Returning From The Immortal World - 72
......................................................................................................................................................................................
ซูชางเหวินรีบกลืนน้ำลายของเขาขณะที่หันศีรษะและมองไปที่ถังซิ่วอย่างชั่วร้ายเขาต้องเสียหน้าอย่างมากเนื่องจากไอเด็กระยำนี่,หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างอิดโรยและพูดว่า
"นายใหญ่เฉินผมไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่,นี่ไม่ใช่นายใหญ่หลง?ผมซูชางเหวินเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวิน,นายใหญ่หลง, บริษัทของผมได้บรรลุข้อตกลงที่จะร่วมมือกับบริษัทย่อยภายใต้หลงกรุ๊ปเราจะลงนามในสัญญาข้อตกลงในอีกไม่กี่วันที่จะถึง "
หลงฮานเหวินหัวเราะเยาะ
"บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวิน?ไม่เคยได้ยินหวะ! "
ตอนที่เขาพูดเสร็จแล้วเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและกดโทรออกจากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงลึกๆว่า
"ใครเป็นคนทำสัญญากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวิน?ไล่มันออกเดี๋ยวนี้!และยกเลิกสัญญาทั้งหมด!!เน้นคำพูดของฉันด้วยว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทุกคนที่กล้าร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินจะต้องเผชิญหน้ากับหลงกรุ๊ปและมันจะมีชีวิตที่ไม่ราบลื่นแน่นอน "
อะไรกัน!?
ซู ชางเหวินคิดว่าหูของเขากำลังมีปัญหาเขาไม่สามารถเชื่อได้ในขณะที่เขามองไปที่หลงฮานเหวินและตะโกนด้วยความประหลาดใจว่า
"นายใหญ่หลง,คะ...ค..คุณ.... "
หลงฮานเหวินชี้ไปที่หลงเซ้งหลินข้างๆถังซิ่วและพูดด้วยความรู้สึกไม่แยแสว่า
"เขาเป็นลูกของฉันใครบางคนพึ่งเห่าหอนว่าเขาจะสั่งสอนและทำให้ลูกชายเสียหน้าคนเป็นพ่อจะไม่ทำอะไรได้ยังไงกันถ้าเห็นลูกโดนฉีกหน้า? "
มันจบแล้ว!
นอกจากนี้เขายังชี้ไปที่ถังซิ่วและพูดต่อว่า
"ถังซิ่วนั้นเป็นผู้มีพระคุณของต่อตระกูลหลงของฉัน,เราจะคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเขาเสมอในสิ่งที่เขาจะทำ,ตราบเท่าที่เขาพูดตระกูลหลงของฉันจะไม่ลังเลที่จะลบบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินของแกออกจากโลกนี้โดยไม่สนว่าจะต้องเสียเท่าไหร่ก็ตาม "
"คุณพูดอะไรนะ?"
การแสดงออกของซูชางเหวินเปลี่ยนเป็นสีซีดตายสายตาของเขาสลับไปมาระหว่างถังซิ่ว,หลงเซ้งหลินและหลงฮานเหวินอย่างไม่หยุดหย่อนเขาสามารถยอมรับความจริงที่ว่าหลงเซ้งหลินเป็นลูกชายของหลงฮานเหวินแต่ไอสัตว์ระยำตัวน้อยตัวที่ชื่อถังซิ่วนี่ ...เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลหลง?
ในชั่วพริบตาผิวของซูชางเหวินก็ราวกับว่ามันได้มีอายุขึ้นหลายสิบปี,คลื่นของความกลัวกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่มันกำลังจะฉีกและจมหัวใจของเขา
เขาจบสิ้นแล้ว !
เขาตระหนักดีถึงความเกลียดชังของถังซิ่วที่มีต่อเขาเขารู้ดีว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินของเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายของภัยพิบัติเพราะเหตุนี้
ความตื่นตระหนกของความกลัวเกิดขึ้นในดวงตาของเขาขณะที่ปากของเขาเปิดออกในวินาทีต่อมา
หลังจากที่หลงฮานเหวินพูดเสร็จเฉินซีซ่งก็เดินไปข้างหน้าถังซิ่วขณะที่โค้งตัวอย่างนอบน้อมและกล่าวว่า
"ท่านอาจารย์นี่เป็นความผิดของผมสำหรับการมาสายนี้มันทำให้ท่านได้รับความอัปยศอดสูแต่ท่านได้โปรดวางใจแม้ว่าน้องหลงจะไม่ทำอะไรผมก็จะไม่ปล่อยให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชางเหวินมีตัวตนอยู่ในโลกนี้อีกต่อไปกรุณาอย่าปฏิเสธความตั้งใจของศิษย์คนนี้ "
ถังซิ่วมองเฉินซีซ่งเฉยๆและกล่าวว่า
"ผมไม่ได้บอกคุณหรือว่าผมยังไม่ได้สัญญาว่าจะยอมรับคุณเป็นศิษย์?"
ยัง?
เฉินซีซ่งเข้าใจถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของถังซิ่วเขาดีใจเป็นอย่างมากและไม่คำนึงถึงผู้คนที่อยู่รายล้อมจำนวนมากเขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าถังซิ่วและอ้อนวอนเขา
"ท่านอาจารย์โปรดยอมรับผม!ผมจะปฏิบัติตามประเพณีโบราณที่ไว้บูชาและทำตามทุกคำพูดของท่าน! "
คิ้วของถังซิ่วเหี่ยวย่นขณะที่เขาโบกมือและตอบว่า
"คุณลุกขึ้นก่อนเราจะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง "
"เยี่ยม!"
เมื่อเห็นว่าถังซิ่วไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยตรงเฉินซีซ่งก็ปลื้มอย่างสุดขีดเขาเป็นเหมือนเด็กที่เชื่อฟังคำพูดของผู้อาวุโสของเขาและเดินไปยืนข้างๆถังซิ่วอย่างเชื่อฟัง
“ปึกกก...”
ซูชางเหวินรวบรวมความกล้าของตัวเองเพื่อคุกเข่าลงที่ต่อหน้าถังซิ่วขณะที่เขาขอร้องด้วยใบหน้าที่สำนึกผิด
"ถังซิ่วหลานชายที่ดีเลิศของฉันลุงรู้ตัวว่าได้รับทำสิ่งแย่ๆต่อหลานและได้ทำผิดร้ายแรงนับไม่ถ้วนให้กับเธอแต่เธอมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่และคงจะไม่ลดตัวเองลงมาถือสาหาความกับลุงได้โปรดขอร้องให้นายใหญ่หลงและนายใหญ่เฉินยกโทษให้ลุงด้วยเถอะลุงสาบานต่อหน้าเธอ,แม้กระทั่งลูกหลานในอนาคตของลุงก็จะเป็นคนรับใช้เธอ ฉันขอร้องได้โปรด! "
ใบหน้าของซางเหม่ยหยุนซีดจางเหมือนกระดาษขาวในตอนนี้เธอเคยใช้ชีวิตที่หรูหราและมีเสน่ห์ถ้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชสงเหวินนั้นจะต้อง ...
"โอ้ ... "
เสียงตะโกนได้เกิดขึ้นทันทีจากกลุ่มคนรอบข้าง
พวกเขาเดินเข้ามาดูฉากที่เกิดขึ้นและยังรู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างถังซิ่วและซูชางเหวิน แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าลุงจะปฏิบัติกับหลานชายของเขาอย่างรุนแรงแบบนี้และที่ยิ่งกว่านั้นคือพวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าแม้แต่คนที่มีชื่อเสียงยังให้ตวามเคารพถังซิ่วและลุงเองก็ไม่มีความอับอายขณะที่เขาคุกเข่าและขอร้องหลานชาย
"ฉันเคยได้เห็นคนไร้ยางอายแต่ก็ไม่เคยเห็นคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้ นกที่มีกึ๋นอย่างแท้จริงมักจะมาจากป่าอย่างแท้จริง ฮึ้ม! "
"นี่มันไม่ไร้ยางอายไปหน่อยหรอ?ทำไมชายคนนี้ถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้?
"วันนี้ฉันเห็นอะไรกันเนี้ย? ลุงแท้ๆคุกเข่าให้กับหลานชายแท้ๆวันนี้ฉันได้เพิ่มประสบการณ์จริงๆ!นี้เขายังเป็นผู้ชายหรือเปล่า?เพื่อความมั่งคั่งทำไมถึงได้น่ารังเกียจแบบนี้”
"การคุกเข่าของชายที่แท้จริงนั้นมีค่าเป็นอย่างมากและเป็นของเพื่อพ่อแม่ของเขาการคุกเข่าต่อพ่อแม่ตัวเองจะเท่ากับคุกเข่าต่อสู่สวรรค์!เขาคุกเข่าลงแม้กระทั่งหลานชายของตัวเอง... ช่างเป็นคนระยำที่ไร้ยางอายสิ้นดี!ถ้าฉันต้องมีลูกชายแบบนี้ฉันจะทำให้เขาสำลักตายในขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่!! "
“แม่ง!คนประเภทนี้ดูน่ารังเกียจจริงๆ ตัดสินจากทัศนคติของเขาเขาต้องเคยทำชั่วร้ายมาก่อนสิ่งนี้ ... จะช่วยสอนเขาอย่างดี”
"อย่าให้อภัยเขา! ไอคนทุเรศแบบนี้นี้จะต้องเจ๊งถึงขั้นที่เขาไม่สามารถลุกมาขึ้นยืนได้อีก! "
“หน้าด้านหน้าไม่อาย ...”
ฟังคำสาปแช่งและคำหยาบคายที่ถูกตระโกนออกมา,หัวใจซูชางเหวินรู้สึกราวกับถูกเฉือนด้วยมีด,เขากำลังเลือดออกถ้ามีหลุมอยู่ในพื้นดินเขาอาจมุดตัวเองเข้าไปในนั้นตราบเท่าที่ถังซิ่วให้อภัยเขาหลงฮานเหวินและเฉินซีซ่งจะไม่ลงมือกำจัดเขา
ผ่านช่วงสหัสวรรษของประสบการณ์นอกเหนือจากส่วนที่อ่อนไหวต่อแม่ของเขา,หัวใจของถังซิ่วได้แข็งตัวกลายเป็นหินแล้ว เขาไม่ได้พูดเมื่อเผชิญหน้ากับซูชางเหวินที่กำลังขอร้องเขาตระหนักดีถึงความจริงที่ว่าชูชางเหวินเป็นบุคคลที่จะต้องจบชีวิตอย่างอนาถโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องลงมือกับเขาเองด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน!
เขาเข้าใจได้ดีว่าถ้าเขาไม่สนิทกับหลงฮานเหวินและเฉิงซีซ่งกับประสบการณ์ของเขานับพันปี,เขาอาจถูกโยนเข้าหลุมลึกโดยซูชางเหวิน,การระลึกถึงข้อเท็จจริงนี้นั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกจับหรือถูกจำคุกแต่เขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากพวกอันธพาลบางคนและนอนอยู่ในโรงพยาบาลไปแล้ว
(หมายถึงตอนที่โดนไอลุงมันสั่งเก็บ)
ม้าที่ว่านอนสอนง่ายและดีมักจะถูกขี่โดยชายที่แท้จริงในขณะที่ผู้ชายที่ดีแต่อ่อนแอและประพฤติดีมักถูกเอาเปรียบและถูกรังแกโดยคนอื่น ๆ
แต่เขา ... เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนง่ายที่จะเริ่มต้นด้วยแต่ยังไงก็ตามเขาไม่เคยมีความคิดริเริ่มที่จะข่มขู่คนดีแม้แต่ครั้งเดียว
ถังซิ่วหันไปทางหลงฮานเหวินและถามอย่างใจเย็นว่า
"ลุงหลง,คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?"
หลงฮานเหวินตอบด้วยรอยยิ้ม
"เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของพี่เฉิน,ที่คุณพึ่งรักษา!ดังนั้นเขาจึงได้ลากฉันออกมาที่ตลาดสมุนไพรนี้เพื่อหวังที่จะซื้อสมุนไพรจีนเพื่อบำรุงร่างกายของเขา "
ถังซิ่วพยักหน้าและตอบว่า
"ถ้าเป็นอย่างนั้น,ก็ไปหาสมุนไพรของพวกคุณ! ในเมื่อฉันยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำคงไม่อาจจะอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ "
หลงฮานเหวินไม่ตอบและมองไปที่เฉินซีซ่งแทน
เฉินซีซ่งพูดอย่างรวดเร็วว่า
"ท่านอาจารย์... คุณมาที่นี่เพื่อซื้อสมุนไพร?หากคุณต้องการมันจริงๆคุณสามารถบอกให้ผมซื้อได้และผมจะส่งมันให้คุณทันที "
ถังซิ่วโบกมือและพูดว่า
"ไม่ต้องพรุ่งนี้เช้ามาที่เมืองประตูทิศใต้! "
“ได้เลย!”
เฉินซีซ่งรู้สึกดีใจอย่างมากในขณะที่เขาได้ปฏิบัติตามด้วยท่าทีตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ
ถังซิ่วส่งสัญญาณมือไปทางกงดาหลงและไม่สนใจสองผัวเมียที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นเขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของตลาดสมุนไพรตามด้วยหลงเซ้งหลินที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ตลาดสมุนไพรของเมืองสตาร์ซิตี้แบ่งออกเป็นสองส่วนคือพื้นที่บูธและพื้นที่ร้านค้าสมุนไพรที่มีค่าที่สุดในตลาดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ร้านค้า,ราคาของสมุนไพรสมุนไพรที่นั้นนั่นเป็นของมีราคาแพงทุกอย่าง
ถังซิ่วไม่ได้เดินไปยังพื้นที่ร้านค้าแต่เดินทางไปในบริเวณบูทเพื่อดูยาสมุนไพรจีน
ปัจจุบันเขาได้ปลูกฝังขั้นแรกของวิชาวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ด้วยดวงดาวทั้ง9ดวงภายในร่างของเขาซึ่งหมายความว่าเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นหล่อหลอมพลังฉีขั้นต่อไปคือเสริมสร้างผิวหนังให้ร่างกาย,หล่อหลอมร่างกายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเขา
ถ้าเขาได้ถึงขั้นนี้ก่อนที่จะไปสู้กับพวกค้าอวัยวะมนุษย์แล้วละก็เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวปืนของคนเหล่านั้นแม้แต่น้อยเขาสามารถขยี้พวกมันได้ในพริบตา
ไม่กี่นาทีต่อมา ...
ถังซิ่วหยุดอยู่ข้างหน้าบูทหนึ่งเมื่อดวงตาของเขาตกลงไปบนดอกไม้สีเลือดอ่อนเขาจำได้ว่าดอกไม้นี้มีชื่อเสียงในดินแดนแห่งนิรันดร์โดยมีชื่อว่าบลัดท๊อปดอกไม้นี้เป็นส่วนประกอบหลักและมีบทบาทสำคัญในการทำยารวมพลังวิญญาณ
"เถ้าแก่ดอกบลัดท๊อปนี้ขายยังไง?"
ถังซิ่วถามเจ้าของร้านวัยกลางคน
เจ้าของร้านวัยกลางคนนั้นมองไปที่ดอกไม้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจในขณะที่เขาถามกลับด้วยความรู้สึกสับสนว่า
"น้องชายตัวน้อยนี่ไม่ใช่ดอกไม้ในตระกูลบลัดท๊อป!มันถูกเรียกว่าดอกหลีหยิงฮัวมันมีผลดีมากสำหรับการบำรุงเลือดและพลัง!แต่ราคาค่อนข้างแพง "
ถังซิ่วถามต่อว่า
"เท่าไหร่?"
เจ้าของร้านวัยกลางคนลังเลก่อนที่เขาจะตอบว่า
"500 หยวนถ้าคุณต้องการ!"
500 หยวน?
หัวใจของถังซิ่วงงงวยขณะที่ตาของเขากรอกไปที่ดอกไม้บลัดท๊อป,ดอกไม้นี้ถ้าอยู่ในดินแดนแห่งนิรันดร์นั้นจะต้องมีคนจำนวนมากฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงดอกไม้เหล่านี้แต่ในโลกนี้กลับขายด้วยราคาที่ถูกยิ่งกว่ากระหล่ำปลีซะอีก
หลงเซ้งหลินที่อยู่ข้างๆเขาก็ขัดจังหวะ
"เฮ้เถ้าแก่!คุณกำลังคิดจะฟันกำไรเรางั้นหรอ?500หยวนสำหรับดอกไม้นี้งั้นหรือ?ฉันมีดอกไม้มากมายที่ปลูกไว้คุณต้องการซื้อจากฉันไหม "
"นี้…"
เจ้าของร้านวัยกลางคนพูดไม่ออก
หลงเซ้งหลินก็พูดต่อว่า
"เถ้าแก่คุณต้องปฏิบัติต่อเด็กและผู้ใหญ่อย่างสุจริตในการทำธุรกิจ,ราคานี้มันมากเกินไปมันเป็นการหลอกลวงเรา,ถ้าคุณตกลงขายให้เราในราคา200นั้นเราจะจ่ายเงินซื้อมันทันทีไม่เช่นนั้นเราก็จะหันหลังกลับและจากไป"
ชายวัยกลางคนมองหลงเซ้งหลินและเหลือบมองที่ถังซิ่วขณะที่เขารีบยิ้มอย่างเบื่อหน่าย
"เฮ้อในเมื่อน้องชายตัวน้อยนี้เป็นคนจู้จี้นักเอาล่ะเธอสามารถซื้อมันได้ในราคา200หยวน "
หลงเซ้งหลินมองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกพอใจในสายตาของเขาขณะที่เขาเตรียมที่จะจ่ายเงินค่าดอกไม้,อย่างไรก็ตามถังซิ่วได้หยิบเงินของเขาออกมาและจ่ายให้เจ้าของร้านวัยกลางคน200หยวนหลังจากนั้นก็หยิบดวงไม้และออกไป
การมาเที่ยวที่ตลาดสมุนไพรนี้,ถังซิ่วไม่ได้ตั้งความหวังมากมายสำหรับการมาในครั้งนี้เขาแค่อยากจะลองเสี่ยงโชคดูแต่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับสิ่งของล้ำค่าเช่นนี้,เขาพึ่งตระหนักได้ถึงราคาของสมุนไพรบนโลกใบนี้,สมุนไพรที่มีค่านิดหน่อยกลับมีราคาอย่างสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล,ต่อให้เขามีเงินมากมายในกระเป๋าของเขาเขาอาจจะไม่สามารถที่จะซื้อมันได้ในภายหลัง