ตอนที่แล้วบทที่ 277 - ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (3) [14-02-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 279 - ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (5) [18-02-2020]

บทที่ 278 - ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (4) [16-02-2020]


บทที่ 278 - ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (4)

[เอาจริงดิ... ฉันได้จัดการฆ่าเจ้าสิ่งนี้ไปได้ยังไง?]

"นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะถามเธอมากกว่า แค่ได้มามองอีกครั้งก็น่ากลัวแล้ว ถ้าฉันได้เผชิญหน้ากับเจ้านี่ตรงๆฉันได้ถูกขยี้ไปในทันทีแน่"

[อืมม เจ้านี่น่ะแม้แต่ในหมู่คลาส 7 ด้วยกันก็ยังนับว่าทรงพลังเลย ถ้าเป็นฉัน ฉันก็ไม่อาจจะฆ่ามันได้ในการสู้หนึ่งต่อหนึ่งแน่ ที่มันเป็นไปได้ก็เพราะนาเทียก็อยู่ที่นั่นด้วย]

เมื่อสักครู่นี้เฮเรียน่าได้ต่อสู้กับเลียร่าอยู่ แต่ว่าเมื่อยูอิลฮานได้หยิบเอาร่างของเคลาทูคออกมาทำให้เธอหมดความสนใจที่จะสู้ต่อและลอยเข้ามาหายูอิลฮานแทน เธออยากจะให้เขาเอาใจเธอเพราะเธอเป็นคนที่ทำให้เขาได้รับร่างนี้มา

"อืมม ขอบคุณนะ ขอบคุณเธอมากเลย"

[ฟุฟุ]

ในอดีตเคลาทูคได้โดนผลจากเสน่ห์ของเฮเรียน่าและเข้าไปสูกับปีกที่ 8 แห่งกองทัพจรัสแสงนาเทียจนบาดเจ็บทั้งคู่และต้องเสียชีวิตไป ยังไงก็ตามพลังเวทย์ในร่างที่มหาศาลของมันยังคงอยู่และช่วยซ่อมแซมร่างกายให้กับมัน ทำให้ตอนนี้ร่างกายของมันได้ถูกฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์จนทำให้คนมองต้องสงสัยว่ามันตายไปแล้วจริงๆแน่หรือ

"สำหรับตอนนี้ฉันจำเป็นต้อง... ชำแหละมัน"

[นายท่านดูจะจริงจังยิ่งกว่าเก่าอีกครั้ง... ในบางครั้งฉันก็อิจฉาในความหลงใหลไร้ประโยชน์ของนายท่านจริงๆ]

"อย่าพูดว่าไร้ประโยชน์เชียวนะ"

ยูอิลฮานได้จัดไฟขึ้นบนปลายหอกมังกรแปดหาง เพลิงนี้คือเพลิงโปร่งแสงที่ยูอิลฮานใชได้หลังจากที่เขาได้รับพรจากเทพธิดาแห่งเพลิง

เพลิงได้ถูกบีบอัดอยู่ที่ปลายหอกของเขานั้นมีแค่มองเห็นได้รางๆนั้นเท่านั้น แต่ว่าพลังที่อยู่ภายในของมันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และนี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้ยูอิลฮานได้รับพรจากเทพธิดาแห่งเพลิง

[ฉันยังรู้สึกได้ถึงพลังของมังกรอีกด้วย]

"นี่ก็คือประกายเพลิงที่ถูกเสริมพลังจากโลหิตมังกร นอกไปจากนี้ก็ยังมีเพลิงโอโรจิ เพลิงม่วง รวมไปถึงเพลิงนิรันดร์ด้วยนะ"

[หากว่าเสริมดวงใจแห่งเพลิง(เปลื่ยนจากหัวใจแห่งเพลิง)ที่นายมีอยู่ ฉันคิดว่ามันอาจจะถูกเพิ่มพลังมากยิ่งขึ้นไปอีกนะ]

"ไว้คุยเรื่องนี้หลังจากจัดการงานนี้เสร็จล่ะกัน"

เขาไดใช้ปลายหอกจ่อแทงลงไปที่หัวของเคลาทูค หากว่าเคลาทูคยังมีชีวิตอยู่เขาคงไม่อาจจะแทงเข้าไปแน่ แต่ว่าในตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น คมหอกได้แทงลงไปอย่างราบรื่นราวกับผ่าเต้าหู้ ยูอิลฮานได้แทงลึกเข้าไปทีล่ะนิดพร้อมๆกับการสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เลือดได้กระจายออกไปจนทั่ว แต่ว่ายูอิลฮานก็ได้ใช้ที่เก็บที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเก็บเลือดทั้งหมดนี้เอาไว้

"เยี่ยม ฉันคิดว่ามันได้ผลแหะ"

หอกของเขาได้กลายเป็นเร็วยิ่งขึ้น เมื่อเนื้อในของฉลามติดเกราะขนาดมหึมาที่มีขนาดร้อยกว่าเมตรได้ยิ่งเผยออกมา นายูนาก็ได้ตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจ

"อิลฮาน! ฉันอยากจะกินซุปหูฉลามล่ะ~"

"ถ้าฉันเอาหูเจ้านี่มาทำเป็นศพก็คงจะพอให้ทุกๆคนในนี้ได้กินล่ะนะ"

"พ่อครับ ผมก็เหมือนกัน"

"ไม่ใช่ว่าลูกกินเนื้อมังกรไปเยอะแล้วหรอกหรอ!?"

"เนื้อฉลามดูน่าอร่อยกว่าครับ!"

ยูอิลฮานได้ชำแหละเคลาทูคเพื่อที่จะเอามาเสริมพลังให้กับป้อมปราการลอยฟ้า แต่ว่าพรรคพวกที่เหลือของเขากลับอยากที่จะกินเนื้อฉลาม

ที่จริงแล้วเนื้อฉลามเป็นวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารที่ดีมากอย่างหนึ่งเลยหากไม่คำนึงถึงเรื่องการเน่าเสียที่ไวมากๆของมัน แต่ว่าเนื้อของเคลาทูคมีมานาอยู่จำนวนมากทำให้ถึงจะปล่อยไว้เป็นร้อยปีก็ไม่มีวันจะเน่าเสียแน่

แล้วก็ด้วยสกิลทำอาหารที่เขาได้เชี่ยวชาญแล้ว ยูอิลฮานก็อยากจะทำซูซิฉลามเช่นกัน

"...ในเมื่อฉันไม่ต้องใช้เนื้อเพราะงั้นเราจะกินมันกันใช่ไหม?"

"เราจะกิน..."

ยูอิลฮานได้แยกกระดูกกับเกราะโลหะออกจากกัน จากนั้นก็ตัดหูฉลามกับเนื้อชิ้นที่เหมาะมาทำเป็นซูชิ อย่างแรกเขาได้หั่นหูฉลามเป็นชิ้นๆไปใส่ในหม้อทำน้ำซุป ตัดเอาส่วนเนื้อไปทำเป็นซูชิบางๆ เมื่อได้เห็นการทำอาหารของยูอิลฮาน คังมิเรย์กับนายูนาได้รู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้ในด้านนี้

"ฉันยังทำมาม่าไม่ได้เลย..."

"อิลฮานทำอาหารให้เราก็ดีนะ แต่ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันแปลกๆกันนะ นี่มันดีแล้วแน่หรอ?"

"พ่อครับ เร็วสิครับ เร็วเข้า!"

เมื่อยูอิลฮานชินกับมันการทำอาหารของเขาก็ได้เร็วยิ่งขึ้น ยูอิลฮานได้ใช้เวลาแค่สามชั่วโมงเท่านั้นในการเอาฉลามมาทำเป็นอาหารที่พอให้คนทั้งหมดในที่แห่งนี้ได้กิน และเนื่องจากว่ายูอิลฮานได้ใช้อ่างแห่งปาฏิหาริย์มาทำอาหารทำให้ความเป็นพิษไม่ได้สูงอีกต่อไปแล้ว

"...ฉัน"

"กรี๊ด อร่อยมาก!"

คังมิเรย์กับนายูนาที่อึดอัดใจอยู่ได้ถูกรสชาติของอาหารทำให้ความรู้สึกนี่หายไปทันที และพวกเธอก็ได้เริ่มที่จะสนใจกับการทำอาหาร สำหรับคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน

"แม่แพ้ลูกแล้ว"

แม้กระทั่งคิมเยซอลก็ยังยอมรับในความพ่ายแพ้

[เคลาทูคที่เป็นถึงคลาส 7 ได้จบลงด้วยการกลายมาเป็นซุปหูฉลาม...]

"ชีวิตคนเรามันไม่มีปลายทางที่แน่นอนหรอกนะ"

[แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะมีปลายทางที่ดีกว่าการกลายเป็นซูชิแน่ๆล่ะ... อ่า อร่อยจัง ที่รักทำทั้งหมดนี้จริงๆสินะ]

ร่างกายของเคลาทูคมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ต่อให้พวกเขาเติมเต็มท้องกันจนอิ่มร่างกายของเคลาทูคก็ยังคงเหลืออยู่อีก 95% ยูอิลฮานได้จัดการตัดเอาเหลือส่วนที่เหลืออย่างพอดีคำมาเก็บลงไปในช่องเก็บของและในที่สุดเขาก็ได้เริ่มทำการอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้า

"มิสทิค เธอคิดว่าป้อมปราการนี่ขาดระบบอะไรบ้างไหม?"

[สามัญสำนึกปกติล่ะมั้ง?]

"ไม่ใช่สิ่งที่เธอขาดนะ แต่เป็นสิ่งที่ป้อมปราการขาด"

[คงเป็นวัตถุดิบ?]

"ฉันผิดเองแหละที่มาถามเธอ คำตอบก็คือพลังป้องกัน"

ป้อมปราการลอยฟ้ามีความสามารถที่จะสร้างบาเรียขึ้นมาเองด้วยการใช้มานา หากว่าถูกเรียกออกมาบาเรียก็จะป้องกันป้อมปราการลอยฟ้าจากการกระแทกและการโจมตี

ยังไงก็ตามในความคิดของยูอิลฮานคิดว่าหากเป็นการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงบาเรียนี่ก็ยังคงไม่เพียงพอ บาเรียนี่ต่อให้เป็นเขาก็ยังทะลวงผ่านไปได้ง่ายๆเลย

"เรพาะงั้นในตอนนี้ฉันจะใช้เกราะโลหะนี่มาเสริมพลังให้กับบาเรีย"

[เรื่องบ้าๆอีกแล้ว...]

พูดกันอีกครั้งก็คือร่างของเคลาทูคนั้นมหึมามาก เพราะแบบนี้การจะใช้เกราะโลหะของมันมากปกคลุมป้อมปราการลอยฟ้าทั้งป้อมก็ไม่ใช่ปัญหาเลย

อย่างแรกยูอิลฮานได้ทำการหัตถกรรมมานากับชิ้นส่วนเกล็ดโลหะก่อนจนทำให้มันกลายมาเป็นโปร่งแสงและติดตั้งปืนสปริงไว้เพื่อที่จะทำให้ยิ่งเกล็ดโลหะพวกนี้ออกไปปกคลุมป้อมปราการได้เมื่อบาเรียถูกเปิดใช้งาน ปืนสปริงนี้เป็นอุปกรณ์ที่จะตอบสนองกับมานาบางประเภทและถูกออกแบบมาอย่างปราณีต แต่ว่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมเวทย์แล้วการสร้างมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

"แน่นอน นอกจากนี้แล้วมันยังเป็นไปได้ที่จะยิงเกล็ดนี่ออกไปนอกบาเรียในตอนที่บาเรียรับภาระหนักเกินไปอีกด้วย

[มันยังไม่จบใช่ไหม? มันไม่มีทางที่นายท่านจะหยุดแค่นี้แน่]

แน่นอนว่ามันยังมีส่วนอื่นเหลืออยู่อีก นั่นก็คือการปรับปรุงตัวบาเรีย! ถ้าการหมุนได้ถูกนำมาปรับใช้กับบาเรีย เกล็ดโลหะที่ปกคลุมอยู่ด้านบนก็ยังจะหมุนเหมือนกับสว่านได้อีกด้วย แล้วก็หากป้อมปราการลอยฟ้าพุ่งออกไปในสภาพนี้ทุกๆสิ่งที่ขวางทางจะถูกทะลวงจนลาบแน่นอน!

[นายท่านมันไม่ใช่มนุษย์]

"ใช่ ฉันเลิกเป็นมนุษย์มานานแล้ว ไม่สิฉันได้ก้าวข้ามมนุษย์ทั้งหมดมาต่างหาก!"

[นายท่าน...]

ในกระบวนการนี้ยูอิลฮานได้ใช้หินพลังเวทย์คลาส 5 จำนวนมากไป เนื่องจากว่าแผนต่างๆได้ถูกออกแบบและมีวัตถุชั้นนำเตรียมไว้แล้ว ทำให้ผลงานได้สำเร็จออกมาอย่างง่ายดาย สว่านที่จะเจาะทะลวไปทั่วจักรวาลได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว

[ป้อมปราการลอยฟ้าสังหารได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว]

และในที่สุดสิ่งที่ยูอิลฮานรอคอยมาตลอดมันก็เกิดขึ้น

[ป้อมปราการลอยฟ้าสังหาร]

[ระดับ - นิรันดร์]

[ความทนทาน - 100,000,000/100,000,000]

[เงื่อนไขการใช้งาน - ยูอิลฮานเท่านั้น]

[ออฟชั่น -

1.ฟื้นฟูความทนทานจากการดูดซับมานาและพลังชีวิตจากศัตรูใกล้ๆ

2.ระดมยิงอาวุธทั้งหมดออกไปโดยไม่จำเป็นต้องสั่งการ

3.พัฒนาขึ้นอัตโนมัติจากการดูดซับบันทึกของสิ่งมีชีวิต

4.การบินถูกเปิดใช้งาน เร่งความเร็วฉับพลัน ลอยตัวฉับพลัน ทิ้งตัวฉับพลันได้ถูกเปิดใช้งาน

5.ไอเทมทั้งหมดภายในป้อมปราการจะถูกนับเหมือนกับเป็นไอเทมสวมใส่ คนที่อยู่ในปาร์ตี้ของผู้ใช้ป้อมปราการจะได้รับคุ้มครองจากป้อมปราการและจะถูกนับเป็นหนึ่งในสมาชิกของป้อมปราการ

6.พลังป้องกันและพลังโจทตีของอาร์ติแฟคทั้งหมดในป้อมปราการเพิ่มขึ้น 20%

7.พลังป้องกันและพลังโจทตีของอาร์ติแฟคทั้งหมดในป้อมปราการเพิ่มขึ้น 20%

8.สามารถจะใช้บาเรียพิเศษทำการโจมตีและป้องกันได้

9.โอกาสที่จะเกิดปาฏิหาริย์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพิ่มสูงขึ้น]

[สิ่งประดิษฐ์ที่ได้ก้าวข้ามเทคโนโลยี บันทึกและปาฏิหาริย์ไปแล้ว มันยังคงไม่สมบูรณ์เนื่องจากขาด 'ชิ้นส่วนที่หายไป'อยู่ แต่อีกไม่นานก็จะสมบูรณ์]

[คุณได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ระดับนิรันดร์ขึ้น คุณได้รับฉายา 'ผู้ก้าวข้าม']

"หืมม"

ในที่สุดป้อมปราการสุดที่รักก็ได้กลายมาเป็นระดับที่สูงกว่าพระเจ้าแล้ว! ยูอิลฮานยินดีจนอยากจะร้องไห้แล้ว

ยังไงก็ตามฉายาที่เขาได้ตามมาหลังจากสร้างสิ่งประดิษฐ์ระดับนิรันดร์ขึ้นมาได้กวนใจเขาอยู่ ผู้ก้าวข้าม? เขาก้าวข้ามอะไร? ความสามารถของฉายานี่มันอะไร? เขาไม่อาจจะเข้าใจได้เลย

[มีอะไรงั้นหรอที่รัก?]

"ไม่ ไม่มีอะไรหรอก"

ถึงเขาจะอยากอธิบายให้คนอื่นๆฟัง แต่ว่าก็มีแต่เขาเท่านั้นที่ได้รับฉายานี้ ทำให้ต่อให้เขาอธิบายออกไปคนอื่นๆกไม่เข้าใจ

ถึงนี่จะต่างจากที่เขาหวังนิดๆ แต่ว่าในเมื่อเขาก็อัพเกรดป้อมปราการได้สำเร็จตามเป้าแล้วทำให้เขาปล่อยเรื่องนี้เอาไว้

ยังไงก็ตามมิสทิคได้เรียกเขาเอาไว้ก่อนที่จะหันไปทางอื่น

[นายท่านฉันรู้สึกแปลกๆ]

"ทำไมล่ะ สามัญสำนึกที่เธอขาดไปมันโผล่มาแล้วงั้นหรอ?"

[ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะต้องไอออกมาแต่ว่ามันถูกกลั้นเอาไว้! อ๊าาาาาาา อึดอัดอ่า!]

ยูอิลฮานคิดว่า 'ชิ้นส่วนที่หายไป' ได้ทำให้เธออึดอัด ยังไงก็ตามหากเขารู้ว่านั่นคืออะไรเขาก็คงจะทำให้มันสมบูรณ์ไปแล้ว ยูิลฮานได้หยั่งไหล่ถามออกมา

"ฉันจะต้องจี้เธอไหมล่ะ?"

[ไม่ นั่นมันทำกับป้อมปราการได้ด้วยงั้นหรอ!? ฉันอึดอัด! ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังกลั้นอะไรซักอย่างอยู่!]

หลังจากนั้นมิสทิคก็กรีดร้องไปอยู่พักใหญ่ๆ แต่ว่านี่ก็ไม่มีอะไรที่ยูอิลฮานทำได้เลย เขาได้ถามโอโรจิ แต่ว่าโอโรจิก็แค่ถอนหายใจและตอบกลับมาว่า

[ในตอนผู้หญิงหงุดหงิดโมโหนะ สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ก็คือการปล่อยเธอเอาไว้คนเดียวดีกว่าการไปถามเหตุผลแน่ๆ นี่จะเป็นวิธีลดความเสียหายที่ดีที่สุดแล้ว]

"โอ้ ฉลาดมาก"

[นายท่านงี่เง่า! โอโรจิก็ยิ่งงี่เง่า!]

เมื่อเขาไปบอกกับคนอื่นๆว่าตอนนี้ป้อมปราการลอยฟ้าได้อยู่ระดับนิรันดร์แล้ว ตอนแรกคนอื่นๆก็สับสนกัน แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ต้องตะลึงเมื่อรู้ความจริงว่านั่นมันอยู่เหนือระดับเทพเจ้า แม้กระทั่งคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดอย่างเฮเรียน่าก็แสดงท่าทางตกใจออกมา

[นิรันดร์? นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเรื่องแบบนี้ ฉันเคยเห็นสุดยอดช่างตีเหล็กมาหลายคนในชีวิตนะ... แต่ไม่มีใครเลยที่ทำได้ดีกว่าระดับเทพเจ้า]

"บางทีเราจะได้ห็นการเกิดขึ้นของไอเทมที่ไม่เคยมีอยู่แม้ในแต่แนวคิดของบันทึกนภา"

[คนแรก... สินะ ฟุฟุ ฉันดีใจจังที่ได้ใช้เวลานี้กับที่รัก]

"เธอไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ที่นี่นะ ฉันก็อยู่ด้วยแล้วก็อิลฮานคือของฉัน"

การอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้าได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แม้ว่าเขาจะใช้เกราะโลหะทั้งหมดของเคลาทูคไป แต่ว่าผลลัพธ์นี่ก็ดีจนทำให้เขาพึงพอใจมาก นอกไปจากนี้

"ฉันดีใจที่ฉันไม่ถึงขนาดที่ต้องทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีก เพราะงั้นฉันก็เลยยังมีกระดูกเหลืออยู่!"

[ยังมีเหลืออยู่อีก...]

ยังไงก็ตามเขาก็มีแผนที่จะใช้งานกระดูกของเคลาทูคแล้ว ยูอิลฮานได้เอากระดูกมากองไปที่มุมหนึ่งและหยิบเอากระดูกของอิชจาร์ออกมาอีกส่วนหนึ่ง จากนั้นก็เอาหัวใจมังกรของอิชจาร์แล้วก็ดวงใจแห่งเพลิงออกมา

""นับจากนี้ อย่าเข้ามาใกล้ทางนี้นะ"

เขาได้เตือนคนอื่นๆด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง และจัดการถอดทุกๆออกไป รวมไปถึงถุงมือที่ทำมาจากศพของเจตจำนงแห่งความโกลาหล แม้กระทั่งเกราะร่างเพลิงนรกก็ไม่เว้น โอโรจิได้ถามเขาขึ้นทันที

[ตอนนี้นายท่านคิดว่านายท่านทำมันได้แล้วงั้นสินะ?]

"ใช่แล้ว"

ยูอิลฮานได้หยักหน้าออกมาอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะยกค้อนขึ้นพร้อมสูดหายใจลึก

เขามีวัตถุดิบพอแล้ว แถมเป้าหมายตอนนี้ของเขาก็ชัดเจนแล้ว นั่นก็คือระดับนิรันดร์

ในท้ายที่สุดตอนนี้มันก็ถึงเวลาทำชุดเกราะในอุดมคติของเขาให้สมบูรณ์แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด