแผนกลยุทธ์ แต่ว่า...ถ้าหากว่าท่านรอนานเกินไป โจ๊กก็จะสูยเสียความอบอุ่นแบะรสชาติ..."

ดารูปินได้อธิบายออกมาอย่างระมัดระวัง

"อา ช่วยเสริฟมันเลยในตอนนี้

ซังจินได้รีบรับถ้วยมาอย่างรวดเร็ว

"ขอบคุณมากดารูปิน ฉันจะมีความสุขไปกับมัน"

ดารูปินได้โค้งคำนับและจากนั้นเขาก็เดินจากไป ซังจินได้หยิบช้อนขึ้นมาและกินไปคำหนึ่ง

มันเป็นรสชาติที่สมบูรณ์แบบมาก เห็นได้ชัดว่าดารูปินได้ใส่ใจเป็นอย่างมากในอาหารแต่ละอย่างของเขา ซังจินได้ลืมทุกสิ่งไปและเพลิดเพลินไปกับอาหาร แต่ในขณะนั้นเองลูกบาศก์ก็ได้ประกาศออกมา

[ราร์ - ไข่ทองคำได้สั่นหนึ่งครั้ง]

มันเป็นคำประกาศที่แปลกๆ ซังจินได้ถือช้อนค้างเอาไว้และอ่านประกาศซ้ำอีกครั้ง

'ราร์...?'

ในตอนนี้เองเขาก็นึกออก มันเป็นไอเทมที่เขาได้รับมาในการจู่โจมก่อนหน้านี้ ชิ้นส่วนลับไข่ทองคำ ซังจินได้หยุดกินและหันไปถามกับโอเปอเรเตอร์

"โอเปอเรเตอร์เอาไข่มาให้ฉันดูที"

ไข่ทองคำได้ออกมาจากลูกบาศก์ จากนั้นซังจินก็ตรวจสอบไข่ไปมา

'...ฉันยังไม่เห็นความเปลื่ยนแปลงใดๆ...'

เขาถือมันเอาไว้ด้วยแขนซ้าย จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็เปิดหน้าต่างข้อมูลออกมา


ราร์ - ไข่ทองคำ

ไข่ระดับวีรบุรุษ

ทักษะติดตัว

เริ่มต้นอาการสั่น - จะสั่นทุกๆสองครั้งทุกๆวัน

กำลังหลับไหลอยู่ภายในนั้นโดยที่ยังไม่ตัดสินใจที่จะฝักออกมา


'ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างเปลื่ยนไปจากครั้งก่อน...'

แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นซังจินจึงตรวจสอบไข่อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะเก็บมันกลับไปในลูกบาศก์ ในตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากนักก่อนที่การจู่โจมจะเริ่มขึ้น ดังนั้นเขาจึงรีบตักข้าวกินต่อ

****

ภายในถ้ำที่มืดมิดมีบางสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ปล่อยปสงออกมารอบๆ ลูกกลมๆได้ส่องแสงสว่างสลัวๆออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างของเมืองซึ่งถูกสร้างขึ้นตามแนวผนัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นตามขั้นตอบต่างๆตามแบบการเรียงตัวของเมล็ด

และในบรรดาสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก

"กี้~"

เสียงร้องประหลาดๆได่ดังออกมาทั่วทั้งอากาศ สถานที่ๆซังจินได้มาถึงนั่นคือเมืองใต้ดินของดาร์คเอลฟ์ จากนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศออกมา

[ยินดีต้อนรับสู่สถานที่ๆเรียกว่า รูดาร่า - เมืองดาร์คเอลฟ์

[มันเป็นหนึ่งในเมืองเล็กๆที่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยดาร์คเอลฟ์]

[แต่ได้โปรดระมัดระวัง การเข้าใกล้แหล่งชุมชนเหล่านี้]

[มันมีแนวโน้มว่ามันจะมีการต่อต้านบุคคลที่มาจากภายนอก]

ซังจินเอียงหัวไปซ้ายขวาเพื่อสำรวจรอบๆ

'จัดการบอสทั้งสองด้วยเวลา 30 นาที และใช้เวลา 20 นาทีในแต่ละรอบของการจัดการฆาตกร'

ซังจินได้ถูกกดดันอย่างที่เคยมีมาก่อน เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อที่จะเตรียมพร้อมตัวเอง

หนึ่งส่วนที่ดีก็คือเขารู้อยู่,ล้วว่าบอสลับซ่อนอยู่ที่ไหน แม้ว่าด้วยฉายา 'ผู้พิพากษา' ที่ใส่อยู่ เขาก็สามารถที่จะค้นหาองค์ประกอบลับทั้งสองอย่างได้ตลอดเวลา

ซังจินได้ใช้เวลาอยู่ครู่นึงเพื่อนึกนึงอดีต ที่นี่เป็นบทแรกที่เขาได้พบกับบอสลับเป็นครั้งแรกในเวลานั้น

'และ...ฉันก็เกือบจะตายที่นี่'

มันช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะยิ้มขึ้น และจากนั้นเขาก็ดึงดาบคู่ของเขาออกมา

'มาลองดูกันว่ามีอะไรเปลื่ยนแปลงไปบ้าง...ฉันไม่สามารถจะรอได้อีกแล้ว'


ตอนนี้แปลจนจบแล้วครับสามารถจะติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่เพจนี้เลย > จิ้มเลย <

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด