ตอนที่ 275 สังคม

ในฐานะดาวเด่นของผู้เล่น ห่าวเทียนคือผู้เล่นระดับเทพที่แข็งแกร่งกว่าผู้เล่นชั้นหนึ่ง ทักษะPVPเขาน่าทึ่ง และระดับเขาก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย ด้วยข้อได้เปรียบเหล่านี้ เขาจึงเป็นคนแรกที่ก้าวสู่เวที การโจมตีเขาโหดเหี้ยมและแข็งแกร่งดุจพายุ เอาชนะผู้แข่งขันกิลด์เทพเจ้าสามคนติดต่อกัน

ความสามารถการต่อสู้ของสายนักสู้ถือว่าสมบูรณ์แบบ ผู้ชมคาดหวังว่าการต่อสู้จะสูสี แต่มันกลับกลายเป็นการกระทืบอยู่ฝ่ายเดียว การต่อสู้ทั้งหมดกินเวลาแค่ห้านาที!

ผู้ชมประหลาดใจ

หลังพวกเขาตกตะลึงได้สักพัก เสียอึกทึกครึกโครมก็ดังไปทั่ว

“น่าประทับใจมาก!”

“เทพห่าวเทียน!เทพห่าวเทียน!”ผู้ชมตะโกนร้องอย่างหลงใหล

“ฉันรักคุณ ห่าวเทียน!”แฟนๆของห่าวเทียนร้อง

การแสดงของห่าวเทียนทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงขีดระดับพลังของผู้เล่นในปัจจุบัน และเขาก็ได้รับแฟนคลับจำนวนมาก

แม้นี่จะเป็นการต่อสู้ส่วนตัว ความตื่นเต้นและความหลงใหลจากผู้ชมก็เกือบเหมือนเป็นลีกมืออาชีพ

“ฉันชนะ”สีหน้าห่าวเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะชนะได้ง่ายขนาดนี้

มันเหมือนกับการเดินบนเส้นทางเป็นเวลานาน และเมื่อเขาหันกลับมาก็รู้ว่าเขาเดินนำหน้ามามากแค่ไหน โดยไม่ทันรูตั้ว เขากลับแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นมืออาชีพทั่วไปมาก

ในตอนต้น ห่าวเทียนถือว่าเนื้อเรื่องลับของหานเซี่ยวเป็นโชค และเมื่อเขาทำมัน เขาก็ไม่ได้ถือว่ามันมีคุณค่าอะไร คิดว่ามันเป็นโอกาสระยะสั้น สัญชาตญาณมืออาชีพของห่าวเทียนทำให้เขามองล่วงหน้าเสมอ ปีศาจทมิฬคือช่างกล และเขาก็เป็นนักสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดติดตามหานเซี่ยวแต่แรก เขาแค่ต้องมองหาที่ปรึกษาใหม่เพื่อความสามารถเขา

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าได้ประโยชน์มากแค่ไหน  และเขาก็เริ่มจริงจังกับหานเซี่ยวมากขึ้น

รางวัลค่าประสบการณ์ของปีศาจทมิฬยังคงมากสุด

รางวัลภารกิจของปีศาจทมิฬเยอะจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องทนภารกิจแปลกๆ ในฐานะผู้เล่นมืออาชีพ ความแข็งแกร่ง ความอดทนถือเป็นรากฐาน

ดูเหมือนว่าฉันสามารถเดินบนเส้นทางปีศาจทมิฬได้นานกว่าที่คิด

การแข่งขันคือแข่งกัน5รอบ  ห่าวเทียนชนะไปสามแล้วและจบการต่อสู้ ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจึงไม่ได้ทำอะไรนอกจากมองห่าวเทียน ในสโมสรนภาใคร่ ห่าวเทียนผู้ต่อสู้ในโปรลีกมาหลายปีถือเป็นไอดอล

กิลด์เทพเจ้าถูกกำจัด และผู้เล่นมืออาชีพที่ได้รับเชิญมาก็ตกใจ

เราคือผู้เล่นมืออาชีพ ไม่คิดว่านี่มันมากเกินไปงั้นหรอ?อย่างน้อยก็ไว้หน้ากันบ้าง!

ผู้เข้าแข่งขันรู้ว่าห่าวเทียนแข็งแกร่งแค่ไหนมานานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงทักษะเขา ปัญหาที่ใหญ่สุดคือการที่เขานำหน้าในแง่ของระดับ ค่าสถานะและความสามารถ พวกเขาคิดถึงความจริงที่ห่าวเทียนได้กระตุ้นเนื้อเรื่องลับของปีศาจทมิฬและพากันอิจฉา

“ฉันสงสัยว่าเขาได้รับภารกิจประเภทไหนจากปีศาจทมิฬที่ทำให้เขาเลื่อนระดับเร็วขนาดนี้”

ผู้เข้าแข่งขันฝั่งตรงข้ามอิจฉา พวกเขาอยากได้เหมือนกัน แต่ปีศาจทมิฬกลับไม่สนใจพวกเขาเลย

“ระดับของทุกคนค่อนข้างต่ำ ดังนั้นความแตกต่างจึงมากโข เมื่อโปรลีกเริ่ม ระดับทุกคนจะสูงขึ้นมาก และเขาจะไม่อาจเอาชนะเราได้ง่ายขนาดนี้ ความแตกต่างจะแคบลง”วิหารเทพเจ้าพยายามพูดปลอบกันเอง

ผู้เล่นมืออาชีพมาเพื่อช่วย ชนะหรือแพ้ไม่สำคัญ แต่จูปิเตอร์กลับโกรธ เขาเกือบอยากทุบใบหน้าหยิ่งผยองของนภาหยกเขียว

ด้วยการรับประกันอย่างเป็นทางการ ของภารกิจย่อมถูกส่งให้เขตแดนนภา

ผู้ชมพากันพูดถึงฝีมือสุดยอดของห่าวเทียน

ความขัดแย้งระหว่างกิลด์มักได้รับความนิยม และกิลด์เทพเจ้าก็จะเสียหน้าไปเพราะแพ้การเดิมพัน

หลายคนในกิลด์บ่น

“หากหัวหน้าหลี่เกอเรามา ห่าวเทียนคงถูกทุบตีไปแล้ว”

“นภาใคร่แค่โชคดี มีความสุขกันไปเถอะ”

เมื่อทุกอย่างถูกจัดการ หานเซี่ยวก็ปรากฏในวันต่อมา เขตแดนนภารีบส่งภารกิจทันทีและเมื่อเห็น จูปิเตอร์ก็รู้สึกเสียใจ

หากเขารู้ว่าหานเซี่ยวจะปรากฏวันนั้น...หากเขาอดทนอีกสักวัน เรื่องนี้คงไม่เกิด

แน่นอน นั่นก็แค่ความคิด

ตราบเท่าที่ความขัดแย้งไม่กลายเป็นการเดิมพัน หานเซี่ยวย่อมไม่ปรากฏต่อหน้าพวกเขา เขาอดทนมาก เขาเคยซ่อนและอดทนกว่าครึ่งปีก่อนจะได้โอกาสหลบหนีจากฐานลับองค์กรต้นกำเนิด

หานเซี่ยวเตรียมแผนสำรองที่สกปรกยิ่งกว่าเดิมไว้ หากสโมสรใหญ่ทั้งสองทำข้อตกลงเป็นการส่วนตัว ส่งผลให้ไม่มีข้อขัดแย้ง ...หานเซี่ยวก็เชื่อว่าการทำซ้ำๆย่อมประสบผลสำเร็จ อย่างมาก เขาก็แค่ต้องไปมีส่วนร่วมกิลด์มากขึ้นและทำให้สถานการณ์วุ่นวายขึ้น

หากนั่นไม่ได้ผล เขาก็จะแจกจ่ายภารกิจที่ต้องให้กิลด์เช่าเวที แต่ทว่า นั่นชัดเจนไป และช่างกลหานก็ไม่ยินดี

“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้”จูปิเตอร์อยากร้องไห้

ในเวลานี้ เขาได้ยินเสียงข้อความส่วนตัว เขามองมัน และก็พบว่ามันมาจากหลี่เกอ

“บอสหลี่เกอ?”

“อืม ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว นายมีบันทึกการต่อสู้ของห่าวเทียนไหม?”

“ผมบันทึกไว้ทั้งหมดครับ”

“ส่งมาให้ฉัน”

“ครับ”

เมื่อได้รับบันทึก หลี่เกอก็กล่าวอย่างพอใจ“ด้วยบันทึก ฉันย่อมสามารถวิเคราะห์รูปแบบการต่อสู้เขาได้ ทำได้ดีมาก”

เมื่อได้ยิน จูปิเตอร์ก็รู้สึกมีพลังมากขึ้น

มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะขาดทุนเท่าไร ตราบใดที่ผู้เล่นมืออาชีพได้รับประโยชน์จากมัน มันก็เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบเขา

...

การต่อสู้ระหว่างกิลด์แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของเวที หลายคนถูกล่อลวง และกิลด์กับผู้เล่นก็เริ่มเช่าเวทีสำหรับการท้าทายหรืองานต่างๆ คุณสมบัติของเวทีเริ่มเผย ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะประลองกันได้ฟรี แต่พวกเขายังสามารถเข้าร่วมการท้าทายหรือกิจกรรมบางอย่างได้

กาแล็กซี่มีมากกว่าฟังก์ชั่นเกม มันยังมีสังคม และลานประลองก็เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานที่ที่ดีมากในการเข้าสังคม

ด้วยความทีท่มันเป็นสถานที่เปิดเผย ผู้คนจึงอยากสร้างชื่อตัวเองบนนั้น กิลด์ได้จัดการเป็นเจ้าภาพ ผู้เล่นมืออาชีพยกคำท้าทายเพื่อโต้ตอบผู้เล่นทั่วไป และอื่นๆอีกมาก เหมือนกับสนามกีฬาบางแห่งที่ถูกเช่าเพื่อแข่งขันหรือคอนเสิร์ต พวกเขาล้วนใช้ตามใจชอบ

ตามประสบการณ์ของหานเซี่ยว ไม่ใช่แค่กิลด์ แม้กระทั่งบางบรษัทยังเช่าเวทีเพื่อจัดงานเล็กๆ เช่น ‘งานกีฬา’และงานแข่งขันอื่นๆที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสมาคมอีสปอร์ต แม้กระทั่งผู้เล่นมืออาชีพบางคนยังเข้าร่วมการแข่งขันเล็กๆเพื่อเอารางวัล

เขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง?อย่าถาม ยังไงก็ตาม มีเวลาในชีวิตก่อนหน้าที่เขาร่ำรวยมาก

นอกจากนี้ กิจกรรมที่บริษัทจัดอาจไม่ใช่แค่งานแข่งขันPVP มันสามารถเป็นงานนิทรรศการ งานกีฬาหรืออื่นๆ

มินิเกมมักมีความนิยมในเกมเสมอ เนื่องจากกาแล็กซี่สมจริงมาก ผู้เล่นอาจมีความคิดสร้างสรรค์ตามต้องการและเล่นกีฬาอื่นๆด้วยร่างกายยอดมนุษย์ เช่นฟุตบอลนักสู้ งานแข่งรถช่างกล สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในชีวิตก่อนหน้าหานเซี่ยว และมันก็ได้รับความนิยมมาก

เพราะเหตุนั้น กาแล็กซี่จึงเริ่มสร้างสังคมเสมือนจริงขึ้น

ตอนนี้ผู้เล่นเพิ่มเริ่มเล่นกาแล็กซี่ ดงันั้นพวกเขาจึงยังคงติดตามสิ่งต่างๆไม่มากก็น้อย และไม่มีกิจกรรมแปลกๆ หานเซี่ยวจึงมอบแพลตฟอร์มให้พวกเขาทำ เขาชี้แนะให้ผู้เล่นสำรวจความเป็นไปได้ของเกมด้วยตัวเอง

เวทีงานแสดง ดึงดูดผู้เล่นทั่วไปได้มาก หลังจากนั้นไม่นาน แม้จะไม่ได้มีส่วนร่วม คุณก็จะค่อยๆอยากรู้และเดาว่างานหน้าจะเป็ฯอะไร

ดังนั้น เมื่อลานประลองกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก มันก็จะเพิ่มความรู้สึกว่านี่เป็นเมืองหลัก พัฒนาและปลูกฝังความสนใจให้ผู้เล่น