GE334 อสูรมิติ [ฟรี]
การร่วมรักผันผ่าน ความเจ็บปวดต่างๆที่ประสบหายไป
เป่ยเหยานำอาภรณ์ที่ถูกฉีกขาดปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่า แววตาคู่งานดูซับซ้อน แต่กลับกล่าวอย่างเย็นชา
“ข้าดีขึ้นแล้ว… เจ้าออกไปก่อน ข้าจะเก็บตัวฟื้นฟูพลัง...”
นำเสียงของนางฟังดูเย็นชายิ่งกว่าก่อน ราวกับนางไม่ใช่คนเดิม นั่นเพราะระดับพลังที่ฟื้นฟู ทำให้นิสัยและตัวตนของนางได้รับผลกระทบ
ความเย่อหยิ่ง เย็นชา ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นนิสัยของผู้ที่ทรงพลัง
“อืม...” หนิงฝานจ้องมองนาง โยนอาภรณ์ขาวให้ก่อนจะจากไป
เขารู้ว่าระดับพลังของนางกำลังเพิ่มขึ้น เป่ยเหยาคนเดิมได้หายไปแล้ว
“มีเพียงบรรลุระดับเดียวกับนาง ยืนอยู่จุดเดียวกันกับนาง ข้าถึงจะคู่ควรกับนาง… หลังจากนี้นางคงไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาอีก!”
หนิงฝานหันกายกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยว ราวกับตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนใจนางอีก
“ข้าขอโทษที่ต้องล่วงเกินท่าน… หากไม่เพราะจำเป็นข้าคงไม่ทำแบบนี้...”
แรงกดดันที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความรู้สึกที่ทั้งสองมีให้กัน แต่เป็นเพราะสถานะที่ห่างกันเกินไป
หนิงฝานเดินออกไปภายนอก ระหว่างนั้น หลั่วโยว่ที่เห็นใจหนิงฝานจึงกล่าวปลอบ
“น้องข้า… อย่าได้เศร้าใจไป ด้วยสถานะของนางแล้ว นางไม่อาจมีสัมพันธ์กับบุรุษผู้ใดได้… หากเรื่องระหว่างเจ้าและนางถูกเปิดเผย เจ้าอาจถูกสังหาร นางคงไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น… ที่นางเย็นชากับเจ้าก็เพราะหวังดีกับเจ้านะ”
“อืม...ข้ารู้ ข้าแค่ไม่ชอบที่นางทำแบบนั้นกับข้า ถึงนางจะเสแสร้งแกล้งทำ แต่ข้าก็ไม่ชอบอยู่ดี!”
“เจ้ารีบยกระดับพลังเถอะ ข้าเฝ้ารอให้เจ้าแข็งแกร่งพอที่จะไปชิงตัวนางมาเป็นของเจ้า… ถ้าเจ้าทำได้ พวกตาเฒ่าในแดนสวรรค์เหนือคงได้ตาค้าง และเจ้าก็อาจต้องเผชิญหน้ากับการถูกพวกมันตามล่าด้วย” หลั่วโยว่ยิ้มอย่างพอใจ
“จะว่าไป...” น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป
“มีอะไรเหรอ!” หนิงฝาน
“เจ้าร่วมรักกับนาง 2 ครั้งแล้ว… วิชาแปลงหยินหยางของเจ้าน่าจะใกล้บรรลุขอบเขตที่ 3 แล้ว”
“ว่าไงนะ!” หนิงฝานตกตะลึงและหลับตาสัมผัส
ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจที่จะช่วยเป่ยเหยาอย่างเต็มที่จนไม่ได้ใส่ใจเรื่องวิชาแปลงหยินหยาง
เมื่อสัมผัสได้ถึงวิชาแปลงหยินหยาง หนิงฝานจึงอุทานขึ้น “ใกล้จะทะลวงขอบเขตแล้ว!”
วิชานั้นแตกต่างกันระดับพลัง ที่แม้จะยกระดับได้เหมือนกัน แต่ระดับความยากต่างกันมาก หนิงฝานรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก
หากไม่เพราะเป่ยเหยามีระดับพลังสูงส่ง วิชาแปลงหยินหยางของเขาคงไม่ยกระดับอย่างก้าวกระโดดขนาดนี้
“ฮ่าฮ่า! เป็นไงหล่ะ ก้นของน้องเหยาเอ๋อร์สุดยอดเลยใช่มั้ยหล่ะ? หากเจ้าจะทะลวงขอบเขตที่ 3 ของวิชาแปลงหยินหยาง เจ้าต้องร่วมรักกับสตรีขอบเขตไร้แบ่งแยก 100 ครั้ง แต่น้องเหยาเอ๋อร์มีระดับพลังที่สูงส่งกว่านั้นมาก ทำให้วิชาของเจ้าได้รับผลไม่น้อย… ข้าจะบอกอะไรให้ โลกหยินนั้นแตกต่างจากโลกในแหวนเย่าหยวนของเจ้า หากเทียบกันแล้ว โลกเย่าหยวนของเจ้าคือจักรวาลขนาดเล็ก แต่โลกหยินนั้นคือจักรวาลขนาดกลาง!”
“จักรวาลขนาดกลาง… มันคืออะไร?” หนิงฝานกล่าวถาม
“ในสมบัติบางชนิดนั้นมีมิติเป็นของตน ยกตัวอย่างเช่น สมบัติที่อยู่อาศัย… ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงจำนวนมากจะมีสมบัติที่อยู่อาศัยเป็นของตน คนพวกนั้นสามารถเข้าไปอยู่ในสมบัติเพื่อเก็บตัวฝึกฝนได้ตลอดเวลา ที่สำคัญ มันยังเป็นที่หลบภัยได้ด้วย… แต่เจ้าต้องจำไว้ ว่าแม้จะหนีเข้าไปอยู่ในสมบัติ แต่หากเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง มันแค่โบกมือครั้งเดียวสมบัติเจ้าก็พังแล้ว” หลั่วโยว่กล่าวอย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้สองชายชราแห่งนิกายปีศาจขาวเองก็หลบเข้าไปอยู่ในสมบัติที่อยู่อาศัย แต่ก็ถูกอสูรมิติทำลายได้ในพริบบตา
“สมบัติที่อยู่อาศัยระดับสูงชั้นกว่าทั่วไปเรียกว่า ‘จักรวาลเล็ก’ เป็นสิ่งที่แท้แต่เซียนก็ทำลายไม่ได้… แต่อสูรมิติพวกนั้นมีวิธีที่ทำลายได้ แต่หากเป็นสมบัติที่อยู่อาศัยที่สูงชั้นขึ้นไปอีก หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘จักรวาลกลาง’ อย่างโลกหยินหยาง ต่อให้เป็นจักรพรรดิเซียนก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้!”
“ถ้าเกิดเจ้าบรรลุวิชาแปลงหยินหยางขอบเขตที่ 3 เจ้าจะเปิดโลกหยินหยางได้ แม้ต้องเผชิญหน้ากับอสูรมิติ พวกมันก็ทำอะไรเข้าไม่ได้… แต่หากเจ้าไม่บรรลุขอบเขตที่ 3 เจ้าก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้ ข้าเองก็ออกไปจากที่นี่ก็ไม่ได้… แต่ยังไงซะก็ต้องขอบเขตน้องเหยาเอ๋อร์ที่ทำให้วิชาของเจ้ายกระดับมาได้ขนาดนี้ แต่นอกจากจะยกระดับวิชาแล้ว เจ้ายังได้อีก 2 สิ่ง!”
“ได้อะไร!” ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย
“อย่างแรก ดวงจิตของข้าจะออกจากโลกหยินได้ชั่วคราว เพื่อมอบพลังให้เจ้าได้บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ชั่วคราวเช่นกัน… แต่ว่าดวงจิตของข้าอ่อนแอ หลังจากมอบพลังให้เจ้าแล้ว ข้าอาจจะหลับไหลไปอีกนาน แต่อย่างน้อยๆก็ช่วยให้เจ้าต่อกรกับอสูรมิติได้”
“ท่านจะใช้ดวงจิตมอบพลังให้ข้า? ดวงจิตของท่านอ่อนแอ ทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้ท่านอยู่ในอันตราย! ข้าไม่ยืมพลังของท่านเด็ดขาด”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาไม่อยากหยิบยืมพลังผู้อื่น ยิ่งโดยเฉพาะหลั่วโยว่ที่อ่อนแอ เขาไม่อยากให้นางเป็นอันตราย!
นางช่วยเหลือเขามาหลายครั้ง เขาจึงไม่อยากพึ่งพานางอีก
“เรื่องที่ข้าจะให้หยิบยืมพลัง เอาเป็นว่าหากไม่จวนตัวจนเจ้าไร้หนทางจริงๆ ข้าจะไม่ให้ยืม… อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าได้จากเหยาเอ๋อร์ก็คือ ‘อนุสรณ์ตะวันจันทรา’”
“อนุสรณ์ตะวันจันทรา? ใช่อนุสรณ์เพลิงขนาดยักษ์ที่ข้าเห็นในความฝันหรือเปล่า...” หนิงฝานขบคิด คาดไม่ถึงว่าการยกระดับของวิชาแปลงหยินหยางจะทำให้ได้ครอบครองสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
“ยังไงก็แล้วแต่ ข้าก็ขอบคุณที่เจ้าช่วยน้องเหยาเอ๋อร์...” หลั่วโยว่กล่าว
“เราสนิทกันขนาดนี้แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก… ข้าจะออกไปข้างนอกหน่อย กว่าเป่ยเหยาจะฟื้นฟูพลังสมควรใช้เวลาไม่น้อย ข้าเป็นห่วงคนอื่นๆ”
เมื่อกล่าวจบหนิงฝานก็รีบออกไปทันที
[ ** ประกาศ หนิงฝาน มีเว็บส่วนตัวแล้วครับ https://laosoofung.com/
มีการขายเหมือนที่นี่ แต่ราคาถูกกว่าเพียงตอนละ 1.5 บาท หากสนใจเชิญได้ที่เว็บ https://laosoofung.com/
หรือแฟนเพจ "ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง" ข้างล่างครับ
ที่ด้านนอกของรถเพลิงทองคำ เหล่าทาสช่วยกันป้องกันพายุมิติที่พัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เยว่หลิงคง ซีหลาน วู่หยาน และศพนางสวรรค์ก็ช่วยกันทุ่มพลังควบคุมรถเพลิงทองคำอย่างเต็มที่
เมื่อสัมผัสได้ว่าหนิงฝานกลับออกมา วู่หยานก็ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเจ้าถึงเข้าไปนานขนาดนี้ หรือว่า...”
นางได้กลิ่นกายเป่ยเหยาบนตัวหนิงฝาน เป็นกลิ่นที่ชัดเขนราวกับผ่านการสัมผัสแนบกายใกล้ชิด ทำให้วู่หยานหน้าแดง
พวกนางทุ่มกำลังกันเต็มที่เพื่อปกป้องรถเพลิงทองคำ แต่หนิงฝานกลับ...
“เจ้านี่เหลือเชื่อจริงๆ… แล้วเป่ยเหยาเป็นยังไงบ้าง?” เยว่หลิงคงพูดไม่ออก นางรู้ว่าหนิงฝานใช้วิธีขขัดเกลาผสานเพื่อลดความเจ็บของเป่ยเหยา
“ข้าร่วมรักกับนางเพื่อช่วยชีวิตนาง ตอนนี้นางกำลังฟื้นฟูพลังอยู่ อาจต้องใช้เวลาสักระยะ ช่วงนี้พวกเราก็หนีให้เต็มกำลังก่อน… คนผู้หนึ่งให้แผนที่ข้ามา อีกพันล้านลี้ข้างหน้านั่นมีข่ายอาคมระดับเซียนอยู่ ถ้าเราเข้าไปในนั้นได้ ก็น่าจะหนีการตามล่าของอสูรมิติได้พ้น”
“ฮึ่ม!” ศพนางสวรรค์แค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ
นางเข้าใจคำว่าร่วมรัก ถึงจะบอกว่าเพื่อช่วยเป่ยเหยา แต่ก็ร่วมกันอยู่ดี
หนิงฝานไม่ได้อธิบายรายละเอียดให้พวกนางฟัง พวกนางเองก็ไม่กล้าถาม เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทุ่มกำลังหลบหนี
“ทำไมอสูรมิติถึงได้ตามล่าพี่เป่ยเหยา? แล้วพี่เป่ยเหยามีพลังระดับไหนกันแน่? นางเป็นใคร?” ซีหลานกล่าวถามด้วยความสงสัย ซึ่งเป็นนิสัยปกติของสตรี
“ข้าไม่รู้ว่านางเป็นใคร ไม่รู้ว่านางมีพลังระดับไหน… ข้ารู้แค่ว่าแม้นางจะถูกอสูรมิติ 2 ตนลอบจู่โจม นางยังฆ่ามันได้ตนหนึ่ง อีกตนหนึ่งก็บาดเจ็บไม่แพ้กัน และหากให้ข้าเดา นางอาจจะเป็นหนึ่งในสี่นายหญิงน้อยของวิหารสาญสูญแห่งแดนสวรรค์เหนือ!”
“อะไรนะ! แดนสวรรค์เหนือ! นางสูงส่งขนาดนั้นแต่เจ้ายัง… เจ้าแตงกวาน้อย เจ้าอยากตายหรือไง!” เยว่หลิงคงตกตะลึง
นายหญิงน้อยแห่งวิหารสาบสูญไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทั่วไปจะเอื้อมถึง
เยว่หลิงคงรู้ว่านายหญิงน้อยที่ 4 แห่งวิหารสาบสูญอยู่ในทะเลส่วนนอก แม้นางจะมีระดับพลังไม่สูงนัก แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินนาง
ซีหลานและวู่หยานหน้าแดงก่ำ หนิงฝานได้ครอบครองนายหญิงน้อยของวิหารสาบสูญ
“ลู่เป่ยเก่งกาจก็จริง แต่เรื่องสตรีกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่า!”
เหล่าสตรีคิดเห็นเช่นเดียวกัน แม้หนิงฝานจะทรงพลัง มีระดับจิตใจที่เหนือล้ำกว่าทั่วไป แต่ความกล้าหาญของเขากลับเหนือกว่านั้นขึ้นไปอีก
เมื่อกล่าวจบหนิงฝานก็ไม่สนใจำพวกนาง เขาเข้าควบคุมรถเพลิงทองคำแทนพวกนางทันที
การหลบหนีดำเนินไปถึง 9 วันเต็ม ยามนี้รถเพลิงทองคำอยู่ไม่ห่างจากข่ายอาคมระดับเซียนมากนัก
“ใกล้จะถึงแล้ว ถ้าเราไปถึงที่นั่นได้ เราก็จะปลอดภัย!”
แต่ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ สีหน้าเขากลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงที่กำลังจะเข้าปะทะร่าง เขาจึงเร่งนำระฆังทะเลตะวันออก ออกมาต้านรับ
พายุมิติรอบข้างก่อตัวคล้ายเมฆ ก่อนให้กำเนิดพิรุณโปรยปราย ไกลออกไปมีเสียงที่น่าหวาดกลัวดังมา
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก! วิชาพิรุณ!” บุรุษผู้หนึ่งทะยานมาในมิติพลางใช้วิชาจู่โจม
“อสูรมิติ!”
เหล่าสตรีหวาดกลัววิชาที่บุรุษผู้นั้นใช้ เม็ดพิรุณนับล้านโปรยปราย แต่ละเม็ดแฝงด้วยพลังมิติที่ทรงพลังจะสังหารขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุดได้ในพริบตา
“บ้าเอ้ย! ข้าต้านรับไม่ไหว” แม้เยว่หลิงคงจะฟื้นฟูระดับพลังดังเก่า แต่นางก็มั่นใจว่ารับวิชานี้ไม่ได้
หยาดพิรุณพรั่งพรมกระทบรถเพลิงทองคำ ทำให้รถได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
“เป็นวิชาพิรุณที่ทรงพลัง! ระฆังทะเลตะวันออก!”
หนิงฝานขยับนิ้วเป็นท่าทางกระตุ้นระฆัง จนมันทอแสงสีทองอร่าม รอบข้างปรากฏเมฆทองคำก่อตัว เข้าต้านรับพิรุณเหล่านั้น
ระฆังทะเลตะวันออกไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อใช้ต่อสู้ แต่มันถูกสร้างมาเพื่อป้องกัน ยิ่งกับพลังมิติยิ่งไม่เป็นผลกับมัน ดังนั้น พิรุณที่เกิดจากพลังมิติจึงไม่อาจทะลวงผ่านการป้องกันได้
อสูรมิติที่ไล่ตามมาสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“นี่มัน… ระฆังสยบสวรรค์! สมบัติเซียนและแดนสวรรค์ตะวันออก! ทำไมถึงมาอยู่ในมือเจ้าได้ เป็นไปไม่ได้!”
แต่เมื่อมันสังเกตุดีๆมันกลับโล่งใจ เพราะระฆังที่อยู่ในมือหนิงฝาน ไม่ใช่ระฆังสยบสวรรค์จริงๆ
สำหรับเหล่าอสูรมิติแล้ว ระฆังสยบสวรรค์นับเป็นฝันร้ายของพวกมัน!
เบื้องหน้าเป็นข่ายอาคมระดับเซียนขนาดยักษ์ หนิงฝานเร่งนำสมบัติหลายชิ้นออกมา ขยับมือเป็นท่าทางผสาน
“นั่นมัน… ข้ายอาคมระดับเซียน… ข่ายอาคมวิหารทมิฬ! ฮึ่ม! อย่าหวังว่าข้าจะให้เจ้าเข้าไปในนั้นได้! วิชาอสูมิติ...เสียงสวรรค์!”
คลื่นแสงสีดำจำนวนมากพุ่งตรงเข้าลำคอของอสูรมิติ ก่อนที่มันจะอ้าปากเปล่งคลื่นเสียงคำลายรถเพลิงทองคำ การโจมตีระดับสามารถสังหารหนิงฝานและเหล่าสตรีได้!...