ตอนที่แล้วChapter 24 : ลูกธนูของซาจิททาเรียส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 26 : กฎหมายผู้ใช้เวท

Chapter 25 : เกมนี้ไม่มีคำว่าเพื่อน


Chapter 25 : เกมนี้ไม่มีคำว่าเพื่อน

หลังจากได้ยินเสียงเตือนจากซาจิททาเรียสว่าให้ออกจากบริเวณรัศมีของตัวบ้าน

ผมก็กระโดดหลบตามหลังคาบ้านพักที่อยู่ถัดไปอย่างว่องไว โดยมีฮิโรชิที่ถือดาบซามูไรวิ่งไล่ตามมา หมอนั่นคงคิดว่าผมกำลังจะหนี ใช่ ผมกำลังหนีให้ห่างจากบริเวณบ้านตามที่ซาจิททาเรียสบอกว่าจะไม่เหลือแม้แต่ซาก ผมคิดว่าเสียงที่เขาส่งให้ผ่านทางอากาศคงมีแต่พวกเราที่ได้ยิน ตอนนี้ผมต้องหนีไปให้ห่างจากบริเวณนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าซาจิททาเรียสจะทำอะไร ถึงได้บอกว่าตรงนั้นจะไม่เหลือซาก ฟังดูแล้วเหมือนกับจะระเบิดเลย อีกอย่างผมสร้างบาเรียไม่เป็นด้วย ลีโอไม่เคยสอน ก็คงต้องได้แต่หลบออกมาจากรัศมีของตัวบ้านที่คิดว่าจะระเบิดให้ไกลที่สุด

หลังจากวิ่งออกมาห่างได้ระยะหนึ่ง ฮิโรชิก็ตามผมทัน หมอนี่กัดไม่ปล่อยเลย ถ้าถามว่าสู้ไหวไหม มันก็สู้ไหว แต่จะให้เอาชนะและโจมตีให้ตายกันไปข้างมันทำไม่ได้ เพราะฮิโรชิก็มีฝีมือและประสบการณ์มากกว่าผมมาก และตอนนี้พลังเวทที่แชร์มาจากลีโอก็เริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ มันทำให้ผมเริ่มเคลื่อนไหวได้ช้าลง

แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครช่วยได้แล้ว ลองอีกซักตั้งละกัน ...

แถมตอนนี้เวลาอีกสิบวินาทีที่ซาจิททาเรียสบอกก็ใกล้เข้ามาทุกที

ว่าแล้วผมก็กระโดดพุ่งตัวเข้าหาฮิโรชิอีกครั้ง ผมใส่พลังไปสุดแรง ต้องทำให้มันจบให้เร็วที่สุด เวทมนตร์ของลีโอกำลังจะหายไป ร่างกายของผมมีออร่าสีฟ้าสว่างวาบขึ้นมา ฮิโรชิก็วิ่งตรงมาหาผมเช่นกัน ปลายดาบซามูไรเป็นออร่าสีแดงพุ่งตรงมา ขณะที่ผมก็เตรียมตวัดดาบสีทองเพียงครั้งเดียว แต่รุนแรงที่สุดที่เคยต่อสู้มา กะจะให้ศัตรูแพ้ในดาบเดียวเช่นกัน ทั้งผมและฮิโรชิเคลื่อนที่พุ่งเข้าหากันเร็วจนมองไม่ทัน

และ ...

ผมเจอช่องว่าง ...

ฉึก !

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ดาบสีทองแทงเข้าไปกลางท้องของฮิโรชิ ในขณะที่ปลายคมดาบซามูไรของฮิโรชิบาดลำคอผมเฉียด ๆ จนเลือดไหลออกมาเช่นกัน แต่ตอนนี้ดาบซามูไรของหมอนั่นตกลงไปอยู่ที่พื้นแล้ว ฮิโรชิมองหน้าผมอย่างเจ็บแค้น ก่อนผมจะกระชากดาบออก พร้อมจะแทงเข้าไปอีกรอบให้หมอนั่นสิ้นลมอย่างเร็วที่สุด ร่างของฮิโรชิทรุดตัวลงเอามือไปกุมท้องของตัวเอง

ผมไม่เคยฆ่าใคร ...

มันรู้สึกแปลก ๆ

ผมง้างดาบขึ้นอีกครั้ง พร้อมที่จะแทงเข้าไปที่หัวใจของหมอนั่น แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำ แสงสว่างวาบสีขาวก็ปรากฏขึ้น มันเหมือนอุกกาบาตที่พุ่งตัวมาอย่างรวดเร็วจากที่ไหนสักแห่ง ตรงไปยังบริเวณบ้านพักของพวกเราที่มินจุนและไอรีนต่อสู้อยู่ รวมถึงลีโอที่ตอนแรกผมเห็นอยู่แถวนั้นด้วยเช่นกัน

ผมยกมือขึ้นมาบังแสงสว่างแสบตานั่น

นั่นคือฝีมือของซาจิททาเรียสงั้นหรอ ...

บึ้ม !

แสงสีขาวสว่างวาบเป็นรัศมีกว้างเกือบทั้งเมือง ตามด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

แรงระเบิดพื้นที่ตรงนั้นทำให้ผมเซถลาเกือบตกลงมาจากหลังคาบ้านเพราะทรงตัวไม่อยู่ เกิดควันไฟลุกไหม้ขึ้นบริเวณรอบ ๆ แม้ผมอยู่ห่างออกมาจากตรงนั้นสักระยะก็มองเห็นได้ พื้นที่ตรงนั้นยุบลงไปเป็นหลุมขนาดใหญ่กินพื้นที่รอบบ้าน บ้านพักที่เคยสวยงามบัดนี้ไม่เหลือแม้แต่ซาก บริเวณบ้านพักข้าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ออกมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นยามค่ำคืน เสียงกรีดร้องตกใจกลัวดังระงมไปหมด

ผมเห็นไอรีนและมินจุนอยู่ในบาเรียวงกลมลอยลงมาจากบนอากาศอยู่ห่าง ๆ พวกเขาคงปลอดภัยดี แค่นี้ก็เบาใจแล้วสำหรับผม ส่วนพวกภูติดวงดาวจักรราศีก็เป็นอมตะอยู่แล้ว สงสัยตอนนี้คงเข้าไปอยู่ในกุญแจตัวเองเพื่อหลบรัศมีการระเบิด ผมเห็นร่างของลีโอกับทอรัสกำลังคงต่อสู้อยู่ไกล ๆ

แล้วอยู่ ๆ ทอรัสที่กำลังวิ่งไล่ตามลีโอก็หยุดตาม หยุดต่อสู้ ก่อนส่งเสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่ว ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนลีโอจะหมดพลังที่จะต่อสู้แล้วเหมือนกัน ร่างของลีโอกำลังวิ่งตรงมาหาผม ขณะเดียวกันผมก็หันไปมองหาฮิโรชิเพื่อจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้มันจบ

แต่หมอนั่นหายไปแล้ว ...

หายไปพร้อมกับดาบซามูไรของตัวเอง ...

“วิน นายเป็นไงบ้าง !” ลีโอถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ผมทรุดตัวลงนั่งบนหลังคาบ้านพักแถวนั้น ออร่าสีฟ้ารอบตัวหายไปแล้วพร้อมกับพลังเวททั้งหมดที่เคยมี ความอ่อนล้าและเพลียจากการต่อสู้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวหลังจากพลังเวทของลีโอหมดไป มันเหมือนกับตอนที่ผมสลบลงหลังจากต่อสู้กับมิเกล แต่คราวนี้ดีกว่านิดหน่อยที่ผมยังคงมีสติหลงเหลืออยู่

“ไม่ค่อยไหว”

ผมบอกลีโอไปตามตรงก่อนหมอนั่นจะช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นจากพื้น

“จะไหวได้ไง นายใช้พลังฉันไปมากกว่าครั้งที่แล้วเกือบสามเท่า แถมฉันเองก็แทบจะไม่มีพลังเวทเหลือแล้วเนี่ย” ลีโอบอกผม

“กลับไปฉันต้องฝีกการบริหารพลังเวทจากฉันแล้ว พวกเราไปรวมกับคนอื่นเถอะ” ลีโอพูดต่อ

ส่วนผมตอนนี้ไม่มีแรงที่จะพูดแล้ว เลยปล่อยให้ลีโอพูดอยู่คนเดียว แล้วช่วยพยุงผมไปรวมกลุ่มกับมินจุนและไอรีน ที่ตอนนี้ลอยลงมาบนพื้นอยู่ห่างจากบริเวณบ้านพัก ที่ตอนนี้ไม่เหลือเศษซากทิ้งไว้แม้แต่น้อย กับบริเวณบ้านพักข้าง ๆ ที่เละเทะพังยับเยินเป็นวงกว้าง ผู้คนแถวนั้นออกมามุงดุกันเต็มไปหมด

“วินเป็นไงบ้าง นายบาดเจ็บหรอ ฮิโรชิล่ะ !” ไอรีนถามขึ้นมาเป็นชุด ก่อนวิ่งเข้ามาดูอาการของผมเมื่อเห็นลีโอพยุงร่างของผมตรงมาหา

“หายไปไหนไม่รู้เหมือนกัน” ผมบอกออกไป ก่อนทรุดตัวนั่งลงกับพื้น ตอนนี้คนรอบ ๆ แห่มาเต็มไปหมด เสียงสัญญาณเตือนภัยประจำเมืองดังลั่นไปรอบบริเวณ

“แล้วพวกนั้นล่ะ” ลีโอถามไอรีนกับมินจุนถึงศัตรูที่เข้ามาโจมตีเราที่เหลือ

“ไม่แน่ใจ ซาจิททาเรียสบอกให้พวกเรารีบออกจากบริเวณบ้าน พวกเราก็รีบออกมาเลย เมื่อกี้ตึงมือมาก ทั้งนิโคลและเฉินปล่อยของออกมาเต็มที่เลย ฉันว่าพวกนั้นอาจจะโดนลูกหลงระเบิดจากซาจิททาเรียสแล้วหนีไปนั่นแหละ แอรีสก็หายไปแล้วด้วย” มินจุนพูดตอบลีโอไป

“ก็จริง อยู่ ๆ ทอรัสก็คำรามแล้วก็เลิกไล่ขวิดฉันไปเฉย ๆ เหมือนกัน” ลีโอพูดต่อ

“โอ๊ย ! เจ็บไอรีน” ผมร้องออกไปเมื่อรู้สึกถึงความแสบบริเวณแผลตรงคอ หลังจากไอรีนเอาของเหลวอะไรสักอย่างเย็น ๆ แตะที่คอผม

“นิดเดียวน่า อย่ามาเว่อร์” ไอรีนร้องบอกกลับมา

“มินจุนมือเบากว่าเธอเยอะเลย” ผมพูดบอกไอรีนไป ตามมาด้วยการทำแผลที่รุนแรงกว่าเดิม

“โอ๊ย ! เจ็บนะ เบา ๆ หน่อย”

“ว่าแต่ พวกเราไม่ต้องหนีไปไหนหรอ” ผมถามมินจุนออกไปหลังจากนึกขึ้นมาได้ ก่อเรื่องไว้หนักขนาดนี้ ถูกจัดได้ว่าเป็นอาชญากรรมเลยด้วยซ้ำ หมอนั่นหันมามองผมก่อนถอนหายใจออกมา

“หนีไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันเป็นคนสาธารณะ บ้านพักหลังนี้ก็มีชื่อฉันเป็นคนจองวิน พวกเขาตามตัวเราเจอแน่ งานนี้คงต้องได้จ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแบบเต็ม ๆ นั่นแหละ อีกอย่างหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย ดูนั่นซิ” มินจุนพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง มองขึ้นไปยังท้องฟ้ามืดยามค่ำคืน

แสงสปอตไลต์พุ่งตรงมายังกลุ่มของพวกเราจากบนฟากฟ้า พร้อมกับเครื่องบินหลายสิบลำที่ถูกใช้โดยผู้ถือกฎหมาย ตามมาด้วยเสียงประกาศดังก้องไปทั่วทั้งเมืองว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ปืนเลเซอร์ความเข้มสูงส่องเล็งตรงมายังพวกเราพร้อมกับหลายสิบกระบอกจากบนฟ้า ก่อนผู้รักษากฎหมายและหุ่นยนต์ AI หลายสิบตัวจะโรยตัวลงมาล้อมพวกเราไว้

“ยกมือขึ้น ! ยอมมอบตัวซะดี ๆ !”

“งานเข้าแล้วไง ลีโอกลับมาอยู่ในกุญแจ” ผมพูดออกไป พลางบอกให้ลีโอเข้าไปอยู่ในกุญแจเหมือนกันกับภูติดวงดาวของมินจุนและไอรีน ตอนนี้เจ้าตัวคงจะเหนื่อยมากเช่นเดียวกันกับผม แต่ตอนนี้ผมพอจะมีแรงขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็เพลียมากอยู่ดีหลังจากได้นั่งพักไปสักแปบหนึ่ง

หวังว่าพวกเราคงไม่ไปจบในคุกผู้ใช้เวทนะ ...

ท่ามกลางเศษซากปรักหักพังของบ้านพักที่อยู่ข้าง ๆ โชคดีที่เฉินไหวตัวทัน เลยใช้พลังเวทของตัวเองสร้างบาเรียป้องกันเอาไว้ แต่ก็เพราะเวลาที่น้อยจนแทบจะทำอะไรไม่ได้ จึงทำให้บาเรียของเขาถูกทำลายลงเพราะแรงระเบิดอย่างรวดเร็ว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิด แผลจากการระเบิดบางส่วนเละจนเห็นเป็นเนื้อแดง ๆ มันทำให้เขาปวดแสบปวดร้อนไปหมดทั้งตัว เลือดไหลออกมาจากบริเวณหัวเนื่องจากอะไรสักอย่างร่วงลงมาใส่จนหัวแตก แต่สิ่งที่แย่ที่สุดตอนนี้คือเขากำลังนอนหงายติดอยู่ในซากบ้านพักที่ร่วงลงมาใส่ แถมรู้สึกได้ว่าท่อนล่างของตัวเองชาจนขยับไปไหนไม่ได้ จากเศษซากขนาดใหญ่ที่ทับเขาเอาไว้ ไม่ต้องออกมาจากเศษซากนั้นก็รู้ตัวว่าตัวเองขาหัก เขาต้องรออีกสักแปบ ทอรัสต้องมาช่วยดึงเศษซากพวกนี้และช่วยเขาออกไปได้แน่

ต้องทนอีกหน่อย ...

ขณะที่เฉินกำลังรอให้ทอรัสมาช่วย สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร่างของพันธมิตรตัวเองที่รีบวิ่งตรงมาหาเขาเมื่อมองเห็น สภาพของนิโคลก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน แต่ดูเหมือนจะน้อยกว่าเขามาก เพราะตอนเกิดการระเบิดจากดอกธนูของซาจิททาเรียส นิโคลไหวตัวสร้างบาเรียได้เร็วกว่าเขา เลยทำให้ร่างกายมีบาดแผลพุพองจากความร้อนเพียงเล็กน้อยที่เป็นผลจากแรงระเบิด

“อัก ... นะ นิโคล ชะ ช่วยฉันด้วย แค่ก ๆ” เฉินพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ปนดีใจที่เห็นเพื่อนตัวเอง พลางไอออกมาเนื่องจากสำลักฝุ่นควันที่ฟุ้งไปทั่ว ซึ่งเหลือทิ้งไว้จากการระเบิด

                “เฉิน นายเป็นยังไงบ้าง” นิโคลก้มตัวลงมาถามเฉิน

“ขา ... ขาฉันหัก ฉันออกไปไม่ได้ ดึงฉันออกไปที ช่วยด้วย” เฉินบอกนิโคลออกไป

ใบหน้าสวยของนิโคลมองหน้าเฉินแวบหนึ่ง ก่อนแววตาจะเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากสิ้นคำพูดของเฉิน ใบหน้าของนิโคลนิ่งเรียบจนดูกลายเป็นคนละคนที่เฉินรู้จัก รู้ดีว่านิสัยของนิโคลเป็นคนยังไง เขาจำได้ว่านิโคลเองก็เป็นตัวตั้งตัวตีในการให้ตามล่าตัวมินจุนเพื่อฆ่า เพราะมินจุนถือครองกุญแจจักรราศีมากกว่าพวกเขาแถมเป็นคนทรยศ เฉินไม่ใช่คนโง่ เขารู้ทันทีว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของนิโคลคืออะไร

“ขาหัก ... นายหมดประโยชน์แล้วเฉิน”

“พูดอะไรของเธอนิโคล !” เฉินร้องออกมาอย่างโมโห เขาพยายามใช้เวทมนตร์ตัวเองสร้างไอพิษออกมารอบตัว แต่พลังเวทที่มีก็อ่อนเหลือเกินเพราะอาการบาดเจ็บของเขา ตอนนี้ทอรัสน่าจะรับรู้ได้ถึงอันตรายที่คืบคลานมาหาตัวเขาแล้ว

รีบมาสิทอรัส ...

ก่อนที่นังงูพิษนี่มันจะฆ่าเขา ...

“เราตกลงกันแล้วไง ว่าจะเป็นเพื่อนกัน เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ถ้าฮิโรชิรู้ เขาไม่เอาเธอไว้แน่” เฉินพูดออกไป พลางเอาชื่อของฮิโรชิขึ้นมาพูด ฮิโรชิเป็นเหมือนหัวหน้าของกลุ่มและมีฝีมือในการต่อสู้มากกว่านิโคลเยอะ แถมเฉินยังรู้จักและเป็นเพื่อนกับเขามานานกว่านิโคลเสียอีก

นิโคลแสยะยิ้มขึ้นมามองดวงตาเรียวของเฉิน ไอความเย็นเริ่มแผ่ออกมารอบ ๆ ตัวเธอ ข้างตัวมีเจมิไนที่ยืนมองอยู่ไม่ห่าง ก่อนหอกน้ำแข็งอันหนึ่งจะปรากฏอยู่ในมือของเจ้าตัว

“ฮิโรชิทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ถ้าฉันมีกุญแจจักรราศีสองดอก”

“แกมันนังงูพิษ นิโคล ! พวกเราน่าจะตามฆ่าแกไม่ใช่มินจุน”

“กว่าจะรู้ก็สายไปแล้ว คงจะไม่รู้ตัวเลยซินะ ว่าแกกับฮิโรชิโดนเวทมนตร์ของเจมิไนพูดใส่ให้เชื่อว่ามินจุนมันเป็นคนทรยศ”

เฉินเบิกตากว้างขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของนิโคล ภาพความทรงจำทุกอย่างก่อนที่พวกเขาจะตามล่ามินจุนก็ย้อนกลับมาในหัวทันทีเหมือนเวทมนตร์กำลังคลาย มันเป็นตอนที่ทั้งเขาและฮิโรชิถูกนิโคลเรียกไปคุยเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก แต่เรื่องสำคัญนั้นนิโคลไม่ได้เป็นคนพูดเอง พวกเขาเหมือนโดนมนต์สะกด เพราะประโยคสุดท้าย ภูติดวงดาวเจมิไนอีกหัวเป็นคนพูดออกมา ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่เขาแทบจะไม่รู้ตัวว่าประโยคนั้นมันคือเวทมนตร์ มันเป็นเพราะความเชื่อใจแท้ ๆ ที่ทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เฉินก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าทำไมมินจุนคือคนทรยศ มินจุนทรยศพวกเขาเรื่องอะไร เขารู้เพียงแต่ว่า มินจุนเป็นคนทรยศ

                “ใช่ มินจุนเป็นคนทรยศ”

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งเขาและฮิโรชิก็เชื่อมาตลอดว่ามินจุนเป็นคนทรยศของกลุ่ม และต้องตามฆ่าหมอนั่นให้ได้ สายตาของเฉินกลับมามองนิโคลอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ยากจนเกินบรรยาย มันทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยงผู้หญิงคนนี้ คนที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อใจว่าน่าจะเป็นพันธมิตรได้ ปลายคมของหอกน้ำแข็งถูกง้างขึ้นเหนือหัวของเฉิน ก่อนเขาจะร้องออกมาสุดเสียง

“อย่า !”

ฉึก !

เลือดไหลทะลักออกมาจากคอหอยของเฉิน เป็นผลจากหอกน้ำแข็งแหลมคมแทงทะลุเข้าไปจนสุดด้าม ร่างของเฉินกระตุกอีกสามสี่ครั้ง ตาที่ยังไม่ปิดจ้องมองไปยังนิโคลอย่างโกรธแค้น ปากที่จะพูดแช่งคำด่าออกมาพูดอะไรออกมาไม่ได้เนื่องจากเลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุด ไม่ช้าเฉินก็แน่นิ่งไป

ตามมาด้วยเสียงร้องคำรามของทอรัสจากมุมไหนสักแห่งที่ห่างออกไปพอสมควร น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียใจ และโกรธแค้น ราวกับรับรู้ถึงการจากไปของเจ้านายตัวเอง

นิโคลแสยะยิ้มมองร่างของเฉินที่แน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ...

กุญแจจักรราศีสีทองลอยออกมาจากร่างของเฉิน สีของมันสว่างวาบ นิโคลยืนมือออกไปรับมันก่อนกำไว้แน่น ดวงไฟสีเหลืองลอยเข้ามาหาเธอที่บริเวณนั้น ก่อนจะปรากฏให้เห็นเป็นร่างของทอรัส ที่มองมายังนิโคลด้วยความโกรธแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ ใบหน้าสวยส่งยิ้มให้กับทอรัส ก่อนริมฝีปากได้รูปจะพูดออกไปกับภูติจักรราศีพฤษ�

“ต่อไปนี้ ... ฉันคือผู้ถือครองกุญแจของนาย ทอรัส”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด