ตอนที่แล้วตอนที่ 159 อัตราการหลอมสำเร็จที่น่าสะพรึงกลัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 161 วิญญาณชั่วร้าย

ตอนที่ 160 สับเปลี่ยน


หม่าเทียนเฉิงรับขวดเม็ดยาจากฟานต่งปิง ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตรวจสอบขวดเม็ดยาที่หลิงฮันนำมาอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่รู้ว่าฟานต่งปิงได้ทำการสับเปลี่ยนขวดเม็ดยาไปแล้ว เขาเปิดจุกขวดออกมองดูข้างในและอดที่จะแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาไม่ได้

เม็ดยาเหล่านี้คือเม็ดยารวมวิญญาณ แถมคุณภาพยังไม่ได้น่าประทับอะไรมากด้วย ดูแล้วคุณภาพของพวกมันน่าจะอยู่ที่ห้าหรือหกดาวเท่านั้น ซึ่งไม่มีมูลค่ามากพอจะนำมาประมูลที่ตำหนักสมบัติวิญญาณ

“เจ้าหนุ่ม เม็ดยาเหล่านี้เป็นเพียงเม็ดยารวมวิญญาณธรรมดา พวกมันไม่มีค่ามากพอจะนำไปประมูล” หม่าเทียนเฉิงโยนขวดเม็ดยาคืนฟานต่งปิง ใบหน้าของเขามีร่องรอยของความไม่พอใจ เมื่อครู่เขาต้องสูญเสียความเยือกเย็นไปเพียงเพราะเม็ดยารวมวิญญาณ เรื่องนี้ทำให้เขาโมโหอย่างมาก

หลิวอู๋ตงเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น นางจ้องมองไปยังฟานต่งปิงด้วยจิตสังหารเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน ฟานต่งปิงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก มันไม่รู้ว่าขวดเม็ดยาที่มันสลับมามีเม็ดยาสร้างรากฐานใส่เอาไว้อยู่ แต่มันเดาว่าเม็ดยาเหล่านี้ควรเป็นเม็ดยาระดับดำเป็นอย่างน้อย การที่สามารถคว้าเม็ดยาล้ำค่าขนาดนี้มาได้ด้วยเงินเพียงหมื่นเหรียญ นับว่าการกระทำของมันครั้งนี้ได้กำไรเป็นอย่างมาก

...แต่ถ้ามันรู้มาก่อนว่าเม็ดยาเหล่านี้คือเม็ดยาสร้างรากฐาน มันคงจะไม่กล้าทำเรื่องต่ำทรามเช่นนี้แน่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะใหญ่เกินกว่าที่มันจะรับมือได้

ยิ่งกว่านั้น คนที่มันทำการโกงมาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่ดูมีอายุประมาณสิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น ถึงเขารู้ตัวว่าขวดเม็ดยาถูกสับเปลี่ยนแล้วจะยังไงล่ะ? เขาจะทำอะไรกับนักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลางเช่นมันได้?

“ไปกันเถอะ!” มันพูดกับหญิงสาวแต่งหน้าหนาข้างๆ เพราะอย่างไรสิ่งที่มันทำลงไปก็เป็นสิ่งที่ผิด ทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้คือควรจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลิงฮันยิ้มและพูด “เจ้าช่างกล้าจริงๆที่บังอาจมาโกงข้า!”

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร ข้าขอตัวก่อน!” หัวใจของฟานต่งปิงเต้นอย่างบ้าคลั่ง การขโมยเม็ดยาระดับดำมาได้ถือว่าเป็นโชคลาภสำหรับมันอย่างแท้จริง

“เจ้าออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” หลิงฮันพูดอย่างสงบ

“เหอะ ข้าคือนักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลาง เจ้ากล้าหยุดข้าไม่ให้ออกไปรึ?” ฟานต่งปิงถามอย่างเย็นชาและเตรียมตัวเดินออกไป

หมับ!

หลิงฮันยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของฟานต่งปิง และพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ใช่แค่จะหยุดเจ้า แต่ข้าจะทุบตีเจ้าด้วย!”

“เจ้ากล้ารึ!” ฟานต่งปิงตะโกนออกมา “ไปกันเถอะ!”

“ไปหามารดาเจ้าสิ!”

หมัดของหลิงฮันชกใส่ตาซ้ายของฟานต่งปิง ทำให้มันต้องร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและรีบเอามือมาปิดตาทันที เมื่อมันเอามือลง ดวงตาของมันได้กลายเป็นสีม่วงและดำ

“จะ...เจ้าเด็กเวร!” ฟานต่งปิงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด “เห้ย พวกคนของตำหนักสมบัติวิญญาณ พวกเจ้าไม่คิดจะเข้ามาห้ามและยอมให้มีคนก่อความผิดขึ้นที่อาณาเขตของพวกเจ้ารึ?”

คำพูดของฟานต่งปิงทำให้สีหน้าของหม่าเทียนเฉิงกลายเป็นลำบากใจ จริงอยู่ที่ในตำหนักสมบัติวิญญาณมีกฎห้ามก่อความวุ่นวาย แต่เพราะเขาไม่ค่อยชอบนิสัยของฟานต่งปิง เขาจึงไม่ได้เข้าไปห้ามหลิงฮันตั้งแต่แรก แต่ในเมื่อฟานต่งปิงพูดแบบนั้นออกมาแล้ว หากจะให้เขาทำเป็นไม่ได้ยินก็คงจะไม่สมควรเท่าไหร่

“หนุ่มน้อย หยุดเดี๋ยวนี้!” หม่าเทียนเฉิงตะโกนใส่หลิงฮัน

ปัง ปัง ปัง ปัง หลิงฮันทำราวกับไม่ได้ยินอะไรแม้แต่น้อย เขายังคงจดจ่ออยู่กับการทุบตีฟานต่งปิงอย่างรุนแรง บังอาจมาโกงข้างั้นรึ...? ช่างกล้ายิ่งนัก!

หม่าเทียนเฉิงกลายเป็นโมโห เด็กหนุ่มคนนี้กล้าที่จะเมินเฉยคำพูดของเขา แถมยังกล้าใช้ความรุนแรงในตำนักสมบัติวิญญาณอีก ช่างกล้ายิ่งนัก! หม่าเทียนเฉิงเค้นเสียงพูดออกมา “ทหาร มาจับกุมเจ้าเด็กนี้ซะ!”

หลิวอู๋ตงก้าวไปข้างหน้าทันที นิสัยอันดุร้ายของฮูหนิวก็ปรากฏออกมา นางแยกเขี้ยวใส่หม่าเทียนเฉิง

หลิงฮันนำชวดหยกออกมาจากเสื้อคลุมของฟานต่งปิง แน่นอนว่าเขาต้องคุ้นเคยกับของของเขาอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องตรวจสอบมันและโยนขวดไปทางหม่าเทียนเฉิงพร้อมกับพูด “นี่คือสิ่งที่ข้าอยากประมูล!”

หม่าเทียนเฉิงยิ้มอย่างเย็นชาและพูด “เจ้ากล้าลงมือในตำหนักสมบัติวิญญาณและยังจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”

“ผิดแล้ว ข้าแค่จับโจรและนำของของข้ากลับคืนมาพร้อมกับลงโทษหัวขโมยด้วยตัวเองก็เท่านั้น” หลิงฮันพูดอย่างสงบและจ้องมองอย่างองอาจไปยังหม่าเทียนเฉิง

จิตใจของหม่าเทียนเฉิงสั่นไหว แววตาของเด็กหนุ่มดูราวกับสามารถมองเข้าไปถึงเบื้องลึกและจิตวิญญาณของเขา จนทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว มันเผลอเปิดจุกขวดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และในตอนนั้นเอง ใบหน้าของมันปรากฏความตกตะลึงขึ้นมา

ในฐานะผู้ประเมิน แน่นอนว่าเขาไม่คุ้นเคยกับศาสตร์แห่งการปรุงยา แต่เขาคุ้นเคยกับเม็ดยาประเภทต่างๆเป็นอย่างดี เพราะว่านั่นเป็นงานของมัน

“รากฐาน... เม็ดยาสร้างรากฐาน!” หม่าเทียนเฉิงอ้าปากค้างทันที

ในตอนนั้นเอง เขาเชื่อเลยว่าสิ่งที่หลิงฮันพูดเป็นความจริง และฟานต่งปิงจะต้องเล่นไม่ซื่อโดยการสับเปลี่ยนเม็ดยาแน่นอน ไม่เช่นนั้น นักปรุงยาระดับเหลือขั้นกลางอย่างฟานต่งปิงจะครอบครองเม็ดยาสร้างรากฐานได้อย่างไร?

“เจ้ามีความสามารถในการประเมินที่ดีเหมือนกันนี่” หลิงฮันพยักหน้า เม็ดยาสร้างรากฐานนั้นไม่เคยปรากฏที่แคว้นพิรุณมาก่อน แต่ชายวัยกลางคนคนนี้กลับสามารถรู้ได้ว่าเม็ดยาเหล่านี้คือเม็ดยาสร้างรากฐานเพียงแค่การมองครั้งเดียว ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีความรู้และประสบการณ์อยู่บ้าง

หม่าเทียนเฉิงเลิกจนใจหลิงฮันไปชั่วขณะ เขาหยิบเม็ดยาสร้างรากฐานออกมาและตรวจสอบคุณภาพของมัน

หลิงฮันยิ้ม ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นเขาก็จะจัดการปัญหาของเขาด้วยตัวเอง เท้าของหลิงฮันถีบลงไปที่หน้าของฟานต่งปิง “เจ้ากล้ามากที่โกงแม้กระทั่งของของข้า!”

“เจ้าหนู เจ้าต้องตายแน่!” ฟานต่งปิงพูดอย่างเคร่งจรึม “ข้าคือนักปรุงยา และเจ้ากล้าทำร้ายข้า บทลงโทษที่เจ้าจะได้รับคือความตาย! ยิ่งกว่านั้น เจ้าถึงขนาดกล้าขโมยเม็ดยาของข้า ความผิดของเจ้าจะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก!”

“เจ้ายังกล้าไม่ยอมรับความผิดอีกรึ!” หลิงฮันส่ายหัวและถามหลิวอู๋ตง “ตามกฎของแคว้นพิรุณแล้ว คนอย่างมันต้องขโมยเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ถึงจะได้รับโทษประหาร?”

โทษที่โจรจะได้รับนั้นมีทั้งหนักและเบา ซึ่งขึ้นอยู่กับมูลค่าของสิ่งที่ขโมยมากับสถานะของโจรคนนั้น ถ้าเงินสิบเหรียญถูกขโมยโดยคนธรรมดาที่ยากจน นั่นจะถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง แต่สำหรับคนที่ร่ำรวย การขโมยเงินสิบเหรียญจะทำให้คนคนนั้นเพียงแค่ถูกดูหมิ่นไปสักพักเท่านั้น

ถ้านักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลางอย่างฟานต่งปิงจะถูกลงโทษจนถึงตายเพราะการขโมย มูลของของสิ่งที่มันขโมยไปจะต้องมหาศาลเป็นอย่างมาก

หลิวอู๋ตงคิดอยู่ชั่วขณะและพูด “อย่างน้อยก็สิบล้าน”

หลิงฮันหันไปถามหม่าเทียนเฉิง “เม็ดยาสร้างรากฐานเหล่านั้นมีค่าถึงสิบล้านรึไม่?”

หม่าเทียนเฉิงจ้องหลิงฮันอย่างเกรี้ยวกราด หลิงฮันกำลังพูดล้อเล่นอะไรอยู่? นี่คือเม็ดยาสร้างรากฐานเชียวนะ ราคาขั้นต่ำหนึ่งเม็ดก็อยู่ที่สิบกว่าล้านแล้ว เจ้ามีความรู้ทั่วไปบ้างรึเปล่า? แต่เมื่อหม่าเทียนเฉิงนึกขึ้นได้ว่าเม็ดยาสร้างรากฐานเหล่านี้เป็นของหลิงฮัน เขากลายเป็นอ่อนน้อมอย่างรวดเร็วและพูด “ในขวดนี้มีเม็ดยาสร้างรากฐานอยู่ทั้งหมดเก้าเม็ด ราคาต่ำสุดที่พวกมันจะขายได้คือหนึ่งร้อยล้านเหรียญ!”

หนึ่งร้อยล้าน!

ฟานต่งปิงรู้สึกราวกับมันจะเป็นลมพร้อมกับมีเหงื่อไหลท่วมไปทั่วตัว ถ้าหลิงฮันสามารถนำของราคาหนึ่งร้อยล้านมาประมูลได้ เขาจะเป็นเพียงคนธรรมดาได้อย่างไร? แต่เมื่อมันคิดถึงเรื่องที่มันจะต้องถูกจับเพราะทำการลักขโมย ไม่ใช่แค่มันจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เงินมหาศาลจำนวนหนึ่งร้อยล้านนั้นเพียงพอที่จะทำให้โทษของมันถึงตายแน่นอน

ข้างๆมัน หญิงสาวแต่งตัวหรูหราเริ่มตัวสั่นและค่อยๆเขยิบถอยห่างจากมัน นางพยายามจะทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางกับฟานต่งปิงไม่ใช่พวกเดียวกัน

“ไม่ เม็ดยาเหล่านั้นเป็นของข้า! ของข้า!” สิ่งเดียวที่ฟานต่งปิงสามารถทำได้ในตอนนี้คือยืนกรานว่าสิ่งที่มันพูดเป็นความจริง ไม่อย่างนั้น ชีวิตของมันจะต้องจบสิ้นแน่

“เจ้าโง่บ้าเปล่า?” หลิงฮันเตะมันไปหนึ่งที “หมูโง่อย่างเจ้าจะสามารถหลอมเม็ดยาที่ใกล้เคียงกับระดับปฐพีได้อย่างไร? โง่แต่ตัวยังไม่พอ ความคิดของเจ้าก็ยังโง่ด้วยรึ?”

ใบหน้าของฟานต่งปิงกลายเป็นขาดซีด มันรู้ตัวแล้วว่ามันได้ไปจิ้มรังแตนเข้าให้แล้ว... เม็ดยาที่มีระดับใกล้เคียงกับระดับปฐพี... บางทีแม้แต่สองนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ของแคว้นพิรุณก็ยังไม่สามารถหลอมเม็ดยาระดับสูงเช่นนี้ได้ ชายหนุ่มคนนี้จะต้องมีเบื้องหลังที่น่าสะพรึงกลัวแน่นอน!

“ผู้เชี่ยวชาญหม่า!” ทหารยามสามคนรีบเดินเข้ามาและมองไปที่หม่าเทียนเฉิงด้วยความสงสัย พวกเขาทั้งสามมาที่นี่เพราะเห็นว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้น

“จับกุมชายคนนั้นซะ!” หม่าเทียนเฉิงออกคำสั่งอย่างเย็นชา “จากนั้นรายงานไปยังทหารแห่งจักรวรรดิด้วยว่าพวกเราพบโจรที่ก่อความผิดขึ้นที่นี่!”

“รับทราบ!” ในตอนนั้นเองฟานต่งปิงกำลังนอนหมอบราวกับสุนัขได้ถูกทหารยามสามคนลากตัวออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด