ตอนที่แล้วตอนที่ 156 ผสานหยินหยาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 158 เฟิงจินหยวน ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะต้องมาขอร้องข้า

ตอนที่ 157 เสนาบดีเฟิง ผู้คุ้มกันลับที่ต่ำต้อยของเจ้าเอาชนะเราได้หรือไม่ ?


นางไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ นางกุมหัวแล้วกรีดร้องออกมา

ฮูหยินผู้เฒ่าตะโกนอย่างกระวนกระวาย “ห้ามนางเร็ว !” จากนั้นนางหันไปหายายจาวที่อยู่ด้านข้างนาง “หาเสื้อผ้าเร็ว! รีบไปหาเสื้อผ้า!”

ยายจาวจะไปหาเสื้อผ้ามาจากที่ไหน นางทำอะไรไม่ถูก นางถอดเสื้อคลุมของนาง เมื่อเห็นว่ามีสาวใช้คนหนึ่งหยุดเฟิงเฉินหยู นางก็รีบเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเอาเสื้อคลุมตัวเฟิงเฉินหยูไว้

ร่างกายทั้งหมดของเฟิงเฉินหยูสั่น คราวนี้นางไม่ได้แสร้งทำ นางสูญเสียความคิดของนางอย่างแท้จริง ขณะที่นางตัวสั่น นางตะโกนซ้ำ ๆ ว่า “ฆ่ามัน! ฆ่าเฟิงจื่อเฮา! เร็ว! ฆ่ามัน!”

เมื่อดูท่าทีปัจจุบันของเฟิงเฉินหยู ฮันชิรู้สึกถึงความปิติยินดีในอกของนาง สิ่งที่เฟิงเฉินหยูสูญเสียไปทำให้นางเห็นประกายแห่งความหวังสำหรับเฟิงเฟินได นางมองไปยังเซียงหรูซึ่งถูกอันชิปิดตาไว้ จากนั้นนางก็รู้สึกว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นหนามยอกอก หากมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเฟิงเซียงหรู ตระกูลเฟิงจะเหลือเฟิงเฟินไดเพียงคนเดียว ไม่ว่านางจะเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่หรือเป็นบุตรสาวของอนุ

“อ๊ะ!” ฮันชิตะโกนออกมานานแล้วพูดอย่างลึกลับ “เขาถูกฆ่ามานานแล้ว หากเขาถูกฆ่าตายอีกครั้งมันก็เป็นการทำร้ายศพ คุณหนูใหญ่ เจ้าไม่เห็นหรือ ! เจ้ามักจะรักษาท่าทีของนักบุญ แต่จริง ๆ แล้วเจ้ายับยั้งใจตัวเองไว้ไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเจ้ากับคุณชายใหญ่ใช่หรือไม่ ? ข้าจำปีที่คุณชายใหญ่เข้าไปในห้อง และนอนบนเตียงของเจ้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังนอนหลับอยู่บนหมอนใบเดียวกันกับเจ้า”

“เจ้าพูดเหลวไกล !” เฟิงเฉินหยูยกมือขึ้นจะตีฮันชิ แต่ฮันชิหลบทัน จากนั้นเฟิงเฉินหยูก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับเฟิงจินหยวน และตะโกนว่า “ท่านพ่อ เฟิงเฉินหยูเป็นผู้บริสุทธิ์ ! ผู้บริสุทธิ์!”

ทุกคนกลอกตา ผู้บริสุทธิ์? ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน บริสุทธิ์บัดซบอะไรกัน !

เฟิงจินหยวนไม่เคยโกรธเช่นนี้มาก่อน เขาถึงกับรู้สึกสิ้นหวัง

เขามองไปที่เฟิงเฉินหยูอย่างเฉยเมยและเริ่มครุ่นคิด บุตรสาวคนนี้ยังเหลือค่าอีกหรือไม่ ?

นี่คือเฟิงจินหยวน ที่จริงเขาไม่ได้ใส่ใจเฟิงเฉินหยู สิ่งที่เขาใส่ใจคือการที่เฟิงเฉินหยูถูกประกาศว่าเป็นหงส์เพลิงตั้งแต่อายุยังน้อย หากหงส์เพลิงถูกเปลี่ยนไปเป็นบุตรสาวอีกคนมันจะเหมือนกัน

เฟิงเฉินหยูเข้าใจบิดาของนางเป็นอย่างดี นางมองเห็นร่องรอยของความสิ้นหวังได้ในแววตาของเฟิงจินหยวน ในทันทีนั้นประโยคหนึ่งโผล่เข้ามาในใจนาง “มันจบสิ้นแล้ว !”

ไม่!

นางส่ายหัวอย่างหมดหวังและตะโกนเสียงดัง “ไม่! ท่านพ่อ ท่านพ่อยอมแพ้กับข้าไม่ได้! ข้าเป็นเฉินหยูของท่าน ข้าเป็นบุตรสาวที่ท่านพ่อรักมากที่สุด ข้าจะกลายเป็นฮองเฮา ! ท่านพ่อ ! ลูกสาวสัญญาว่าหลังจากเป็นฮองเฮา ครอบครัวเฟิงจะได้รับการคุ้มครอง เมื่อเวลานั้นมาถึงตระกูลเฟิงจะได้รับทุกอย่างที่ต้องการ!”

“หุบปาก!” ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกสะอิดสะเอียนเฟิงเฉินหยูมากขึ้นเรื่อย ๆ “เจ้ากำลังพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? เจ้าจะกลายเป็นฮองเฮาได้อย่างไร ฮองเฮายังคงนั่งอย่างมีความสุขในพระราชวัง!”

“ในอนาคต!” เฟิงเฉินหยูไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าพูด ขณะที่นางอธิบายต่อไปว่า “ข้ากำลังพูดถึงอนาคต! ในอนาคตเมื่อข้าเป็นฮองเฮา และองค์ชายสามคือฮ่องเต้ ! ตระกูลเฟิงจะเจริญรุ่งเรืองในทันที ! ตราบใดที่ฮ่องเต้เฒ่าเสียชีวิต โลกก็จะกลายเป็นของตระกูลเฟิงของเรา !”

ปัง

เฟิงจินหยวนกระทืบเท้าแล้วก็ยกเท้าขึ้นแล้วเตะที่หน้าอกของเฟิงเฉินหยู “เหลวไหล !”

เฟิงเฉินหยูถูกเตะลอยไปเป็นระยะทางค่อนข้างไกล ขณะที่นางกระอักเลือดออกมา ความรู้สึกมึนงงเริ่มกระเพื่อมออกมา แต่นางก็พยามที่จะไม่ให้ตัวเองเป็นลม การเป็นลมจะกลายเป็นความตาย นางเพิ่งเสื่อมเสียชื่อเสียงไป ดังนั้นครอบครัวเฟิงจะไม่สงสารนางอีกต่อไป

เฟิงเฉินหยูพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาสติ นางเงยหน้าขึ้น นางเพิ่งเห็นวังซวนซึ่งมองนางจากด้านข้างของเหยาซื่อ เมื่อรู้ตัวทันทีนางก็จำได้ว่าก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าร่างกายของนางร้อน ความรู้สึกนั้นคล้ายกับการถูกวางยา สำหรับเฟิงจื่อเฮาที่แตะต้องนาง นางยังรู้สึกว่าสัมผัสของเขาให้ความอบอุ่นมาก

นางรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องและลุกขึ้นยืนทันที นางเดินโซเซไปไม่กี่ก้าวจากนั้นก็รีบวิ่งไปที่วังซวนและบีบคอของนาง “เฟิงหยูเฮงเป็นคนทำใช่ไหม นางกลับมาแล้วใช่ไหม นางมาแก้แค้นข้า ? ฮ่า ๆ ! เฟิงหยูเฮง ยานั้นมีไว้สำหรับเจ้าแล้ว นางไม่ตายในกองเพลิงขนาดใหญ่นั้นได้อย่างไร ? เฟิงหยูเฮง ! ออกมาที่นี่ ! ออกมา !”

เฟิงเฉินหยูตะโกนอย่างบ้าคลั่งในห้องราวกับว่านางเป็นบ้าไปแล้ว วังซวนหวังอย่างแท้จริงว่านางจะพาเฟิงหยูเฮงออกมาได้ แต่น่าเสียดายที่นางไม่ได้ปรากฏตัว

อย่างไรก็ตามเหยาซื่อได้ยินสิ่งที่เฟิงเฉินหยูพูด นางจึงถามเฟิงเฉินหยูทันที “เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องยาอะไร? เจ้าวางยาอะไรกับอาเฮง?”

“ยาชนิดเดียวกันกับที่ข้าได้รับ !” เฟิงเฉินหยูตะโกน “ยานั้นเป็นยาให้นางกิน ใครเป็นคนส่งยามาที่ห้องของข้า ท่านพ่อ ข้าถูกวางยา !”

เฟิงเซียงหรูไม่สามารถทนได้อีกต่อ และนางกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ท่านยอมรับว่าท่านวางยาพี่รอง c]h;ทำไมท่านยังมาใส่ร้ายพี่รองอีก ? ท่านเอาตัวพี่รองไปไว้ที่ไหน?”

น่าเสียดายที่เฟิงเฉินหยูไม่ตอบคำถามของนาง นางทรุดตัวลงกับพื้นและร้องไห้

อันชิมองเฟิงจินหยวน และกล่าว “สามี ท่านไม่รู้สึกว่าท่านติดหนี้คุณหนูรองบ้างหรือ ?”

จินเฉินซับน้ำตาและกล่าวว่า “คุณหนูรองช่างน่าสงสารจริง ๆ เจ้าค่ะ”

“น่าสงสาร?” เฟิงเฉินหยูเริ่มตะโกน “นางจะน่าสงสารไปกว่าข้าได้อย่างไร? หากนางเป็นคนน่าสงสาร! แล้วข้าล่ะ?”

ฮันชิดูราวกับว่านางกำลังสนุกกับฉากที่ดีขณะที่นางดูเฟิงเฉินหยูอาละวาด นางพูดโดยไม่กลัว “อ้า! อย่างที่ข้าเห็น ตระกูลเฟิงมีแนวโน้มที่จะตกต่ำมากที่สุดหรือกรรมตามสนอง คิดดูสิ ก่อนหน้านี้คุณหนูรองถูกไล่ไปยังภูเขา และผลลัพธ์คืออะไร? นางกลับมาพร้อมกับการแก้แค้นอย่างตั้งใจ หลังจากนั้น เจ้าไล่คุณหนูสี่ไปที่เขตชานเมืองของเมืองหลวง ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? กรรมกลับมาสนองเจ้าแล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่าเหวี่ยงไม้เท้าของนางไปหาฮันชิ ทำให้ฮันชิต้องร้องด้วยความเจ็บปวดและตะโกนว่า “ท่านแม่ตีข้าทำไมเจ้าคะ? ข้าพูดผิดหรือเจ้าคะ? ตอนนี้คุณหนูใหญ่มีราคีไปแล้ว และคุณหนูรองก็น่าจะตายไปแล้ว ทำไมเฟินไดถึงยังไม่ได้กลับมา? คิดให้รอบคอบ ครอบครัวเฟิงเกือบจะไม่เหลือคุณหนูแล้ว!”

คำพูดของฮันชิทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าและเฟิงจินหยวนคิดทบทวน

ถูกต้อง! ตระกูลเฟิงเกือบจะไม่เหลือคุณหนูแล้ว ไม่เพียงแค่นั้นแม้บุตรชายคนโตของฮูหยินใหญ่ก็ตายไปแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่ศพของเฟิงจื่อเฮาที่นอนจมกองเลือด น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนางเนื่องจากนางอดไม่ได้ที่จะเกลียดเฟิงเฉินหยู “เจ้ามีใจที่คิดแต่จะมุ่งร้ายผู้อื่น แต่ในท้ายที่สุดเจ้าไม่ได้ทำร้ายตัวเองเท่านั้น เจ้ายังทำให้พี่ชายของเจ้าตาย เฟิงเฉินหยู, เจ้าจะเป็นหงส์เพลิงไปได้อย่างไร เท่าที่ข้าเห็น เจ้าเป็นศัตรูของตระกูลเฟิง !” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวและมองเฟิงเฉินหยูด้วยความโกรธ และบีบคั้นนางต่อไป “เช่นนี้หลานชายของข้าถูกฆ่าเพราะเจ้า เฟิงเฉินหยู เจ้าไม่ควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป! หงส์เพลิงมีลักษณะอย่างไร? ฮองเฮาอะไร ตระกูลเฟิงสูญเสียไปเพราะเจ้ามากแค่ไหน? เจ้าทำให้พี่ชายของเจ้าเสียชีวิตและทำให้อาเฮงหายตัวไป ครอบครัวเฟิงไม่มีบุตรสาวเช่นเจ้า!”

เฟิงจินหยวนเดินไปช่วยประคองฮูหยินผู้เฒ่า "ท่านแม่อย่าโกรธ ดูแลร่างกายก่อนขอรับ”

“จะไม่ให้ข้าโกรธได้อย่างไร” ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่เฟิงจินหยวน “ตอนแรกข้าไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเจ้าในการส่งเสริมเฟิงเฉินหยู แต่เฉินซื่อมักจะนำคำพูดของนักพรตเต๋าจื่อหยางมาอ้าง ข้าเห็นว่าเจ้าใส่ใจกับคำพูดของเขา ดังนั้นข้าก็ยินยอมด้วย ตอนนี้ใครก็ตาม เฟิงจินหยวน ข้าอยากถามเจ้า การแต่งงานกับองค์ชายสาม เจ้าว่าเราเสียสละครอบครัวเฟิงหรือทำลายตระกูลเฟิง ? ครอบครัวเฟิงจะพบกับหายนะ!”

เฟิงจินหยวนเข้าใจตรรกะนี้โดยธรรมชาติ ก่อนหน้านี้เขาต้องการตบเฟิงเฉินหยูให้ถึงตาย แต่เมื่อเขาเงื้อมือขึ้น เขาไม่สามารถทำมันได้

ยังคงมีความหวังอยู่ในใจเสมอ เรื่องนี้เป็นที่รู้จักโดยคนในครอบครัวของเฟิงเท่านั้น หากพวกเขาไม่ได้พูดถึง มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น? สำหรับเรื่องที่เฟิงเฉินหยูไม่ได้เป็นสาวพรหมจรรย์อีกต่อไปแล้ว การที่พวกเขาจะหาทางที่จะหลอกอีกฝ่ายนั้นเป็นไปไม่ได้

เฟิงเฉินหยูมองเห็นความสงสารปรากฏบนใบหน้าของเฟิงจินหยวน ซึ่งทำให้เกิดความหวังปรากฏในใจของนาง นางคุกเข่าต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็วและขอร้องอย่างขมขื่น “ท่านพ่อ ! นี่ไม่ใช่แผนของเฉินหยู มันเป็นแผนของพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นคนจัดการ ! เฟิงเฉินหยูเป็นคนที่ถูกทำร้าย ! ท่านพ่อต้องช่วยเฉินหยู เฉินหยูเสื่อมเสียอย่างมาก!”

เฟิงจินหยวนยังคงไตร่ตรองและไม่ตอบทันที ผู้เฒ่าของตระกูลไม่สามารถดูฉากนี้ต่อไปได้อีก เขาถอนหายใจยาวและพูดว่า “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสองวัน หลังจากสองวันแล้วได้โปรดออกจากที่พักของตระกูลเฟิงทันที ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเซ่นไหว้บรรพชน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลเฟิงของมณฑลเฟิงตงไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเจ้า… ระวังตัวให้ดี !”

มันเป็นการระวังตัวอีกครั้ง ผู้เฒ่าของตระกูลไม่หันกลับมามองขณะที่เขาเดินจากไป

ครั้งนี้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีหน้าที่จะขอร้อง เพื่อพูดถึงการขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเซ่นไหว้ ตอนนี้นางไม่มีหน้าที่จะไปพบกับผู้เฒ่าของตระกูลเฟิง

“บ่าวรับใช้!” ในที่สุดเฟิงจินหยวนก็เริ่มออกคำสั่งให้ “นำศพของยี่หยูออกจากที่นี่ วางศพของคุณชายใหญ่ไว้ในโลงศพแล้วฝังไว้บนภูเขาซีเฟิง นอกสุสานบรรพชน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องเก็บเป็นความลับสำหรับเสนาบดีคนนี้ ใครก็ตามปริปากพูดเรื่องนี้กับคนนอก อย่าตำหนิเสนาบดีคนนี้ ว่าข้าไม่ปราณี!”

คำพูดเหล่านี้ทำให้เฟิงเฉินหยูมีหนทางสู่อิสรภาพ

เหยาซื่อขมวดคิ้วและมองเขา ดวงตาของนางเหมือนจะตรวจสอบข้อเท็จจริง

เฟิงจินหยวนเบือนหน้าหนีไม่ต้องการมองเหยาซื่อ เขาโบกมือของเขาอีกครั้งเพื่อเรียกหาผู้คุ้มกันลับ “คอยเฝ้าคุณหนูใหญ่ อย่าปล่อยให้นางหลุดรอดไปจากสายตาของเจ้า!”

“ขอรับ!” ผู้คุ้มกันลับไปยืนอยู่ด้านหลังเฟิงเฉินหยูโดยตรง

เฟิงเฉินหยูจะใส่ใจทำไมว่ามีผู้พิทักษ์ที่ซ่อนอยู่คอยดูแลนางอยู่ ตราบใดที่นางมีโอกาสในชีวิต นางก็เต็มใจทำทุกอย่าง

อย่างไรก็ตามฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกว่าใจของนางเย็นลงเมื่อได้ยินเฟิงจินหยวนสั่งการ หลังจากยืนเป็นเวลานาน ยังคงมีคำถามที่หลุดออกมาจากปากของนาง “แล้วอาเฮงล่ะ? ลูกสาวอีกคนของเจ้า เจ้าจะค้นหาต่อไปหรือไม่?”

เฟิงจินหยวนกล่าว “เราจะค้นหาต่อไปอีกสองวัน หากไม่พบ นางก็คงเสียชีวิตแล้ว”

“เฟิงจินหยวน!” เหยาซื่อกัดฟันของนาง “เจ้ามันไม่ใช่คน !”

เฟิงจินหยวนขมวดคิ้วอย่างแน่นหนา และออกคำสั่งอีกครั้งให้กับผู้คุ้มกันลับ “จับตามองเหยาซื่อ!

วังซวนและหวงซวนก้าวไปข้างหน้าทันที และพูดพร้อมกัน “เจ้ากล้าหรือ?”

เฟิงจินหยวนโมโห “ถึงจุดนี้ สาวใช้คนนอกเช่นพวกเจ้า กล้าพูดเช่นนี้หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัวเฟิงหรือ ?”

วังซวนและหวงซวนจะกลัวเขาได้อย่างไร พวกเขาจ้องมองที่เฟิงจินหยวนราวกับมองดูดินทราย วังซวนกล่าวว่า “เรื่องของครอบครัวเฟิง สาวใช้เช่นพวกเราไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ฮูหยินเป็นมารดาของว่าที่พระชายา พวกเราต้องใส่ใจกับสิ่งต่างๆ ยิ่งกว่านั้น” นางจ้องมองผู้คุ้มกันลับซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเฟิงเฉินหยู “ท่านเสนาบดีเฟิงแน่ใจหรือไม่ว่าผู้คุ้มกันลับของท่านมีความสามารถในการจัดการกับเราได้ ?”

ผู้คุ้มกันลับก้มหัวลงหลังจากได้ยินคำพูดของวังซวน แน่นอนเขาไม่มีความสามารถในการจัดการกับพวกเขา แค่เด็กสาวสองคนก็มีปัญหาอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีบานซูที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

เฟิงจินหยวนก็รู้ว่าวังซวนไม่ได้พูดเกินจริง แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงการคืนดีกันอย่างแท้จริง ดังนั้นเขาจึงจ้องมองเหยาซื่อและกล่าวว่า “อย่างไรเจ้าก็ยังเป็นอนุของตระกูลเฟิง คิดให้รอบคอบว่าเจ้าควรประพฤติอย่างไร”

เขาโกรธและไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาเพียงแต่เฝ้าดูบ่าวรับใช้เข้าและออกจากห้องเพราะพวกเขาดูแลห้อง เฟิงเฉินหยูยังคงคุกเข่าบนพื้นดิน สะอื้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในเวลานี้ที่จินเฉินสังเกตเห็นสาวใช้ตคนหนึ่งแอบมองเข้าไปในห้องจากทางหางตาของนาง นางจำสาวใช้คนนี้ได้ทันที นางชี้ไปที่ประตูอย่างรวดเร็วตะโกนดัง ๆ ออกมาว่า “จับนางไว้! รีบจับนางไว้!”

ไม่มีใครรู้ว่าคำพูดของจินเฉินหมายถึงอะไร แต่หวงซวนก็รีบเคลื่อนไหวทันที นางก็จับตัวสาวใช้ไว้อย่างแน่นหนาแล้วโยนนางเข้าไปในห้องอย่างแรง

สาวใช้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวใช้ที่ร่วมมือกับเฟิงจื่อเฮาที่ทำร้ายเฟิงหยูเฮง

เมื่อถูกผลักโดยหวงซวน นางหยุดที่ตรงหน้าศพของเฟิงจื่อเฮา ซึ่งยังไม่ได้ถูกเอาใส่โลงศพ เมื่อสาวใช้เห็นใบหน้าของเฟิงจื่อเฮา นางก็ส่งเสียงกรีดร้องและเป็นลมไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด