Returning From The Immortal World - 25
ซู เชียงเฟย ไม่ใช่คนเดียวที่มีหน้าตาโง่งมอยู่ ณ ตอนนี้ เพื่อนร่วมชั้นอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน
“ถัง ซิ่ว นั้นยังไม่ออกไปอีก นี้เขายังจะเล่นต่ออีกหรอ ? ทั้งที่เขาสามารถชนะเงินได้จำนวนมากในห้องพนันนี้ ฉันเคยมาที่ห้องพนันนี้หลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นใครบางคนได้รับเงินจำนวนมากจากห้องพนันนี้”
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าโชคของคนงี่เง่า ถ้าสมองของ ถัง ซิ่ว เป็นปกติ เขาไม่สามารถหาเงินมาได้มากแบบนี้”
ซู่ ดวนซิน และ ทาน หลีเขวียน กำลังเฝ้าดู ถัง ซิ่ว ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา พวกเขาหวังว่าคนที่ชนะเงินไม่ใช่ ถัง ซิ่ว แต่เป็นพวกเขา
“ถัง ซิ่ว มีอะไรที่น่าอิจฉางั้นเหรอ? เกรดของมันคือต่ำที่สุดในชั้นปี ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสมองมันนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้มันไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่เขาก็จะประสบกับปัญหาในอนาคตอีกด้วย อย่าบอกฉันว่าพวกนายคิดว่า 20,000 เหรียญเกมเหล่านี้สามารถทำให้มันกินดื่มได้ตลอดชีวิตมัน ?”
ซู เชียงเฟย จ้องมองไปที่เพื่อนสองคนข้างๆเขาและพูดออกมาด้วยความรังเกียจ
แม้ว่า ถัง ซิ่ว นั้นสังเกตเห็น ซู เชียงเฟย และเพื่อนร่วมชั้นอีก 2 คนพร้อมทั้งได้ยินว่าพวกเขานั้นกำลังดุด่าตัวเองอยู่, แม้กระนั้นก็ตามเขาก็ไม่ใส่ใจในคำพูดพวกนั้น เพราะเขาไม่ได้มีเวลาให้ความสนใจกับพวกเขา
ไม่กี่วินาทีต่อมาสายตาของ ถัง ซิ่ว ได้ล็อคไปยังเครื่องสล็อตอื่นภายในห้องพนัน
หลังจากตัดสินจากกฎของสล็อตพวกนี้ , เพื่อที่จะชนะเงินรางวัลจะต้องหยอดเหรียญเกมอีกอย่างน้อย 100 เหรียญก่อน แต่ ถัง ซิ่ว ได้คำนวณอัตราการออกเงินของเครื่องสล็อตอันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
“เหรียญเกม 100 เหรียญได้คืนกลับมา 8,000 เหรียญนี่ , นี้เป็นกการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจดีหนิ”
ถัง ซิ่ว บ่นและรีบยืนต่อแถวเครื่องสล็อต
ถ้า ถัง ซิ่ว พึ่งเข้าเล่นห้องพนันนี้ เขาจะต้องลังเลที่จะจ่ายเงิน 100 เหรียญในการเล่นเครื่องสล็อตแน่ แต่ ถัง ซิ่ว ได้รับเหรียญเกมแล้ว 18,000 เหรียญในวันนี้ และได้รับเหรียญเกมมากกว่า 3,000 เหรียญดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ เหรียญเกม 100 เหล่านี้แน่นอน
นับตั้งแต่การกระทำของ ถัง ซิ่ว นั้น , ทำให้เขาได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากในห้องพนัน ทำให้หลายคนต้องล้อมรอบ ถัง ซิ่ว
เกี่ยวกับผู้ชมที่ยืนรายล้อมอเขาอยู่นั้น ถัง ซิ่ว ไม่แม้แต่จะสนใจเรื่อง เขาค่อยๆหยอดเหรียญเกมลงในเครื่องสล็อตแล้วกดปุ่ม “หมุน”
ตอนแรกนั้น ทุกคนก็มีความคาดหวังจาก ถัง ซิ่ว เป็นอย่างมากเนื่องจากพวกเขาคิดว่าเพราะ ถัง ซิ่ว สามารถเอาชนะได้สองครั้งและจากนั้นเขาก็จะมั่นใจได้ว่าจะชนะเป็นครั้งที่สาม
แต่เมื่อทุกคนได้เห็น ถัง ซิ่ว หยอดเหรียญลงในสล็อตอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวน 20 ครั้งและไม่ได้ยินเสียง ผู้ชมก็เริ่มกระจัดกระจายกันไป
“ฉันก็หลงคิดซะว่าเทพแห่งการพนันจะมาที่นี่ซะอีก แต่ฉันไม่ได้เห็นเขาทำอะไรเลย”
“เรานั้นคิดมากเกินไป, การเล่นเครื่องสล็อตนั้นขึ้นอยู่กับโชค มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะใช้ทักษะที่จะชนะ? มิฉะนั้นเจ้าของร้านคงจะขาดทุนยับมากแล้ว”
“แหวะ, แสร้งทำเป็นเดาได้ ไอเราก็นึกว่าเทพพนันกลับชาติมาเกิด เสียความรู้สึกของฉันจริงๆนี้มันไร้สาระสิ้นดี”
……….
เมื่อได้ยินเสียงความคิดเห็นที่เข้ามา ถัง ซิ่ว ปากของเขาเริ่มยกขึ้นหน่อยพร้อมปรากฏรอยยิ้มอันยิ้มแย้มแจ่มใสเพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ
เขารู้ว่าในบรรดาผู้ชมที่ยืนอยู่รอบๆนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ชมธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีพนักงานอีกหลายคนจากห้องพนันด้วย พวกเขาอยากเห็นว่าตัวเขานั้นชนะเครื่องสล๊อตได้ยังไง
ในระหว่างนั้นเขาองก็ได้หยอดเหรียญไปเรื่อยๆ
แต่ความจริงเรื่องนี้ทำให้ ถัง ซิ่ว รู้สึกตื่นตัวเหมือนกัน , เห็นได้ชัดว่าเจ้าของห้องพนันนี้เป็นคนหัวแหลมและใจแคบมาก , ดูเหมือนว่าเบื้องหลังของห้องพนันนี้มีความลึกลับมากขึ้น
เมื่อ ถัง ซิ่ว ใส่เหรียญเกมลงในเครื่องสล็อตจำนวน 113 เหรียญแล้วในที่สุดก็มีเสียงร้องดังออกมาพร้อมด้วยเหรียญเกมจำนวนมากถูกพ่นออกมา
“อะไรกันวะ ไม่จริงใช่ไหม มันได้อีกแล้ว ? เขาตีแจ็คพ็อตอีกครั้ง?”
“ทำไมเขาถึงได้เฟี้ยวแบบนี้ ?”
“ถ้าเรายังนับหนุ่มหัวล้าน ก่อนหน้านี้ , ไอเด็กนี้ได้รับรางวัลแจ็คพ็อต รอบที่ 3 แล้วใน วันนี้, โชคของไอหนูนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว !!!!”
………….
หลังจาก ถัง ซิ่ว ตีแจ็คพ็อตแตก ฝูงชนที่กระจัดกระจายกันก่อนหน้านี้นั้น ได้มารวมตัวกันอีกครั้งรอบตัวเขา พร้อมมองไปที่ใบหน้าเขาด้วยตาร้อนไหม้
ถ้าบอกว่าแจ็คพ็อตแรกของ ถัง ซิ่ว นั้นเป็นเพียงโชค แต่ครั้งที่ช่วยเหลือหนุ่มหัวล้านนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่การตีแจ็คพ็อตที่สามของ ถัง ซิ่ว นั้นไม่ใช่โชคและความบังเอิญแน่นอน
“พี่ชาย, คุณเป็นพี่ชายของผม คุณสามารถสอนผมถึงวิธีการเล่นเครื่องสล็อตนี่ได้หรือไม่ ?”
เมื่อ ถัง ซิ่ว กำลังทำเก็บเหรียญเกมสบาย ๆ หนุ่มหัวโล้นก็แทรกออกมาจากฝูงชนและคว้าแขนของ ถัง ซิ่ว ในขณะที่เขาเริ่มอ้อนวอนอย่างกระตือรือร้น
ก่อนหน้านี้เมื่อ ถัง ซิ่ว กำลังนั่งอยู่ที่เครื่องสล็อตนั้น หนุ่มหัวโล้นเพิ่งคว้าเหรียญมาหลายสิบเหรียญและใช้เงินหมดนานแล้ว จากนั้นเขาก็เห็นว่า ถัง ซิ่ว ชนะอีกครั้ง เขาคนนี้เริ่มเห็น ถัง ซิ่ว เป็นเหมือนตัวตนแห่งพระเจ้าแล้ว และอ้อนวอนเขาโดยไม่ลังเลเลย
เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไร้ยางอายของหนุ่มหัวโล้น, ถัง ซิ่ว ได้ขมวดคิ้วของเขาเอาไว้และรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ช่วยชายหัวโล้นก่อนหน้านี้
แต่ ถัง ซิ่ว เองก็ชื่นชมนิสัยแบบตรงไปตรงมาและกล้าหาญของคนหัวล้านนี่ ทำให้เขาไม่ได้ทำอะไรให้เขาลำบากและพูดล้อเขาเล่นว่า
“อ่า ,คาสิโนจะต้องสูญเสียแสงที่สุกใสอย่างแน่นอนเพราะความโล้นของนาย ถ้านายสามารถเหลือเส้นผมไว้ได้ นายก็อาจจะสามารถเอาชนะเครื่องสล๊อตนี่ได้”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอให้หัวโล้นตอบ, ถัง ซิ่ว ลุกขึ้นและออกไป
หัวล้านที่ยืนอยู่นั้น ได้ลูบหัวล้านๆลื่นๆของเขาขณะที่เขามอง ถัง ซิ่ว เดินออกไป ในขณะที่ใบหน้าของเขากำลังแสดงออกถึงการใช้ความคิด
“ฉันได้ชนะเหรียญเกมมา 30,000 จากห้องพนันนี้แล้ว เอาไงดีหว่า เราควรจะเลิกหรือเล่นต่อดี ?”
หลังจากที่เขาแลกเหรียญเกมมากกว่า 8,000 เหรียญในมือของเขาสำหรับเงิน ถัง ซิ่ว เหลือบมองไปที่เจ้าของห้องพนัน, ซึ่งในตอนนี้ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยการแสดงออกที่ตึงเครียด
“น้องชายตัวน้อยนี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันโปรดรับมัน”
เมื่อ ถัง ซิ่ว ยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้ , เจ้าของห้องพนัน หลี คังหลง ได้เอาเงินออกจากลิ้นชักและส่งให้ ถัง ซิ่ว พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน
ถัง ซิ่ว แข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าใจความคิดของเจ้าของ
“นี่คุณกำลังดูถูกผมหรือดูถูกตัวเองหรือ?”
เขากวาดเงินไว้บนมือของเขา ถัง ซิ่ว ถามด้วยท่าทางที่ถูกรังเกียจ
เนื่องจาก ถัง ซิ่ว เห็นว่ากองเงินในมือเจ้าของห้องพนันนั้นมันแฟบเกินไปและเขาสามารถมองคร่าวๆได้อย่างง่ายดายว่าเงินที่อยู่ในมือน่าจะไม่เกิน 2,000 หยวน
ถ้า ถัง ซิ่ว เล่นในห้องพนันต่อ เขาสามารถกวาดตู้สล๊อตได้ทั้งหมดซึ่งจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 เหรียญเกม แต่อาจเป็นเหรียญเกมตั้งแต่ 100,000 ถึง 200,000 เหรียญ
แต่เจ้าของห้องพนัน ต้องการใช้ 2,000 หยวนเพื่อเตะเขาออกไปซึ่งทำให้ ถัง ซิ่ว ทิ้งความคิดเดิมของเขาที่จะเลิกเล่นได้และทำให้เขาให้เกิดความโกรธออก
“ไอเด็เปรต , ถ้าแกฉลาดและมีไหวพริบ ก็เอาเงินลูกพี่ของเราและไสหัวออกไป มิฉะนั้นไม่แค่แกจะไม่ได้เงินกลับไป แต่แกต้องอยู่ที่นี่ด้วย”
เมื่อคำพูดของ ถัง ซิ่ว เพิ่งเสร็จลง ก็มีเสียงของเขาก็โผล่เข้ามาในหู
ถัง ซิ่ว หันไปรอบๆ และเดินไปตามทิศทางของเสียง พร้อมเห็นชายหนุ่มที่มีรอยสักเต็มตัวกำลังจ้องมองเขาเหมือนเสือเฝ้ามองเหยื่อของมัน
นอกจากนี้ยังมีวัยรุ่นที่มีแนวพังค์หลายคนที่ยืนอยู่ข้างวัยรุ่นที่มีรอยสัก, การตัดผมของ พังค์เหล่านี้เป็นทรงแปลกประหลาด พร้อมทั้งปิดประตูทางเข้าของห้องพนันไว้ตามด้วยการล้อมรอบ ถัง ซิ่ว ไว้ตรงกลาง
“เจ้าของร้าน นี่เป็นวิธีดูแลลูกค้าของคุณงั้นหรือ ?”
ถัง ซิ่ว มองหน้าของเจ้าของด้วยความอวดดีและถามด้วยเสียงแหลมและเข้มงวด
“อะไร? มีอะไรจะบ่น ?”
หลี่ คังหลง ส่งเลียงหัวเราะเยาะ
“ฉันคิดว่าฉันอยากเลิกก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากเจ้าของร้านพูดอย่างนั้นแล้วดูเหมือนว่าฉันไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าการเล่นต่อไป”
เมื่อได้เห็นการแสดงออกของเจ้าของ ที่ดูเหมือนจะอยากกินเขา ถัง ซิ่ว ไม่สามารถช่วยได้พร้อมหัวเราะเยาะเย้ยพร้อมหันไปรอบๆและเดินไปยังจุดกึ่งกลางของห้องพนัน
วัยรุ่นแต่งตัวพังค์เพียงไม่กี่คนนี้ ทำเพียงการปิดประตูทางเข้าของห้องพนันเท่านั้นและพวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า ถัง ซิ่ว นั้นยังคงมีอารมณ์ที่จะเล่นเครื่องสล็อตต่อไปในสถานการณ์แบบนี้อีก ได้แต่ยืนนิ่งและจ้องมองเปล่า ๆ
จนกระทั่ง ถัง ซิ่ว หายเข้าไปในฝูงชน หลี คังหลง และพวกวัยรุ่นคนอื่น ๆ ก็มีความรู้สึกว่า “นี้มันเกิดอะไนขึ้น ?” อยู่บนใบหน้าของพวกเขา
“ไอเด็กนี้มันมีพื้นหลังยังไงกันแน่ มันมีกึ๋นดีหนิ, ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมันเลย ?
เมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิงของ ถัง ซิ่ว ที่แสดงออกมาเมื่อครู่นี้แล้ว ความรู้สึกแปลกๆสายหนึ่งก็ออกมาจากใจของเขา
“ลูกพี่, ถนนเส้นนี้นั้นก็เหมือนสนามหญ้าของเรา ขณะที่คุณและคุณหวัง เฮ่า ที่เป็นหัวหน้าแผนกความมั่นคงสาธารณะเป็นพี่น้องสาบานกัน อย่าบอกผมนะว่าคุณกลัวไอเด็กน้อยตัวเหม็นที่ขนหมอยยังไม่ขึ้นเนี้ย ?”
เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของเจ้านาย หนุ่มที่มีรอยสักพูดด้วยเสียงรังเกียจ
“ใครบอกว่าฉันกลัวมัน? ฉันแค่อยากรู้เกี่ยวกับเบื้องหลังของเด็กน้อยคนนี้ มันยังสามารถพูดและหัวเราะแม้ว่ามันจะอยู่ท่ามกลางพวกเราก็ตาม แต่เรายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตัวตนของเขาบนถนนแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงเห็นได้ชัดว่าเขามีตัวคนเดียว ยังจะจ้องมองผมอยู่ทำไมล่ะ? ไสหัวไปได้แล้ว !”
หลี่ คังหลง มองอย่างดุเดือดไปที่หนุ่มวัยรุ่นที่สักเต็มตัวทันที และตะโกนคำสั่งออกมาดัง ๆ
ในอีกด้านหนึ่งหนุ่มหัวล้านที่กำลังประมวลผลคำพูดของ ถัง ซิ่ว ที่พูดถึงเขาก่อนหน้านี้จบ เขาก็ได้ไล่ตาม ถัง ซิ่ว ไป , เมื่อเขาไล่ตามไปที่เคาน์เตอร์ในที่ทำงาน , เขาก็เห็นความขัดแย้งระหว่าง ถัง ซิ่ว กับเจ้าของห้องพนัน
หลังจากแอบฟังบทสนทนาระหว่างของห้องพนัน กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วรอยยิ้มแห่งความสุขก็โผล่ขึ้นมาจากใบหน้าของหัวโล้น
“หลี่ คังหลง ,ฉันได้ยินมาว่านายอยากจะจัดการกับพี่ชายคนโตของฉันเหรอ?”
ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้หลีกทาง หนุ่มหัวล้านเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ในขณะที่ยิ้มไปที่ หลี คังหลง ด้วยน้ำเสียงที่ประหม่า
“คะ…..คะ….คุณ … คุณคือ นายน้อยหลง คุณให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนร้านเล็ก ๆ ของผม …”
เมื่อเขาได้ยินว่าใครบางคนกำลังตะโกนชื่อของเขาอย่างเย่อหยิ่งเป็นพิเศษ หลี คังหลง
ไม่สามารถช่วยได้ ที่จะไม่หันกลับไป , อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา ดวงตาของ หลี่ คังหลง ก็เบิกกว้างขณะที่ความประหลาดใจและความตื่นเต้นพุ่งออกมาเนื่องจากเบื้องหลังของคนคนนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก เพียงแค่คำพูดเดียวจากเขาก็สามารถตัดสินใจได้ถึงความอยู่รอดและความชิบหายของห้องพนันเขาได้เลย
อย่างไรก็ตามวัยรุ่นที่อยู่ข้างหน้าของเขามักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวอะไรมาก ทำตัวเหมือนคนธรรมดา ถึงขนาดที่มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆที่คนรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้ แม้แต่ หลี่ คังหลง เองก็มีโอกาสน้อยมากที่จะเจอเขา นั้นนับว่าเป็นโชคอย่างมาก
แต่เนื่องจากคนนี้ทักทาย หลี่ คังหลง ด้วยตัวเองและจ้องไปที่เขาด้วยท่าทางที่หยอกล้อ หลี คังหลง ไม่สามารถคิดได้อย่างชัดเจนว่าคนนี้จะมาเล่นที่ห้องพนัน ของเขาได้อย่างไร
“นายน้อยหลง ,คุณต้องเข้าใจผิดแม้ว่าคุณจะให้ผมมีความกล้าขึ้นซัก 100เท่า ผมก็ไม่กล้าที่จะจัดการกับพี่ชายของคุณ …”
ระลึกถึงสิ่งที่ หลง เซ้งหลิน พูดก่อนหน้านี้ หลี่ คังหลง รีบขออภัย
หลี คังหลง ยังไม่พูดเสร็จ แต่ หลง เซ้งหลิน ยกมือขึ้นและตบหน้าของเขาอย่างดุเดือดพร้อมพูดว่า
“สิ่งหนึ่งที่ฉันเกลียดจริงๆคือคนแบบเดียวกับแกที่ต้องการจะเอาชนะ แต่ก็ไม่สามารถจะแพ้คนอื่น ๆได้ ,ถ้าคนอื่นๆเปิดห้องพนันและทำตัวเหมือนแก, ให้คนเข้าแต่ไม่สามารถออกไปได้ แกคิดว่าฉันเป็นคนโง่อย่างงั้น หรือ ห๊า ?”
การถูกหลง เซ้งหลิน ตบที่ใบหน้า ทำให้เขาจ้องมองอย่างโง่เขลา เนื่องจากเขาไม่เคยคิดเลยว่า หลง เซ้งหลิน ซึ่งมักยิ้มเหมือนเด็กหนุ่มมีความดุร้ายเช่นนี้
“หลี คังหลง แกฟังฉันนะ คนที่พึ่งมาหาแกเพื่อแลกเหรียญก่อนหน้านี้คือพี่ชายของฉัน เขาต้องการจะเล่นอะไรที่นี่ก็ให้เขาเล่นไป ถ้าแกกล้าเล่นสกปรกฉันก็ยินดีที่จะเล่นกับแก”
ภายใต้สายตาที่สับสนและงงงวยของ หลี คังหลง ,หลง เซ้งหลิน ทิ้งคำพูดของเขาไว้ก่อนที่จะออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำพูดของ หลง เซ้งหลิน , หลี คังหลง รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถูกสังหารโดยสายฟ้าฟาด ในขณะที่กลุ่มรอยสักที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ