ตอนที่แล้วGE260 ดาราเทพครึ่งดวง วิชาหลอมหยิน [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE262 สายลม หิมะ ดอกเหมย [ฟรี]

GE261 ข้าอยากได้แผนที่ [ฟรี]


ทหารศิลาหวาดหวั่น

มันถูกนำออกมายังเวทีประลอง เบื้องหน้ามีอสูรตัดวิญญาณที่ทรงพลัง 2 ตน แม้มันจะเกิดมาเพื่อต่อสู้ แต่จิตใจของมันยังหวาดหวั่น

มันไม่รู้ว่าหนิงฝานคิดอะไร แต่จากที่มันเห็น มังกรเบื้องหน้าทรงพลัง หากไม่กำจัดตั้งแต่ตอนนี้ จะเป็นปัญหาในอนาคต

“ทหารศิลา เข้ารับมือมังกรโลหิต… เหว่ยเหลียง เจ้ารับมือมังกรทมิฬ… นี่กระบี่ จะช่วยให้เจ้าได้เปรียบมันมากขึ้น”

ด้วยความที่เป็นห่วงเหว่ยเหลียง หนิงฝานจึงมอบกระบี่แยกสวรรค์ให้นาง

นางพยักหน้าอย่างว่าง่าย ไม่ต่อต้านคำสั่งหนิงฝาน

นางสัมผัสได้ว่ามังกรทมิฬต้องการสังหารหนิงฝาน ดังนั้นบุตรสาวของเซียนแดนสวรรค์เช่นนางจึงไม่อาจอยู่เฉย

“ตัว… จิ้งเหลน!”

นางกระชับกระบี่แน่น เข็มเซียนปรากฏในมืออีกข้าง ก่อนจะดีดเข้าใส่มังกรทมิฬ ทำให้สีหน้าอวดดีของมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“กระบี่ผนึกวิญญาณ! วิชากระบี่แห่งลานสวรรค์โบราณ!”

แม้มังกรทมิฬจะเร่งหลบ แต่เข็มยังสัมผัสโดนร่างกายของมัน ทะลวงผ่านผิวหนังเข้าสู่เส้นลมปราณ มุ่งตรงเข้าสู่แก่นอสูร ในเวลาเดียวกัน ร่างเหว่ยเหลียงกลายเป็นแสงสีเขียวพุ่งตรงเข้าข้างกายมังกรทมิฬ

แม้มันจะต้องทุ่มพลังสะกดเข็มสวรรค์ แต่เมื่อมันเห็นนางเข้าประชิด มันเร่งตะปบกรงเล็บเข้าใส่ตอบโต้

กรงเล็บของมันทรงพลังมากพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อกรงเล็บเข้าประชิดนาง เล็บที่นิ้วมือนางยืดยาวแหลมคม ตะปบสวนใส่ร่างของมังกรทมิฬ เมื่อกรงเล็บมังกรทมิฬปะทะร่างนาง นางไม่ได้รับบาดเจ็บหรือผลกระทบ กลับกัน กรงเล็บของนางกลับทำให้มันบาดเจ็บภายในร้ายแรง กรงเล็บของมันก็ถูกนางกระชากขาด

แต่ถึงกรงเล็บของมันจะถูกกระชากขาด มันกลับฟื้นฟูขึ้นดังเดิม

มังกรทมิฬขบฟัน ถึงปราณศพในร่างนางจะอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่ร่างกายของนางกลับทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง กรงเล็บของนางก็แหลมคมและแข็งเป็นอย่างมาก

แต่ก่อนที่มันจะถอยห่าง นางกลับชูกระบี่ขึ้นสูง ฟาดฟันลงใส่ข้อมือของมันอย่างรวดเร็วจนมันเปล่งเสียงร้องโหยหวน

มังกรโบราณที่ทรงพลังเช่นมัน ไม่อาจรับมือเหว่ยเหลียงได้แม้แต่น้อย

นอกจากนี้ มันยังตกตะลึงกระบี่ในมือของนาง มันรู้ว่ามีอักษร ‘คม’ สลักอยู่บนตัวกระบี่มากกว่า 7000 ครั้ง ทำให้กระบี่คมเป็นอย่างมาก

ในขณะที่มันกำลังฟื้นฟูส่วนที่ถูกฟันขาดนั้น มันกลับสัมผัสได้ว่า ดวงจิตของมันก็ได้รับความเสียหาย!

แม้มันจะมีปราณอสูรที่ทรงพลังหล่อเลี้ยงดวงจิต แต่จู่ๆดวงจิตบริเวณที่ได้รับความเสียหายกลับมีเพลิงลุกโหมขึ้น!

อาวุธที่จะทำอันตรายร่างกายของมันได้มีเพียงอาวุธเทพโบราณ นั่นหมายความว่า กระบี่ที่อยู่ในมือเหว่ยเหลียงคือกระบี่เทพโบราณ! ที่สำคัญ มันยังได้รับการเสริมความสามารถอย่างเผาวิญญาณเข้าไปด้วย

“ทำร้าย....แสง...ต้อง….ตาย!”

เจตนาสังหารของนางเพิ่มพูน และจู่โจมมังกรทมิฬในฉับพลัง

ในขณะที่มังกรทมิฬกำลังตกอยู่สถานะการณ์ที่ร้ายแรงถึงชีวิต มังกรโลหิตสั่นสะท้าน แม้มังกรทมิฬจะทรงพลัง แต่กลับไม่อาจต่อกรกับศพนางสวรรค์ได้

แต่ในขณะเดียวกันนั้น ทหารศิลาเองก็เปิดฉากจู่โจมมังกรโลหิต มันกลายสูงใหญ่ราวกับภูเขา เท้าข้างหนึ่งยกสูง เหยียบลงที่ร่างของมังกรโลหิตจนแหลกเหลว!

ร่างที่แหลกเหลวของมันก่อตัวเป็นดวงตามังกรที่โกรธแค้น

“เจ้าสัตว์เลี้ยงชั้นต่ำ ถึงกับกล้าทำร้ายข้าผู้สูงศักดิ์ รนหาที่ตาย!”

“ชั้นต่ำ! ใครบอกว่าข้าชั้นต่ำ! ข้าเคยสังหารเผ่าพันธุ์มังกรปากดีอย่างเจ้ามานักต่อนักแล้ว! วิชาปราณสังหารสวรรค์… เจ็ดสังหาร!”

ท้องนภาถูกฉาบคลุมด้วยโลหิต ดาราเจ็ดดวงปรากฏเหนือท้องนภา สีหน้ามังกรโลหิตแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ดวงดาราที่ปรากฏเป็นเหมือนดาวข่มของมัน

แม้มันจะเป็นมังกรโลหิต ครอบครองโลหิตสายพันธุ์ที่ทรงพลัง แต่ในสายตาของทหารศิลา มันเป็นเพียงจิ้งเหลนเท่านั้น

ลี่ป่านตกตะลึง

มันปลุกมังกรโลหิตและมังกรทมิฬ มันคิดว่าตนกุมชัยชนะ แต่คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะมีทหารศิลาและศพนางสวรรค์ที่ทรงพลังขนาดที่เอาชนะมังกรของมันได้

สัตว์เลี้ยงอะไรถึงทรงพลังขนาดนี้!

ศพนางสวรรค์ก็เช่นกัน… แม้อสูรตัดวิญญาณขั้นกลางของมันจะเป็นถึงสายพันธุ์มังกรที่แข็งแกร่ง แต่ยังไม่อาจต่อกรนางได้แม้แต่น้อย ทั้งยังถูกกระบี่ของนางฟันเข้าง่ายๆ

ยามนี้ ลี่ป่านไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องศพนางสวรรค์และทหารศิลามากนัก เพราะหนิงฝานเริ่มแผ่เจตนาสังหารที่รุนแรง

เขาเดินเข้าหาลี่ป่านทีละก้าว แต่ละก้าวแฝงด้วยแรงกดดันของขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง จนทำให้ลี่ป่านหายใจได้อย่างยากลำบาก

แรงกดดันและอำนาจที่แผ่ออกมาโลหิตของหนิงฝาน ทำให้โลหิตในกายลี่ป่านเดือดพร่าน ความรู้สึกที่มันได้รับ มันรู้สึกราวกับมันด้อยกว่าหนิงฝานทุกทาง ราวกับจะคุกเข่ายอมแพ้

“ข้าเป็นถึงมังกรอัสนี ไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด! วิชาอสูร ทะเลโลหิต!”

ลี่ป่านขยับนิ้วเป็นท่าทาง หมอกโลหิตปกคลุมรอบข้างนับพันลี้!

ผมสีแดงของมันพริ้มไสว ทั่วร่างปรากฏลวดลายอสูร

วิชานี้ คือวิชาที่มันใช้กับหนิงฝานในคราวนั้น

หมอกโลหิตที่ปกคลุม ให้กำเนิดฝนโลหิตโปรยปราย แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง ยังต้องเร่งถอยห่าง

โลหิตในคราวนี้ดูเหมือนจะทรงพลังยิ่งกว่าในครั้งนั้น แต่เมื่อโลหิตพิรุณสัมผัสกายหนิงฝาน มันกลับไม่อาจทำอันตราย พิรุณที่โปรยปรายหยุดนิ่ง

หนิงฝานเงยหน้ามองเบื้องบน

“พิรุณโลหิต… น่าขัน! ไสหัวไป!”

พิรุณโปรยนิ่งสงัดราวกับพวกมันหวาดกลัวหนิงฝาน

ดวงตาหนิงฝานเปล่งแสง โลหิตพิรุณที่โหยกระหน่ำสลายหายไปไม่เหลือฐาก

“เจตจำนงค์เทพพิรุณ! เจ้าก่อเจตจำนงค์เทพได้ กระทั่งเกือบจะบรรลุขั้นที่ทำให้เจตจำนงค์กลายเป็นพลัง!”

ลี่ป่านตื่นตะลึง เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม แต่กลับสามารถสร้างเจตจำนงค์เทพขึ้นมาได้ ที่สำคัญ เจตจำนงค์เทพพิรุณยังบรรลุเขตขั้นที่เพียงนึก พิรุณก็โปรยปราย

วิชาของลี่ป่านถูกทำลาย แม้หนิงฝานแทบจะไม่ขยับ

ในอดีต หนิงฝานต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเอาตัวรอดจากวิชานี้ แต่ยามนี้ แค่มองก็ทำลายวิชาของมันได้

แม้ลี่ป่านจะครอบครองโลหิตอสูรโบราณ แต่ยามนี้มันยังไม่อาจสร้างเจตจำนงค์เทพได้

“เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะอ่อนด้อยกว่ามัน!”

ลี่ป่านไม่อาจยอมรับความเป็นจริง

หากลี่ป่านรู้ว่าหนิงฝานยังมีเจตจำนงค์ปีศาจอย่างเขาปีศาจอยู่ มันคงกลายเป็นบ้า

ยิ่งหนิงฝานเข้าใกล้ ลี่ป่านยิ่งสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่หนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ

มันขบฟัน กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปที่ฝ่ามือ

มันไม่ยอม… มันไม่ยอม… ไม่ยอมแพ้มนุษย์ชั้นต่ำอย่างหนิงฝานเด็ดขาด

มันใช้นิ้วสัมผัสที่ศีรษะ ก่อนปรากฏแส้สีอัสนีสีเงิน

นับจากมันที่มันจากไป มันใช้เวลานับ 10 ปีในการฟื้นฟูและสร้างเอ็นมังกรขึ้นมาอีกครั้ง

มันเฆี่ยนแส้อัสนีใส่หนิงฝาน แต่เขากลับเอื้อมมือคว้าจับแล้วกระชากแส้อัสนีมาจากมือมัน

“สะบั้น!” หนิงฝานกระชากแส้ของลี่ป่านจนขาด

ลี่ป่านกระอักโลหิต เส้นเอ็นมังกรของมันขนาดสะบั้นอีกครั้ง ดวงจิตได้รับความเสียหายร้ายแรง

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! เจ้าทำลายเส้นเอ็นมังกรของข้าอีกครั้ง! ทั้งยังเอาเส้นเอ็นมังกรอันก่อนของข้าไปทำเป็นอาวุธ!”

“เอาคืนข้ามา! เอาเส้นเอ็นมังกรของข้าคืนมา!!”

ลี่ป่านยามนี้ราวกับกลายเป็นคนคลั่ง มันเอากระบี่โลหิตโบราณออกมา

กระบี่ของมันแผ่กลิ่นอายชั่วร้ายและโบราณ จนทำให้ลู่ตู้เฉินและลู่เจี่ยเฟินสั่นสะท้าน

หนิงฝานก็ชงักฝีเท้า คิ้วขมวดมุ่น

กระบี่โลหิตเล่มนี้น่าสะพรึงกลัวมาก อย่างน้อยๆ บนตัวกระบี่มีอักษรอสูรสลักไว้ถึง 3 ตัวอักษร!

อักษรแต่ละตัวส่งเสริมซึ่งกันและกัน เสริมพลังให้กับกระบี่

“ซัวหมิง ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย… จงคุกข่าอ้อนวอน! ไม่อย่างนั้นชีวิตของเจ้าจะสิ้นสุดลงที่นี่! กระบี่เล่มนี้นายท่านของข้ามอบให้เป็นของขวัญ มันคือกระบี่สวรรค์ที่สร้างมาจากกระดูกของมังกรโลหิต เจ้าไม่มีทางต้านรับมันได้!”

ลี่ป่านแผ่เจตนาสังหารที่รุนแรงเพื่อข่มหนิงฝาน

“แต่กระบี่เล่มนั้นหนักเกินไป เจ้าคงกวัดแกว่งได้แค่ไม่กี่ครั้ง!”

“ไร้สาระ! ข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”

ลี่ป่านโคจรปราณ ถ่ายปราณเข้าไปในกระบี่แล้วกวัดแกว่ง!

แต่ผลที่ได้ก็เป็นเหมือนที่หนิงฝานกล่าว กระบี่โลหิตมีปราณโลหิตที่รุนแรงเกินไป จนทำให้ลี่ป่านต้นเค้นพละกำลังแทบจะทั้งหมดเพื่อกวัดแกว่งมัน

เมื่อกระบี่เคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ ลี่ป่านก็ถูกครอบงำด้วยโทสะ มันจ้องมองกระบี่พลางด่าทอ “บัดซบ! เป็นแค่กระบี่แต่กลับปฏิเสธข้า!”

ความล้มเหลวของลี่ป่านทำให้ลู่ตู้เฉินผ่อนคลาย

หากมันสามารถแสดงพลังกระบี่ได้เต็มที่ กระบี่จะสร้างรอยแยกมิติขนาดใหญ่ พลังมิติที่รุนแรงจะเข้าทำลายเมืองลั่วหยุนแห่งนี้จนพินาศ

หากลี่ป่านเปล่งอานุภาพของกระบี่เล่มนี้ได้เต็มที่ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็อาจจะยังรับกระบี่ไม่ได้

การที่มันมีกระบี่ระดับนี้ในครอบครอง ทำให้รู้ว่ามันมีสถานะที่ไม่ธรรมดาในแดนสวรรค์

“ลู่เป่ยจะกล้าสังหารลี่ป่านหรือเปล่า...” ลู่ตู้เฉินกล่าวในใจ

แต่เมื่อมันได้เห็นแววตา ดูเหมือนหนิงฝานจะไม่กลัวลี่ป่านแม้แต่น้อย

“เด็กนั่นไม่หวั่นเกรงมังกรอัสนี ไม่หวั่นเกรงอสูรในแดนสวรรค์… ดี! ช่างสมควรแก่ความเคารพนับถือที่ข้ามีให้!”

ลี่ป่านก้าวเข้าหาหนิงฝานอย่างต่อเนื่อง แม้มันจะสร้างแรงกดดันให้หนิงฝานไม่น้อย แต่เขารู้ดีว่าลี่ป่านไม่อาจควบคุมกระบี่เล่มนั้นได้ และสุดท้ายมันจะแพ้ภัยตัวเอง เพราะสมบัติระดับนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจะควบคุมได้

กระบี่เล่มนี้ทรงพลังที่สุดเท่าที่หนิงฝานเคยเห็นมา เขาสัมผัสได้ว่า หากเขาได้ครอบครองกระบี่เล่มนี้ และกระตุ้นพลังของมันได้เต็มที่ เขาจะสามารถต่อกรกับเทพกษัตริย์เนี่ยได้

“ข้าต้องการกระบี่เล่มนั้น!”

แววตาหนิงฝานแน่วแน่เด็ดเดี่ยว ร่างสลายเป็นหมอกควัน ปรากฏกายเบื้องหน้าลี่ป่านในระยะที่ห่าง 3 จ้าง

แต่หนิงฝานไม่อาจเข้าใกล้มันได้มากไปกว่านี้

ตอนนี้กระบี่ต่อต้านมัน จึงแทบไม่มีแรงขยับเคลื่อนไหว

กระบี่โลหิตแทบจะทำให้ลี่ป่านถูกแช่แข็ง

แต่หากมันบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง มันจะแสดงพลังกระบี่ได้ส่วนหนึ่ง

แต่ด้วยที่มันถูกหนิงฝานชิงเส้นเอ็นมังกรไป ทำให้มันเสียเวลาสร้างเส้นเอ็นขึ้นมาใหม่ ไม่อย่างนั้น ป่านนี้มันคงบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางไปแล้ว

แต่น่าเสียดายที่โชคชะตาของมันต้องเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้พบหนิงฝาน

แต่นั่นไม่ได้ทำให้มันยอมแพ้

ยิ่งเห็นหนิงฝานไม่อาจเข้าใกล้เพราะแรงกดดันของกระบี่ มันจึงใจชื้นขึ้นบ้าง เพราะมันสามารถฉวยโอกาสจู่โจมหนิงฝานได้

หนิงฝานพยายามฝ่าแรงกดดันของกระบี่เข้าไป แต่ยังไม่สำเร็จ

“เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก กระบี่โลหิตเล่มนี้สร้างขึ้นจากกระดูกมังกรโลหิต หากไม่ใช่ผู้ที่ครอบโลหิตอสูรที่แท้จริงก็ไม่อาจเทียบเคียงได้… ถึงเจ้าจะมีพรสวรรค์สูงส่ง แต่เรื่องความเข้าใจในโลหิตอสูร เจ้าสู้ข้าไม่ได้! เจ้าคิดว่าการที่เจ้าปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์จักรพรรดิขึ้นมาได้ แล้วจะทำให้เจ้าเข้าใจในโลหิตอสูรงั้นเหรอ?”

หนิงฝานหัวเราะลั่น คำกล่าวของมันเหมือนอัสนีที่ฟาดฝ่าเข้าใส่หนิงฝาน

ความเข้าใจในโลหิต… ตั้งแต่ปลุกโลหิตเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่ขึ้นมาได้ หนิงฝานก็รู้สึกราวกับยังมีบางอย่างขวางกั้นไม่ให้เขาเข้าถึงแก่นแท้ของโลหิตได้

เดิมทีเขาคิดว่าเป็นเพราะตนเองเป็นมนุษย์ จึงไม่เข้าใจในโลหิตอสูร แต่อนนี้ดูเหมือนจะคิดผิดไป

เผ่าพันธุ์อสูร… ครั้งหนึ่งเคยเป็นเผาพันธุ์ที่ปกครองสวรรค์ เผ่าพันธุ์อสูรที่ครอบครองดวงจิตแท้จริงล้วนมีลักษณะเด่นเป็นของตน

เผ่าพันธุ์มังกรอัสนีเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้อัสนี

เผ่าพันธุ์หงส์เพลิงเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้เพลิง

แต่ฟู่ลี่...ฟู่ลี่คืออะไร?

หนิงฝานที่อยู่ห่างจากลี่ป่านเพียง 3 จ้าง ดูราวกับเขาสามารถสังหารมันได้ง่ายๆ แต่เขาทำไม่ได้

“หากข้ารู้ว่าฟู่ลี่คืออะไร คงเข้าใจโลหิตอสูรของข้ามากขึ้น และเมื่อนั้น ข้างคงผ่านแรงกดดันกระบี่โลหิตไปได้ง่ายๆ… ฟู่ลี่คืออะไรกันแน่...”

“ภาพลวงตา… วิชาภาพลวงตา… คือสิ่งที่เผ่านพันธุ์ฟู่ลี่ถนัด แต่มันคืออะไร?”

หนิงฝานหลับตา ครุ่นคิดถึงเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่ ยามนั้นเอง โลหิตในกายเริ่มเดือดพร่าน

ไอร้อนที่รุนแรงพวยพุ่งจากร่างหนิงฝาน

“ฟู่ลี่ ช่วยเหลือสวรรค์ หัวใจแตกสลาย”

เสียงนี้ดังสะท้อนก้องในหัวหนิงฝาน

สิบครั้ง… ร้อยครั้ง… พันครั้ง

ตาซ้ายหนิงฝานเปล่งแสงสีม่วง อัสนีสีม่วงพาดผ่าน

หนิงฝานค่อยๆรับรู้ได้ถึงตัวตนของเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่

เผ่าพันธุ์ฟู่ลี่เป็นเลิศด้านภาพลวงตา และนั่นทำให้เผ่าพันธุ์ฟู่ลี่เห็นถึงข้อผิดพลาดของสวรรค์ จึงทำให้พวกมันยื่นมือเข้าแก้ไข

วิชาลวงตาของเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่คือการลวงจิตใจให้ปั่นป่วนสับสน

นั่นจะทำให้สวรรค์อิจฉา จึงคิดลงมือกับเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่

“นั่นคือลำสาปของเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่...”

หนิงฝานก้าวเท้าไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว

แววตาของเขาแปรเปลี่ยนราวกับไม่ใช่แววตาของตน แต่เป็นแววตาของเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่

เผ่าพันธุ์ฟู่ลี่มีหน้าที่ในการปกครองสวรรค์ ผู้คนทั่วไปหวาดกลัว เคารพ และเถิดทูน

แววตาของเผ่าพันธุ์ฟู่ลี่นั้นดูแคลนได้แม้เป็นเต๋าสวรรค์อันยิ่งใหญ่ นับประสาอะไรกับกระบี่โลหิต!

“ทำลาย!”

แรงกดดันของกระบี่โลหิตสลาย ลี่ป่านกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง แต่นั่นกลับทำให้มันหวาดกลัว

เพราะสายตาของหนิงฝานยามนี้ ทำให้มันรู้ราวกับว่าเผ่าพันธุ์มังกรอย่างมัน ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง

“ลี่ป่าน ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง หากเจ้าลงกระบี่สังหารข้าได้...เจ้ารอด ถ้าไม่ได้ เจ้าตาย!”

“ย่อมได้!”

ด้วยแรงกดดันที่หนิงฝานแผ่ออกมา กระบี่โลหิตไม่กล้าสำแดงอานุภาพ แต่นั่นทำให้ลี่ป่านขยับมันได้อย่างใจนึก

แม้ไม่อาจกระตุ้นพลังกระบี่ แต่มันก็ทรงพลังพอจะสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้

“ตาย!”

ลี่ป่านกระชับกระบี่แน่น

เงากระบี่สิบสาย ร้อยสาย พันสาย หมื่นสายปรากฏ!

เงากระบี่ทั้งหมดจ้วงแทงกระหน่ำใส่ร่างหนิงฝาน

ด้วยอานุภาพของมันสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้ง่ายๆ

แต่หนิงฝานในยามนี้กลับนิ่งเฉย ด้านซ้ายของร่างกายเผยรอยสักอสูรสีดำ ก่อนที่รอยสักอสูรเหล่านั้นจะกระจายออกจากร่างเป็นปราณกระบี่สีดำราวกับหมึก

กระบี่พิรุณ!

ลี่ป่านตกตะลึง มันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงที่กำลังใกล้เข้ามา มันเร่งนำกระบี่มาขวางบริเวณหน้าอกเอาไว้ แต่ไม่อาจสกัดปราณกระบี่ของหนิงฝานได้ทัน

ร่างกายของมันถูกปราณกระบี่สะบัน หนิงฝานยื่นมือคว้าจับดวงจิตที่หลุดออกจากร่าง อีกมือคว้ากระบี่โลหิตเอาไว้

หากผู้ที่ถือครองไม่ใช่เผ่าพันธุ์มังกร กระบี่จะต่อต้าน

แต่เมื่อหนิงฝานทำบางสิ่ง กระบี่กลับสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและไม่ต่อต้านอีก

หนิงฝานจ้องมองดวงจิตของลี่ป่าน แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา

“อยากมีชีวิตหรือเปล่า” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย

“อยากมี ข้าอยากมีชีวิต!” ลี่ป่านร้องขอความเมตตา

“งั้นเจ้าก็ไม่ควรยั่วยุข้าแต่แรก” แล้วหนิงฝานก็กลืนดวงจิตของลี่ป่านเข้าไป

จากนั้นเงยหน้ามองลู่เจี่ยเฟิน

ยามนี้ มันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกประหลาดจากหนิงฝาน และเป็นครั้งแรกที่มันหวั่นเกรง

“ข้าอยากได้แผนที่!”

แม้หนิงฝานจะกล่าวเบาๆ แต่เสียงของเขากลับดังสะท้อนก้องอยู่ในทะเลสติของลู่เจี่ยเฟิน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด