ตอนที่แล้วตอนที่ 44 โดนแช่แข็งจนตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 สงบไว้ มือขวาของฉัน!

ตอนที่ 45 สรรเสริญดั่งดวงอาทิตย์


เอาจริงๆเซจิรู้สึกชื่นชมมิจิโร่  จูมอนจิเป็นอย่างมากที่จะหลอกใช้เซจิเพียงเพื่อประโยชน์ในการปกป้องเขตการดูแลของกลุ่มของเขาเอง แน่นอนว่ากลุ่มจูมอนจินั้นเป็นกลุ่มมาเฟียที่ทำกิจกรรมผิดกฎหมาย ไม่ใช่กลุ่มที่น่ายกย่อง แต่แม้แต่ในสังคมใต้ดินบางคนก็เป็นคนที่ชั่วโดยสมบูรณ์ ในขณะที่คนบางคนก็มีศีลธรรมและศักดิ์ศรีของตัวเอง

มันไม่ได้เหมือนกับว่ากลุ่มที่สองนี้จะมีคุณธรรมที่สูงส่ง แต่เซจิยังคงรู้สึกเคารพต่อคนที่ยังสามารถรักษาหลักจริยธรรมในสังคมได้เช่นกัน ผู้ที่อยู่ในเบื้องล่างของสังคม อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนชั่วร้ายเสมอไป แบบเดียวกับผู้ที่อยู่ด้านบนอาจไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกคน นั่นมันก็เป็นเหตุผลเดียวกัน เพราะทุกคนเป็น... มนุษย์

เมื่อเผชิญหน้ากับพ่อมาเฟียที่กำลังก้มหมอบให้กับเขาเป็นครั้งที่สอง เซจิก็ยังคงเงียบอยู่เป็นระยะเวลานาน

'แม้ว่าคุณจะต้องการคำตอบจากฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันหรอกนะ ลุง... ' เขารู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับสถานการณ์พวกนี้ เขาควรจะหลอกมิจิโร่  จูมอนจิยังไงดี? เขาเองก็ไม่อยากทำลายความประทับใจของมิจิโร่ในตัวเขาซะด้วย

"ลุกขึ้นเถอะครับ คุณจูมอนจิ" อย่างน้อยที่สุดเขาต้องป้องกันไม่ให้มิจิโร่โกรธเคืองเขา

"ผม... รู้จริงๆบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าผมควรจะพูดกับคุณได้มากแค่ไหน" เซจิถูคาง "ผมต้องกลับไปคิดถึงเรื่องนี้ทั้งหมดและ... พูดคุยกับคนอื่นๆ ถ้ามีบางอย่างที่ผมสามารถบอกให้คุณรู้ได้ผมจะติดต่อหาคุณ... แค่นี้พอหรือเปล่าครับ?"

ดวงตาของมิจิโร่  จูมอนจิเริ่มสว่างขึ้น ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้น "ท่านฮารุตะ... ถึงแม้ว่าคุณจะถูกไล่ออกจากครอบครัวของคุณ ผมก็คิดว่ายังมีกฎที่คุณต้องปฏิบัติตาม ผมรู้ดีว่าอาจไม่สามารถถามคุณเกี่ยวกับสถานการณ์นี้และให้คุณจะบอกได้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ท่านฮารุตะอยากจะพิจารณาเรื่องต่างๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับผม แต่ผมจะ... รอข่าวจากคุณด้วยความจริงใจครับ... ผมขอร้องคุณล่ะครับ! " เมื่อพูดเสร็จแล้วเขาก็ก้มหัวอีกครั้ง

"ผมจะพิจารณาอย่างรอบคอบนะครับ" เซจิตอบได้เพียงแค่นี้เท่านั้น

และการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการของพวกเขาก็สิ้นสุดลง

...

ทาคาชิ โคบายาชิและโคเฮ วาตาริที่กำลังรออย่างเงียบๆในจุดเดียวกัน

ช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปได้ไม่นานแล้ว แต่พวกเขาก็รู้สึกเหมือนว่าความคิดของพวกเขานั้นได้ผ่านพ้นไปเร็วมาก

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอะไรพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ความรู้สึกหมดหนทางพวกนี้และรู้สึกหงุดหงิด!

"เฮอ... โคเฮ เราเป็นอะไรกันแน่?" โคบายาชินั่งอย่างหดหู่และส่ายศีรษะอย่างหดหู่

"ทาคาชิ..."

"พวกเราเกือบจะแพ้และตายไปแล้ว ตอนที่สู้กันอยู่บนถนน... พวกเราถูกช่วยได้โดยเพื่อนร่วมชั้นของพวกเรา แต่เราขายเขาไป... และแม้ว่าเราจะตามเขามาที่นี้ เราก็ทำได้แค่ยืนอยู่ที่นี่ได้แบบโง่ๆเท่านั้น... ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ขนาดนี้มาก่อน! "

วาตาริซบลงเงียบๆที่ข้างๆเขา

"ไม่มีอะไรช่วยอะไรเราได้หรอก เรามันไม่มีประโยชน์จริงๆ เพราะเราไม่มีพลัง" เขาพูดมันออกมาเบาๆ

ถ้าพวกเขามีพลังแล้ว พวกเขาก็คงจะไม่ให้เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาฮาราโนะมาเกี่ยวข้องกับที่นี้ตั้งแต่แรก

"พลัง... อย่างงั้นเหรอ? ถ้าเรามีพลังล่ะก็... " ดวงตาของโคบายาชิส่องประกายไปด้วยสงที่อาจอธิบายได้

"ยังไงซะ ทำไมฮาราโนะถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น?"

'ฉันจะทำยังไง... ให้มีพลังมากอย่างฮาราโนะได้? เขาอายุเท่าๆกับพวกเราแท้ๆ แต่เขากลับมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่สามารถจินตนาการได้'

คืนนั้นแบบเดียวกับความประทับใจที่เขาให้กับพวกเขาในวันนี้ได้ฝังลึกเข้าไปในความทรงจำที่ลึกที่สุดพวกเขา

โคบายาชิก็นึกได้ว่าฮาราโนะความสามารถใช้ความแข็งแกร่งเต็มที่ของเขาและสามารถที่จะหลบหนีออกจากคฤหาสน์นี้ได้ แม้ว่าทุกคนจะรุมโจมตีเขาก็ตาม

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่เขาและวาตาริตามเขามาที่นี้ ไม่มีอะไรนอกจากเป็นภาระให้แก่เขางั้นเหรอ!?

เขาที่บังเอิญขายเพื่อนร่วมชั้นของเขาไปด้วยความประมาทของเขา และเขายังเห็นแก่ตัวและอยากจะมาด้วยกัน แต่เขากลับกลายเป็นคนไร้ประโยชน์... นี้เขามันไร้ค่าขนาดไหนกัน!

ทาคาชิ โคบายาชิได้กล่าวโทษตนเองในใจ

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้สึกเลยว่ามีอะไรผิดปกติกับชีวิตของเขา แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มได้เห็นชีวิตของเขาแล้ว

ข้างๆเขาคือโคเฮ วาตาริมีความคิดคล้ายๆกัน

อันธพาลทั้งสองยังคงนั่งด้วยท่าทางหดหู่ จนกระทั่งเซนโจ ฮาราโนะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขา

"ฮาราโนะคุง... นายโอเคไหม!?"

"โอ้... ผมสบายดี" เซจิโบกมือให้ทั้งสองคน "ผมได้คุยกับหัวหน้ากลุ่มของพวกเขาแล้วนิดหน่อย"

นี้เขา... แค่คุยกับเจ้าพ่อมาเฟียงั้นเหรอ!?

โคบายาชิและวาตาริจะจินตนาการถึงสถานการณ์ตัวอย่างที่แปลกประหลาดได้หลายอย่าง

ตัวอย่างเช่น ชายหัวล้านที่มีรอยสักจำนวนมากบนร่างกายของเขาและหันหน้าไปเผชิญกับนักเรียนม.ปลายที่เงียบครึมและเกิดการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว... และอื่น ๆ

"แม้ว่าผมจะบอกว่ามันไม่จำเป็น แต่เขาก็ยืนยันที่จะชวนเราไปทานอาหารเย็นด้วย ดังนั้นเรามาพักอยู่ที่นี้กันอีกสักหน่อยและสนุกกับมื้ออาหารของเรากันไหม" เซจิยิ้มให้ทั้งสองคน

เขาได้ทำความรู้จักกับเจ้าพ่อมาเฟียหลังจากที่มีการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวถึงตายแล้วงั้นเหรอ!?

โคบายาชิและวาตาริเหลือบไปมองด้วยความอึดอัดใจ ในขณะที่จินตนาการของพวกเขาได้คิดไปไกลแล้ว

เซจิไม่ได้เข้าใจความคิดของพวกเขา แต่ถ้าเขารู้ว่าเขาคงจะมีความเห็นที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับพวกเขาแน่

ทั้งสามคนถูกนำตัวไปที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสง่างาม แต่ขาดเก้าอี้

เซจิถูกนำตัวไปที่สุดขอบโต๊ะซึ่งถูกสงวนไว้สำหรับคนสำคัญที่สุด ในขณะที่ โคบายาชิและวาตาริถูกจัดให้นั่งข้างขวาของเขา

พักต่อมามิจิโร่  จูมอนจิก็ได้เข้ามาและต้อนรับเซจิด้วยความเคารพ ก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างๆเซจิที่เบาะนั่งอื่นๆที่สงวนไว้สำหรับคนที่นับถือมากที่สุด

นี้คือเจ้าพ่อมาเฟียงั้นเหรอ? รูปลักษณ์ของมิจิโร่  จูมอนจินั้นได้ทำลายจินตนาการของโคบายาชิและวาตาริทั้งหมดออกไปอย่างรวดเร็ว

ข้างหลังของมิจิโร่  จูมอนจิคือคาเอเดะรวมถึงชายที่มีผมสีบลอนด์ที่ยุ่งเหยิงและตัวโค้งเล็กน้อย

ชายคนนี้สวมเสื้อปกติและกางเกงหลวมๆ ซึ่งทำให้เขาดูคล้ายคนธรรมดาและดูเหมือนว่าเขาจะหล่อมาก ถึงอย่างนั้นแว่นตาคู่ดำของเขารวมกับท่าทางที่ง่วงนอนและคอบตาที่ดำมืดใต้ตาของเขา ทำให้เขาดูน่าอนาถมากกว่าจะหล่อ

มันเกือบจะน่าตลกเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ที่เดินอยู่ด้วยกันกับสาวสวยที่ส่องประกายสดใส

ทั้งสองเดินเข้ามาและนั่งลงตรงข้ามจากวาตาริและโคบายาชิ

"ท่านฮารุตะคงคุ้นเคยกับคาเอเดะแล้วใช่มั้ยครับ นี้เป็นลูกชายของผม ฮิซาชิ จูมอนจิ ผมต้องขออภัยที่เขาขาดความเคารพด้วยนะครับ เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ" มิจิโร่ถอนหายใจ

เขาชอบที่จะปล่อยให้ลูกชายคนโตซาคิตะเข้าร่วมกับพวกเขา แม้ว่าซาคิตะจะเป็นคนงี่เง่า แต่ซาคิตะก็ให้ภาพลักษณ์ที่ดีได้  แต่ลูกชายบ้านั้นของเขานั้นกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาล... ดังนั้นเขาจึงต้องให้ฮิซาชิลูกชายคนสุดท้องเข้าร่วมกับพวกเขาแทนเพื่อให้มีคนมากพอ

สำหรับลูกชายคนสุดท้องของเขา มิจิโร่รู้สึกหมดหนทางเมื่อคิดถึงเขา การปรากฏตัวของลูกชายคนสุดท้อง และความเฉลียวฉลาดของเขาทั้งสองถือเป็นที่สุด มันไม่สำคัญกับเขาว่าลูกชายของเขาอ่อนแอทางร่างกาย แต่ยุคนี้มันขึ้นอยู่กับสมองมากกว่ากล้ามเนื้อ

เขายังคงลูกชายของเขาและสนุกกับงานอดิเรกที่ค่อนข้างแปลก และผันตัวเองไปในทางนั้น จนมาเป็นเขาในวันนี้

มิจิโร่เคยถามลูกชายหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ลูกชายของเขาก็ยังคงทำตามที่เขาพอใจ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าลูกชายคนสุดท้องของเขามีส่วนร่วมในแบบตัวเองให้กับองค์กร เขาคงจะเตะลูกชายของเขาออกไปนานแล้ว!

'นี้เป็นแค่การทานอาหารร่วมกันเท่านั้น มันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อหน้าท่านฮารุตะหรอกน่า... ' มิจิโร่คิด

แต่เมื่อจ้องมองของเขาที่เดินผ่านท่านฮารุตะ เขาสังเกตเห็นว่าเขากำลังเฝ้ามองลูกชายคนเล็กของเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด

"คุณฮิซาชิ จูมอนจิ… ใช่มั้ย?" เขามองไปที่เซจิมากขึ้น ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเขาคิดบางเรื่องถูก "ผมมีคำถามที่ผมอยากถามจะคุณซักหน่อย ... "

"โอ้?" ฮิซาชิ จูมอนจิรู้สึกประหลาดใจและในที่สุดเขาก็ได้หันหน้าไปทางชายหนุ่มในที่นั่งแบบทับเข่าเป็นครั้งแรก

ช่วงเวลาที่พวกเขาได้สบตากันมีประกายราวกับว่าทั้งสองคนได้ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง     [ดูมัน... ยังกะสายเหลือง]

มีคำถาม?

มิจิโร่รู้สึกประหลาดใจและคาเอเดะที่อยู่ข้างๆเขาก็ประหลาดใจเช่นกัน

โคบายาชิและ วาตาริยิ่งสับสนมากกว่าที่เคยเป็นมา

พวกเขาเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก! แล้วอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการถามกันแน่?

"เมื่อเทียบกับไอเลเลีย เลย์ล่าเหมาะดีกว่าที่จะเป็นรักแท้ของซะไปโร่จริงไหม คุณเห็นด้วยใช่มั้ย"

ความเงียบปกคลุมทั่วโต๊ะ

ขณะที่มิจิโร่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดวงตาของฮิซาชิซึ่งดูเหมือนจะน่ากลัวอย่างฉับพลัน และเขาก็ตบไปที่โต๊ะด้วยความโกรธและลุกขึ้น!

"ผิดแล้ว!!!"

เขาแทบจะตะโกนไปสุดปอดของเขาเลย

"แม้ว่าเลย์ล่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตอนล่าสุด และถึงแม้ไอเลเลียเองจะยังไม่ได้รับความสนใจก็ตาม แต่ไม่ว่านายจะมองจากมุมมองของอาจารย์พีชหรือมุมมองของซะไปโร่ก็ตาม ไอเลเลียนั้นคือรักแท้แน่นอน! "

"ตอนล่าสุดเป็นเพียงวิธีที่จะใช้สร้างเรื่องราวที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในอนาคตเท่านั้น! แม้ว่าเลย์ล่าจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจเมื่อเร็วๆนี้ แต่เธอก็ยังคงหินให้ไอเลเลียก้าวเหยียบไป แม้มันจะเรื่องที่โหดร้ายเล็กน้อย แต่นั่นคือความจริงและทิศทางของเรื่องในปัจจุบันสามารถพิสูจน์ได้เช่นกัน... เลย์ล่าจะหายตัวไปจากเรื่องราวในขณะที่ซะไปโร่และไอเลเลียจะได้พบรักกัน และไปถึงจุดสำคัญที่สุดของเรื่องราว! "

"ไอ้พวกโง่ที่เชื่อในเลย์ล่าจนถึงตอนนั้นก็จะพบว่าสิ่งที่พวกเขาเชื่อนั้นเป็นเพียงเชื้อเพลิงชั่วคราวให้แก่ผู้เขียนเท่านั้น! ในฐานะหนึ่งในกองอวยของกลุ่มไอเลเลีย ฉันจะประสบความสำเร็จภายใต้การนำของพระแม่ผู้สร้าง อาจารย์พีช!"

ฮิซาชิยกมือขึ้นไปในอากาศขณะที่คุกเข่าลงบนเข่าหนึ่งในท่าทางที่ดูเหมือนว่าเขากำลังสรรเสริญดวงอาทิตย์ ขณะที่เขาตะโกนขึ้นไปในอากาศ

ทุกคนที่อยู่ที่โต๊ะก็ถูกทำให้เงียบโดยคำพูดที่หลงใหลของฮิซาชิ

ดวงตาของมิจิโร่เบิกกว้างอย่างตกใจ ขณะที่คาเอเดะจับหน้าผากและถอนหายใจ โคบายาชิและวาตาริไม่มีความคิดเห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เซจิเองก็ไม่สามารถที่จะอดหัวเราะได้อีกต่อไปแล้ว

เขารู้ว่า เขาพูดถูก!

ผู้ชายคนนี้ฮิซาชิ จูมอนจิลูกชายคนสุดท้องของเจ้าพ่อมาเฟียคือโอตาคุอย่างแท้จริงและเป็นสิ่งที่ไม่อาจลบล้างได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด