Returning From The Immortal World - 212
.......................................................................................................................................................................................
ที่โรงแรมไคเซอร์
ดวงตาที่สลึมสลือของเฉินเหว่ยที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งบนเตียง ขณะที่เห็นถังซิ่งปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นความโกรธของเธอก็ได้ปะทุขึ้น เธอกระโดดออกจากเตียงพร้อมกับพุ่งไปหาถังซิ่วโดยทันที
“สกุลถัง นาย....ไอ้ชาติชั่ว !! ป้าคนนี้จะต้องจัดการนาย.....”
ถังซิ่วที่กำลังนั่งคิดอยู่นั้นก็ได้ตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของเธอพร้อมกับหันไป ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีเพราะจังหวะที่เธอกระโดดเข้ามานั้นก็ทำให้เสื้อของเธอเปิดออก เขาเห็นเพียงแค่ซาลาเปาสีขาวพร้อมกับเม็ดเชอร์รี่แสงแดงสองลูก
นี่.........
ท่าเปิดอกในตำนาน ?
สมองของถังซิ่วลัดวงจรโดยทันที ใบหน้าน้อยๆของเธออยู่ใกล้กับจมูกของเขามาก เขารู้สึกรุ่มร้อนที่ท่อนล่างของเขาพร้อมกับขยี้ไปที่หน้าอกของเธอและหลบหมัดที่เธอส่งออกมา เขาได้ยกเธอขึ้นมาทั้งอย่างนั้นพร้อมกับโยนเธอลงไปบนเตียง
“ใส่เสื้อผ้าของเธอได้แล้วมันทะลักออกมาหมดแล้ว อย่าได้ริอาจมาลองเล่นกับไฟไม่เช่นนั้นเธอจะต้องเสียใจ อ่อใช่ ลืมไป มันนุ่มดีจริงๆเลยล่ะ”
ริมฝีปากของถังซิ่วยกขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนที่จะหันหลังกลับไปนั่งที่เดิม
เฉินเหว่ยที่อยู่บนเตียงได้พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วนั้นเธอก็หยุดเคลื่อนไหวโดยทันทีพร้อมกับก้มลงมามองที่หน้าอกของตัวเองก่อนที่จะกับกรี้ดออกมาทันที เธอรีบใช้มือทั้งสองดึงเสื้อมาบังไว้ก่อนที่จะโยนหมอนใส่ถังซิ่วแล้วพูดว่า
“ไอหื่นกามตัวน้อย........นาย เมื่อกี้นี้นายบีบไปที่ตรงไหนกัน ห๊า ?”
ท่อนล่างของถังซิ่วเองก็รู้สึกเร่าร้อนเป็นอยากมากแต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะยกครั้งแรกของเขาให้เธอดังนั้นจึงได้สงบสติพร้อมกับพูดออกมาอย่างสงบว่า
“หากว่าฉันหื่นจริงๆเธอก็คงจะเสร็จฉันไปแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นฉันสามารถรับประกันได้เลยว่าเธอไม่มีสิทธิลุกขึ้นมาจากเตียงนั่นด้วยซ้ำ”
เฉินเหว่ยได้ยกมือขวาขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะสาปแช่งออกมาว่า
“นาย.....นาย..นายมันไอ้คนไร้ยางอาย”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“หากว่าฉันไร้ยางอายจริงเธอคงไม่เหลือแรงพอที่จะอ้าปากหรือชี้นิ้วสาปแช่งฉันแล้ว”
“........”
เฉินเหว่ยเองรู้สึกอยากจะร้องไห้เป็นอย่างมากแต่เธอเองก็ไม่มีน้ำตาออกมา เธอมองไปที่ถังซิ่วและพบว่าเด็กไร้เดียงสาที่เมื่อวานนี้พอมีความแข็งแกร่งอยู่บ้างนั้นเป็นคนละคนกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง เธอไม่สามารถเป็นคู่มือให้กับเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“หากว่าไม่มีความกล้าเหลือที่จะด่าแล้วก็ไปล้างหน้าได้แล้ว ฉันได้ซื้ออาหารเช้ามาให้แล้วเธอก็รีบกินมันแล้วเป็นเด็กดีอยู่ในโรงแรมนี้ซะ ฉันมีเรื่องที่ต้องออกไปทำ”
เฉินเหว่ยโกรธเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ทำไมฉันจะต้องอยู่ที่นี่ ?ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะ ! เมื่อวานนี้นายทำให้ฉันหมดสติทำไม ? นายเห็นความหวังดีของฉันเป็นอะไรกัน ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เธอมีข้อผิดพลาดอยู่สองจุด ข้อแรก เมื่อวานนี้เราได้พนันกันไว้แล้วและเธอก็ต้องทำตามสัญญาหากว่าเธอไม่ได้ลืมมันเพราะโดนฉันทำให้หมดสติ ข้อที่สอง มีกรณีให้เห็นมากมายว่าความหวังดีนั้นได้กลายเป็นผลร้าย ฉันคิดว่าเธอควรจะคิดให้รอบคอบก่อนที่จะพ่นอะไรออกมาจากปากเธอนะ”
ร่างกายของเฉินเหว่ยสั่นสะท้านก่อนที่จะตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า
“นายเชื่อไหมว่าฉันจะโทรไปหาฮั่นชิงหวูเพื่อบอกเธอว่านายไม่สุภาพกับฉันน่ะ”
ถังซิ่วได้ยื่นโทรศัพท์ไปให้เธอพร้อมกับพูดว่า
“เธออยากโทรก็โทรสิ หากว่าฮั่นชิงหวูเชื่อเธอล่ะก็นะ ฉันจะรีบออกไปโดยไม่เถียงแม้แต่น้อยและรอให้ฮั่นชิงหวูกลับมา ส่วนหากว่าหล่อนเลือกที่จะเชื่อฉัน ฉันก็คิดว่ามันจะต้องเกิดความขัดแย้งระหว่างเธอและฮั่นชิงหวูอย่างแน่นอน”
“........”
เฉินเหว่ยถึงกับเงียบ
เธอได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ใบหน้าบูดบึ้งของเธอจะค่อยๆจางหายไป เธอมองไปที่ถังซิ่วด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“ฉันอยากจะรู้ว่าทำไมเมื่อวานนี้นายถึงได้ทำอย่างงั้น ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เพราะว่าฉันเห็นแก่หน้าของฮั่นชิงหวูจึงได้ทำตัวสุภาพกับเธอแต่ฉันก็ตระหนักได้ว่ายอดหญิงอย่างเธอนั้นสุภาพไปก็ไม่มีผลอะไรจึงได้ใช้วิธีของฉันเอง เป็นอะไรไป ? เธอคิดว่าวิธีของฉันไม่ได้ผล ?”
เฉินเหว่ยได้ยกนิ้มโป้งขึ้นมาชื่นชมว่า
“ได้ผลดีมากเลยล่ะ เอาจริงๆแล้วฉันเองก็เริ่มชอบนายขึ้นมาแล้วสิ รู้ไหม ! ฉันเริ่มรู้สึกสงสัยเรื่องของนายเข้าไปทุกที”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เมื่อผู้หญิงเริ่มรู้สึกสงสัยหรือสนใจในตัวของผู้ชายก็แสดงว่าระยะห่างระหว่างการตกหลุมรักนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว ฉันไม่สนใจในตัวเธอเลยดังนั้นอย่าได้สงสัยฉันเลย”
เฉินเหว่ยได้หัวเราะออกมาอย่างดังพร้อมกับพูดว่า
“นายนี่มันไม่มีความอ่อนไหวเลยหรือไง อย่างไรก็ตามต่อให้ตกหลุมรักนายจริงๆก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากฉันก็แค่ให้ทั้งหมดของฉันแก่นาย ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะแข็งทื่อเป็นท่อนไม้โดยสามารถอดทนและไม่ไหวติงได้น่ะ”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดว่า
“แน่นอนว่าฉันไม่ใช่คนไม่มีความรู้สึกเหมือนท่อนไม้แต่หากจะให้ฉันพูดล่ะก็ หลังจากที่ฉันฟันเธอแล้วฉันก็จะทิ้งเธอทันที”
“นาย.........”
เฉินเหว่ยนั้นโกรธเป็นอย่างมาก่อนที่เธอจะเปลี่ยนมันเป็นรอยยิ้มพร้อมพูดออกมาหลังจากที่พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาว่า
“เมื่อกี้นายยังบอกว่าฉันเป็นยอดหญิงใช่ไหม หากว่านายได้ฉันก็อย่าหวังว่าจะเขี่ยฉันทิ้งได้เลย ฉันจะติดหนึบกับนายให้เหมือนเห็บหมาเลยทีเดียว !”
ถังซิ่วได้มองบนก่อนที่จะคิดว่าหากว่าเขายังคงอยู่ที่นี่ก็คงจะไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า
“ฉันมีเรื่องที่ต้องทำเพราะฉะนั้นขอตัวล่ะ อย่าได้ลืมคำพูดของฉันเชียว เธอห้ามออกไปจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียวไม่เช่นนั้นหากว่ามีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นฉันจะไม่รับผิดชอบแม้แต่น้อย”
เฉินเหว่ยกระโดดขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะขวางเขาไว้แล้วพูดว่า
“นายจะไปที่ไหน ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัว”
เฉินเหว่ยได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“เรื่องส่วนตัวของนายคือการอยู่เป็นเพื่อนฉัน ! หากว่านายไม่ให้คำตอบที่ดีกับฉันล่ะก็ฉันจะตามนายไปทุกๆที่ที่นายไป !!”
ถังซิ่วได้รีบตอบกลับไปทันทีว่า
“ฉันจะไปที่โรงเรียนสอนขับรถ จริงๆแล้วเมื่อวานฉันได้มีนัดกับผู้อำนวยการของที่นั่นแต่เป็นเพราะเรื่องของเธอจึงลืมไป หากว่าวันนี้ฉันยังไม่ไปอีกมันก็จะดูไม่สุภาพเป็นอย่างมาก”
เฉินเหว่ยได้มองบนก่อนที่จะเปิดทางให้เขาแล้วพูดว่า
“เด็กน้อย นายเพิ่งจะมาทำใบขับขี่ตอนนี้งั้นหรอ ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากถามล่ะ ฉันจะทำข้อตกลงก่อนว่าหากว่านายไม่มาในช่วงบ่ายวันนี้ฉันจะออกไปหาอะไรกินเอง”
ช่วงบ่าย ?
ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า
“ฉันจะรีบกลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุด”
หลังจากที่ออกมาจากโรงแรมแล้วถังซิ่วก็เห็นว่านี่มันยังเหลือเวลาอีกเยอะจึงได้มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารของแม่เพื่อบอกเกี่ยวกับเรื่องของหยินหยินก่อนที่จะนั่งรถแท็กซี่ไปที่โรงเรียนสอนขับรถ
เซ่าดี่ควอนคือชื่อของผู้อำนวยการโรงเรียนสอนขับรถ แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังเต็มไปด้วยพลัง
“คุณถัง เรื่องของคุณนั้นหลงเสวี่ยเหยาได้แจ้งผมแล้วและยิ่งกว่านั้นคือผมเองก็ได้รับสายจากหัวหน้าหลงแล้วด้วย คุณไม่ต้องเป็นกังวลเพราะเราจะจัดการตามคำขอของคุณแต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าคุณนั้นเคยขับรถมาก่อนหรือเปล่าดังนั้นจึงได้เตรียมโค้ชที่ดีที่สุดเอาไว้ให้คุณ”
เซ่าดี่ควอนได้พูดรายละเอียดทุกอย่างออกมาด้วยท่าทางที่เป็นมิตรอย่างมาก
ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาว่า
“หัวหน้าหลงที่คุณว่าคือ หลงเจิ้งหยูหรือหลงฮานเหวิน ?”
เซ่าดี่ควอนได้ตอบกลับไปว่า
“หลงฮานเหวิน”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่คิดเลยว่าเขาจะรู้เรื่องที่ผมต้องการจะสอบใบขับขี่ด้วย ถ้าพูดตามตรงแล้วผมไม่เคยขับรถมาก่อนและไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแม้แต่น้อย ต้องขอรบกวนคุณด้วยและหากว่าผมได้รับใบขับขี่เมื่อไหร่ก็จะขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ”
เซ่าดี่ควอนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“ขอขอบคุณ”
ทันใดนั้นเซ่าดี่ควอนก็ได้แนะนำโค้ชให้แก่ถังซิ่ว เขามีสกุลว่าหลี่ดังนั้นถังซิ่วจึงได้เรียกเขาว่าผู้สึกสอนหลี่
ก่อนที่จะขับรถนั้นผู้สึกสอนก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เราจะว่ากันด้วยเรื่องหลักๆของการขับรถก่อนแล้วกัน ตอนนี้เธอก็ลองฝึกไปก่อนและช่วงบ่ายเราจะออกไปขับข้างนอกกัน”
“ดี !”
ถังซิ่วได้พยักหน้าตอบ
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีถังซิ่วก็รู้สึกคุ้นเคยกับการขับเป็นอย่างมาก เขาได้ถามออกมาว่า
“ผมจำได้หมดแล้ว เราออกไปลองข้างนอกเลยได้ไหม ?”
ผู้ฝึกสอนเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“อย่ารีบร้อน เธอต้องแสดงให้ฉันเห็นก่อนว่าเธอสามารถจำได้แล้ว”
ถังซิ่วเองก็เข้าใจได้ทันที่ว่าผู้ฝึกสอนไม่เชื่อว่าเขาสามารถจดจำได้หมดแล้ว เขาได้ตอบกลับไปว่า
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะลองออกไปข้างนอกดูและหากว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนคุณก็ช่วยชี้แนะผมด้วย”
ผู้ฝึกสอนเองก็รู้ถึงสถานะของถังซิ่วดีและเมื่อได้ยินคำขอครั้งที่สองของถังซิ่วเขาจึงได้ยอมตกลงแต่ก็ได้พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงว่า
“ตอนที่ขับอยู่นั้นต้องจดจ่ออยู่กับการเปลี่ยนเลนและเส้นทาง เธอจะต้องไม่เหยียบคันเร่งหรือเบรกให้รุนแรงจนเกินไป”
“เข้าใจแล้ว !”
ถังซิ่วได้ใส่เข็มขัดของเขาพร้อมกับตรวจสอบมันอย่างที่ผู้ฝึกสอนได้สอนมา เขาได้สตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้าๆก่อนที่จะผ่านไปหลายนาทีนั้นเขาก็ได้ขับออกไปได้อย่างราบรื่น เขาขับได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆแม้กระทั่งผู้ฝึกสอนที่อยู่ข้างที่นั่งคนขับเองก็ยังทึ่ง
“น่าทึ่ง น่าทึ่งจริงๆ เธอสามารถเข้าใจในสิ่งที่คนปกติไม่สามารถเข้าใจได้แม้ฉันจะสอนตั้งหลายวัน หากว่าฉันไม่รู้จักเธอมาก่อนก็จะต้องคิดว่าเธอเป็นคนขับรถที่มีประสบการณ์มากอย่างแน่นอน”
ผู้ฝึกสอนได้พูดออกมาขณะที่เขาถอนหายใจ
ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“มันง่ายมากๆเลย ผมสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว”
ผู้ฝึกสอนเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เรียนรู้ได้เร็วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแต่ห้ามรีบเร่งโดยเด็ดขาด มีคำพูดที่ว่าแม้คนว่ายน้ำแข็งก็ยังต้องจมน้ำตายกลางมหาสมุทรดังนั้นเราจะต้องขับรถด้วยความรอบคอบและมีสติ มันมีกรณีให้เห็นบ่อยๆว่าแม้แต่นักขับที่มีประสบการณ์เองก็ยังต้องจบชีวิตเพราะคิดว่าตัวเองเก่งแล้วหลังจากที่ประมาทและไม่มีสติในการขับรถ”