ตอนที่แล้วGE89 สุราโลหิตคราม [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE91 สามสิ่งที่จะมอบให้ [ฟรี]

GE90 พบหนานเหว่ยอีกครั้ง [ฟรี]


Chapter 90 พบหนานเหว่ยอีกครั้ง

ยามราตรี… หนิงฝานยังไม่ข่มตานอน เขานำกระดูกสีขาวออกมาจากแหวน แล้วโยนลงไปในกระถางแยกโอสถ

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เขาจึงกลั่นให้กระดูกชิ้นนี้บริสุทธิ์อย่างที่สุด ไม่ให้มีสัมผัสเทพหลงเลืออยู่ภายใน จากนั้นจึงเก็บกระดูกกลับเข้าไป

“ไร้ร่องรอยของสัมผัสเทพแล้ว...” หนิงฝานหลับตาพลางขมวดคิ้วแน่น

เขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่หาเขาพบได้อย่างไร การที่มีศัตรูเร้นกายเช่นนี้เป็นสิ่งที่หนิงฝานเกลียด แม้วิชาทำนายที่ตนมี ยังไม่สามารถหาตำแหน่งของจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่พบ

เช่นนั้น เขาจึงต้องระวังทุกฝีก้าว เพื่อป้องกันการลอบจู่โจม

หนิงฝานนั่งลงเตียงนอน มือลูบสัมผัสเรียวขาที่งดงามของไป๋ลู่ แม้นางจะยังหลับแต่นางยังส่งเสียงครางเบาๆ ขาทั้งสองข้างไม่ได้หนีบเข้าหากันขัดขืน

นางยังคงมึนเมาและพร่ามัวกับสัมผัสต่างๆ แต่ยามนี้นางค่อยๆฟื้นคืนสติอย่างช้าๆ สัมผัสได้ถึงมือของหนิงฝานที่กำลังลูบสัมผัสเรียวขาของตน จนทำให้นางเกือบจะสร่างเมาในทันที

“เจ้า… เจ้าทำอะไร!”

“เปล่าเสียหน่อย… ข้าแค่คิดว่าขาของเจ้างดงามมาก” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย มือที่ลูบสัมผัสขาของนาง ถูกนางคว้าไว้

แม้นางจะเคยร่วมรักกับเขาแล้ว แต่การที่ถูกลูบสัมผัสเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกอึดอัด

การที่เรียวขาที่งดงามและต้องตาบุรุษมากมายนับไม่ถ้วน ถูกลูบสัมผัสด้วยคนที่นางเกลียดที่สุด ยิ่งทำให้นางอับอาย

“ฮึ่ม! คิดฉวยโอกาสยามข้าเมา ดูดซับพลังของข้า! นอนลงให้ข้าดูดซับพลังเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้า!”

นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางคิดว่าระดับพลังของนางไม่ห่างกับหนิงฝานนัก แม้นางจะสัมผัสระดับพลังที่แท้จริงของหนิงฝานไม่ได้ แต่นางคิดว่าด้วยขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลางของนาง สามารถสังหารหนิงฝานได้ง่ายๆ

แม้นางจะกล่าวเช่นนั้น แต่นางไม่คิดสังหารหนิงฝาน เพียงแค่ต้องการดูดซับพลังเท่านั้น

ทันใดนั้นเอง นางโคจรปราณใช้ดรรชนีสกัดจุดไปยังหน้าอกของหนิงฝาน แต่สำหรับเขาแล้ว รู้สึกเหมือนเพียงสายลมเย็นพัดพา

นางเริ่มปลดอาภรณ์ของหนิงฝาน ผลักเขาลงเตียงนอน ทัดเรือนผมที่ข้างหู

“อย่าขัดขืน… ข้าดูดซับพลังของเจ้าไม่มากนักหรอก” นางกล่าว

“อืม… ทำตามที่เจ้าปรารถนาเถอะ”

ยามนี้หนิงฝานไม่ได้มีความสุขนัก เพราะเขากำลังตั้งใจเฝ้าระวังการลอบจู่โจมจากจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่

แต่จักรพรรดิปีศาจไป๋กู่กลับไม่จู่โจม

หนิงฝานพักอยู่ในโถงขัดเกลาผสานอยู่ด้วยกัน 3 วัน เพื่อรอให้ระดับพลังของเขาเสถียร จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังตำหนักโอสถอีกครั้ง

หนิงฝานต้องปรุง ‘โอสถฮู่ซิน’ ที่เป็นโอสถผันแปรที่ 3

โอสถเพื่อรักษาอาการเป็นหมันของหลานเหม่ย

‘โอสถทองคำม่วง’ เพื่อยกระดับพลังให้กับซื่อหวูเสีย

‘โอสถอัสนี’ เพื่อรักษาเส้นลมปราณอัสนีให้กับนางกง

และ ‘โอสถผสานอสูร’ สำหรับยุ่ยฉีและหมูของมัน

นอกจากนี้ หนิงฝานยังเตรียมที่จะปรุง ‘โอสถน้ำลายมังกร’ และ ‘โอสถกระจ่าง’... โอสถทั้งสองชนิดนี้เป็นโอสถที่ช่วยเสริมปราณ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อการเตรียมความพร้อม

เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว หนิงฝานก็จะตั้งมั่นเก็บตัวฝึกฝน

ภายในตำหนักโอสถ… หลายวันมานี้ ผู้อาวุโสชู่ชิงไม่ยอมให้นักปรุงโอสถผันแปรที่ 1 ก้าวเท้าเข้าสู่ตำหนัก จะมีก็เพียงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 เท่านั้นที่เข้าใช้ตำหนักได้

“นักปรุงโอสถผันแปรที่ 1 มักจะทำกระถางโอสถระเบิดเสียงดังรบกวน กระทบต่อการปรุงโอสถของผู้อื่น”

นักปรุงโอสถที่มาล้วนไม่เข้าใจกับคำอธิบายของชายชรา เพราะการที่กระถางปรุงโอสถระเบิดนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่สุด ที่สำคัญ ใครจะได้รับกระทบ?

เป้าหมายของชู่ชิงมีเพียงอย่างเดียวคือ ไม่อยากให้ผู้ใดรบกวนหนิงฝาน แม้ชายชราจะไม่ทราบว่าหนิงฝานจะมาเมื่อใดก็ตาม

“ผู้อาวุโสชู่ ข้าขอร้อง… อีกไม่นานก็จะครบเดือนแล้ว ข้าต้องปรุงโอสถผันแปรที่ 1 สิบเม็ดให้กับนิกาย… จะรอไม่ได้อีกแล้ว”

ผู้เยาว์คนหนึ่งกล่าวร้องขอชูชิง

ดูเหมือนมันจะต้องการปรุงโอสถ เพื่อเก็บสะสมแต้มนิกาย ดูคล้ายว่าจะมีศิษย์นิกายอีกไม่น้อยที่เป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 1

แต่ถึงแม้อีกฝ่ายจะร้องขอเช่นนั้น แต่ชายชราก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่น

“ข้าจะไม่กล่าวเป็นครั้งที่สอง! ผู้ใดที่ข้าไม่อนุญาติก็ไสหัวไป!”

ชายชราดูน่าหวาดกลัว ยิ่งชายชราเป็นผู้ฝึกตนฝ่ายอธรรม คนอื่นๆจึงไม่กล้าโต้เถียง หากผู้ที่มาเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ชายชราจะไม่ขับไล่ แต่หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 หรือ 4 ที่มีฝีมือเก่งกาจเทียบเท่าหนิงฝาน ชายชราจะต้อนรับอย่างดี

สตรีเยาว์วัยนางหนึ่ง และผู้เยาว์อีกคนถอยหายใจก่อนจะจากไป

เมื่อมองดีๆแล้ว ผู้เยาว์ในชุดคลุมสีครามที่ถูกชูชิงขับไล่ออกมานั้น เป็นบุตรชายของหนานกง นามหนานเว่ย

ส่วนสตรีในชุดคลุมแดงที่ถูกชายชราขับไล่ออกมานั้น เป็นคนรักของมัน

หนานเหว่ยถอนหายใจ มันมาตำหนักโอสถเพื่อปรุงโอสถ ครั้งหนึ่งหานหยวนจี๋เคยสอนการปรุงโอสถให้กับหนานกง หนานกงจึงสอนให้กับบุตรชายอีกต่อหนึ่ง ตั้งแต่วันนั้นมา หนานเหว่ยก็เดินตามเส้นทางของนักปรุงโอสถ กระทั่งได้กลายเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 1

ในทุกๆเดือน หนานเหว่ยต้องปรุงโอสถผันแปรที่ 1 ให้กับนิกายเป็นจำนว 10 เม็ด และเดือนนี้ ดูเหมือนมันจะยังไม่ได้โอสถ

เมื่อไม่ได้โอสถ มันก็จะไม่ได้แต้มจากนิกาย แต่สิ่งที่ทำให้หนานเหว่ยเป็นกังวลคือ ตำหนักโอสถไม่อนุญาติให้นักปรุงโอสถผันแปรที่ 1 เข้าใช้ และนั่นทำให้มันเพิ่มแต้มนิกายได้ยาก

“ไปกันเถอะ... ‘เสียวอยู่’” หนานเหว่ยถอนหายใจ

“พี่หนาน ไม่เป็นไร… ไม่ต้องเสียดายแต้มนิกาย ตัวข้ามีแต้มหลายร้อย หากท่านต้องการข้าจะยกให้! แต่หากท่านไม่ต้องการ ข้าจะพาท่านไปตระกูลเสียว ที่นั่นมีห้องปรุงโอสถ ไม่จำเป็นต้องมาตำหนักปรุงโอสถโทรมๆนี่… ตาเฒ่าชูชิง เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น… ถึงตระกูลข้าจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ แต่ครั้งหน้าข้าจะพาท่านปู่มาสั่งสอนตาเฒ่าอย่างเจ้า!”

สตรีในชุดคลุมแดงยิ้มอย่างถือดี นางไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ตระกูลเสียว? ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ แม้ในแคว้นเยว่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจะไม่ธรรมดา แต่สำหรับนิกายกุ่ยเชว่แล้วไม่นับเป็นอันใด

คิดจะสั่งสอนชูชิง? ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้งโลกจะผูกสหายกับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 อย่างชูชิง จะมีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำผู้ใดที่หูตามืดบอด คิดเป็นศัตรูกับชายชราบ้าง?

เสียวอยู่เป็นสตรีที่ไม่งดงามนัก นางเป็นผู้เยาว์ในตระกูลเสียวที่อยู่ทางตะวันตกของแคว้นเยว่ เป็นบุตรสาวของผู้อาวุโสใหญ่ในตระกูล แม้นางจะไม่ใช่สตรีที่สูงศักดิ์นัก แต่หนานเหว่ยก็รักนางมาก

ส่วนนางเอง นอกจากหนานเหว่ยแล้ว ก็ไม่ชายตามองผู้ใด

หนานเหว่ยฝืนยิ้ม มันไม่รู้ว่าตนเองมีเคราะห์กรรมอะไรถึงต้องประสบกับเรื่องราวเช่นนี้ คำกล่าวของนางรังแต่จะทำให้ชายชราอารมณ์เสีย ตัวมันก็เป็นคนซื่อๆ จึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

“เด็กโง่ อย่าพูดแบบนั้น… คำกล่าวของเจ้าไม่สมควร เดี๋ยวผู้อาวุโสจะได้ยิน...”

หนานเหว่ยกุมมือน้อยๆของนางไว้แล้วพานางจากไป

แต่ทั้งสองไปไหนไม่ได้! ชูชิงได้ยินที่ทั้งสองคนกล่าว เสียวอยู่ตระหนักแล้วว่านางยั่วยุชูชิงเข้าให้แล้ว!

“สาวน้อยตระกูลเสียว เจ้านี่มันปากดีจริงๆ คิดจะสั่งสอนข้า? เจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน? จองหองนัก! ข้าจะสั่งสอนลูกหลานของไอ้ผีเฒ่าแห่งตระกูลเสียวเอง!”

เสียงอันเปี่ยมไปด้วยโทสะของชายชราดังก้องไปทั่วทั้งตำหนักปรุงโอสถ สัมผัสเทพของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ โถมเข้าจู่โจมเสียวอยู่

สถานที่แห่งนี้คือนิกายฝ่ายอธรรม แค่คำกล่าวเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ถูกสังหารได้ หากไม่แข็งแกร่งพอจะกล่าว ย่อมประสบชะตากรรมเช่นนั้น

“ผู้อาวุโสเมตตาด้วย!”

สีหน้าหนานเหว่ยแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันคาดไม่ถึงว่าคำกล่าวของเสียวอยู่จะทำให้ชูชิงโกรธ แม้มันจะคาดไว้ว่าเสียวอยู่จะกล่าวคำเช่นนี้ต่อหน้าชายชราในสักวัน แต่คาดไม่ถึงว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้

เสียวอยู่หวาดกลัวจนหน้าซีดขาวราวกระดาษ นางจะกล้าเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ยังไง? นางหวาดกลัวจนตัวสั่น รู้แล้วว่าตนเองจองหองแค่ไหน ถึงได้กล่าวคำอวดดีกับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำเช่นนั้น

“พี่หนานช่วยข้าด้วย” นางกอดแขนหนานเหว่ยไว้แน่น ไม่กล้าปล่อย

หนานเหว่ยก็ไม่คิดจะทิ้งนาง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัมผัสเทพที่รุนแรงราวกับมหาสมุทร หนานเหว่ยที่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 10 จึงรู้สึกราวกับตนเป็นเพียงมดปลวก

มันไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้

แล้วมันจะทำอย่างไร?

มันขบคิด หากมันปล่อยให้สัมผัสเทพของชูชิงจู่โจมเสียวอยู่ นางต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่ในขณะนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏ

สัมผัสเทพสายหนึ่งที่พัดพาราวกับสายลมที่แผ่วเบาได้ปรากฏ พัดพาสัมผัสเทพของชูชิงจนหายไปทั้งหมด

คำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย้าหยอกดังมาจากป่าที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับเงาร่างของผู้เยาว์ในชุดคลุมขาวดำ กำลังเดินตรงมายังตำหนักปรุงโอสถ

“ผู้อาวุโสชู่ เหตุใดท่านบันดาลโทสะกับผู้เยาว์เช่นนั้น… สองคนนั้นเป็นสหายของข้า”

เมื่อได้ยินเสียงที่กล่าวอย่างเนิบนาบดังมา สีหน้าชูชิงแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“ที่แท้เด็กทั้งสองคนนี้เป็นสหายของผู้อาวุโสหนิง ข้าหุนหันเกินไป อภัยให้ข้าด้วย...”

อภัยให้ข้าด้วย? ชูชิงถึงกับกล่าวขออภัย!

เส้นแสงสีแดงพุ่งออกจากตำหนักโอสถ ก่อนคืนร่างเป็นชูชิงที่ไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนก่อน

ชายชราในยามนี้จ้องมองหนิงฝานด้วยสีหน้าที่นับถือ เป็นสีหน้าที่ไม่ได้ปรากฏมานานมากแล้ว

“ข้ารอผู้อาวุโสหนิงอยู่หลายวัน ในที่สุดผู้อาวุโสหนิงก็มา!” ชายชราตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มันไล่นักปรุงโอสถผันแปรที่ 1 เพื่อรอหนิงฝาน!

เสียวอยู่อ้าปากค้าง หนานเหว่ยตกตะลึง

ตระกูลเสียวแห่งแคว้นเยว่ตะวันตกไม่อยู่ในสายตาของชูชิง แต่ชายชรากลับนอบน้อมกับหนิงฝานเป็นอย่างมาก

ยามนี้ หนานเหว่ยที่กำลังตกตะลึง รู้สึกราวกับอยากจะคุกเข่าต่อหน้าหนิงฝาน

นี่เป็นครั้งที่สองที่หนานเหว่ยได้พบหนิงฝาน

ครั้งแรกในงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า ครั้งนั้นบิดาเป็นคนสั่งให้มันไป และด้วยที่หนิงฝานเป็นนักปรุงโอสถในคราวนั้น มันจึงนับถือ

แต่ครั้งนี้ มันกลับไม่อาจสัมผัสถึงระดับของหนิงฝานได้ ทั้งยามนี้ที่จ้องตา มันยังรู้สึกเจ็บราวกับถูกบางสิ่งทิ่มแทง

นั่นหมายความว่า ระดับของหนิงฝานห่างชั้นกับมันมาก!

“คารวะนายน้อย!”

น้ำเสียงหนานเหว่ยสั่นเครือ แต่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและเคารพ! เพราะนายน้อยของมันทำให้ชูชิงหวาดกลัว และยอมก้มหัวขออภัย

คาดไม่ถึงว่าชูชิงจะยำเกรงหนิงฝานมากขนาดนี้

“เหตุใดผู้อาวุโสชูจึงแสดงท่าทีเช่นนี้กับข้า?”

หนิงฝานจ้องมองท่าทางของชูชิงด้วยความสงสัย...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด