ตอนที่แล้วตอนที่ 160 สับเปลี่ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 162 หยานเทียนจ้าว

ตอนที่ 161 วิญญาณชั่วร้าย


"นายท่าน ข้าควรจะเรียกท่านว่าเช่นไรดี?" หม่าเทียนเฉิงในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความรู้สึกที่น่าสยดสยองก่อนหน้านี้ที่หลิงฮันได้มอบให้เขาหายไปอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สามารถปรุงเม็ดยาใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพีได้ แล้วคนอื่นๆในแคว้นพิรุณจะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้หรือ?

แน่นอนว่าไม่มีใครทำได้!

"หลิงฮัน เจ้าจะเรียกข้าว่าหลิงฮันก็ได้" หลิงฮันตอบกลับ

หม่าเทียนเฉิงเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา เขาไม่อยากเรียกชายหนุ่มว่า "นายน้อย" แม้แต่น้อย แต่หลิงฮันเป็นลูกค้าที่สำคัญมาก ถ้าเขาทำให้หลิงฮันไม่พอใจและหลิงฮันตัดสินไม่นำเม็ดยาสร้างรากฐานมาประมูลที่ตำหนักสมบัติวิญญาณในนามของเขา...มันจะทำให้เขาเกิดปัญหาอย่างแท้จริง

"นายน้อยฮัน!" เขาทำได้แค่ทำตามที่หลิงฮันกล่าวและเรียกเขาว่านายน้อย จากนั้นเขากล่าวต่อว่า "ได้โปรดตามข้ามา ข้าจะเป็นคนช่วยดูแลนายน้อยฮันในขั้นตอนการลงทะเบียนเอง"

"ตกลง" หลิงฮันกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ข่าวเกี่ยวกับเม็ดยาที่มีระดับใกล้เคียงกับระดับปฐพีได้ปรากฏที่ตำหนักสมบัติวิญญาณได้แพร่กระจายไปถึงหูของตัวตนระดับสูงอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าชายชราที่สวมชุดปักได้ปรากฏตัวออกมาและต้อนรับหลิงฮันด้วยความนับถือ จากนั้นเขาได้กล่าวแนะนำตัวเองว่า "ข้าเป็นผู้อาวุโสสามแห่งตำหนักสมบัติวิญญาณ สกุลของข้าคือเจี่ย และชื่อของข้าคือเจี่ยโป๋หยุน"

"ผู้อาวุโสเจี่ย" หลิงฮันทักทายเขาพร้อมกับผสานมือด้วยความนับถือ ชายชราผู้นี้เป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณและยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้อนรับหลิงฮันอย่างสุภาพ

"สหายน้อย เจ้าตั้งใจที่จะประมูลเม็ดยาสร้างรากฐานที่นี่หรืออยากขายให้ตำหนักสมบัติวิญญาณของพวกเราโดยตรง?" เจี่ยโป๋หยุนถาม

หลิงฮันยิ้มออกมาและตอบกลับไปว่า "ประมูล" เม็ดยาสร้างรากฐานจะช่วยให้คนทะลวงผ่านระดับถัดไปได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่จะนำพวกมันไปประมูลเพื่อเพิ่มมูลค่าของมัน

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจี่ยโป๋หยุนดูผิดหวังเล็กน้อย ถ้าเม็ดยาสร้างรากฐานถูกขายให้กับตำหนักสมบัติวิญญาณโดยตรง พวกเขาจะสามารถนำพวกมันไปประมูลขายต่อได้ทีละเม็ดได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังจะช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้กับตำหนักสมบัติวิญญาณและยังเป็นเม็ดยาที่หาได้ยากมากและมีราคาที่สูงมาก และนี่จะทำให้ตำหนักสมบัติวิญญาณได้รับกำไรสูงสุดจากเม็ดยาสร้างรากฐานได้

แต่น่าเสียดายที่เจ้าเด็กนี่มันไม่ได้โง่

อย่างไรก็ตาม เม็ดยาสร้างรากฐานเก้าเม็ดจะต้องถูกประมูลออกไปได้ในราคาที่สูงลิ่ว ดังนั้นตำหนักสมบัติวิญญาณจะได้รับรายได้มากพอจากค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียว

"สหายน้อย ถ้าลูกค้าว่าจ้างให้ตำหนักสมบัติวิญญาณประมูลสินค้า พวกเราจะเก็บค่าธรรมเนียมสิบห้าเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเม็ดยาสร้างรากฐานนั้นมีค่ามากเกินไป ข้าจึงตัดสินใจที่จะลดค่าธรรมเนียมเหลือแค่สิบสี่เปอร์เซ็นต์ เจ้าคิดเห็นเช่นไร?" เจี่ยโป๋หยุนถามพร้อมกับรอยยิ้ม

โหดเหี้ยม มันเป็นค่าธรรมเนียมที่สูงมาก

หลิ่วอู๋ตงมุ่ยปาก มูลค่าของเม็ดยาสร้างรากฐานเก้าเม็ดแน่นอนว่ามันต้องสูงกว่าหนึ่งร้อยล้าน และค่าธรรมเนียมที่พวกมันจะเก็บสิบสี่เปอร์เซ็นต์นั้นมันมากกว่าสิบล้านเหรียญอย่างแน่นอน ซึ่งมากกว่ากำไรสุทธิทั้งเดือนของตระกูลหลิ่วเสียอีก

แน่นอนว่าทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะมูลค่าของเม็ดยาสร้างรากฐานมันสูงเกินไป

"ตกลง" หลิงฮันพยักหน้า เพราะยังไงเงินไม่ใช่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด

เจี่ยโป๋หยุนยิ้มออกมาและกล่าวต่อว่า "ถ้าเจ้าต้องการขายเม็ดยาสร้างรากฐานให้ได้ในราคาที่ดี ทางเลือกที่ดีที่สุดคือประมูลหลายครั้ง ถ้าสหายน้อยไม่เร่งรีบที่จะใช้เงิน ทำไมไม่ลองวิธีนั้นดูล่ะ?"

ยิ่งเม็ดยาสร้างรากฐานถูกขายออกไปราคาสูงเท่าไหร่ รายได้ที่ตำหนักสมบัติวิญญาณจะได้รับก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เจี่ยโป๋หยุนใช้แผนนั่นสร้างรายได้ให้กับตำหนักสมบัติวิญญาณให้ได้มากที่สุด

หลิงฮันส่ายหัวและตอบกลับไปว่า "ข้าต้องการประมูลพวกมันในครั้งเดียว"

เจี่ยโป๋หยุนรู้สึกงงงวยไปชั่วครู่แล้วได้ถอนหายใจออกมา ไม่ว่ายังไงก็ตามเม็ดยาสร้างรากฐานเป็นของหลิงฮัน ดังนั้นถึงแม้เขาจะเป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ เขาสามารถทำได้เพียงแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำเท่านั้น

สำหรับหลิงฮัน เม็ดยาสร้างรากฐานเป็นอะไรที่เขาสามารถปรุงมันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่สนใจว่ามันจะถูกประมูลขายในราคาที่ดีหรือไม่ดีหรือไม่ เพราะท้ายที่สุด มันจะต้องจบลงด้วยราคาที่สูงลิ่วอย่างแน่นอน

"ตกลง นี่เป็นหนังสือรับรองของเจ้า เมื่อเม็ดยาถูกขายออกไปแล้ว สหายน้อยสามารถนำสิ่งนี้ไปถอนเงินของเจ้าได้ เจ้าสามารถให้คนอื่นมารับแทนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าหากหนังสือรับรองของเจ้าสูญหายให้รีบมาบอกพวกข้าที่นี่ทันที มิฉะนั้น คนอื่นจะมาถอนเงินของเจ้าโดยที่เจ้าไม่ได้รับอนุญาตและข้าไม่สามารถทำอะไรได้" เจี่ยโป๋หยุนเตือน

เหรียญตรานี่จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ตำหนักสมบัติวิญญาณและหลิงฮันจะเก็บมันไว้คนละครึ่ง ทั้งสองส่วนสามารถผสานกันได้อย่างลงตัว ทั้งเจี่ยโป๋หยุนและหลิงฮันต่างทิ้งรอยนิ้วมือของตัวเองไว้บนเหรียญตรา วิธีนี้จะช่วยทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

"สหายน้อย ถ้าเจ้ามีเม็ดยาอย่างอื่นอีกในอนาคต ทำไมเจ้าไม่นำมาขายที่ตำหนักสมบัติวิญญาณของพวกเราอีกครั้งล่ะ? สำหรับค่าธรรมเนียม...พวกเราสามารถตกลงกันทีหลังได้" เจี่ยโป๋หยุนกล่าว

"ตกลง!" หลิงฮันกล่าว

หลังจากนั้นหลิงฮันและพวกของเขาได้เดินออกมาจากตำหนักสมบัติวิญญาณ ส่วนฟานต่งปิงแน่นอนว่ามันจะต้องจบไม่สวย หลิงฮันไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมันมากนัก แม้ว่าฟานต่งปิงจะเป็นนักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลาง แต่ความผิดของมันที่ขโมยของมูลค่ารวมมากกว่าหนึ่งร้อยล้านมันมากเกินไป คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับมันที่จะหนีโทษประหารชีวิต

ใครขอให้มันโลภมากเกินไปเองล่ะ?

เนื่องจากหลิงฮันค่อนข้างเสียเวลาไปมาก ดังนั้นหลิงฮันจึงมุ่งหน้าไปที่ศาลาบุปผางามทันทีพร้อมกับหลิ่วอู๋ตงและฮูหนิว

ทั้งสามค่อยๆเดินไปตามถนนอย่างช้าๆ ฮูหนิววิ่งเล่นไปทั่วระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นอมยิ้มหรือลูกอมหรืออะไรอย่างอื่น ตราบใดที่มันเป็นของใหม่ นางจึงอยากลองกินพวกมันดู

ดังนั้น เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงศาลาบุปผางาม ท้องฟ้าได้มืดครึ้มเรียบร้อยแล้ว

"นายน้อยหลิง ได้โปรดตามข้ามา" หยุนชวงชวงกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ด้านนอก และเมื่อนางเห็นหลิงฮัน นางจึงรีบเดินออกไปต้อนรับเขาทันที

พวกเขาได้เดินมาถึงลาน เมื่อหยุนชวงชวงผลักประตูและเดินเข้าไปข้างใน พวกเขาได้เห็นคุณหญิงหยานดูแลเด็กหนุ่มอยู่และไม่ได้ออกมาต้อนรับพวกเขา คุณหญิงหยานกล่าวว่า "พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการมาถึงของท่าน นายน้อยหลิง โปรดยกโทษให้ข้าด้วยที่ข้าไม่ได้ออกไปต้อนรับท่านด้วยตัวเอง"

หลิงฮันมองไปที่ทั้งสองคนและกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจดีว่าท่านไม่สะดวก นี่ควรจะเป็นบุตรชายของท่าน ข้าพูดถูกต้องไหม? เขาได้หลับนิทรามานานหลายปี ดังนั้นร่างกายของเขาควรจะอ่อนแออย่างมาก"

"ขอบคุณที่ท่านเข้าใจ นายน้อยหลิง" คุณหญิงหยานกล่าว จากนั้นนางได้หันหน้าไปหาเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างนาง "เทียนเอ๋อ ท่านผู้นี้คือผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้า เจ้าจะไม่ทักทายพี่ใหญ่หลิงของเจ้าหน่อยหรือ?"

"คารวะพี่ใหญ่หลิง!" เด็กหนุ่มรีบเคารพทันที ใบหน้าของเขาซีดขาวมากและเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

"นายน้อยหลิง เขาคือลูกชายของข้า ชื่อของเขาคือ หยานเทียนจ้าว" คุณหญิงหยานแนะนำให้หลิงฮันรู้จัก จากนั้นนางได้หันไปมองที่หลิ่วอู๋ตงและอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ "นายน้อยหลิงท่านช่างเป็นคนโชคดียิ่งนักที่ได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงแห่งตระกูลหลิ่ว"

ทันใดนั้น ใบหน้าของหลิ่วอู๋ตงแดงเถือกทันที และความรู้สึกแง่บวกที่นางมีต่อคุณหญิงหยานเพิ่มสูงขึ้นทันที นางชอบคำพูดแบบนั้น

"มา มา มา พวกท่านเชิญนั่งลงก่อน" คุณหญิงหยานนำทางพวกเขาเข้าไปในลานด้านข้าง มันมีอาหารที่แสนอร่อยวางอยู่บนโต๊ะแล้วและมีหญิงสาวที่งดงามอย่างมากแปดคนยืนอยู่ข้างโคมไฟ เมื่อแสงจากโคมไฟเหล่านั้นกระพริบ มันจะเป็นฉากที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

พวกเขาทุกคนต่างนั่งลงในที่นั่งของตัวเองตามสถานะของพวกเขาในฐานะเจ้าภาพและแขก แน่นอนว่าคุณหญิงหยานจะต้องนั่งเก้าอี้หัวโต๊ะและที่นั่งทางด้านซ้ายของนางคือที่นั่งของลูกชายนาง และหยุนชวงชวงนั่งอยู่ด้านข้างเขา ในขณะเดียวกัน หลิงฮันนั่งอยู่ทางด้านขวาของคุณหญิงหยานและมีฮูหนิวอยู่ด้านข้างเขาและสุดท้ายคือที่นั่งของหลิ่วอู๋ตง

"พี่สาวหลิ่ว ท่านเป็นคนที่งดงามอย่างยิ่ง" หยานเทียนจ้าวกล่าวชม และสีหน้าของเขาเริ่มแดงบนใบหน้าที่ซีดขาว ราวกับว่าเขากำลังเขินอาย

ถ้าเป็นชายหนุ่มคนอื่นพูดแบบนั้นกับหลิ่วอู๋ตง นางคงไม่มีความสุข อย่างไรก็ตาม อย่างแรกหยานเทียนจ้าวมีอายุประมาณ 15-16 ปีเท่านั้น และอย่างที่สองนางรู้สึกยินดีที่ได้รับคำชมแบบนั้นต่อหน้าหลิงฮัน ดังนั้น ความรู้สึกที่ดีของนางต่อเด็กหนุ่มคนนี้จึงดีขึ้นมาก

แน่นอนว่านั่นคือความรักที่พี่สาวมีต่อน้องชาย

หลิงฮันเพียงแค่ยิ้มออกมา ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หยานเทียนจ้าวและความรู้สึกที่หนาวเย็นได้ปะทุขึ้นอยู่ในหัวใจของเขา

นี่มันไม่ใช่ความกลัว แต่...เป็นความเกลียดชัง ความเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง มันราวกับว่ามีวิญญาณร้ายซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของหยานเทียนจ้าวเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความเกลียดชังอย่างสุดซึ้งปะทุขึ้นอยู่ในใจของเขา จากนั้นหลิงฮันได้หันไปมองที่ฮูหนิวและเห็นว่าดวงตาของเด็กน้อยกำลังจ้องเขม็งไปที่หยานเทียนจ้าว ใบหน้าเล็กๆของนางดูแข็งกระด้างและนางกำลังกัดฟันแน่น

เห็นได้ชัดว่าฮูหนิวรู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายในตัวเขา

หลิงฮันจมอยู่ในความคิดของเขา เม็ดยาคงกระพันสามารถทำให้คนที่ติดอยู่ในนิทราตื่นขึ้นมาได้ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เหตุใดหยานเทียนจ้าวถึงหลับนิทรา? จากคำพูดของคุณหญิงหยานและหยุนชวงชวงที่พูดออกมา หยานเทียนจ้าวนั้นได้นอนหลับนิทราไปประมาณ 10 ปี

ในเวลานั้น เขาเริ่มหลับไปเพราะความเจ็บป่วยบางอย่างหรือไม่? หรือเขาได้ก่อความผิดร้ายแรงเป็นเหตุทำให้จอมยุทธที่แข็งแกร่งกักขังวิญญาณของเขาและบังคับให้เขาต้องนอนหลับเป็นเวลานาน?

นั่นคือคำถามในใจของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด