ตอนที่แล้วบทที่ 9 เอามันออกมา 2 (1) [รีไรท์อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 เอามันออกมา 3 (1) [อ่านฟรี]

บทที่ 9 เอามันออกมา 2 (2) [อ่านฟรี]


บทที่ 9 เอามันออกมา 2 (2)

“ได้ กินให้หมด”

คาร์ลโยนขนมปังในถุงทั้งหมดลงในโพรงของต้นไม้โดยไม่ต้องห่วงว่ามันจะไหลเข้าไปทิศทางใด ไม่ต้องกังวลเพราะมันจะหายไปในความมืดซึ่งบัดนี้ความมืดของมันเริ่มเบาบางกลายเป็นสีเทา มันเริ่มมีแสงสว่างแล้ว

‘ฉันคิดว่าคงถึงเวลาที่ต้องไปหาเงินเพิ่มแล้ว....’

คาร์ลเทขนมปังในถุงที่เหลือเข้าไปในโพรงก่อนตรงดิ่งกลับไปยังคฤหาสน์ เขาไม่ได้เห็นสองพี่น้องอีกแต่นั่นนับเป็นเรื่องดีสำหรับเขา อย่างไรก็ตามในระหว่างทางกลับบ้านเขาได้เห็นแมวสองตัวที่กำลังไล่ฟัดกันอยู่ก่อนที่พวกมันทั้งคู่จะสะดุ้งสุดตัว

‘มันเป็นลูกแมวตัวเมื่อวานใช่มั้ย พวกมันคงจำฉันไม่ได้หรอก?’

ลูกแมวขนสีเงินดวงตาสีทองและแมวขนสีน้ำตาลแดงดวงตาสีทอง ลูกแมวทั้งสองตัวไม่ได้ส่งเสียงร้องใดๆเมื่อมองมาที่คาร์ลและเขาไม่ต้องการแสร้งแสดงเป็นคนอ่อนโยนใดๆกับแมวทั้งคู่ขณะที่มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ต่อไป

จากนั้นเขาก็ได้ยินบางสิ่งจากท่านเคาน์เดอรัช ที่ทำให้เขาเกือบเป็นลม

“ท่านพ่อช่วยพูดอีกครั้งได้ไหมขอรับ?”

“ได้สิ คาร์ล”

บาเซ็นเองก็ยืนอยู่ข้างๆคาร์ลเช่นกัน มันเป็นเรื่องราวในตระกูลเฮนิตัสที่ไม่ได้กล่าวถึงในนิยายเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าเขาในขณะนี้

“ลูกจะต้องเดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อเข้าเฝ้าพระราชาในฐานะตัวแทนของตระกูลเรา”

อ่า!!!!....เขารู้สึกว่าอาการปวดหัวจะเริ่มถามหาแล้วสิ

“เดิมทีบาเซ็นควรจะไป แต่ถึงอย่างนั้นลูกก็เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเรา”

คาร์ล หุบและอ้าปากของเขาซ้ำๆ ในขณะที่เขามองดูท่านเคานต์เดอรัชที่นั่งส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้

เข้าเฝ้าพระราชามีเหตุการณ์ใดในนิยายนี้นะที่ต้องไปเข้าเฝ้าพระราชากัน...เขาพยายามทบทวนเนื้อหาเพิ่มเติมในขณะที่ท่านเคานต์ยังคงพูดต่อ

“พระราชาเป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่และครอบครัวผู้ครองนครของแต่ละดินแดนได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกจะได้ไปเข้าเฝ้าพระราชา ซึ่งบาเซ็นก็ได้ทำหน้าที่คล้ายกันนี้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ดังนั้นพ่อเลยอยากให้ลูกเป็นคนไปในครั้งนี้”

งานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ที่จัดโดยพระราชา ทำให้คาร์ลนึกถึงแค่เหตุการณ์เดียว เหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้น ณ จัตุรัสกลางเมือง องค์กรลับได้ก่อเหตุร้ายขึ้นเมื่อมีชาวบ้านจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในที่เดียว พระเอกของเรื่องอย่างเชวฮันคือผู้ที่สามารถป้องกันแผนร้ายของพวกมันได้ครึ่งหนึ่ง เหตุการณ์นั่นน่าจะเป็นครั้งที่สี่ที่เชวฮันและองค์กรลับได้ปะทะกัน ผลที่ตามมาเชวฮันสามารถช่วยชีวิตชาวบ้านได้เป็นจำนวนมากในจัตุรัสกลางเมือง ก่อนที่จะได้มารู้จักกับองค์ชายรัชทายาทพร้อมกับพัฒนามิตรภาพได้อย่างรวดเร็ว

คาร์ลสะท้านไปทั้งตัว

ตั้งแต่ที่นิยายได้เลือกบรรยายในมุมมองของเชวฮัน ทำให้ไม่ได้กล่าวถึงการรวมตัวกันของเหล่าขุนนางทั้งหมด กล่าวว่าเชวฮันได้รับสมาชิกบางส่วนเข้ารวมกลุ่มทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ที่จัตุรัสกลางเมืองเช่นเดียวกับที่เชวฮันได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากองค์รัชทายาท

แต่เขาต้องไปถึงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตีของพวกก่อการร้าย? แน่นอนว่าเขาไม่ทราบว่าขุนนางเหล่านี้จะรวมตัวกันอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองหรือไม่? คาร์ลเริ่มนึกถึงข้อมูลในนิยาย กำเนิดวีรบุรุษ

[ชาวเมืองจำนวนมากมาชุมนุมกัน ณ จัตุรัสกลางเมือง ยังมีที่นั่งที่ยังว่างอยู่สำหรับเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่จะมาถึงในไม่ช้า เชวฮันสามารถมองเห็นกลุ่มคนพวกนั้นที่ดูเหมือนว่าจะมีตำแหน่งที่สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นความจริงที่ว่าเขามีประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ทั้งเด็ก คนแก่ ผู้ชาย ผู้หญิง หัวใจของเชวฮันเริ่มเต้นเร็วขึ้น เขาไม่ต้องการที่จะเห็นชาวบ้านที่ไร้เดียงสาต้องตายต่อหน้าตนอีกครั้งหนึ่ง]

กลุ่มคนพวกนั้นที่ดูเหมือนว่าจะมีตำแหน่งที่สำคัญ จะเป็นขุนนางหรือเปล่านะ?

คาร์ลหันไปมองบาเซ็น ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะยังคงพูดต่อ แต่บาเซ็นก็ยังคงยืนอยู่ข้างกายเขาอย่างไม่ยินดียินร้ายพลางเหลือบมองพ่อของตนที่ยังจ้องมองเพียงคาร์ลอยู่

‘ทั้งๆที่ควรให้บาเซ็นไปทำไมเคานต์เดอรัชถึงเลือกเขาไปนะ’

ปากของคาร์ลยังคงหุบเข้าหุบออกซ้ำๆเขาไม่ต้องการไปยังพื้นที่อันตรายเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยปากบอกให้บาเซ็นไปได้ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันของคาร์ลตัวจริงกับน้องชายของเขาถือเป็นสิ่งที่ยากที่จะเอ่ยปัดได้ ใจของคาร์ลเริ่มสับสนมันมีบางอย่างที่แปลกไปไม่มีทางที่ท่านเคานต์เดอรัชจะส่งขยะไร้ค่าไปยังเมืองหลง ทำไมพ่อถึงต้องพยายามส่งเขาไป? คาร์ลสงสัยว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไปถึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้

“ลูกจะต้องออกเดินทางในอีกห้าวัน”

อีกห้าวัน? เมื่อได้ยินว่าคาร์ลจะต้องเดินทางไปเมืองหลวงในอีกห้าวันทำให้เขารู้ว่าทำไมคาร์ลถึงไม่ได้เป็นคนไปเข้าเฝ้าพระราชา ในนิยายเขาถูกเชวฮันทำร้ายทุบตีอย่างรุนแรงในอีกสี่วันต่อมา ไม่มีทางที่เขาจะได้ไปเมืองหลวงในสภาพแบบนั้นได้

“คาร์ล....ก่อนหน้านี้บาเซ็นก็ไปร่วมเข้าเฝ้าพระราชามาก่อน เมื่อคิดดูก็ถือเป็นสิ่งที่สำหรับต่อลูกนะ ลูกจะสนุกไปกับการเดินทาง”

“ท่านพ่อขอรับ?”  เคานต์เดอรัชหันไปมองบุตรชายตามที่คาร์ลเรียกเช่นเดียวกับบาเซ็นก็ไปมองพี่ชายของตนเช่นกัน

“ลูกเป็นกังวลเล็กน้อยเพราะมีการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเกินไป ลูกไม่ได้ไปที่ใดเลยในตลอดสองปีที่ผ่านมา ลูกไม่เข้าใจว่าทำไมลูกต้องเป็นคนไป ขอเวลาให้ลูกคิดถึงเรื่องนี้ด้วยขอรับ...”

ท่านเคานต์เดอรัชพยักหน้าตกลงก่อนบอกให้ลูกชายทั้งสองของตนออกไปจากห้องทำงานของตนอย่างรวดเร็ว คาร์ลกำลังยุ่งอยู่กับการคิดถึงสิ่งต่างๆมากมาย ถ้าคาร์ลยังคงทำตามบทเดิมที่นิยายวางไว้น้องชายของตนก็ต้องเป็นคนเดินทางไปในครั้งนี้แต่มันก็คงไม่เป็นการดีต่อตัวเองเท่าใดนักหากต้องเอาตัวเข้าแลกโดยการให้เชวฮันทำร้ายตน

ทันใดนั้น เสียงเรียกจากบาเซ็นก็ฉุดให้คาร์ลออกจากภวังค์ความคิด

“พี่คาร์ล...ขอรับ”

คาร์ลหันศีรษะไปทางเสียงเรียก เขาพูดคุยกับบาเซ็นโดยไม่ต้องมองหน้าหรือสบตาใดๆต่อกัน บาเซ็นอายุ 15 ปีและเขาก็พูดคุยกับพี่ชายเช่นนี้มาโดยตลอดเท่าอายุของเขา

“พี่......มันไม่มีเหตุผลอะไรที่พี่จะไปไม่ได้”

“เฮ้อ...” คาร์ลทอดถอนหายใจของตน บาเซ็นไม่ได้มองมาที่คาร์ลเขาออกจากห้องทำงานของบิดาก่อนมุ่งหน้ากลับห้องของตนเอง คาร์ลจ้องมองไปที่บาเซ็นเป็นเวลานาน

“มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้....”

คาร์ลถูกผลักให้ออกจากตำแหน่งผู้สืบทอด คาร์ลไม่สามารถหยุดทำตัวเป็นขยะไร้ค่าของตระกูลได้นั่นเป็นเหตุผลที่บาเซ็นต้องมาดำรงหน้าที่แทนเขาตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาเหมือนเป็นตัวตลกสร้างความอับอายให้แก่ตระกูลและนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งในเหตุผลอีกหลายข้อที่เขาไม่ควรเป็นตัวแทนของตระกูลไปเข้าเฝ้าพระราชา  อย่างไรก็ตามบาเซ็นบอกว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ไปงานนี้

บาเซ็นบอกว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะให้คาร์ลไปเป็นตัวแทนของตระกูล

‘ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากนะสิ’  คาร์ลกล่าวอย่างขุ่นเคือง เขาไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิดแต่อาจจะมีปัญหาอื่นอีกก็คือ

‘มันก็คุ้มถ้าจะลองเสี่ยง..’ เขากำลังคิดว่าเขาน่าจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ได้ เหตุผลก็คือโอกาสที่เขาจะกลับมาโดยไม่ต้องตายหรือได้รับบาดเจ็บก็มีค่อนข้างสูง

‘มันจะยิ่งยุ่งยากหากบาเซ็นจะตายก่อนที่จะได้รับตำแหน่งเคานต์’

เพื่อให้คาร์ลสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข บาเซ็นจำเป็นที่จะต้องรอด ถึงจะมีน้องสาวคนสุดท้องอีกคนแต่ลิลลี่ก็ยังเด็กเกินไป นอกจากนี้คาร์ลจำเป็นต้องออกจากเมืองเวสเทิร์น หลังจากที่ได้โล่นิรันดร์กาลซึ่งเป็นพลังศักดิ์สิทธ์จากต้นไม้กินคนแล้วเพื่อจะสามารถใช้พลังนั้นรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณจากสถานที่อื่นนอกเขตเฮนิตัสได้

ใจของเขาเริ่มลังเล....

เขามองไปที่รองพ่อบ้านฮันส์ที่กำลังมุ่งหน้ามาหาตนด้วยอารมณ์ที่รุนแรงแต่ใบหน้าเขาไม่ได้มืดครึ้มดูเหมือนจะมีอาการขมขื่นแต่ดวงตาของเขาแจ่มใส

“นายน้อย...แขกของนายน้อยขอร้องให้.......”

“ฮันส์...” คาร์ลขัดขึ้นก่อนที่ฮันส์จะรายงานจบ

“นำแขกมาหาข้าที่นี่....”

“เอ่อ...อะไรนะขอรับ?”

หากคาร์ลเลือกไม่ได้ที่จะปฏิเสธการเดินทางไปเขาจะต้องหาวิธีที่สะดวกสบายและได้ประโยชน์ต่อตัวเขาให้ได้มากที่สุด

“ถ้าเขาไม่ยอมมา ก็บอกเขาเรื่องนี้สิ”

จากการแสดงออกของฮันส์ เขามั่นใจว่าปัญหาของเชวฮันจะถูกตัดสินอย่างถูกต้อง ในนิยายท่านเคานต์เดอรัชได้จัดงานศพที่เหมาะสมสำหรับชาวบ้านและดูแลทุกอย่างแม้กระทั่งหลังจาที่เชวฮันทำร้ายคาร์ลแล้วก็ตาม นั่นคือสิ่งที่ไม่ควรถูกเปลี่ยนแปลงเลย

“จ่ายเงินคืน...”

“เอ่อ....?”

“บอกเขาให้มาหาข้าเพราะข้าคิดวิธีที่จะให้เขาคืนเงินข้าได้แล้ว”

 

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด