ตอนที่แล้วGE113 เด็กๆของข้า[ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE115 นักปรุงโอสถผู้มีชื่อ [ฟรี]

GE114 สิ่งที่ชายชราเหลือไว้[ฟรี]


ลึกเข้าในชั้น 2 ของสุสาน พิรุณโปรยปรายไม่หยุดหย่อน สัตว์อสูรพิรุณซ่อนตัว ไม่เข้าจู่โจมหนิงฝานโดยไม่ทราบสาเหตุ

ชูชิงก็ไม่เข้าใจเช่นกัน… แต่มันเชื่อหมดใจว่า ทั้งหมดเป็นหนิงฝาน

“ไม่เพียงอาจารย์จะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 อาจารย์ยังเอาชนะไป๋เฟยเถิง และทำให้สัตว์อสูรพิรุณเหล่านั้นหวาดกลัว… แม้อาจารย์จะยังเยาว์ แต่ก็สมควรแก่การนับถือ...”

จิตใจของชูชิงเปลี่ยนไป ก่อนหน้าที่มันเรียกขานหนิงฝานเป็นอาจารย์ มันคิดจะหลอกเอาวิชาปรุงโอสถจากหนิงฝาน แต่ตอนนี้ จิตใจของมันค่อยๆยอมรับหนิงฝานมากขึ้นทีละนิด... ผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่ได้ฝึกฝนเฉพาะวิชา การปรุงโอสถ หรือปราณ ยังมีอีกสิ่งทีต้องฝึกฝน นั่นคือจิตใจ

ก่อนหน้านี้ที่หนิงฝานจ้องมองสระน้ำด้วยแววตาปราณนา ทั้งยังให้ความสำคัญกับมันอย่างยิ่งยวด ชูชิงรู้ว่าที่นั่นต้องมีสมบัติ ยิ่งด้วยที่หนิงฝานมีสมบัติวิญญาณระดับสูงสุดอยู่กับตัว แต่ยังให้ความสนใจสระน้ำนั่น แสดงว่ามันต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน

แต่การที่หนิงฝานเลือกจะจากสระน้ำนั่นมา คงจะมีสิ่งที่ทำให้หนิงฝานไม่กล้าเข้าใกล้

เมื่อเจอสมบัติล้ำค่าตรงหน้า แต่ยังยอมปล่อยมือจากมัน… ความแข็งแกร่งของจิตใจระดับนี้ ชูขิงยังไม่อาจทำได้

ทั้งสองเดินไปถึงสถานที่ที่มีหอคอยสีดำขนาดใหญ่ 10 แห่งล้อมรอบ ที่ใจกลางมีทางลงไปสู่ชั้นที่ 3

ก่อนจะผ่านอุโมงค์ขนาดยักษ์ลงไป หนิงฝานยืนนิ่ง หลับตา ปล่อยให้พิรุณพรมร่างของตน

เมื่อชายชราได้เห็นสิ่งที่หนิงฝานทำ ชายชราคิดว่าพิรุณเหล่านี้ต้องมีความพิเศษ ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจของมนุษย์ ทำให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น

แต่น่าเสียดายที่ชายชราไม่ทราบประโยชน์ที่แม้จริงของมัน

หากเทียบกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่ลงมาสุสานวิหคทมิฬ อาจมีเพียงหนิงฝานคนเดียวที่รู้ถึงความพิเศษของพิรุณเหล่านี้ ว่ามันช่วยยกระดับสภาพจิตใจได้

หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง ยามนี้ เขาปล่อยให้ตนจมไปกับความรู้สึกที่ได้จากพิรุณ พลางสัมผัสถึงสิ่งที่มันมอบให้

แล้วพิรุณโปรยก็ค่อยๆจางหายไป ไร้ซึ่งพิรุณสัมผัส… แต่ยามนั้นเอง ภายในหัวของหนิงฝานกับปรากฏภาพของคนผู้หนึ่ง

เป็นภาพของชายชราในชุดคลุมดำ แต่ไม่อาจเห็นใบหน้าได้ชัด เพราะชายชราคนนั้นถือร่มบังศีรษะไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พิรุณต้องกาย

“สี่มหาสมุทรแบ่งแยกโลกพิรุณ โลกพิรุณคือดินแดนแห่งพิรุณ พิรุณถือกำเนิดจากท้องนภาคืนสู่ผืนพิภพ เฉกเช่นมนุษย์ที่ถือกำเนิดและตายกลับคืนสู่สวรรค์… เมื่อพิรุณแทรกลงดิน พวกมันก็คืนสู่ท้องนภา และร่วงหล่นลงมาเป็นพิรุณดังเก่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?… แม้พิรุณนับล้านหยดจะดูคล้ายกัน แต่กลับแตกต่างตามวิถี ข้าจึงสร้างพิรุณล้านหยดเหล่านี้ ไปตามความเข้าใจของข้า ทิ้งไว้ในนิกายกุ่ยเชว่...”

แล้วภาพของชายชราคนนั้นก็หายไป… หนิงฝานค่อยๆลืมตา

คำกล่าวของชายชราในช่วงแรกนั้นลึกล้ำและลึกลับ ยากที่หนิงฝานจะเข้าใจ

แต่ในช่วงที่สองนั้น ดูราวกับชายชราได้ผสานความโศกเศร้าของตนลงไปในพิรุณเหล่านั้น

เหตุใดชายชราจึงมายังโลกพิรุณ… แต่ชายชราก็ได้เข้าใจถึงวัฐจักรของมัน

บางทีพิรุณเหล่านี้อาจเป็นเบาะแสของชายชรา ที่จะมีอยู่ในทุกชั้นของสุสาน!

ครั้งหนึ่งชายชราเคยอยู่ที่นี่ และบรรลุเต๋าแห่งพิรุณ จนเกิดเป็นเจตจำนงค์เทพพิรุณ

แต่บางทีพิรุณ เป็นเหตุที่ทำให้ชายชราเกิดความทะเยอทะยาน และถูกขับไล่ลงมาจากแดนสวรรค์ทั้ง 4

หนิงฝานสัมผัสเข้าใจได้ถึงความลับที่แฝงอยู่ และเชื่อว่าพวกมันคือความจริง

หนิงฝานขบคิด แหงนมองพิรุณโปรย และเริ่มเข้าใจบางสิ่ง… เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพิรุณนับล้านที่คล้ายกัน จึงมีวิถีที่แตกต่างกัน

เจตจำนงค์เทพพิรุณนั้น เป็นเพียงเจตจำนงค์เทพชนิดหนึ่ง และเจตจำนงค์เทพก็มีได้มากมายนับไม่ถ้วน เพราะการถือกำเนิดของเจตจำนงค์เทพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับลิขิตสวรรค์ แต่ขึ้นอยู่กับมนุษย์แต่ละคน

แม้จะเป็นเจตจำนงค์เทพเช่นกัน แต่ก็แตกต่างไปตามประสบการณ์ของผู้ฝึกตน

สิ่งที่แฝงอยู่ในชั้นที่ 1 ของสุสาน ไม่ได้ทำให้หนิงฝานสนใจนัก เพราะไม่ได้มีความรู้สึกของชายชราผสานอยู่ด้วย

แต่ในชั้นที่ 2 หนิงฝานสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของชายชรา

สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของสุสานวิหคทมิฬนั้น สำหรับหนิงฝานแล้ว ไม่ใช่สมุนไพรปีศาจ ไม่ใช่ปราณหยินลึกล้ำ ไม่ใช่การช่วยให้บ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็ว และไม่ใช่กระดูกเซียนของวิหคทมิฬที่อยู่ในสุสานชั้น 9

แต่มันคือพิรุณที่โปรยปรายเหล่านี้ คือความเข้าใจในเต๋า!

“ชั้นที่ 3… ต้องเป็นการหยั่งรู้ของชายชราแน่”

แววตาหนิงฝานเป็นประกาย เขาก้าวลงสู่สุสานชั้น 3

หนิงฝานรู้สึกว่าการลงมาสุสานในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ผลประโยชน์ใหญ่หลวง

“หากข้าเดินตามรอยชายชรา...ผู้เป็นวิหคทมิฬ หากข้าสร้างเจตจำนงค์เทพพิรุณได้สำเร็จ...” แววตาหนิงฝานมุ่งมั่น

ชั้นที่ 3 ของสุสานมีลักษณะคล้ายชั้นที่ 1 หนิงฝานพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ชูชิงเร่งติดตามด้วยความกังวล

เหตุใดชั้นที่ 3 จึงไม่มีพิรุณ?

ชั้นที่ 3 ของสุสานมีลักษณะเหมือนที่ชูชิงเคยเล่าขาน รอบข้างมือมิด ทุกที่เต็มไปด้วยเศษกระดูกที่ทับถมมานานหลานปี… กระดูกเหล่านี้ไม่ใช่กระดูกของมนุษย์ เป็นของสัตว์ กระดูกของสัตว์เหล่านี้มีคุณภาพสูง ทุกชิ้นล้วนเป็นของสัตว์อสูรระดับแก่นทองคำ+

ชั้นที่ 3 ของสุสานมีอากาศที่เย็นกว่าชั้น 2 เป็นสองเท่า และนั่นยังไม่เป็นอันตรายต่อหนิงฝาน ทั้งยังทำให้ปราณไหลเวียนได้ดีขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน

แม้รอบข้างจะไม่ปรากฏดวงตาแดงฉานของสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัว แต่ในแห่งของสถานที่แห่งนี้ ยังมีกลิ่นอายของสัตว์อสูรที่ทรงพลังซ่อนอยู่ ชูชิงสัมผัสถึงมันไม่ได้ แต่หนิงฝานสัมผัสได้

“1 ตัว… 2 ตัว… 7 ตัว… ในรัศมีหมื่นจ้างนี้ มีสัตว์อสูรระดับแก่นทองคำกำลังเฝ้ามองเราอยู่ พวกมันส่วนใหญ่อยู่ขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น มีขั้นกลางอยู่ 1 ตัว”

หนิงฝานถอนสัมผัสเทพพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่นั่นกลับทำให้ชูชิงเริ่มหวาดกลัว

“ในรัศมีหมื่นจ้างมีสัตว์ระดับแก่นทองคำ 7 ตัวเฝ้ามองเรา! นี่… ข้าว่าที่นี่อันตราย อาจารย์ เรากลับไปชั้นที่ 2 เถอะ...”

จิตใจของบชูชิงเริ่มบีบคั้น ความแข็งแกร่งระดับมันไม่อาจรับมือกับสัตว์อสูรทั้ง 7 ตัวนั้นได้ มันไม่มีทางรอด หากมันไม่ยอมถอยในสถานการณ์เช่นนี้ มันคงกลายเป็นคนโง่

แต่หนิงฝานไม่มีทางทำเช่นนั้น แค่สัตว์อสูรระดับแก่นทองคำ 7 ตัว สำหรับเขาไม่นับเป็นอันใด หากเขาคิดหนี เขาคงไม่ต่างจากสุนัข

“ไม่ต้องกลัว พวกมันไม่กล้าเข้ามาหรอก… ระฆังทะเลตะวันออก.. ออกไป!”

หนิงฝานสัมผัสกระเป๋า เป็นครั้งแรกที่เขานำระฆังสีทองขนาดเล็กออกมา

หนิงฝานถ่ายปราณเข้าไปภายใน ระฆังขนาดเล็กหมุนวน ขยายขนาดกลายเป็นระฆังขนาดยักษ์ตั้งตระหง่าน และเปล่งเสียงกังวาลไสสะท้อนก้อง

“สะ...สมบัติวิญญาณระดับสูงสุด!” แววตาชูชิงเป็นประกาย แม้มันไม่ได้สนใจศาสตร์การหลอมสร้างสมบัติ แต่มันก็อยากครอบครองสมบัติระดับนี้

ถึงมันจะรู้ว่าหนิงฝานมีสมบัติระดับนั้นอยู่กับตัวนานแล้ว แต่ในการประลองกับไป๋เฟยเถิง หนิงฝานไม่ได้นำมันออกมาใช้ ผู้คนคิดว่าเหตุที่หนิงฝานไม่นำมาใช้เป็นเพราะระดับปราณยังไม่มากพอ แต่ระฆังทองในยามนี้ แม้จะเปล่งอานุภาพเพียงเสี้ยวหนึ่ง แต่ชูชิงก็รู้ว่าหนิงฝานสามารถกระตุ้นให้มันทำงานได้

เสียงระฆังไพเราะที่กังวาลก้อง กลับเป็นเหมือนเสียงของปีศาจร้าย หนิงฝานควบคุมให้เสียงระฆัง ตรงไปหาสัตว์อสูรทั้ง 7 ตัวที่ซ่อนอยู่

สัตว์อสูรแก่นทองคำขั้นต้น 6 ตัว มึนงงจนหมดสติ ส่วนสัตว์อสูรแก่นทองคำขั้นกลางมึนงงไม่อาจเคลื่อนไหว

“บางทีสถานที่แห่งนี้อาจมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังอยู่… จะทำอะไรโดยประมาทไม่ได้!”

น้ำเสียงหนิงฝานเคร่งเครียดจริงจัง เขาสัมผัสระฆังยักษ์ ก่อนที่มันจะคืนสภาพเดิม กลับมายังมือหนิงฝาน

หนิงฝานพอใจกับอำนาจของระฆัง แม้จะสำแดงอานุภาพได้เพียง 1 ใน 100 ส่วน แต่มันก็ทำให้สัตว์อสูรแก่นทองคำขั้นกลางหวาดกลัวได้… หากเขาตั้งใจใช้ระฆังจู่โจม เขาอาจสังหารสัตว์อสูรเหล่านั้นได้

“เห้อ… อาจารย์แกล้งประลองกับไป๋เฟยเถิงอย่างยากลำบาก แต่ที่แท้กลับเก็บสมบัติลับไว้เช่นนี้ หากยามนั้นอาจารย์ใช้มัน ไป๋เฟยเถิงคงถูกสังหารได้ง่ายๆ”

ชูชิงตกตะลึง ชายชราได้ยินเสียงร้องของสัตว์อสูร และรู้ว่าพวกมันแข็งแกร่งกว่าตน แต่หนิงฝานกลับกำราบพวกมันได้

จากคำกล่าวของหนิงฝานเมื่อครู่ ดูราวกับสถานที่แห่งนี้มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอยู่ ชูชิงแอบคิดว่า สัตว์อสูรที่ว่า อาจเป็นปีศาจสมุนไพร

การที่หนิงฝานไม่สังหารสัตว์อสูรเหล่านั้น แสดงว่ากังวลเรื่องนี้… สัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำในสุสานชั้น 2 ก็ให้ความรู้สึกถึงภัยคุกคามแก่หนิงฝานเช่นกัน การที่สัตว์อสูรพิรุณในชั้นสองทำตามคำสั่ง แสดงว่าพวกมันเป็นทาสของสัตว์อสูรตนนั้น การที่หนิงฝานไม่สังหารพวกมัน แม้จะขัดกับเต๋าแห่งการฝึกตนของตัวเอง แต่ก็ถือเป็นเรื่องดี

หนิงฝานไม่เลือกที่เสี่ยงชีวิต เขาสนใจพิรุณที่ชายชราคนนั้นเหลือไว้มากกว่า

เขาเก็บระฆัง ไม่สนใจชูชิงที่ตกตะลึง แหงนหน้ามองท้องนภาที่มืดมิด

“เหตุใดที่นี่ฝนไม่ตก...”

หนิงฝานเก็บงำความสงสัย

หากไม่มีพิรุณ สิ่งที่ชายชรารับรู้?

หนิงฝานจึงเริ่มหลับตา

“ชูชิง อย่ารบกวนข้า...” เขากล่าวกับชูชิงก่อนจะผนึกประสาทสัมผัสทั้ง 6

สัมผัสเทพของตนก็ถูกผนึกด้วย หนิงฝานปิดผนึกสัญชาตญาณทั้งหมด

ผ่านไปพักใหญ่ หนิงฝานก็เริ่มรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ส่วนชูชิง เริ่มหนาวเหน็บกับอากาศแล้ว

อากาศบริเวณนี้เย็นเสียดกระดูก ประสาทสัมผัสทั้งหมดของชายชราก็เริ่มมึนชา ชายชราหวนนึกถึงภาพของสตรีที่มีใบหน้าอาบโชกด้วยโลหิตในวันนั้น

“ปีศาจสมุนไพร… เหตุใดนางยังไม่ปรากฏตัว”

ชูชิงยิ้มเจื่อน แม้ตนเองจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทอง แต่มันยังหวาดกลัวนาง ชีวิตของมันช่างไม่ต่างจากสุนัข

“ฮ่าฮ่า ปีศาจสมุนไพรแล้วยังไง ข้าไม่กลัวหรอก… ข้ามากับอาจารย์… เหตใดที่นี่ไม่มีพิรุณ”

ชูชิงหัวเราะและหลับตา จากน้ำเสียงของมัน ราวกับมันกล้าหาญชาญชัย

แต่ไม่นานนัก มันกลับสัมผัสได้ถึงมือน้อยๆที่นุ่มละมุนแต่เย็นเฉียบ สัมผัสที่ไหล่ของมัน

“ข้าไม่ชอบ...”

เสียงของสตรีดังขึ้นด้านหลังของมัน!

ชูชิงหวาดกลัวจนตัวสั่น

ปีศาจสมุนไพรมาจริงๆ! ทั้งนางยังเข้าประชิดด้านหลังของมันได้ โดยที่มันไม่อาจสัมผัสถึงแม้แต่น้อย!

ชูชิงกัดฟันหันกลับไปมองข้างหลัง พบใบหน้าของสตรีที่ซีดขาวและเต็มไปด้วยโลหิตกำลังยิ้มให้ นางยิ้มจนเห็นฟันที่เป็นไม้ และเลียปากราวกับเห็นอาหารชั้นเลิศตรงหน้า

“อาจารย์… อาจารย์...” ชูชิงพยายามเรียกหนิงฝาน

“หนวกหู… เจ้าก็เล่นกับนางไป อย่ารบกวนข้า…” หนิงฝานกล่าวด้วยสัมผัสก่อรจะถอนสัมผัสเทพกลับไป

“อะไรนะ.. เล่นกับนาง! จะบ้าหรือเปล่า? นางกำลังจะกินข้าแล้ว!” ชูชิงหวาดกลัวจนตัวสั่น

จากผู้เชี่ยวชาญที่สงบ กลายเป็นหวาดกลัวจนเสียอาการ ปีศาจสมุนไพรก็อยู่ตรงหน้า แม้เป็นอาจารย์ของมันก็ไม่ช่วย!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด