Returning From The Immortal World - 71
.......................................................................................................................................................................................
เซ่าจิงส่ายหัวและตอบว่า
"สถานการณ์ในตอนนั้นเป็นช่วงคับขันดังนั้นฉันจึงไม่มีเวลาพอที่จะถาม,เขาเองก็ยังไม่อยากที่จะพูดอะไรอีกต่อไป,ที่รักมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ช่วยชีวิตของฉันหรือไม่ "
หยวนเจิ้งซวนตอบว่า
"ไม่มีอะไรเกิดกับผู้ช่วยชีวิตของเธอ,แต่กลับ ... พวกที่ลักพาตัวเธอพวกเขา ... "
เมื่อได้ยินว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ช่วยชีวิตของเธอเซ่าจิงก็โล่งใจขณะที่เธอถามอย่างสงสัยว่า
"เกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ลักพาตัวเหล่านั้น?ตอนที่ฉันเห็นนั้นเขาฆ่าคนลักพาตัวที่กำลังจะข่มขืนฉัน,ที่รักตำรวจจะให้เขารับผิดชอบเรื่องนี้ใช่หรือไม่? ถ้าอย่างนั้นเราจะต้องออกมาปกป้องเขา "
หยวนเจิ้งซวนหัวเราะเบาๆ
"ตำรวจจะไล่ตามผู้ช่วยชีวิตของเธอได้อย่างไร?พวกเขาไม่มีเบาะแสแถมยังต้องปวดหัวเกี่ยวกับคนที่ฆ่าคนลักพาตัวเหล่านั้น!พวกลักพาตัวทั้งห้าคนถูกฆ่าทั้งหมด!และเด็กหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย,ที่รักเธอไม่รู้ชื่อของเขาแต่เธอควรจะจำรูปลักษณ์ของเขาได้ใช่มั้ย? "
"รูปลักษณ์ของเขา ... "
เซ่าจิงอธิบายรูปลักษณ์ที่เธอจำได้อย่างลึกซึ้ง
ยิ่งเธออธิบายมากขึ้นเท่าไหร่การแสดงออกหยวนชูหลิงก็ยิ่งแปลกมากขึ้นขณะที่เขาฟังเธอเงียบๆตอนที่แม่พูดจบเขาก็ไม่สามารถอดตะโกนได้ว่า
"มันเป็นพี่ชายของผม!เด็กหนุ่มคนนั้นต้องเป็นพี่ชายของผมถังซิ่ว! "
หยวนเจิ้งซวนขมวดคิ้วและตำหนิ
"หลิงน้อยนี้ไม่ใช่เรื่องตลกนะ!"
หยวนชูหลิงตอบด้วยท่าทางจริงจังว่า
"พ่อผมไม่ได้โกหกถ้าคำอธิบายของแม่เกี่ยวกับผู้ช่วยชีวิตของเธอเป็นความจริง,คนนั้นน่าจะเป็นพี่ชายของผมถังซิ่ว,เขาเป็นคนหนึ่งที่ฆ่าและช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของผมจากแก๊งลักพาตัวที่โรงเรียนในวันนั้น "
"นี่ ... "
หยวนเจิ้งซวนนั้นเองก็รู้ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนี้ในโรงเรียนเหมือนกันแต่ไม่เคยเขาเคยคิดว่าตัวตนของผู้ที่ช่วยภรรยาของเขาจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของลูกชายตัวเอง
"หลิงน้อยเกี่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นของลูกตั้งแต่ที่แม่ของลูกรู้รูปลักษณ์ของเขาถ้าลูกมีเวลาก็เชิญเขามาที่บ้านของเราและให้แม่ของลูกดูว่าเป็นเขาจริงไหม"
หยวนเจิ้งซวนคิดสักครู่แล้วพูดออกมา
"ได้เลย!"
หยวนชูหลิงพยักหน้า
ตลาดสมุนไพรสมุนไพรเมืองสตาร์ซิตี้มีขนาดใหญ่และมีสมุนไพรหลายชนิดซึ่งถูกส่งจากทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นการขายในท้องถิ่นหรือถูกส่งไปยังเมืองอื่นๆ
ชีวิตของซูชางเหวินเมื่อไม่นานมานี้นั้นไม่ค่อยจะราบลื่นเท่าไหร่โดยเฉพาะหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดวัย40ปี,เพื่อนๆก็เริ่มตีตัวออกห่างเขา,ทุกครั้งที่เขานึกถึงเหตุการณ์และใบหน้าของถังซิ่วเขาก็อดไม่ได้ที่จะขบฟันของเขา
เมื่อวานนี้เขาได้เจรจาธุรกิจและกำลังรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการวันนี้เขารีบมาที่ตลาดยาพร้อมกับภรรยาของเขาที่กำลังจะซื้อโสม,เห็ดและสมุนไพรอื่นๆเพื่อต้มซุปเป็ดสำหรับเฉลิมฉลองมันโดยเฉพาะ
"ที่รักทำไมเราต้องซื้อสมุนไพรเหล่านี้ด้วยตัวเราเอง?ตลาดยานี้มันสกปรก!เราสามารถสั่งให้คนมาซื้อมันได้หนิ? "
เมื่อมองไปที่ตลาดที่มีเสียงดังซางเหม่ยหยุนเช็ดเหงื่อออกจากจมูกและปากด้วยนิ้วมือพร้อมความรู้สึกเศร้าสลด
ซูชางเหวินมองไปรอบๆขณะที่เขาส่ายหัวและพูดว่า
"ไม่ฉันไม่สามารถไว้ใจใครได้ในการซื้อสมุนไพรเหล่านี้เธอไม่รู้เกี่ยวกับสมุนไพรมันมีสมุนไพรปลูกและสมุนไพรป่า,สมุนไพรที่ปลูกไม่ได้มีผลดีมากมีแค่เพียงสมุนไพรป่าเท่านั้นที่ดี "
"เฮ้อ แค่หน้าประตูก็มีคนแออัดกันแล้ว"
ซางเหม่ยหยุนตอบด้วยเสียงหมดหนทาง
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็จ้องมองขณะที่เธอรีบยกแขนขึ้นและพูดว่า
"ที่รักคุณเห็นคนคนนั้นหรือเปล่า?ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนไอเด็กเปรตถังซิ่วกัน?
ซูชางเหวินมองไปทางทิศทางที่ภรรยาของเขาชี้จู่ๆท่าทางโกรธก็โผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาเดินอย่างรวดเร็วพร้อมพูดว่า
"เขาไม่ใช่แค่เหมือน,แต่มันเป็นไอเด็กเวรนั่นเลย!!ธุรกิจของเราจะไม่อนาถขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมัน,แม้เพื่อนเก่าของฉันจะหลบหน้าฉันราวกับว่าฉันเป็นตัวแพร่เชื้อโรคไปกันเถอะฉันจัดการไอบัดซบนั่น! "
ผู้ใต้บังคับบัญชาของซูชางเหวินได้จ่ายเงินจ้างให้นักเลงจำนวนหนึ่งเพื่อสั่งสอนบทเรียนอย่างหนักให้กับถังซิ่วแต่ผลที่ได้คือ?ไม่เพียงแต่พวกอันธพาลไม่สามารถทำอะไรถังซิ่วได้แต่กลับไปช่วยซูหลิงหยุนในการดูแลธุรกิจร้านอาหารของเธอซึ่งส่งผลให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองและเฟื่องฟู
"ถังซิ่ว!!แกมันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์!แกยังจะหนีเรียนมาที่นี่?แม่ของแกพยายามหาเงินสำหรับการศึกษาของแกแต่แกกลับหนีเรียน?แกเป็นเด็กงี่เง่าจริงๆและไม่มีความรู้สึกหรือ? "
คำหยาบคายที่เป็นพิษออกมาจากปากของซูชางเหวิน
ถังซิ่วขมวดคิ้วขณะที่รูปลักษณ์ของความรังเกียจโผล่ออกมาจากดวงตาของเขา,เขาไม่เคยคิดว่าจะไปเจอเข้ากับซูชางเหวินและภรรยาได้เขาได้รู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับคนพวกนี้ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าแม่ของเขาจะรู้สึกเสียใจ,ถังซิ่วคงจะจัดการกับคนเหล่านี้ไปนานแล้ว
"ฮะ?แกคิดว่าแกเป็นใคร?สนใจเรื่องของตัวเองไปเถอะ!!! "
ถังซิ่วเหลือบมองซูชางเหวินด้วยการแสดงออกที่หนาวเย็นขณะที่เขาแสยะยิ้มอย่างเย็นชา
ความโกรธของซูชางเหวินถูกจุดประกายในขณะที่เขามีความต้องการที่จะลากหลานชายของเขาคนนี้เขารีดแขนเสื้อของตัวเองและตะโกนอย่างโกรธว่า
"ถังซิ่ว,ไอ้เด็กบัดซบ!แกถามว่าฉันเป็นใคร?ฉันเป็นลุงของแก!แกบอกว่าฉันไม่สามารถสอนมารยาทให้กับแกในฐานะผู้อาวุโสได้?ขอโทษฉันและกลับไปที่โรงเรียนของแกเดี๋ยวนี้!ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกครูใหญ่ให้ไล่แกออกจากโรงเรียนโดยตรงและยกเลิกวุฒิการศึกษาของแกสำหรับการทดสอบ เข้ามหาวิทยาลัย!!! "
ถังซิ่วหัวเราะเยาะ
"ลุง?ลุงของฉันเป็นแค่ไอระยำคนหนึ่ง!อ๊า,ฉันรู้แล้วแกต้องการที่จะเป็นไอ้ระยำนั่นใช่ไหม?นอกจากนี้แกยังไม่ได้ซื้อคณะกรรมการโรงเรียนและบังคับให้พวกเขาไล่ฉันออกด้วยวิธีใดๆก็ได้งั้นหรอ?ดีฉันกำลังรออยู่ถ้าแกมีความสามารถจริงๆก็ไสหัวไปบอกพวกเขาสิ!เราจะมาดูกันว่าโรงเรียนจะไล่ฉันออกหรือแกจะจะหน้าแหกและทำให้ตัวเองได้รับความอับอายกัน ! "
ที่ด้านข้างของเขาคิ้วของหลงเซ้งหลินได้ปรากฏรอยเหี่ยวย่นความสามารถของเขาในการแยกแยะผู้คนผ่านโทนเสียงและอารมณ์ของพวกเขาเป็นสิ่งเขาถนัดดังนั้นเขาจึงมั่นใจได้ว่าชายที่อยู่ข้างหน้าเป็นลุงของถังซิ่วแต่ทัศนคติดังกล่าวและการปฏิบัติของลุงแก่หลานชายของเขานั้น ... เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์
หลังจากไม่กี่วินาทีที่ลังเลนั้น,เขาเดินไปข้างหน้าและยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับถังซิ่วเขามองไปที่ซูชางเหวินด้วยท่าทางไม่แยแสและพูดว่า
"ฉันไม่ได้สนใจว่าแกจะเป็นใครหรือห่าอะไร!แกได้ลบหลู่ถังซิ่วและนี่เท่ากับลบหลู่ฉันหลงเซ้งหลิน,แกรีบไสหัวไปจะดีกว่าไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการกับพวกแก!!"
เฉพาะตอนนี้ที่ซูชางเหวินตระหนักว่ายังมีเด็กหนุ่มอยู่ข้างถังซิ่ว,อย่างไรก็ตามเขาเคยชินกับการทำเป็นใหญ่และหยิ่งที่บริษัทและรอบญาติๆของเขาและเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังตะโกนอยู่ข้างหน้าเขานี้ทำให้เขาโกรธมากยิ่งขึ้น
"เอ่อ แกมีความกล้าดีหนิ?ไอหลานชายระยำของฉันต้องได้รับบทเรียน,แกไปยุ่งเรื่องธุระของแกนู้นไป,รีบย้ายก้นของแกแล้วไสหัวไปซะ!ไม่เช่นนั้นฉันจะให้บทเรียนแกด้วย! "
ความโกรธของหลงเซ้งหลินถูกจุดขึ้นในขณะที่เขารีบตะโกนกลับไป
"แกคิดว่าแกมีความสามารถพอที่จะสอนฉันได้งั้น?นอกเหนือจากตาเฒ่าของฉันแล้ว,นายน้อยหลงเซ้งหลินคนนี้ไม่เคยกลัวใคร! "
ด้วยท่าทางที่ซีดเผือดและความหนาวเย็นในดวงตาเพราะความโกรธของเขา,ถังซิ่วมองไปที่ซูชางเหวินขณะที่เขาหันกลับมาและพูดว่า
"หลงเซ้งหลิน,อย่าเสียเวลาไปกับการสนทนากับไอพวกระยำนี้เลย,ไปกันได้แล้ว!”
หลงเซ้งหลินจ้องที่ซูชางเหวินด้วยท่าทางยั่วยุขณะที่เขาขยับขาและตามถังซิ่วไป
"หยุด!"
ซูชางเหวินหยุดทั้งสองด้วยความโกรธในขณะที่เขาเดินออกมา
"ท้องฟ้าคงจะถล่มลงมาจริงๆถ้าฉันซูชางเหวินไม่ทำเก็บกวาดพวกบัดซบอย่างพวกแกทั้งสองตัวได้ในวันนี้,ฉันจะไม่ขอใช้นามสกุลนี้อีกต่อไป!”
"ช่างเป็นไอตัวระยำที่น่ารังเกียจ!"
เสียงโห่ร้องตะโกนดังมาจากในกลุ่มผู้ชมรอบๆ
กงดาหลงกำลังถือกระเป๋าและเดินไปข้างหน้าซูชางเหวิน,เขาจำถังซิ่วได้ตั้งแต่ตอนที่เขาได้เห็นรูปถ่ายของเขาก่อนที่จะมาที่เมืองนี้แต่ไม่เคยคิดว่าใครบางคนกล้าที่จะยั่วยุผู้ช่วยเหลืออาจารย์ของเขา
การแสดงออกของซูชางเหวินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาไม่เคยคิดว่าใครจะก้าวออกมาและขัดเขากลางคันเขาเหลือบมองไปที่กงดาหลงและสามารถรับรู้ถึงสถานะของเขาอย่างลางๆและรู้สึกถึงท่าทางที่สง่าจากเขาทัศนคติของเขาอ่อนลงเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะตอบด้วยความรู้สึกไม่สบายใจว่า
"คุณเป็นใคร?คุณมาที่นี่เพื่อไกล่เกลี่ยและยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่นทำไม? "
กงดาหลงไม่สนใจซูชางเหวินและวางกระเป๋าของเขาลงหน้าถังซิ่วและทักทายเขาด้วยความเคารพ
"อาจารย์ถัง,ผมกงดาหลงอาจารย์ของผมฝากความห่วงใยของเขามาสำหรับคุณ "
ถังซิ่วพยักหน้าเบาๆเขามองไปที่ใบหน้าสี่เหลี่ยมของกงดาหลง,คิ้วหนาตาขนาดใหญ่และลึกทั้งหมดนี้ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆว่าเขาเป็นชั่วร้ายหรือฉลาดแกมโกง
"พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเราในภายหลัง"
กงดาหลงโค้งคำนับอย่างนอบน้อมต่อถังซิ่วขณะที่เขาหันไปรอบๆเพื่อเผชิญหน้ากับซูชางเหวินและกล่าวว่า
"สำหรับเรื่องที่ว่าฉันเป็นใครนั้นหลายคนในเมืองนี้รู้จักฉันดีถ้าคุณมีเส้นสายพอก็จะสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับฉันได้นอกจากนี้อาจารย์ถังยังเป็นแขกรับเชิญผู้มีเกียรติของฉันและไม่ใช่คนที่คุณสามารถสร้างความอัปยศให้เขาได้อย่างอิสระมิฉะนั้นผลกระทบที่คุณต้องแบกรับจะเป็นอะไรที่น่าอเนจอนาถมาก "
ซูชางเหวินมองกงดาหลงด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อเขาเงียบไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่เขาจะชี้ไปที่ถังซิ่วและตอบว่า
"คุณบอกว่า ... เขาเป็นแขกรับเชิญของคุณ?นี้มันเรื่องบ้าอะไร?เรื่องตลกระดับโลก?ไม่มีใครรู้จักเขามากไปกว่าฉันคุณไม่ได้จำเขาผิดกับคนอื่นหรือเปล่า?
"ตาของฉันไม่ได้บอด!"
กงดาหลงตอบด้วยเสียงเคร่งขรึม
เมื่อเห็นท่าทีที่รุนแรงของกงดาหลงความรู้สึกโกรธของซูชางเหวินก็เพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยเขารีบคว้าโทรศัพท์และถ่ายรูปกงดาหลงและส่งข้อความออกไปอย่างรวดเร็วไม่นานหลังจากนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
ซูชางเหวินได้รับโทรศัพท์และรับฟังข้อมูลจากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์ไว้หลังจากนั้นก็พูดว่า
"ฉันรู้แล้ว"
"คิดว่าเป็นใครที่ไหนซะอีกที่แท้คุณเป็นแค่ลูกศิษย์คนแรกของเจี่ยหลุยเดา,อ๊าที่สร้างโชคลาภจากการพนันใช่มั้ย?ฮึ่ม...กงดาหลงเมื่อกี้ฉันรู้มาว่าแม้แต่อาจารย์ของคุณเองยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลยและตอนนี้คุณมาปกป้องถังซิ่ว?คุณได้เสียสติไปแล้ว "
ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้ากงดาหลงแต่เมื่อเขากำลังจะคำรามออกมาแต่ก็ได้มีเสียงดังมาจากที่ห่างไกลว่า
"อยู่ตั้งไกลยังได้ยินเสียงหมาเห่า,ไม่น่าแปลกใจมีคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่ "
เฉินซีซ่งและหลงฮานเหวินกำลังเดินมาด้วยกันและคนที่พูดก็คือเฉิงซีซ่ง
ซูชางเหวินก็ตกตะลึงเขาเป็นนักธุรกิจทำไมเขาจะไม่รู้เรื่องเฉิงซีซ่งและหลงฮานเหวินได้อย่างไร?เมื่อเทียบกับชายสองคนนี้ที่เป็นเทือกเขาสูงตระหง่านที่เขาต้องมองขึ้นไปเขาเป็นแค่ ...การตัดสินจากความหมายของคำพูดเฉินซีซ่งมันราวกับว่ากำลังพุ่งเป้ามาที่เขา?