ตอนที่แล้วบทที่27: ข่าวลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่29: ข้อสันนิษฐาน

บทที่28: ปริศนาไขเกือบกระจ่างแล้ว


บทที่28: ปริศนาไขเกือบกระจ่างแล้ว

รอบตัวเป็นคุกร้างอ้างว้างที่เคยเจอ ไป่ยู่จำได้นี่คือสถานที่ที่เกิดโศกนาฏกรรมกับเด็กชายคนหนึ่งนามเทียนป้อที่เขาเคยเห็นในความฝัน เวลานี้เขากลับมายืนอยู่ที่นี่อีกครั้ง เท่ากับเขากำลังฝันอยู่สินะ

เคยได้ยินมาบ้างเรื่องที่คนผู้หนึ่งสามารถฝันถึงเรื่องราวที่ซ้ำกันอยู่อย่างนั้น หรือที่ต่างออกไปก็คือการฝันถึงเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันจากที่เคยฝันในครั้งแรก จอมเวทมองรอบกายแล้วเริ่มเดินไปยังทางที่คุ้นเคย

ครานี้ไม่มีท่านแม่และเด็กชายเดินเคียงคู่กันเพื่อนำทาง ไป่ยู่เดินจนมาถึงประตูใหญ่ในคราวก่อน ที่ต่างกันคือครั้งนี้มันไม่ได้ถูกปิดล็อกไว้ แต่กลับแง้มออกอยู่เล็กน้อย เขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจผลักบานประตูให้เปิดกว้างออกกว่าเดิม

สิ่งที่พบคือห้องโถงขนาดใหญ่ ตรงกลางมีแท่นหยกศิลาสีดำสนิท ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นท่านแม่ของเด็กชาย หรือกระทั่งตัวเทียนป้อเองก็ตาม

ไป่ยู่ถอนหายใจ นึกโล่งอกที่ไม่ต้องเห็นภาพเหตุการณ์เดิมซ้ำอีกครั้ง ตลอดเวลานับตั้งแต่ฝันถึงเด็กชายในครั้งแรก เขาก็นึกสงสารในชะตากรรมนั้น มีความสงสัยอยู่ในใจว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย แต่แบบนี้คงจะดีกว่า

อาจารย์เคยสอนไว้ว่า เวียนว่ายตายเกิดเป็นธรรมดาของมนุษย์ ใครบ้างเกิดแล้วจะไม่พบกับความตาย สิ่งสุดท้ายที่ควรรู้คือทุกสิ่งไม่จีรัง

หากมองอีกมุม เรื่องของเทียนป้ออาจเป็นเพียงความฝันที่เขาจินตนาการถึง บางทีเด็กชายและท่านแม่ของเยาอาจไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ

เมื่อคิดได้เช่นนั้นไป่ยู่ก็ยิ้มออกมาได้บ้าง แม้มันจะดูเศร้าโศกกว่ายินดี สิ่งสำคัญคือออกไปจากความฝันนี้ เขาจะทำยังไงให้ตัวเองตื่นและรู้สึกตัว

ชั่วขณะที่ใช้ความคิด พลันเกิดเสียงบางอย่างดังขึ้นจากด้านหลัง ไป่ยู่หันไปมองตามต้นเสียงที่ได้ยิน เห็นแท่นหยกศิลาสั่นไหวรุนแรง เกิดเสียงคำรามดังลั่นที่คุ้นเคย

จอมเวทถอยหลังดูท่าที แท่นหยกนั่นยิ่งสั่นไหวแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งโถงกว้างสั่นสะเทือน เพดานด้านบนเกิดรอยร้าว พื้นด้านล่างเกิดรอยแยกออก พริบตานั้น แท่นหยกศิลาดำก็พลันระเบิดออกอย่างรุนแรง

เศษหยกศิลากระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เกิดเป็นม่านฝุ่นคละคลุ้งบดบังสถานที่เบื้องหน้า ไป่ยู่ใช้เสื้อคลุมเกล็ดมังกรสะบัดไล่เขม่าให้ห่างกาย เพียงไม่นานทุกสิ่งก็จางหายกลายเป็นปกติดังเดิม มีเพียงเสียงของความเงียบที่ดังกลบกลืนทุกสิ่งแม้กระทั่งลมหายใจของไป่ยู่ยังถูกดูดกลืน

ตำแหน่งที่แท่นศิลาเคยอยู่ เวลานี้มันเป็นหลุมลึกไร้ก้นมีเพียงความดำมืดอยู่ด้านใน ไป่ยู่สัมผัสได้ถึงไอปีศาจมากมายทั้งที่ยืนห่างออกมาไกล เพียงไม่นานก็เกิดเสียงคำรามดังโหยหวนขึ้นอีกครั้ง พร้อมการสั่นสะเทือนรอบบริเวณที่รุนแรงกว่าเดิม

หลุมลึกไร้ก้นเกิดหมอกควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมา พร้อมกับที่มีปีศาจร้ายรูปร่างน่าเกลียดปีนขึ้นมาจากหลุมนั่น ไป่ยู่ถอยหลังแล้วตั้งท่าใช้สองมือวาดวงเวทกลางอากาศ ทว่ากลับไม่มีมนต์ใดปรากฏ

เหล่าปีศาจ ภูตผี วิญญาณร้ายมากมายต่างยื้อแย่งกันหนีออกมาจากหลุมนั่น เป็นภาพที่ทำให้จอมเวทนึกถึงขุมนรกในอเวจี พวกมันตรงมาที่เขา ไป่ยู่ล้วงในเสื้อหายันต์แต่ไม่พบสิ่งใด เมื่อพวกมันใกล้เข้ามากลับทะลุผ่านไปราวกับเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ ไร้ตัวตนในเวลานี้

สิ่งชั่วร้ายทุกตนพุ่งตรงไปตามทางเพื่อหาทางออกอย่างรวดเร็ว บางตัวทำลายเพดานสร้างทางออกอื่นแล้วปีนขึ้นไปด้านบน เพียงไม่นานทุกสิ่งก็สงบลง เหลื่อแค่ร่องรอยและความเสียหาย

ไป่ยู่มองตาม คิดจะเดินไปดูกลับเกิดเสียงประหลาดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหันไปมอง เศษหยกศิลาสีดำที่กระจัดกระจายอยู่รอบบริเวณ กลับกลายร่างแปรสภาพเป็นปีศาจหัวหมูป่ามากมายหลายขนาด พวกมันมองตรงไปยังทางออกซึ่งจอมเวทยืนขวางอยู่

มันมองอยู่เช่นนั้นราวกับว่ามองเห็นตัวของไป่ยู่ด้วย ระหว่างนั้นเอง มีปีศาจขนาดเล็กรูปร่างคล้ายคนแคระศีรษะโล้น ผิวหนังสีเขียวทึบ ดวงตาชั่วร้าย มีเขี้ยวยาวแหลมคม มันวิ่งออกจากซากหินที่ซ่อนตัวเพื่อหวังจะหนีไปยังทางออก

หนึ่งในปีศาจหัวหมูป่าหันไปเห็นและไม่รอช้า หยิบขวานขนาดเหมาะมือขวางไปยังร่างนั้นในทันที ปีศาจร่างแคระไม่ทันได้หลบก็ถูกคมแหลมปักเข้าเต็มแรงที่กลางหลัง ร่างของมันถูกแรงเหวี่ยงนั้นผลักกระเด็นให้ไปติดแน่นที่กำแพงโดยมีขวานยึดเอาไว้

ปีศาจหัวหมูป่าเดินเข้าไปใกล้เพื่อกำจัดให้สิ้นซาก ปีศาจร้ายแคระส่งเสียงร้องคล้ายอ้อนวอน ดวงตาชั่วร้ายมีแววหวาดกลัว ทว่าไม่มีความปราณีในหมู่ปีศาจด้วยกัน ฝ่ายที่มีชัยกระชากขวานที่ติดแน่นออกก่อนจะกระหน่ำฟาดลงไปยังร่างของอีกฝ่ายอยางรุนแรง เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายกลายเป็นก้อนเนื้อที่ไร้ชีวิต ปีศาจหัวหมูป่าจึงยอมหยุด ก่อนที่จะกลับมารวมกลุ่มกับตัวอื่นๆ แล้วพวกมันก็ส่งเสียงร้องคำรามดังลั่นขึ้นพร้อมกัน จนแผ่นดินสั่นสะเทือน

ไป่ยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในห้องพักห้องหนึ่งที่ว่าการของอำเภอ ข้างกายของเขาคือดรุณีน้อยเฉินหลินที่นั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียง ด้านข้างของนางมีถังใส่น้ำและผ้าที่เปียกชื้น

จอมเวทตั้งใจจะปลุกอีกฝ่ายเพื่อถามเรื่องราว แต่เมื่อเห็นมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายเป็นรอยช้ำแดงจากการบิดผ้าเช็ดตัวให้กับเขาทั้งคืน ไป่ยู่ก็เปลี่ยนใจลงจากเตียง มาอุ้มนางเพื่อให้ขึ้นมานอนแทนที่จะได้สบายตัว

จังหวะนั้นเองที่โจวหม่าจงเปิดประตูเข้ามา ถึงกลับตกใจ เพราะภาพที่เขาเห็นคือไป่ยู่ที่อยู่ในชุดเสื้อนอนแถมยังหลุดลุ่ย กำลังอุ้มเฉินหลินที่หลับไม่ได้สติขึ้นเตียงในท่าเนื้อแนบเนื้อ

หม่าจงรีบออกจากห้องแล้วปิดประตูทันทีพร้อมรำพึง

“ไม่เห็นๆ สองคนนั้นก็ดูมีใจชอบพอกันอยู่แล้ว อายุก็ไม่น้อย ไม่แปลกอะไรที่พวกเขาจะ... แต่ข้าไม่เห็นอะไร ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น”

“พี่จง” ไป่ยู่เปิดประตูออกมาเรียก

“ข้าไม่รู้ ข้าไม่เห็น ไม่เห็นอะไรเลย จะไม่ขัดจังหวะอะไรด้วย พวกเจ้าเชิญตามสบายเลย ข้ารับรองไม่เอาไปบอกใคร” หม่าจงพูดร้อนรนไม่กล้าหันไปมองไป่ยู่

“เข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้จะทำอะไร แค่เห็นเฉินหลินอ่อนเพลียหลับไป จึงอุ้มนางให้ไปนอนสบายๆ บนเตียง” ไป่ยู่ทำหน้ายู่ หม่าจงหันมามองอีกฝ่าย สีหน้าคล้ายยังเต็มไปด้วยความสงสัย

ไป่ยู่หน้านิ่งหยิบยันต์ขึ้นมา เกิดไฟลุกกลายเป็นนกเหยี่ยวท่าทางดุร้าย

“ใจเย็นๆ ข้าเชื่อเจ้า” หม่าจงสีหน้าเปลี่ยนกล่าวยิ้มในทันที

 

.........................................

“ข้าขอโทษ” หม่าจงกล่าวหลังจากที่เขาและไป่ยู่ย้ายมาคุยกันในห้องรับรองของจวนว่าการของอำเภอ

“ข้าไม่ได้โกรธพี่ แต่เรื่องแบบนี้หากทำเป็นเล่นไป เกิดคนอื่นได้ยินแล้วเชื่อว่าเป็นความจริงคนเสียหายจะเป็นเฉินหลิน นางยังเด็ก ไม่ควรต้องเจอคำคนในเรื่องทำนองนี้” ไป่ยู่กล่าวเสียงเรียบ เดาอารมณ์ไม่ออกว่ารู้สึกเช่นไร

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ข้าหมายถึงเรื่องที่ชกเจ้าไปเมื่อวาน ส่วนเรื่องเฉินหลินไม่เห็นต้องกังวล หากนางตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน เจ้าก็แค่รับผิดชอบ แต่งกับนางแล้วพาออกไปท่องยุทธภพด้วยกัน”

หม่าจงกล่าวยิ้ม ไป่ยู่ยิ้มตอบ วางตะเกียบลงข้างชามข้าวแล้วหยิบยันต์ขึ้นมาอีกครั้ง

“ขอโทษๆ ข้าแค่เย้าเจ้าเล่น ไม่เห็นต้องโกรธเคืองกันเช่นนี้”

“เล่นอะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องของเฉินหลิน”

“...” หม่าจงกะจะบอกว่า พอเป็นเรื่องของเฉินหลิน ไป่ยู่ดูจริงจังขึ้นมาทันที หรือความจริงจะมีใจให้ แต่ก็เปลี่ยนใจไม่เอ่ยออกไป เพราะเกรงว่ายันต์ในมืออีกฝ่ายจะกลายเป็นตัวอะไรที่น่ากลัวมากกว่าเหยี่ยวเมื่อครู่ รองหัวหน้ามือปราบจึงเพียงยิ้มแล้วไม่ต่อคำ

“ว่าแต่เมื่อกี้เจ้าไปดูอาการของไป่หลงมาแล้วเขาเป็นยังไงบ้าง”

“ยังทรงตัว”

“งั้นก็โล่งใจได้หน่อย เมื่อคืนเกิดเรื่องมากมาย ถึงไม่เกิดอันตรายอะไรกับร่างของเขาแต่เจ้ามาสลบไป ทำเอาข้าเป็นกังวล”

ไป่ยู่มองคนกล่าวด้วยสีหน้าทำนองว่า แล้วใครกันที่ทำให้เขาสลบไป หม่าจงคล้ายอ่านออกถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ใช่ ข้าผิดเอง ที่หุนหันขนาดนั้นทั้งที่ยังมีอันตราย แต่เจ้าน่ะ ทำเช่นนี้ไม่ถูก”

ครานี้กลับเป็นไป่ยู่ที่มีสีหน้าสำนึกผิด

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีแผน ฉลาด มีไหวพริบ มีเวทมนต์คาถา แต่เมื่อวานเจ้าแน่ใจจริงๆ เหรอว่าจะรับมือได้อย่างปลอดภัย”

คำถามนี้แทงใจจอมเวท เขาจึงได้แต่นิ่งเงียบ

“เจ้าไม่มั่นใจ เพราะถ้าเจ้าคิดว่าวิธีนี้มันปลอดภัยจริง เจ้าจะไม่โกหกข้า ไม่โกหกเฉินหลิน ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี อยากปกป้องทุกคน แต่ก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของข้าด้วย เจ้ายังมีข้าเป็นกำลังให้ หากเกิดเจ้าลงมือเพียงคนเดียวเกิดเพลี่ยงพล้ำ... หากเกิดอะไรกับเจ้าแล้วคนอื่นจะปลอดภัยหรือไง”

“ข้าขอโทษ เวลานั้นมันคับขันเกินตัว ข้าจึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้น”

“จำเป็นยังไงก็ไม่ควร เกิดอะไรกับเจ้าคนอื่นจะยิ่งเสี่ยงอันตราย นึกถึงเฉินหลินบ้าง นางแถมจะกระโดดลงจากหลังคาไปอยู่เคียงข้างเจ้า”

“ถ้าข้าตายไป พวกท่านนั่นแหละจะยิ่งปลอดภัย” สิ้นคำของไป่ยู่ หม่าจงกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะสีหน้าไม่พอใจ

“ฟังข้าก่อนพี่จง ข้าไม่ใช่ไม่รักชีวิตตัวเอง แต่จากที่ข้าวิเคราะห์รวมกับสิ่งที่ได้รับรู้มา มันทำให้ข้ารู้จุดประสงค์หลักของปีศาจหมูป่านั่น”

“หมายความว่าเช่นไร?”

“พวกมันเป็นความสมดุลที่มีหน้าที่มากำจัดสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นทั่วแผ่นดิน”

“จะบอกว่าเจ้าพวกปีศาจหมูอัปลักษณ์นั่นเป็นฝ่ายดีเช่นนั้นเหรอ”

“ก็คงไม่ขนาดนั้น ข้าว่าหน้าที่หลักๆ ของมันคือการกำจัดพวกสิ่งชั่วร้าย แต่หากเกิดต้องสู้กับคนธรรมดาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มันก็คงไม่ปราณีเช่นกัน เหมือนครั้งที่ท่านพบกับมันในป่าไง”

หม่าจงคิดตามที่ไป่ยู่กล่าวก็เห็นจริงดังนั้น เพราะยังไงเขาก็มีข้อสันนิษฐานอยู่แล้วว่าที่อาเหวินโดนทำร้ายไม่ใช่เพราะมัน รวมถึงเหตุการณ์เมื่อวานก็ด้วยที่มันมากำจัดพวกฝูงผีดิบ แต่พอยิ่งคิดให้ลึกรองหัวหน้ามือปราบก็เกิดข้อสงสัยที่ขัดแย้งกัน

“เจ้าว่ามันไม่หนีหากจำเป็นต้องสู้กับคนและจ้องจะฆ่าแค่สิ่งชั่วร้าย แต่กรณีของเจ้าละ ข้าจำได้ว่าเจ้าบาดเจ็บจนเข้าไปพักอยู่ในคฤหาสน์สกุลงักเพราะช่วยคุณหนูงักฮัว จนโดนมันทำร้าย ซ้ำยังเหตุการณ์เมื่อคืนอีกที่มันจ้องจะเล่นงานเพียงแค่เจ้าคนเดียว แบบนี้มันก็ไม่สมเหตุสมผลกับ...”

“มีบางสิ่งสิงอยู่ในร่างกายข้า เป็นสิ่งชั่วร้ายที่กัดกินทำลายชีวิตข้าให้อ่อนแอ แต่ก็ค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่ได้พร้อมกับพลังเวทมนต์”

หม่าจงได้ฟังความจริงที่ไม่รู้มาก่อนถึงกับตะลึง ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวตอบเช่นไร

“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายถึงกลายเป็นอย่างนี้ มันเป็นหนึ่งในปริศนาชีวิตที่ข้ากำลังตามหาอยู่เช่นกัน”

หม่าจงได้ฟังดังนั้นก็ตบบ่าอีกฝ่ายเพื่อให้กำลังใจ

“คดีที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายเจ้ายังไขกระจ่างได้ กับเรื่องนี้เจ้าต้องหาความจริงเจอได้แน่ๆ เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้อย่าทำอะไรเกิดตัวอีก หากไอ้ปีศาจหมูบ้านั่นมาอีก เราจะช่วยกันรับมือ เจ้าเป็นคนดีมากเกินกว่าจะให้พวกมันมาฆ่าด้วยเหตุผลเพียงแค่นั้น”

ไป่ยู่ยิ้มตอบ รู้สึกยิ่งนับถือน้ำใจคนผู้นี้

“จริงสิ แล้วงักหลิวละ เขาเป็นเช่นไร?”

“เกือบไม่รอด ดีที่เจ้าเตือนไว้ทัน หานตงพาคนตามไปดูเจอผีดิบสองตัวกำลังจะทำลายห้องขังเข้าไปฆ่าเขาอยู่พอดี”

“เป็นจริงอย่างที่คาดไว้สินะ”

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาจะมีอันตราย จริงๆ ข้าว่าแปลกมากเลยนะที่พวกผีดิบเข้าไปถึงในคุกเพื่อเล่นงานไอ้คุณชายใหญ่นั่น สงสัยหลงเข้าไป”

“ผิดแล้ว ผีดิบพวกนั้นเกิดขึ้นเพื่อจะฆ่าเขาโดยเฉพาะต่างหาก”

“เจ้าหมายความว่า!!”

“ถูกแล้ว งักหลิวไม่ใช่คนร้ายของคดีนี้ เขาไม่ได้ฆ่าน้องชายคนรอง และยิ่งไม่ได้ลักพาตัวน้องชายคนเล็กของตน”

“เจ้ารู้แล้วเหรอว่าเป็นใคร?”

“รู้แล้ว ทั้งเรื่องต้นเหตุและการกระทำของคดีนี้ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ที่มันทำให้สับสนเพราะมันมีปริศนาเงื่อนงำอื่นเข้ามาปะปนด้วย แต่เรื่องที่ว่าก็ใช่ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เลย เพราะฉะนั้น จึงยังต้องหาคำตอบในปริศนาข้อสุดท้ายนี่ก่อน”

“ต้องทำเช่นไร?”

“หนึ่ง รอให้อาเหวินฟื้นข้นมาเล่าเหตุการณ์ในหมอกนั้นเพื่อเป็นพยานยืนยัน สองข้าต้องการคุยกับแม่เฒ่าฝูถึงเรื่องราวบางอย่างของสกุลนี้”

“ถ้าเช่นนั้นเรารีบไปที่คฤหาสน์นั่นกันเลย”

“อย่าเพิ่งใจร้อน ยังไงก็ต้องรอให้อาเหวินฟื้นก่อน”

หม่าจงรู้สึกร้อนใจ พยายามถามหาเรื่องราวทั้งหมด ทว่าไป่ยู่กลับไม่ตอบทุกคำถาม โดยเฉพาะคำที่ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของคดี

กระทั่งเกือบเที่ยงของวัน ซาเถียนจึงมาบอกข่าวกับพวกเขาว่าอาเหวินฟื้นแล้ว...

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด