ตอนที่แล้วตอนที่ 45 สรรเสริญดั่งดวงอาทิตย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47 ตีสนิท

ตอนที่ 46 สงบไว้ มือขวาของฉัน!


คำถามที่เซจิถามมาก็คือเรื่องที่น่าตลกที่สุดของอนิเมะเรื่อง "โฮนี่ แคนดี้ เกิร์ล" เมื่อเร็วๆนี้ มันเกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวละครที่ผู้เขียนอาจารย์พีชชอบในเรื่องเดิมของเธอ

ตราบเท่าที่ฮิซาชิเป็นโอตาคุที่แท้จริง มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไม่ต่อต้าน!

ฮิซาชิ จูมอนจิตกไปในหลุมพรางของเซจิโดยง่าย และหลงกลเต็มๆ เขาก็ไม่ได้ปกปิดความจริงที่ว่าเขาเป็นโอตาคุ ทำให้เห็นได้ชัดว่าฮิซาชิเป็นโอตาคุที่ไม่ยอมใครง่ายๆ

ยกเว้นเซจิ คำพูดที่หลงใหลของฮิซาชิและการพูดเกินจริงนั้นทำให้ทุกคนที่นั่นตกใจ

อืม ที่ตกใจมากที่สุดคงเป็นพ่อของเขา มิจิโร่  จูมอนจิที่ดูตกใจมากกว่าทุกคน

เจ้าพ่อมาเฟียคนนี้ดูตกตะลึงโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทุกๆอย่างที่เขารู้ก็คือท่านฮารุตะที่อยู่ข้างๆ ถามคำถามที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งกระตุ้นให้ลูกของเขามากขึ้นเรื่อยๆน ฮิซาชิจนมุมไปเรื่อยๆเกี่ยวกับบางสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ และจบลงด้วยท่าทางลึกลับ... นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

บางคนนอกจากคาเอเดะ จูมอนจิไปจนถึงทาคาชิ โคบายาชิและโคเฮ วาตาริที่อายุน้อยกว่า ซึ่งหมายความว่าพวกเขาคุ้นเคยกับอนิเมะที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศของพวกเขา ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะซากุระ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้บางส่วนว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่พวกเขาก็ยังคงพูดไม่ออกกับสถานการณ์แบบนี้อยู่ดี!

แน่นอนว่าคาเอเดะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพี่ชายของเธอดีและเธอก็รู้สึกอายมาก

โคบายาชิและวาตาริไม่เคยคาดหวังว่าลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟียจะแสดงอะไรตลกๆแบบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงแต่ตกใจ!

เซจิเป็นคนเดียวที่เข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น และเขาเองก็หยุดหัวเราะออกมาไม่ได้

ฮิซาชิหันไปเผชิญหน้ากับเซจิ

*แค่ก แค่ก...* สุดท้ายเซจิก็หยุดตัวเองได้และแกล้งทำเป็นไอ

"ผมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มไอเลเลีย ยินดีที่ได้รู้จักคุณฮิซาชิ จูมอนจิ"

"สหาย ยินดีที่ได้รู้จักท่านเซนโจ ฮาราโนะ!" ฮิซาชินั่งลงขณะที่เขายกนิ้วโป่งขึ้นให้ควบคู่กับรอยยิ้มที่สดใส

สำหรับคนอื่นๆคงเป็นการกระทำที่น่าหัวเราะทั้งคู่

"ท่านฮาราโนะ คือมันเป็นยังไงกันแน่ครับ... " มิจิโร่อดถามไม่ได้

"โอ้... คุณฮิซาชิและผมเป็นแฟนของอนิเมะเรื่องเดียวกัน พวกเราก็แค่คุยกันเรื่องนี้กันก็เท่านั้นนะครับ"

"อนิเมะ?" หัวเจ้าพ่อมาเฟียเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

"พ่อ... นี้เป็นการ์ตูนที่เรียกว่า 'โฮนี่ แคนดี้ เกิร์ล'" คาเอเดะถอนหายใจ "ปัจจุบันเป็นอนิเมะยอดนิยมในเกาะซากุระ พวกวัยรุ่นส่วนใหญ่รู้จักเรื่องนี้ดี และหนูเองก็ได้ดูด้วยนิดหน่อย... แต่พี่ฮิซาชิเขาคงดูทุกตอนเลยมั้ง"

"ไม่ใช่แต่ แต่แน่นอน!"

ฮิซาชิปรับแว่นตาของเขาและดูเหมือนเลนส์ของเขาเปล่งแสงขึ้นชั่วขณะ

"โฮนี่ แคนดี้ เกิร์ล" เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมครั้งหนึ่งในรอบสิบปีในฐานะแฟนตัวจริงผมจำเป็นต้องดูทุกตอนอย่างน้อยสามครั้งนั่นเป็นแค่ที่... ผมไม่คิดเลยว่าแขกผู้มีเกียรติที่พ่อได้เชิญมาจะ... เป็นแฟนคลับด้วย... ""

ฮิซาชิเปลี่ยนรอยยิ้มที่รู้กันแค่กับเซจิ

การสื่อสารระหว่างโอตาคุไม่จำเป็นต้องมีคำพูด

"... นั่นแหละ พ่อ"

คาเอเดะรู้สึกราวกับว่าเรี่ยวแรงของเธอถูกสูบออกไป

ฮาราโนะถามคำถามเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้และฮิซาชิตอบกลับอย่างรวดเร็ว

"โอ้... " มิจิโร่ก็ดูเหมือนจะความเข้าใจเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ฮาราโนะ... ไม่สิ ท่านฮารุตะได้เห็นตัวตนของลูกชายของเขาได้ในทันที นั่นคือเหตุผลที่ท่านฮารุตะถามลูกชายของเขาด้วยคำถามดังกล่าวเพื่อเป็นการทดสอบ... ความเข้าใจอันทรงพลัง!

"อนิเมะ... นี้เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวชอบที่จะดู... อืม บางที ฉันควรหาเวลาว่างบ้าง ไปดูเหมือนกัน เพื่อที่ฉันจะได้รู้ว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้มันเป็นยังไงบ้าง" มิจิโร่  จูมอนจิกล่าวออกมา

"เรื่องราวของอนิเมะเรื่องนี้มีอะไรบ้างงั้นเหรอ?" มิจิโร่เริ่มพูดถึงหัวข้อนี้ เพื่อให้เหมาะกับวัยรุ่นมากขึ้น

ฮิซาชิปรับแว่นของเขาอีกครั้ง และเลนส์ของเขาก็เปล่งประกายอีกครั้ง!

"เกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้... พ่อ ผมจะขออธิบายสั้นๆเลยนะ... "

ดังนั้นการบรรยายจึงเริ่มต้นขึ้น

...

หลังจากทานข้าวเย็นแล้ว สรุปว่าทาคาชิ โคบายาชิและโคเฮ วาตาริก็ได้ยังคงสับสนอยู่

ในที่สุดความรู้สึกของพวกเขาและความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พวกเขาพบว่ามันไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

พวกเขากินอาหารที่บ้านของเจ้าพ่อมาเฟียและหัวข้อของการสนทนาหลักคือเรื่องเกี่ยวกับอนิเมะ!?

นี้พวกเขาผิดปกติงั้นเหรอ? หรือมีว่าโลกมันผิดปกติกันแน่เนี่ย!?

ถึงอย่างนั้นตรรกะของพวกเขาบอกพวกเขาบอกว่ามันคือเรื่องจริงทั้งหมด

อย่างแรกฮิซาชิ จูมอนจิอธิบายได้อย่างมีชีวิตชีวา และดูเหมือนแจะไม่มีที่สิ้นสุดกับเรื่องอนิเมะ และเซนโจ ฮาราโนะก็จะมีพูดด้วยบางครั้ง ก่อนที่คาเอเดะจะตัดสินใจที่จะเข้าร่วมด้วย ในที่สุดทั้งคู่ก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่เจ้าพ่อมาเฟียฟังอย่างตั้งใจ ดูเหมือนเขาจะสนใจอย่างมากและเขาเองก็ยังคงถามคำถามเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ...

บทสนทนานี้ยังคงดำเนินต่อไปตั้งแต่ต้นจนจบในระหว่างมื้ออาหารทั้งหมด

นี้มันบ้าอะไรว่ะ!!!?

โคบายาชิและวาตาริอดคิดไม่ได้ตลอดทั้งมื้อ

นี้เป็นบ้านของเจ้าพ่อมาเฟียจริงๆแน่เหรอ? หรือว่านี้เป็นกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับอนิเมะกันแน่!!??

ก็ยอมรับได้หรอกสำหรับพวกเขาที่เป็นวัยรุ่นจะพูดคุยเกี่ยวกับอนิเมะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเขารู้กันดี แต่ทำไมมันถึงได้เห็นเจ้าพ่อมาเฟียดูเหมือนจะให้ความสนใจในหัวข้อนี้ด้วยซ้ำกันล่ะ!?

ภาพลักษณ์ของมาเฟียอย่างที่พวกเขาคิดไว้ได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว!

ในฐานะอันธพาลที่เคยมีความรู้สึกกลัวมาเฟีย โคบายาชิและวาตาริได้มีความเห็นมากมายที่ไหลเข้ามาในจิตใจของพวกเขา

สำหรับคนที่ตัวต้นเหตุที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นทั้งหมด เซจิยังคงชอบอาหารมื้อนี้อย่างมากและสนุกไปกับมันแบบสุดๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขาได้พบกับฮิซาชิ จูมอนจิ... พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมื่อพูดคุยกันและพวกเขาก็กลายมาเป็นเพื่อนกันแล้ว

"ท่านฮารุตะ ถ้าผมได้พบคุณก่อนหน้านี้ในชีวิตของผมก็ดีสิ! คุณอยากเข้าไปชมในห้องของผมไหม ผมสามารถแสดงคอลเลคชั่นของผมให้ดูได้... " ฮิซาชิเชิญเซจิด้วยความจริงใจ

จริงๆแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งกว่าเซจิอีก เนื่องจากเป็นเรื่องยากสำหรับโอตาคุในกลุ่มมาเฟียที่จะสร้างเพื่อนโอตาคุใหม่!

"โอ้ ผมเข้าไปได้งั้นเหรอ? แน่นอนอยู่แล้ว ผมชอบมันที่สุด! "เซจิเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิด

จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองเพื่อนร่วมชั้นสองคนที่ยังคงจมอยู่ในความคิดที่สับสน

"โคบายาชิคุง วาตาริคุง วันนี้จะไม่มีอะไรอีกแล้ว จะกลับก่อนผมก็ได้นะ ผมจะอยู่ที่นี้ต่ออีกซักหน่อยนะ"

"อะ... " โคบายาชิและวาตาริได้สติกลับมาและแลกเปลี่ยนสายตาให้กัน "งั้น.... เราขอกลับก่อนเลยนะ"

"ฉันจะจัดรถให้นำพวกคุณกลับบ้านเอง" คาเอเดะบอกพวกเขา

คาเอเดะส่งโคบายาชิและวาตาริไป และเขาก็ตามฮิซาชิไปตามห้องของเขา

มิจิโร่มีความสุขมากกว่าที่ลูกชายของเขาเข้ากันได้ดีกับเซจิ เขาคิดว่าลูกชายเขาทำได้ดีมาก

ห้องฮิซาชิจูมอนจิมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ถึงอย่างนั้นเนื่องจากความเยอะของสิ่งต่างที่อยู่ในห้องของเขาจึงทำให้มันแคบมาก

มีชั้นวางของมากมายที่เต็มไปด้วยฟิกเกอร์ต่างๆ ในชั้นวางหนังสือก็เต็มไปด้วยมังงะ ซีดี และอื่นๆ ส่วนที่เหลือของชั้นวางของก็เต็มไปด้วยอนิเมะต่างๆ ในขณะที่มีโปสเตอร์รูปอนิเมะติดยู่บนผนังทุกด้าน...

และยังมีหมอนและโมเดลอนิเมะวางอยู่บนเตียง มีโทรทัศน์แอลซีดีขนาดใหญ่จำนวน 2 เครื่องพร้อมระบบเกมรุ่นล่าสุดที่มีจำนวนจำกัด ห้องแล็ปท็อปที่มีความสูงถึง 6 จอภาพ เป็นจุดศูนย์กลางของห้องและแว่นตา VR รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีราคาแพงที่สุดวางอยู่ข้างๆพวกเขา...

วิธีการจัดห้องนี้ ทำให้เซจิจำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบทความที่เขาอ่านเกี่ยวกับในโลกก่อนหน้าของเขาได้ในชื่อเรื่อง "คนที่โอตาคุที่สุดในโลก" แม้ว่าห้องนี้อาจยังไม่อยู่ในระดับนั้น

เซจิก็รู้สึกอยากจะหาเงินได้ด้วยความสามารถในการเซฟและโหลดของเขา และสร้างที่หลบภัยของตัวเขาเองแบบนี้... ไม่สิ สวรรค์ต่างหาก!

'อ๊ากกกก สงบลง หยุด ขวามือของฉัน! ฉันต้องไม่ปลดปล่อยความต้องการและอำนาจที่จะทำร้ายฉันได้ เพราะของแค่นี้หรอกนะ!'

เซจิที่กำลังใช้กำลังใจอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้ความมืดในจิตใจเอาชนะเขาได้

เซจิยังคงนิ่งอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ฮิซาชิได้พูดถึงเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจของเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจ

"ฮิซาชิ... ฉันสามารถอยู่ทั้งคืนที่นี้ได้ไหม?"

"ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว ท่านฮารุตะ!"

"อย่าได้เกรงใจเลย ท่าน- ตอนนี้พวกเราได้เป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว!"

"อา... ดีจริงๆ!"

และทั้งสองคนก็จับมือกัน

--------------------------------------

นับวันยิ่งเหลืองออกเว้ยคู่นี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด