ตอนที่แล้วGE334 อสูรมิติ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE336 ข้าคือลู่เป่ย [ฟรี]

GE335 ข่ายอาคมวังทมิฬ [ฟรี]


วิชาเสียงสวรรค์คือวิชาที่สืบทอดต่อกันทางสายเลือดของอสูรมิติ พวกมันจะปล่อยคลื่นเสียงสีดำที่หนาแนานและรุนแรงคล้ายบทสวดเข้าใส่ศัตรู

“ตายซะ”

มิติพังทะลาย อานุภาพของคลื่นเสียงยากจะจินตนาการได้

ดวงตาหนิงฝานเบิกกว้าง ระดับความรุนแรงของวิชาเสียงสวรรค์ สามารถสังหารเขาได้ในพริบตา

เหตุผลที่อสูรมิติจงใจจู่โจมรถเพลิงทองคำ เป็นเพราะมันรู้ว่าเป่ยเหยาอยู่ภายใน มันคิดที่จะสังหารนางไปพร้อมกับรถ

“เข็มทิศดารา!”

หนิงฝานขมวดคิ้วแน่น กระตุ้นเข็มทิศสร้างม่านพลังปกคลุมส่วนที่เหลืออยู่ของรถเพลิงทองคำ หากปล่อยให้เป่ยเหยาตาย ตัวเขาและเหล่าสตรีจะต้องตายไปด้วย

คลื่นเสียงสีดำเข้าประชิด ใต้ผ่าเท้าหนิงฝานปรากฏข่ายอาคมขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นม่านแสงป้องกันการจู่โจม

แต่ด้วยเวลากระชั้นเกินไป หนิงฝานจึงกระตุ้นดาราในข่ายอาคมได้เพียงหมื่นดวง ดาราจำนวนนี้สามารถป้องกันการจู่โจมในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ แต่ยังไม่เพียงให้ป้องกันคลื่นเสียงที่ทรงพลัง

*ตูม*

ม่านพลังพังทะลาย แต่ก็ช่วยลดการจู่โจมได้ถึง 8 ใน 10 ส่วน

“ร่วมมือกัน!”

ม่านพลังถูกทำลาย หนิงฝานให้สัญญาเหล่าสตรีและทาสจู่โจมเต็มกำลังเพื่อต้านคลื่นเสียง

การจู่โจมผสาน เข้าหักล้างคลื่นเสียง แต่ทาสในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง 2 ตนของหนิงฝานถูกทำลาย

แม้จะรักษารถเพลิงทองคำไว้ได้ส่วนหนึ่ง และรักษาชีวิตได้ แต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียไม่น้อย

รถเพลิงทองคำที่ขาดเป็นสองท่อนค่อยสมานรอยหักเข้าด้วยกันช้าๆ แต่ความเร็วของมันกลับลดลงมาก

หนิงฝานขบฟัน เร่งกระตุ้นรถเพลิงทองคำสุดกำลัง ให้มันทะลวงผ่านเข้าไปในข่ายอาคม

“ฮึ่ม! หนีไปได้! แต่ยังไงซะพวกมันก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี… ข่ายอาคมวังทมิฬมีตาข่ายอาคมอยู่ 49,000แห่ง มีอันตรายซ่อนอยู่ พวกมันไม่มีทางเข้าไปลึกกว่านั้นได้”

“ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปเฉยๆแน่… ข้าจะคอยเฝ้าไม่ให้พวกเจ้าออกมา ส่วนทาสของข้าจะทำหน้าที่ตามล่าพวกเจ้า!”

อสูรมิติกล่าวพลางอ้าปาก เงาร่างสีดำจำนวนหนึ่งพุ่งออกมา

เงาเหล่านั้นคืออสูรตัดวิญญาณ 53 ตน รวมถึงคนจากแดนสวรรค์และโลกอสูรที่มันเพิ่งสังหารไป

ทาสมิติ! ผู้ใดที่ถูกอสูรมิติสังหารโดยที่ยังเหลือดวงจิตอยู่ คนเหล่านั้นจะกลายเป็นทาสมิติ

“ไป! เข้าไปฆ่าพวกมันให้หมด!”

“ขอรับ!”

อสูรตัดวิญญาณทั้ง 53 ตนเคลื่อนไหว มุ่งทะลวงเข้าสู่ข่ายอาคม

“ในที่สุดก็ปลอดภัยแล้ว...”

ซีหลานผ่อนลมหายใจอย่างโล่งใจ

“ไม่หรอก… ถึงมันจะอยู่ข้างนอก แต่มันส่งนทาสเข้ามาตามล่าเรา” วู่หยานกล่าว

“ทาส...ของอสูรมิติ… ตามตำนานกล่าวขาน หากอสูรมิติสังหารผู้ใด มันจะคงดวงจิตเอาไว้เพื่อนำมาเป็นทาส โดยที่ทาสเหล่านั้นจะมีระดับพลังเท่ากับยามที่ยังมีชีวิต… แต่พวกมันไม่ฉลาดจึงรับมือได้ไม่ยากนัก… เจ้าแตงกวาน้อย เจ้ามั่นใจหรือเปล่าว่าจะผ่านข่ายอาคมไปได้”

“อืม… นี่คือข่ายอาคมระดับเซียน นามว่าข่ายอาคมวังทมิฬ มีตาข่ายอาคมด้วยกันทั้งหมด 49,000 แห่ง มีประตูผ่านมีศิลาแหางชีวิตและความตาย 7 แผ่น หากผ่านเข้าไปได้ ก็จะช่วยดวงจิตของลู่หวู่ได้ และได้รับดาราจักรพรรดิ”

หนิงฝานขมวดคิ้วพลางมองบนประตูขนาดใหญ่

“ลู่หวู่ตายแล้วจริงเหรอ? แล้วทำไมดวงจิตถึงถูกผนึกเอาไว้...” วู่หยานกล่าวถามด้วยความสงสัย

“น่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ บางที สาเหตุการตายของลู่หวู่อาจถูกลืมไปแล้วก็ได้”

หนิงฝานไม่กล่าวอธิบาย เขานำทาสในขอบเขตตัดวิญญาณเก็บไว้ เหลือเพียงมังกรทมิฬและทาสในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง รถเพลิงทองคำที่เสียหายก็เก็บเอาไว้เช่นเดียวกัน

หากมองจากภายนอกเข้ามาในข่ายอาคม จะไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ชัดนัก แต่หากมองจากข้างในจะเห็นแผ่นศิลาลอยคว้างอยู่ทั้งหมด 7 แผ่น แบ่งเป็น 1 ขาว 6 ดำที่หมายถึงความตาย เพียงแต่สีของพวกมันและเส้นทางที่พวกมันเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

แต่ด้วยเต๋าแห่งข่ายอาคมของหนิงฝาน การจะจำแนกว่าแผ่นศิลาใดคือแผ่นศิลาแห่งชีวิต ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

หนิงฝานติดตามแผ่นศิลาแห่งชีวิตไปพร้อมกับเหล่าสตรี ไม่นานก็ผ่านตาข่ายอาคมไปหลายร้อยแห่ง

ไกลออกไป เหล่าทาสของอสูรมิติไล่ตามหนิงฝานมา พวกมันทะยานตามรอยหนิงฝานอย่างชาญฉลาด จึงผ่านตาข่ายอาคมไปได้ง่ายๆ

“ลู่เป่ย ยอมรับชะตากรรมของเจ้าซะ...”

ทาสที่ทะยานนำเหล่าทาสทั้งหมดคือหลินซูและสองชายชราแห่งนิกายปีศาจขาว

แม้ความทรงจำของพวกมันจะหายไปจนเกือบหมด แต่มันยังจำได้ว่ามีความแค้นต่อหนิงฝาน ดังนั้น มันจึงต้องการหนิงฝาน

หนิงฝานหันหลังมองเงาร่างของทาสทั้ง 53 ตนที่กำลังไล่ตามมาอย่างกระชั้น เขาขมวดคิ้ว กระตุ้นพลังน้ำแข็งที่เคยถ่ายไว้ในร่างของสองชายชรา

น้ำแข็งสีดำปะทุ เปลี่ยนให้สองชายชรากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง แต่พวกมันก็ทำลายออกมาได้ในชั่วพริบตา

ในจังหวะนั้น แผ่นศิลาถึงคราวโคจรมาขวางเหล่าทาส พวกมันพยายามสุ่มเลือกแผ่นศิลา แต่ด้วยแผ่นศิลาทั้ง 7 นั้นมีเพียงหนึ่งเดียวที่ปลอดภัย ดังนั้น พวกมันจึงถูกพลังที่แฝงอยู่ในแผ่นศิลาสีดำสังหารไปหลายตน เหลือรอดเพียง 7 ตนเท่านั้น

ในช่วงจังหวะนั้นเอง หนิงฝานเร่งทิ้งห่างพวกมัน จนพวกมันไม่อาจตามรอยและตามเส้นทางของหนิงฝานได้

“ไอ้พวกข้าบ้านั่นตายซะที… เห้อ ในที่สุดก็ปลอดภัย” ซีหลานถอนหายใจอีกครั้ง

“อืม… ถือว่าพวกมันโชคร้าย ตอนนี้คงตามเราไม่ทัน พวกที่ตามทันก็เหลือแค่คนของนิกายปีศาจขาวเท่านั้น...”

หนิงฝานยังคงนำเหล่าสตรีมุ่งหน้าต่อตามเส้นทางการโคจรของศิลาแห่งชีวิตด้วยความระมัดระวัง

“ไอ้หนู! เจ้าหนีเก่งดีนี่!”

เบื้องนอกข่ายอาคม อสูรมิติตกตะลึงกับความเร็วในการเคลื่อนไหวของหนิงฝาน ข่ายอาคมวังทมิฬเป็นถึงข่ายอาคมระดับเซียน ต่อให้มันเข้าไปด้วยตนเอง ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวภายในได้รวดเร็วเหมือนหนิงฝาน นั่นหมายความว่า เต๋าแห่งข่ายอาคมของมันยังด้อยกว่าหนิงฝานอยู่มาก

เหตุมันมองเห็นหนิงฝานและรู้การกระทำของเขา เพราะมันใช้วิชาสัมผัสโลก มันเห็นหนิงฝานผ่านเส้นทางและตาของข่ายอาคมในตำแหน่งต่างๆได้อย่างง่ายดาย

อสูรมิติขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนมันต้องตามล่าหนิงฝานด้วยตนเอง

เป้าหมายของหนิงฝานคือผ่านเข้าไปให้ถึงส่วนที่ลึกที่สุดของข่ายอาคม  หากไปถึงที่นั่นได้ อสูรมิติจะไม่สามารถติดตามเข้าได้อีก

และยามนี้ ต่อให้พวกมันคิดจะตามหนิงฝานเข้าไป ก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเสียแล้ว

“บ้าเอ้ย! เต๋าแห่งข่ายอาคมของมันเหนือกว่าข้า… มิน่ามันถึงผ่านข่ายอาคมเข้าไปได้ง่ายขนาดนั้น!” อสูรมิติทะยานเข้าสู่ข่ายอาคม แต่ความเร็วในการเลือกเส้นทาง และข้ามผ่านเส้นทางไปตามศิลาแห่งชีวิตนั้น ช้ากว่าหนิงฝานมาก แต่หากมันเร่งร้อนเกินและก้าวพลาด มันจะถูกสังหารทันที

แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ระดับพลังของมันจะลดลงมาก แต่มันยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีบางครั้งที่ก้าวพลาด แต่มันยังต้านรับการจู่โจมจากพลังที่แฝงอยู่ในศิลาแห่งความตาย และได้รับบาดเจ็บไม่มาก

ดังนั้น มันจึงตัดสินใจไม่มุ่งไปตามศิลาแห่งชีวิต มันทะยานตรงมุ่งไปยังทิศที่หนิงฝานอยู่โดยไม่สนใจการจู่โจมจากศิลาแห่งความตาย

“ลู่เป่ย! เจ้าไม่มีทางหนีข้าพ้น!” อสูรมิติเย้ยหยัน มันฝ่าการจู่โจมโดยไม่สนใจบาดแผลที่ทวีจำนวนมากขึ้นบนร่าง

สีหน้าเหล่าสตรีแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง อีกฝ่ายพยายามตามล่าอย่างไม่ลดละ จนเยว่หลิงคงอดด่าทอมันไม่ได้

“บ้าเอ้ย! มันบ้าไปแล้ว นี่เป็นถึงข่ายอาคมระดับเซียน แต่มันยังมุ่งฝ่ามามาได้! เดิมทีข้าว่าแตงกวาน้อยก็บ้าแล้ว มันกลับบ้ายิ่งกว่า ทำยังไงดี เราหนีมันไม่พ้นแน่!”

“ทำทุกวิธีเพื่อถ่วงเวลามัน!”

ครั้งหนึ่งอสูรตนนี้เคยเป็นเซียน ร่างกายแข็งแกร่งทรงพลังที่จะต้านรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกตรงๆได้

“เป่ยเหยา เร่งมือเร็วเข้า!” หนิงฝานกำหมัดแน่น ยามนี้นับเป็นวิกฤตที่ร้ายแรงที่หนิงฝานต้องเผชิญ

อีกฝั่งของวังดารา เหล่าขุมกำลังจากแดนสวรรค์หยุดจู่โจม พวกมันเพ่งสมาธิราวกับกำลังสัมผัสถึงเหตุการณ์ภายใน

พวกมันอยากรู้ว่าหนิงฝานจะถูกสังหารหรือเปล่า?

“นี่ก็ 10 วันแล้ว ทำไมยังไม่ได้ยินเสียงของเซียนที่อยู่ในนั้นอีก… หรือลู่เป่ยยังไม่ตาย?”

“ข้าก็ไม่รู้ แต่จะมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนไหนที่หนีพ้นจากเซียนได้...”

ผู้คนจำนวนมากขบคิด แต่ในขณะเดียวกันนั้น เสียงคำรามที่แฝงด้วยความโกรธแค้นดังมา!

“ฟังจากเสียง… เซียนคนนั้นบาดเจ็บ!”

“เป็นไปไม่ได้! ลู่เป่ยจะทำร้ายเซียนได้ยังไง!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด