ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 270
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 272

Returning From The Immortal World - 271


.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วเองก็ได้กอดกู่หยินและลูบผมของเธอก่อนที่จะพูดว่า

“ผู้หญิงที่ชอบฉันนั้นมีมากมาย อย่าบอกนะว่าเธอไม่คิดว่าผู้ชายที่โดดเด่นจะมีฝูงผึ้งมาบินตอม ?”

“พุฟฟฟฟฟฟ”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้หัวเราะออกมา เธอพบว่าถังซิ่วเองที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่ยากจะหยั่งถึงนั้นก็มีด้านตลกเหมือนกัน

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่แกล้งก่อนที่จะพูดว่า

“จี่ฉีเหม่ยทำอะไรอยู่ ? เรื่องที่ฉันให้เธอไปหาสมุนไพรเพื่อนำมากลั่นยารวมพลังดั่นนั้นไปถึงไหนแล้ว ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“สมุนไพรนั้นได้ถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วและผู้อาวุโสจี่เองก็กำลังกลั่นมันหากว่าไม่ได้มีอะไรผิดพลาดเธอก็น่าจะยังคงกลั่นมันอยู่ในตอนนี้ค่ะ”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“ยารวมพลังดั่นนั้นสำคัญสำหรับฉีเหม่ย หยานเอ๋อและฉันมากแม้กระทั่งตัวของเธอเองด้วยยิ่งไปกว่านั้นฉันได้เขียนใบสั่งสมุนไพรว่า36500ชนิดและจะให้เธอทีหลังและเมื่อมีเวลาก็ไปหาพวกมันดู หาได้เท่าไหร่ก็ซื้อมาเท่านั้นและฉันเองก็ได้บอกกับเฉินซีซ่งไปแล้ว เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรและเธอเองก็สามารถติดต่อกับเขาได้ทุกเมื่อ”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ท่านอาจารย์ปู่ สมุนไพรพวกนี้เอามาใช้ปรุงยา ?”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“สมุนไพรทั้งหมดนี้ใช้มากลั่นยาได้7อย่าง แต่ละอย่างเองก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อพวกเราและมียาอันหนึ่งที่มีชื่อว่ายารวมรวมหยิงและหากว่าเจ้าดูดกลืนมันนั้นก็จะทำให้เจ้าตัดผ่านระดับพลังดั่นทองคำเข้าไปในขั้นก่อตั้งจุดเริ่มต้น”

“อ่อใช่กลุ่มคนที่ฉันเตรียมเอาไว้ได้มาถึงที่นี่หรือยัง ?”

ถังซิ่วเองก็ได้ถามขึ้นมาทันที

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ท่านหมายถึงพวกหลันเถา ?”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะมาถึงแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องอาหารร้อยงานฉลอง ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“พวกเขาได้มาถึงตั้งแต่ก่อนที่ศิษย์จะไปที่เมืองหลวง ท่านอาจารย์ปู่ ศิษย์ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านถึงได้จ้างพวกเขามาทั้งๆที่ผู้เชี่ยวชาญของเราเองก็มีตั้งมากมาย”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“คนของเราเยอะงั้นหรอ ? อย่าลืมว่าสักวันหนึ่งฉันจะกลับไปที่ดินแดนแห่งนิรันด์และศัตรูของเราคือเหล่านิรันด์สูงสุดแม้ว่าพวกพวกเขาจะมีลูกน้องคนสนิทไม่มากนักแต่ก็คงจะไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านคน ? ใครบ้างที่จะไม่มีลูกน้องเอาไว้ป้องกันพื้นที่ของตัวเอง ?”

ลมหายใจของกู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ชะงักพร้อมกับเข้าใจความคิดของถังซิ่วทันที

ใช่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยนิรันด์สูงสุดที่อยู่เหนือนิรันด์ธรรมดากว่าหลายล้านๆคนนั้นจะมีลูกน้อง

ถังซิ่วเองก็ได้ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ครั้งหนึ่งที่ฉันคิดว่ากำลังของตัวเองก็เพียงพอแล้วเพราะไม่มีใครสามารถทำอะไรฉันได้ จนถึงช่วงที่.........หลังจากนั้นฉันเข้าใจความจริงบางอย่าง มันยากที่จะต่อสู้กับศัตรูสี่คนด้วยสองมือ แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของตัวเองนั้นสำคัญแต่ลูกน้องที่เชื่อฟังและซื่อสัตย์นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากว่าก่อนหน้านี้ฉันมีลูกน้องที่เชื่อใจได้อยู่ข้างๆ มันก็คงจะไม่ง่ายสำหรับพวกมันที่จะจัดการกับฉัน!”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ท่านอาจารย์ปู่ ศิษย์เข้าใจความคิดของท่านดี 10ปีมานี้ห้องอาหารของเราก็ได้ฝึกเด็กมาแค่20คนเท่านั้น ดูเหมือนว่าจำนวนพวกนี้มันน้อยกว่าคำว่าพอด้วยซ้ำ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“20 ? เด็ก ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“สิบปีมานี้เราได้เดินทางออกมานอกร้านอาหารบ้างเพื่อหาเด็กที่มีสมรรถนะดีและพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเด็กเร่ร่อนและศิษย์เองก็เป็นคนเลือกคนที่เหมากับการบ่มเพาะ พวกเขาได้รับการเลี้ยงดูจากเราตั้งแต่เล็กๆอายุมากสุดก็6ขวบส่วนน้อยสุดก็ประมาณ1-2ขวบ”

ถังซิ่วเองก็ได้ขมวดคิ้วทันทีแล้วถามว่า

“เจ้าสอนเทคนิคบ่มเพาะให้พวกเขา ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“มันไม่ใช่เทคนิคบ่มเพาะแต่เป็นพื้นฐานการรวมพลังฉีเท่านั้น อย่างแรกคือมันจะช่วยทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและอย่างที่สองมันจะทำให้พวกเขาเริ่มสะสมพลังตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อถึงเวลาแล้วเราเองก็จะเลือกคนที่เหมาะสมที่จะบ่มเพาะอีกครั้งเพราะนี่เป็นความตั้งใจของท่านอาจารย์ค่ะ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาทันทีว่า

“เธอไปรวบรวมรายชื่อมาแล้วฉันจะเป็นคนถ่ายถอดเทคนิคบ่มเพาะให้ผู้เชี่ยวชาญของห้องอาหารร้อยงานฉลอง จำไว้ว่าฉันไม่ต้องการคนทีมีสมรรถนะดีเลิศแต่ต้องการคนที่ซื่อสัตย์”

“ได้ค่ะ !”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พยักหน้าตอบรับ

ชายรูปร่างกำยำที่เป็นคนขับรถเองก็ได้ตัวสั่นเทาทันทีเมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา

พวกเขานั้นเป็นคนที่กู่หยานเอ๋อเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กด้วยการฝึกผู้เชี่ยวชาญที่โหดร้าย พวกเขาซื่อสัตย์กับเธอและยอมฆ่าตัวตายหรือฝ่าวงล้อมของศัตรูทันทีหากว่าเป็นคำสั่งของเธอ พวกเขาเองก็รู้ว่ากู่หยานเอ๋อและกู่เสี่ยวเสวี่ยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาเดินบนเส้นทางที่มีแต่ขวากหนามเพื่อจะไปสู่ความน่าเกรงขาม

โดยเฉพาะเขาคนนั้น

เขาได้ยินการสนทนาระหว่างถังซิ่วและกู่เสี่ยวเสวี่ยดีและสิ่งที่ทำให้เขาต้องตกตะลึงนั่นคือดินแดนแห่งนิรันด์

นิรันด์สูงสุด !

ข้ารับใช้กว่าหมื่นล้านคน

แค่คิดถึงชื่อพวกนี้แล้วก็ทำให้เลือดของเขาเดือดขึ้นมาทันทีพร้อมกับหวังว่าตัวเองจะสามารถเปลี่ยนไปเป็นผู้แข็งแกร่งพร้อมกับไปสัมผัสดิแดนแห่งนิรันด์ มองดูฉากการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านิรันด์

ถังซิ่วเองก็ได้พูดต่อว่า

“หากมีเวลาว่างก็ไปเอาเด็ก20คนที่เจ้าฝึกอยู่นั้นมาหาข้าแล้วข้าจะนำไปสิบคน”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ท่านอาจารย์ปู่ ท่านต้องการนำพวกเขาไปไหนงั้นหรอค่ะ ?”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ข้าคิดว่าจะทำให้เกาะที่ข้าเพิ่งซื้อมานั้นเป็นที่บ่มเพาะพลังและฐานทัพของเรา อ่อใช่ โม่อาเหวินและโม่อาหวูนั้นข้าจะนำตัวพวกเขาไป!”

“ค่ะ !”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พยักหน้าทันที

ห้องอาหารร้อยงานฉลอง

หลังจากที่รถได้มาถึงที่ลานจอดรถแล้วนั้นถังซิ่วเองก็ได้จูงมือของกู่หยินแล้วมองไปทางกู่เสี่ยวเสวี่ยก่อนทีจะพูดว่า

“ไปพบเธอกัน”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็พยักหน้าพร้อมกับโบกมือไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยที่กำลังเดินเข้ามาและเดินไปที่ริมหาดพร้อมกับถังซิ่วและกู่หยิน

“ท่านอาจารย์ ทะเล!!!”

แม้ว่ากู่หยินนั้นจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แต่อย่างไรก็ตามเธอเองก็ยังเป็นเด็กและไม่แปลกที่จะชอบภาพที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข

ถังซิ่วเองก็ได้หัวเราะออกมาก่อนที่จะกอดเธอไว้แล้วก้าวขึ้นไปบนเรือขณะที่กู่เสี่ยวเสวี่ยได้พายเรือไปกลางทะเล

“เปิดออก!!!”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมา

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็พยักหน้าก่อนที่จะจิ้มไปที่ผนึกรูปดอกบัว ทันใดนั้นทะเลเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงและแยกตัวออกจากกันจนทำให้เห็นไปถึงก้นทะเล

“ว้าวว....... ดูลึกลับจริงๆ !”

กู่หยินเองก็ได้จ้องมองมันด้วยดวงตากลมโตของเธอพร้อมกับโห่ร้องออกมา

ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาจางๆพร้อมกับพูดว่า

“หากว่าเจ้าตั้งใจฝึกฝนก็จะสามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย”

กู่หยินเองก็พยักหน้าซ้ำๆพร้อมกับพูดออกมาอย่างจริงจังว่า

“ท่านอาจารย์ หนูจะต้องแข็งแกร่งให้ได้เหมือนกับศิษย์หลานอย่างแน่นอน!”

ศิษย์หลาน ?

ริมฝีปากของกู่เสี่ยวเสวี่ยบิดเบี้ยวทันทีพร้อมกับกระตุกสองสามครั้ง เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแต่หากว่าเทียบตามระดับชั้นแล้วเธอเป็นศิษย์หลานของกู่หยินจริงๆทว่าอายุของกู่หยินนั้นทำให้เธอรู้สึกสลดอย่างมาก

หลังจากที่ทะเลได้เปิดออกถังซิ่วและคนอื่นๆเองก็ได้เดินเข้าไปข้างใต้ทะเลพร้อมกับพบเจดีย์ที่ส่องแสงสีทองก่อนที่ถังซิ่วจะพูดออกมาว่า

“เจ้าเปิดมัน !”

“ค่ะ !”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ทำสัญลักษณ์มือทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาว่า

“สวรรค์และโลกนี้ ข้าเท่านั้นที่คู่ควร !”

ขณะนี้เองที่แสงสว่างสีทองก็ได้เจิดจ้าออกมาพร้อมกับประตูเจดีย์ที่ค่อยๆเปิดออกช้าๆ

ถังซิ่งเองก็ได้จูงมือของกู่หยินเจ้าไปพร้อมกับพูดกับกู่เสี่ยวเสวี่ยว่า

“ระดับพลังของเธอนั้นยังต่ำอยู่และไม่สามารถทนความหนาวข้างในได้ เจ้าแผ่พลังหยวนออกมาปกป้องเธอไว้แล้วกัน”

หลังจากผ่านไปสองนาที

ถังซิ่วได้มาถึงที่ชั้น7พร้อมพบกับกู่หยานเอ๋อที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงที่เย็นยะเยือก ท่าทางของเขาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขณะที่พยุงเธอขึ้นมาแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมอก

เมื่อพบกับเธออีกครั้งถังซิ่วเองก็รู้สึกสบายใจหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของย่าหรือเรื่องการเคารพหลุมศพบรรพบุรุษก็ตามมัน ไม่ว่าจะความรู้สึกดีหรือร้ายก็ได้หายไปทันที

เมื่อพูดถึงเรื่องสายสัมพันธ์

ลูกศิษย์ทที่ถังซิ่วรับเอาไว้นั้นมีมากมายแต่คนที่มีสายสัมพันธ์นั้นก็มีแค่กู่หยานเอ๋อเท่านั้น เธอเหมือนลูกสาวของเขาเพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก สอนเทคนิคบ่มเพาะให้กับเธอตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนหน้านี้เขาคิดถึงแม่มากแต่ก็ได้พบกันแล้วและตอนนี้มันสลับเป็นหยานเอ๋อที่เขาคิดถึง

“หยานเอ๋อ ฟื้นขึ้นมาพูดกับอาจารย์สิ”

ถังซิ่วเองก็ได้ลูบไปที่ใบหน้าและผมของเธอก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ

ใกล้ๆกันนั้นกู่หยินเองก็กำลังจ้องมองไปที่กู่หยานเอ๋อด้วยความสงสัย เธอรู้ว่าอาจารย์ของเธอเป็นห่วงกู่หยานเอ๋อมากๆขณะที่เธอรู้สึกใจหายแต่ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ข้างๆกับกู่เสี่ยวเสวี่ย เธอสามารถเดาได้ทันทีว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของอาจารย์นั้นเป็นศิษย์พี่ของเธอ

ความรู้สึกพึงพอใจก็ได้ปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของกู่เสี่ยวเสวี่ย

ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าอาจารย์ของเธอนั้นเสียสละเพื่ออาจารย์ปู่มากจนเกินไป ต้องทุกทรมาน เจ็บปวด มันไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไปแต่เมื่อได้เห็นความรักที่ถังซิ่วมีให้อาจารย์ของเธอแล้ว

เธอก็เข้าใจได้ทันที

อาจารย์ปู่และอาจารย์ของเธอนั้นเป็นคนที่แชร์ความรู้สึกออกมาจากก้นบึ้งหัวใจจริงๆ ทุกๆการกระทำของเขานั้นออกมาจากหัวใจ

“ท่านอาจารย์ ท่านต้องฟื้นขึ้นมาเร็วๆสิ ! เสวี่ยน้อยพบท่านท่านอาจารย์ปู่แล้วนะค่ะ ท่านจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ !”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้บีบมือของตัวเองอย่างแน่นพร้อมกับภาวนาออกมา

ถังซิ่วเองก็ได้หันไปมองที่กู่หยินพร้อมกับพูดว่า

“เธอคือศิษย์พี่ของเจ้า กู่หยานเอ๋อ เพื่อข้าแล้วเธอได้ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากมายและตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงได้หมดสติอยู่ใต้ท้องทะเลแห่งนี้ หลักจากนี้เจ้าต้องให้ความเคารพเธอเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อข้า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด