ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 345
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 347

Returning From The Immortal World - 346


.......................................................................................................................................................................................

เสียงของพยาบาลคนนั้นเองก็ได้ทำให้หมอที่กำลังเดินจากไปหยุดเท้าทันที หมอระดับสูงที่ตามซังเหวินเฟิงพร้อมกับพยาบาลมากมายเองก็ได้มองไปที่เตียงผู้ป่วยคนนั้น

เลือดไม่ไหล ?

ใบหน้าของทุกคนเองก็ถูกแต้มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

ซันเหวินเฟิงเองก็ได้มองไปที่ผู้ป่วยครู่หนึ่งก่อนที่จะหันกลับไปมองถังซิ่วด้วยความรู้สึกตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาได้ผ่านการรักษาผู้ป่วยมาหลายปีไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ก็หลายครั้ง

แต่ !

ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่เห็นว่าจะไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล ทว่าตอนที่ถังซิ่วได้เปิดแผลพร้อมใช้แหนบจัดกระดูกและหยิบกระดูกที่แตกหักออกมานั้นไม่มีเลือดกระเซ็นออกมาให้เห็นแม้แต่เล็กน้อย

ริมฝีปากของฮูซูเหลินเองก็ได้ขยิบไปมาพร้อมกับพึมพำออกมาว่า

“ก่อนหน้านี้ผมเป็นว่าเขากดรอบๆบาดแผลของชายคนนั้น อย่าบอกนะว่า........อย่าบอกนะว่าเขารู้เทคนิคการห้ามเลือด ?”

เทคนิคห้ามเลือด ?

ท่าทางของซังเหวินเฟิงเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“นายแน่ใจนะว่าก่อนหน้านี้เขาได้กดไปรอบๆบาดแผลของชายคนนั้น ?”

ฮูซูเหลินเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า

“ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น คนอื่นๆก็เห็นเหมือนกัน”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้มองไปที่คนอื่นๆและพบว่าพวกเขากำลังพยักหน้ากันอยู่ เขาได้รีบวิ่งตามถังซิ่วไปทันทีเพราะเขาต้องการจะสำรวจว่าถังซิ่วประสบความสำเร็จไปถึงระดับไหนแล้ว

ที่ชั้นสอง

คนงานหลายคนเองก็อยู่ภายใต้การดูแลของนางพยาบาลพร้อมทั้งตะโกนออกมา พวกเขามาที่นี่เพื่อจะมารักษาทว่ากลับมีห้องผ่าตัดไม่พอและสิ่งที่พวกเขาโกรธที่สุดคือหมอเองก็ส่งที่คนที่อาการบาดเจ็บธรรมดาๆเข้าไปในห้องผ่าตัดแต่พวกเขา 4 คนที่อาการสาหัสกลับต้องรออยู่ด้านนอก

“ไม่ต้องกังวลไปเพราะผู้อำนวยการได้สั่งการมาเองว่าได้มีหมอที่เก่งกาจมาที่โรงพยาบาลของเราซึ่งเขาจะรักษาพวกคุณทั้งสี่เอง ยิ่งไปกว่านั้นโปรดถอยออกไปด้วยเพราะว่ามันขวางทางและจะส่งผลเสียต่อการรักษาคนอื่น”

นางพยาบาลเองก็พูดออกมาเสียงดัง

ชายที่รูปร่างผอมบางเองก็ได้พูดออกมาเสียงดังว่า

“เธอไม่ได้กำลังโกหกอยู่สินะ ? พวกเราเองได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แล้วหมอที่เก่งกาจคนนั้นเป็นใคร ? อย่าบอกนะว่าพวกคุณไม่รู้ว่าการรักษาชีวิตก็เหมือนกับการดับไฟ หาก....”

“ไม่มีหาก !”

เสียงที่เย็นยะเยือกก็ได้ถูกส่งเข้ามา

ถังซิ่วเองก็ได้ผลักคนอื่นที่ขวางทางออกพร้อมกับมองไปที่ผู้ป่วยคนหนึ่ง

“ค๊อก ค๊อก ......”

ชายคนนั้นเองก็ได้กระอักเลือดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง แท่งเหล็กได้เสียบทะลุหน้าอกของเขาซึ่งสามารถเห็นด้วยตาเปล่าว่าบาดแผลเหวอะออกมามากกว่า20 ซ.ม. ก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า

“ซูซี่ .......ซูซี่”

“ผมอยู่นี่ครับพี่ด้าเชียน”

ชายที่รูปร่างผอมเองก็ได้ยิ่งมาตรงหน้าเขาพร้อมกับพูดว่า

“พี่ด้าเชียน อย่าเพิ่งพูดอะไรอีกเลย หมอกำลังมา หมอกำลังมาแล้ว”

ชายคนนั้นเองก็ได้มีเส้นเลือดปูดโปนออกมาพร้อมทั้งพยายามบีบเอารอยยิ้มก่อนที่จะพูดว่า

“ซูซี่ แผลของฉัน.......ฉันรู้ดี ตอบฉันมา........ได้โปรดสัญญากับฉัน......ดูแลครอบครัวของฉันด้วย......”

ชายที่ชื่อซูซี่เองก็ได้ร้องไห้ออกมาไม่หยุดพร้อมกับยกแขนขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วพูดออกมาอย่างดังว่า

“ผมเข้าใจแล้ว พี่โปรดวางใจได้เลยว่าหลังจากนี้พ่อแม่ของพี่ก็คือพ่อแม่ของผม ผมจะดูแลพวกเขาเอง......พี่สะใภ้และลูกพี่เองผมก็จะช่วยดูแลพวกเขา พี่ไม่ต้องเป็นห่วง.....”

“ขอบคุณ........ขอบคุณนะน้องพี่ .....”

ทันใดนั้นเขาก็ได้กระอักเลือดออกมาอีกครั้งพร้อมกับล้มลงไปนอนบนเตียง

ถังซิ่วเองก็ได้จับไปที่ข้อมือของเขาและพบว่าพลังชีวิตได้กำลังหมดไปด้วยความเร็วแต่จิตสัมผัสของเขาเองก็แสดงให้เห็นว่ากระดูกที่แตกหักได้เสียบทะลุหัวใจของเขาไปแล้ว

ได้แต่ส่ายศีรษะ

ถังซิ่วได้หันหน้ากลับไปพร้อมตรวจดูผู้ป่วยคนอื่นๆต่อ

“หมอ หมอไปตายโหงที่ไหนกันหมด ?”

ซูซี่เองก็ได้คำรามออกมาเสียงดังขณะที่ดวงตาของเขาเป็นสีแดง

ถังซิ่วที่กำลังตรวจอาการของคนอื่นๆอยู่นั้นก็ได้หันกลับมาก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

“ช่วยไม่ได้แล้ว เขาถูกกระดูกปอดที่หักแทงทะลุหัวใจ”

ซูซี่เองก็ได้ตะโกนออกมาว่า

“แกเป็นใครกัน !”

ท่าทางของถังซิ่วก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมทั้งแสยะออกมาว่า

“ฉันเองก็รู้สึกเสียใจที่พี่ของนายจากไปแต่หากนายยังกล้าที่จะพูดกับฉันด้วยวาจาหยาบคายแบบนี้ฉันก็ยินดีที่จะยืนเฉยๆรอดูพวกเขาตายให้หมด ถอยออกไปซะไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีใครรักษาพวกเขา”

ลมหายใจของซูซี่เองก็ได้แผ่วลงพร้อมกับถามออกมาว่า

“นายเป็นหมอ ?”

“ใช่”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปอย่างไม่แยแส

ซูซี่เองก็ได้โบกมือให้กับคนงานคนอื่นๆพร้อมให้พวกเขาเดินออกไป

ตรวจอาการ

รักษา

ถังซิ่วได้ยุ่งอยู่กับเรื่องเหล่านี้กว่า20นาที เขาได้รักษาผู้ป่วยไป3คนซึ่งสามารถให้โรงพยาบาลรักษาพวกเขาต่อได้อย่างไม่มีปัญหา

“ผู้อำนวยการซัง ผมได้รักษาพวกเขาหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็แค่ให้พวกคุณทำตามสิ่งที่จำเป็น ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำดังนั้นผมขอตัว”

ซังเหวินเฟิงที่จดจ่อยอยู่กับวิธีรักษาของถังซิ่วเองก็ไม่เข้าใจถึงเทคนิคของเขาแม้แต่น้อย มันช่างน่าลึกลับซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลย หลังจากที่ได้ยินว่าถังซิ่วจะกลับไปแล้วนั้นเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หมอเทวดาถัง ช่วยรักษาอีกหน่อยได้ไหม ? ตอนนี้ในห้องผ่าตัดเองก็มีผู้ป่วยอยู่มากมาย ฉันกลัวว่ามันจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“หากว่ามีข้อผิดพลาดอีกก็จะโยนมาให้ผมงั้นหรอ ? หากพูดกันตรงๆนะผู้อำนวยการซัง ผมรู้ว่าคุณกังวลและกลัวว่าผมจะไม่สามารถรักษาพวกเขาได้แต่จะทำให้เสียเวลา ? ฮิ ฮิ ....ผมจะให้เบอร์โทรผมไปแล้วกัน หากว่ามีอะไรก็ติดต่อผมได้เสมอ”

ซังเหวินเฟิงที่ได้ยินคำพูดที่ตรงประเด็นของถังซิ่วเองก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“หมอเทวดาถังเข้าใจผิดแล้ว เทคนิคของเธอช่างน่าทึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอรักษาพวกเราเองก็ได้สังเกตอยู่และอยากจะให้เธออยู่ต่ออีกหน่อยเพราะก่อนหน้านี้ที่ฉันอยากจะไปพบเธอที่โรงพยาบาลเมืองสตาร์ซิตี้เองก็ได้แต่ผิดหวัง”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“จะไปหาผมที่นั่นทำไมงั้นหรอ ?”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้ว่าชื่อเสียงในวงการแพทย์ของเธอเป็นถึงระดับปรมาจารย์แล้ว ? ไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้นแต่ก็มีใครหลายคนที่ไปที่นั่นแต่ก็ต้องกลับมาด้วยความผิดหวัง”

คิ้วของถังซิ่วเองก็ขมวดเข้าหากันพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

“ผู้อำนวยการซัง หวังว่าเรื่องที่ผมมารักษาคนที่นี่จะไม่ถูกเผยแพร่ออกไปนะเพราะผมเองก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และไม่มีเวลาไปตรวจดูคนอื่น ผมไม่ชอบให้ปัญหาเข้ามารุมล้อม”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะแจ้งหมอและพยาบาลเองว่าไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปโดยเด็ดขาด เธอวางใจได้”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับทิ้งเบอร์ไว้ให้กับซังเหวินเฟิงก่อนทีจะกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

“สภาวะของผู้ป่วยทั้ง 5 คนนี้ทรงตัวแล้วยิ่งไปกว่านั้นคือสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าบาดแผลที่ถูกแทงทะลุที่ปอดของชายคนนั้นกำลังรักษาตัวเองด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้หยิบเอกสารรายงานออกมาพร้อมกับถอนให้ใจออกมาว่า

“สมกับที่เป็นหมอเทวดาหนุ่มผู้ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนทั่ววงการแพทย์จริงๆ ชายทั้ง 5 คนนี้หากว่าเปลี่ยนเป็นพวกเราที่ต้องรักษาก็คงมีโอกาสรอดไม่ถึง 10%ด้วยซ้ำ”

หมออีกคนเองก็ได้พูดเชิงเห็นด้วยว่า

“ใช่แล้ว โชคดีจริงๆที่เขามาไม่เช่นนั้น......”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้โบกมือพร้อมกับพูดว่า

“ยังจำคำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกไปได้ไหม ? ในเมื่อเขาไม่อยากจะดังเราก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ อย่าได้เอารายงานเหล่านี้ไปเผยแพร่รวมไปถึงไปบอกเหล่าหมอและนางพยาบาลด้วยว่าอย่าแพ่งพรายเรื่องนี้ออกไปโดยเด็ดขาด”

“ได้ครับ”

หมอคนนั้นเองก็ได้ตอบตกลงพร้อมหันหลังเดินออกนอกห้องไป

ซังเหวินเฟิงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เองก็ได้โทรไปหาหลี่ฮงจี้โดยทันที

“สวัสดี ผู้อำนวยการหลี่ ฉันซังเหวินเฟิง”

“ผู้อำนวยการซัง เป็นอย่างไรบ้าง ?”

“ต้องขอบอกเลยว่าหมอเทวดาของคุณเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นเลย ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมหลังจากที่เขาเข้าทำงานที่โรงพยาบาลของนายเพียงไม่นานแต่กลับสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ขนาดนี้”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ใช่แล้ว เข้าเป็นคนที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก หากพูดกันตามตรงแล้วหากว่าเขาสามารถมาทำงานที่โรงพยาบาลสตาร์ซิตี้ได้ทุกวันฉันก็จะยอมยกตำแหน่งผู้อำนวยการให้เขาเลย”

ท่าทางของซังเหวินเฟิงเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ผู้อำนวยการหลี่ เรามาคุยกันหน่อยไหม ? ตอนนี้เขาได้เรียนหนังสือที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งมันใกล้กับโรงพยาบาลของเรามากๆ ให้เขามาตรวจที่โรงพยาบาลของเราเป็นไง ? ตราบใดที่นายตกลงก็ถือว่าฉันติดค้างหนี้บุญคุณนายก้อนโต”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“ผู้อำนวยการซัง ฉันคงไม่สามารถรับหนี้บุญคุณของนายได้แต่การที่ถังซิ่วสามารถมาตรวจชั่วคราวที่โรงพยาบาลของฉันได้นั้นก็ต้องไปข้อร้องเขาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง หากว่าเขายินดีที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลของนายฉันก็ไม่ขัดขืนหรอกนะ”

ซังเหวินเฟิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจนว่า

“ผู้อำนวยการหลี่ นายหมายถึงว่าต้องไปขอร้องเขาเอง ? ฮ่า ฮ่า ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรฉันก็ขอขอบคุณนายแล้วกัน หลังจากนี้หากนายมาที่เมืองนี้เมื่อไหร่ก็ให้โทรหาฉันได้เลย ฉันจะไปดื่มไวน์ชั้นดีกับนาย”

“ขอขอบคุณ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้ตอบกลับไป

หลังจากที่วางสายไปแล้ว หลี่ฮงจี้ที่นั่งอยู่ในสำนักงานเองก็ได้มีท่าทางหม่นหมองแต่เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรั้งถังซิ่วเอาไว้ เพราะเขาเองก็ได้ใช้ความพยายามมากมายเพื่อเชิญถังซิ่วมา

เขากังวลเป็นอย่างมาก

หากว่าถังซิ่วถูกทาบทามไปโดยซังเหวินเฟิงแล้วหลังจากนี้เขาจะกลับมาตรวจที่โรงพยาบาลของเขาอีกไหม ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด