ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 300
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 302

Returning From The Immortal World - 301


.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่รถของเธอพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างคนขับแล้วมองไปที่อ้ายโม่ลี่ก่อนที่จะถามออกมาว่า

“โรงแรมของเธอมีบ่อนพนันยังไม่พอแต่กลับมีสถานที่แบบนี้ด้วย เธอไม่กลังทางภาครัฐจะมาปราบปรามงั้นหรอ ?”

อ้ายโม่ลี่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยแววตาแปลกๆก่อนที่เธอจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“คุณถัง คุณอาจจะไม่รู้แต่คนที่มีอำนาจใหญ่โตของเมืองนี้เองก็ได้มีหุ้นส่วนของที่นี่ซึ่งทุกๆปีเขาจะได้รับโบนัสที่มากโขเลยทีเดียว”

อย่างงี้นี่เอง !

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ที่แท้พวกเขาก็มีคนมีอำนาจคอยหนุนหลังอยู่นี่เอง เขาเองก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไรต่อไปเพราะเรื่องอย่างงี้มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

หลังจากผ่านไปสองนาที

รถสปอร์ตก็ได้ไปหยุดอยู่ตรงหน้าที่พักของถังซิ่ว

“คุณถัง ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มของเธอ

ถังซิ่วได้พยักหน้าให้กับเธอพร้อมกับกำลังเดินเข้าไปในวิลล่าแต่ทันใดนั้นเองที่เขานึกถึงเรื่องบางอย่างได้จึงรีบหันกลับมาถามว่า

“รองผู้จัดการ เรื่องของมรสุมเป็นอย่างไรบ้าง ? วันพรุ่งนี้จะมีมรสุมอะไรอีกหรือเปล่า ?”

อ้ายโม่ลี่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“เราได้รับการรายงานมาว่าพรุ่งนี้ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งค่ะแต่ฉันเชื่อว่ารายงานนี้เองก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมดเพราะเมื่อกี้ฉันพบว่าสภาพอากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกแล้วและคิดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีพายุลูกใหญ่”

ถังซิ่วได้ถามต่อไปว่า

“เธอคิดว่าสภาพอากาศมันเปลี่ยนไปตำอำเภอใจงั้นหรอ ?”

อ้ายโม่ลี่เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้วค่ะ”

ถังซิ่วเองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ในเมื่อสภาพอากาศยังไม่แน่นอนฉันเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ฝากเธอไปบอกทอมเรกกี้ด้วยว่าพวกเราจะจากไปในวันพรุ่งนี้เช้าเมื่อเรากลับมาแล้วจะมาพักที่นี่อีกครั้ง”

“ได้ค่ะ”

อ้ายโม่ลี่ได้พยักหน้าตอบกลับ

เช้าวันรุ่งขึ้น

ถังซิ่วได้นำพี่น้องโม่ออกจากโรงแกรมอ่าวเหลาของทอมเรกกี้ ซึ่งพวกเขามุ่งหน้าไปที่ท่าเรือทรายแดง หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนได้มาถึงนั้นก็เห็นจุดเชื่อมต่อเรือที่สร้างมาชั่วคราว มันได้แผ่ลงบนทะเลไกลออกไปหลายเมตรพร้อมกับหยุดอยู่ที่เรือหรูหราลำหนึ่ง

ทอมเรกกี้ได้มาถึงที่นี่ก่อนแล้วและกำลังรอพวกเขาอยู่ หลังจากที่ได้เห็นพวกเขามาถึงแล้วทอมเรกกี้จึงได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า ทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ฉันได้ส่งคนไปดูเรียบร้อยแล้วและยิ่งกว่านั้นคืออาหารและเครื่องดื่มรวมไปถึงเส้นทางเดินเรือต่างๆเองก็ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มันเพียงพอสำหรับใช้ชีวิตอยู่ได้1อาทิตย์

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ขอบคุณ”

ทอมเรกกี้ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก”

ทอมเรกกี้ได้เดินไปส่งพวกเขาทั้งสามคนที่เรือก่อนที่ถังซิ่วจะถามออกมาว่า

“ทอมเรกกี้ หากว่าฉันจะซื้อเรือลำนี้นายจะขายมันในราคาเท่าไหร่กัน ?”

ทอมเรกกี้เองก็จ้องมองด้วยความอับอายก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันนำเข้ามันมาจากต่างประเทศและมันเป็นเรือฉันดีที่หายาก ทั้งหมดรวมกันราคา160ล้านดอลลาร์”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“งั้นเอาไป200ล้านดอลลาร์เลยแล้วกัน”

ทอมเรกกี้เองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปก่อนที่จะมองไปที่โม่อาเหวินที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ในที่สุดเขาก็กัดฟันแล้วพูดออกมาว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ขายให้นายแล้วกัน”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นายไปจัดเตรียมเรื่องเอกสารการโอนอะไรไว้แล้วกัน หลังจากที่ฉันกลับมาและเซ็นสัญญาแล้วจะให้เงินนายทันที”

“ไม่มีปัญหา !”

ในเมื่อเขาได้ตัดสินใจแล้วก็จึงได้พูดออกไปอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตามราคาที่ถังซิ่วให้นั้นก็เยอะมากแต่เขาก็ยังเข้าเนื้ออยู่ดีเพราะเมื่อวานนี้ถังซิ่วได้ชนะเงินไปถึง1พันล้านถึงแม้จะเป็นเงินหยวนก็ตามทีแต่รวมๆกันแล้วก็เกือบจะ100ล้านดอลลาร์ สรุปแล้วคือถังซิ่วได้ซื้อเรือลำนี้แค่ในราคาไม่กี่ล้านเท่านั้นเมื่อไปหักจากเงินที่เขาต้องจ่ายให้ถังซิ่ว

หลังจากที่ทอมเรกกี้ลงเรือไปแล้ว เรือก็ได้ออกทันที

ท้องฟ้าสีครามเหมือนการสะท้อนของผืนน้ำ ถังซิ่วได้ยืนอนู่ที่ดาดฟ้าเรือและมองไปยังทิวทัศน์รอบๆ เขารู้สึกมุ่งมั่นอย่างมาก มุ่นมั่นที่จะไปยังเกาะเก้ามังกรของเขา

ตอนนี้

คนที่รับผิดชอบเกาะยังเป็นคนของเจ้าของคนก่อน อย่างไรก็ตามจากข่าวที่ได้รับมาเมื่อเดือนที่แล้วว่าพวกเขากำลังทยอยอพยพออกไปจากเกาะซึ่งก่อนหน้านี้เองถังซิ่วก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากนักดังนั้นที่นั่นเองก็ไม่น่าจะมีคนจัดการ

“สถานที่ตั้งของเกาะนั้นอยู่กลางทะเลซึ่งมันพิเศษมาก คิดว่าบนเกาะก็ไม่น่าจะมีผู้อยู่อาศัยแน่นอน”

เมื่อคิดถึงจุดนี้ถังซิ่วก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา

ไม่ว่าที่เกาะนั้นจะมีผู้อยู่อาศัยหรือไม่ ต่อให้มีเขาก็ต้องไล่มันออกไปเพราะเขาเป็นเจ้าของเกาะแห่งนั้น นอกจากได้รับการอนุมัติจากเขาแล้วก็ห้ามใครเหยียบเกาะนั้นโดยเด็ดขาด

“บอสครับ มีสายเข้า”

โม่อาเหวินได้เดินมาด้านหลังถังซิ่วก่อนที่จะส่งโทรศัพท์ดาวเทียมไปให้ถังซิ่ว

หลังจากที่ถังซิ่วรับโทรศัพท์มาแล้วก็ได้พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“ฉันถังซิ่ว”

เสียงของกู่เสี่ยวเสวี่ยได้ถูกส่งผ่านมาว่า

“ท่านอาจารย์ปู่ ท่านกำลังไปที่เกาะเก้ามังกรหรอค่ะ ? ศิษย์รบกวนท่านอยู่หรือเปล่า ?”

ถังซิ่วที่ได้ยินเสียงกู่เสี่ยวเสวี่ยนั้นก็ได้แสดงท่าทางมีความสุขออกมาก่อนที่เขาจะพูดว่า

“ไม่เป็นไร เราเพิ่งออกเรือมาได้ไม่นาน เจ้าโทรมาเพราะมีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดขึ้นว่า

“ท่านอาจารย์ปู่ มันเป็นเพราะเรื่องนี้ เทียนหลี่ เฮาเหล่และผู้จัดการอีก2คนก็ได้กลับมาที่เกาะจิงเหมินและได้บอกผู้อาวุโสจี่ถึงเรื่องคำสั่งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เทียนหลี่กลับมาเธอก็มาพร้อมกับเงิน2.8หมื่นล้าน จะให้ศิษย์โอนเงินไปให้ท่านเลยหรือเปล่า ? หรือว่าจะรอให้ท่านกลับมาแล้วค่อยเอาให้ท่านดีค่ะ?”

ถังซิ่วได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เจ้าเก็นเงินเอาไว้1.8หมื่นล้านและโอนเงินมาให้ข้า1หมื่นล้าน ตอนนี้เกาะเก้ามังกรของเราจะต้องปรับปรุงและจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ส่วนเงินสำหรับการซื้อโสมและอื่นๆนั้นยังเหลืออีก8พันล้านซึ่งเก็บเอาไว้ที่ข้า”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะโอนเงินไปให้ท่านทันที อ่อใช่ ท่านอาจารย์ปู่ต้องการเปลี่ยนแปลงมันเช่นไรงั้นหรอค่ะ ?”

ถังซิ่วได้ถามออกมาทันทีว่า

“ห้องอาหารร้อยงานฉลองของเรารู้จักบริษัทก่อสร้างบ้างไหม ? ที่ฉันพูดคือบริษัทยักษ์ใหญ่นะ”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ตอบกลับไปว่า

“ไม่ค่ะ เพื่อการที่จะหาตัวท่าน ท่านอาจารย์ได้วางแบบแผนเอาไว้เท่านี้ค่ะ ศิษย์จะลองถามคนอื่นๆดูและหากว่าพวกเขารู้ก็จะให้ติดต่อไปหาท่านทันทีค่ะ”

“ดีมาก !”

ถังซิ่วได้ตอบตกลงทันที

หลังจากที่การสนทนาสิ้นสุดลงนั้น ถังซิ่วก็ได้ยื่นโทรศัพท์ดาวเทียมกลับไปให้โม่อาเหวินพร้อมกับพูดว่า

“ไม่คิดเลยว่าการไถเงินจากไอ้เจ้าพวกสี่คนที่เกาะฮ่องกงนั้นจะทำเงินได้มากขนาดนี้ ฉันเองก็กำลังคิดอยู่เลยว่าจะมีเงินไม่พอสำหรับการพัฒนาที่นี่ ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่”

ท่าทางของโม่อาเหวินเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะถามออกมาว่า

“บอสครับ ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดเกี่ยวกับบริษัทก่อสร้างที่ไซปันนี้ผมคิดว่าเราน่าจะขอความช่วยเหลือจากทอมเรกกี้นะ เขาเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ก็น่าจะรู้อยู่บ้าง”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันเองก็ได้คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกันแต่ว่าฉันไม่อยากจะบอกเรื่องนี้กับเขาเพราะว่าฉันยังไม่รู้เรื่องราวที่แน่ชัดของเขา”

โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาว่า

“บอสครับ ผมว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการวางตัวของเขานั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาไปพูดกับคนอื่นยกเว้นเขาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับทักษะของเราดังนั้นผมคิดว่าบอสไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องพวกนี้กับเขายิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อเกาะเก้ามังกรได้รับการพัฒนาแล้วก็จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากมายจากเกาะไซปันซึ่งเขาที่เป็นเจ้าถิ่นต้องหาแหล่งที่มาได้อยู่แล้ว”

ถังซิ่วก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เอาล่ะ เรื่องนี้ไว้จัดสินใจกันทีหลัง เราจะรอคำตอบจากทางฝั่งห้องอาหารของเราก่อน หากว่าทางเรามีเส้นสายอยู่ ฉันก็จะไม่ใช้งานทอมเรกกี้แต่หากว่าไม่ ฉันก็จะขอคิดดูก่อน”

โม่อาเหวินเองก็ได้แต่พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อไป

หลังจากผ่านไปสองวันครึ่งพวกเขาก็ได้มาถึงเกาะเก้ามังกร ถังซิ่วได้ให้โม่อาเหวินรออยู่ที่เรือพร้อมกับนำโม่อาหวูขึ้นฝั่งแล้วปีบขึ้นไปยังคฤหาสน์ที่อยู่บนภูเขา

“บอสครับ สถานการณ์ที่นี่มันแปลกๆชอบกล”

โม่อาเหวินเองก็ได้มองไปที่คฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยแสงไฟพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ถังซิ่วและโม่อาหวูเองสามารถมองเห็นคฤหาสน์ที่อยู่ห่างไปไกล1กิโลได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้ได้มีคนอยู่ที่นั่นพร้อมกับรอบๆตัวคฤหาสน์เองก็มีชายติดอาวุธอยู่หลายคน

ถังซิ่วได้พยักหน้าแล้วเตรียมที่จะพูด ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างพร้อมกับหันหลังกลังไปแล้วตะโกนออกมาว่า

“ใครกัน !”

“บอสครับ ผมเอง !”

หวางดงและชายคนอื่นๆเองก็ได้ออกมาจากหินพร้อมกับเดินตรงมาที่ถังซิ่วก่อนที่จะมองไปยังคฤหาสน์แล้วพูดด้วยเสียงกระซิบว่า

“บอสครับ ที่นี่เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นและเราเองก็ไม่สามารถเข้าไปที่นั่นได้”

ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาว่า

“เกิดอะไรขึ้นแล้วใครกันที่อยู่ในคฤหาสน์?”

หวางดงได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“บอสครับ เราเพิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่กี่วันก่อนและพบว่าที่นี่ได้ถูกยึดไปโดยกลุ่มโจรสลัดซึ่งสิ่งที่สำคัญคือพวกเขาจับคนกว่าร้อยไว้เป็นตัวประกัน”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“แล้วพวกมันมีจำนวนกันเท่าไหร่ ?”

หวางดงได้ตอบกลับไปว่า

“โจรสลัดมีอยู่ประมาณ2ร้อยกว่าคนครับและแต่ละคนเองก็ติดอาวุธกันทั้งหมด เมื่อวานนี้หลันเถาเองก็ได้ออกไปสำรวจและปะทะเข้ากับฝ่ายตรงข้ามซึ่งเขาได้ฆ่าพวกโจรสลัดไปก่อนที่เขาจะให้พวกเราถอยมาตั้งหลักตรงชายฝั่งเพื่อรอคำสั่งและการมาถึงของบอสครับ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ติดต่อหาคนอื่นๆซะ ให้พวกเขามารวมตัวกันเดี๋ยวนี้”

“รับทราบ !”

หวางดงเองก็ได้ตอบกลับไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ดาวเทียมออกมาทันที

หลังจากผ่านไป30นาที

หลันเถาและคนอื่นๆเองก็ได้รีบมารวมกันที่นี่

“บอสครับ หวางดงได้บอกเรื่องทุกอย่างกับคุณแล้วหรือยัง ?”

หลันเถาได้ถามออกมา

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“บอกหมดแล้ว แล้วไอ้โจรสลัดพวกนี้มันมาจากไหนกัน ? ไปสืบเรื่องของพวกมันมาหรือยัง ?”

หลันเถาก็ได้ตอบกลับไปว่า

“เรียบร้อยหมดแล้วครับ พวกเขาเป็นโจรสลัดที่เร่ร่อนไปทั่วไม่มีรังเป็นหลักแหล่งเพราะว่าที่แห่งนี้ไม่ค่อยจะมีเรือผ่านมามากนักพวกเขาจึงได้ยึดเอาไว้ พวกโจรสลัดเหล่านี้มีชื่อว่ากลุ่มปลากระหายเลือด หัวหน้าของพวกมันมีชื่อว่าดอฟกี้ซึ่งเป็นคนที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณี พวกมันได้มาถึงเมื่อไม่กี่วันก่อนพร้อมกับฆ่าทุกคนที่ยังไม่ได้อพยพไปและยึดคฤหาสน์ทันที”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด