ตอนที่แล้วDND.42 - อาดูรสูญเสีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.44 - เลี่ยงพันลี้

DND.43 - ประลองศักดิ์สิทธิ์


“เซี่ยน...เอ๋อ...อย่าร้อง”

ซือหยูปลอบนางด้วยเสียงแหบแห้ง

“พี่ซือหยู..ท่านพ่อ….”

เซี่ยนเอ๋อหันมากอดซือหยูและร้องเสียงดัง

ซือหยูน้ำตาคลอเขาพูดพลางสะอื้น

“อย่าร่ำไห้เลยเซี่ยนเอ๋อ...หากท่านพ่อที่อยู่อีกโลกเห็นเจ้าเช่นนี้ ท่านคงจะมิได้พักผ่อนอย่างเป็นสุข”

เซี่ยนเอ๋อใช้มือเล็กๆของนางขยี้ตา นางพยายามสุดความสามารถเพื่อมิให้น้ำตาเล็ดรอด แต่น้ำตาก็ยังคงไหลรินมิหยุดหย่อน

ซือหยูกอดนางด้วยความรักและลูบศีรษะนางอย่างแผ่วเบา

“เซี่ยนเอ๋อ เจ้ายังมีข้า ข้าจะอยู่กับเจ้าเสมอ”

นางรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ซือหยูมอบให้ นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางในตอนนี้ราวกับสตรีที่เติบโตในชั่วข้ามคืน นางมองคู่หมั้นด้วยความศรัทธา

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นอีกทั้งยังมีใบหน้ารูปงามที่เต็มไปด้วยสะเก็ดแผล

เซี่ยนเอ๋อกัดริมฝีปาก นางยื่นมือเพื่อจัดการกับสะเก็ดแผลอย่างพิถีพิถัน ทุกครั้งที่นางหยิบมันออกจิตใจนางก็ยิ่งเปราะบาง นางเช็ดน้ำตาอีกครั้ง โลหิตทั้งหมดนี้หลั่งไหลเพื่อนาง

“เซี่ยนเอ๋อ..เจ้า...”

ซือหยูไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าเซี่ยนเอ๋อรู้สึกกับเขาในอีกแบบที่นางไม่เคยรู้สึกมาก่อน

เมื่อก่อนเซี่ยนเอ๋อมักจะขี้เล่น ซือหยูเป็นเพียงเพื่อนเล่นที่นางคุ้นเคย

หลังจากที่พบจุดเปลี่ยนเช่นนี้ นางได้กลายเป็นสตรีที่เติบโตพร้อม

“พี่ซือหยู!”

เซี่ยนเอ๋อกอดซือหยูแนบแน่นราวกับว่ากลัวซือหยูจะจากไปในทุกขณะ

การตายของพ่อนางทำให้นางเหลือแค่ซือหยูเพียงคนเดียว แม้จะเป็นคู่หมั้นกันได้เพียงหนึ่งวัน ซือหยูลูบหลังที่สั่นกลัวของเซี่ยนเอ๋อ

มิต้องเอื้อนเอ่ยคำใด ซือหยูรู้สึกถึงเซี่ยนเอ๋อ พวกเขาสวมกอดกันเงียบๆ หลังจากเจอเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ก็ทำให้หัวใจของเขาทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง

พวกเขากอดกันอยู่นานจนเซี่ยนเอ๋อหยุดร้องไห้ นางขยับศีรษะไปแนบอกซือหยู นางเงยหน้าอย่างเอียงอาย

“ข้าอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ซือหยูตลอดไป...”

ซือหยูพยักหน้าและลูบใบหน้านางด้วยความรัก

“เจ้าจะเป็นเจ้าสาวของข้าตลอดไป”

เซี่ยนเอ๋อหน้าแดง นางซบอกซือหยูอย่างโล่งใจ หลังจากที่เสียท่านพ่อไป นางก็ได้พบกับคนที่นางหวังพึ่งได้เสียที

เมื่อผู้อาวุโสกลับมาพร้อมกับวัตถุดิบทำโอสถก็ได้เห็นภาพของคู่รักตรงหน้า เขาเตรียมโอสถเพื่อรักษาซือหยู หลังจากนั้นเซี่ยนเอ๋อก็รีบไปหาผู้อาวุโสเพื่อรับโอสถไปใช้กับซือหยู

เซี่ยนเอ๋อที่มักจะขี้เล่นในอดีต ในตอนนี้นางทำหน้าที่ภรรยาที่ดี นางดูแลซือหยูอย่างระมัดระวัง สีหน้านางอิ่มเอิบพอใจ

หลังครึ่งวัน ซือหยูก็ได้พักผ่อนเต็มที่

“องค์หญิงและซือหยู จากคำสั่งสุดท้ายของดยุค ข้าจะพาเจ้าสองคนออกจากเฟิงหลินและไปที่เฟิงหวงบ้านเกิดของแม่องค์หญิง ที่นั่นจะมีคนตระกูลองค์หญิงดูแลนาง เตรียมเดินทางกันเถอะ”

แม่ของเซี่ยนเอ๋อเป็นคนแคว้นเฟิงหวงสินะ…

ซือหยูนึกถึงสัญลักษณ์ที่คอเซี่ยนเอ๋อ มันเป็นตราวิหคเพลิงเก้าหาง เขาจึงเข้าใจความสัมพันธ์ของเซี่ยนเอ๋อกับแคว้นเฟิงหวง

องค์ชายลำดับหนึ่งได้จับกุมดยุคเซี่ยนหยูเอาไว้ โทษกบฎของดยุคเซี่ยนหยูเป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริงของการจับกุมนี้คือความสัมพันธ์ของเขากับแคว้นอื่น

เหตุใดซือหยูกับฉินเซี่ยนเอ๋อต้องออกจากเฟิงหลินไปแคว้นอื่นกัน?

“ผู้อาวุโส พาเซี่ยนเอ๋อไปเฟิงหวงเถอะ...ข้าจะอยู่ที่นี่!”

“จะต้องมีคนแก้แค้นให้ดยุคเซี่ยนหยู!”

หากซือหยูไม่ได้ฆ่าองค์ชายลำดับหนึ่ง...ถือว่าเขาไม่ใช่คน!

ผู้อาวุโสถอนหายใจ

“ให้ข้าบอกเจ้าเถอะ เจ้าจะไปแก้แค้นอย่างไร? องค์ชายอยู่ในส่วนลึกที่สุดของตำหนักหลวง มีคนแข็งแกร่งนับหมื่น! เจ้าจะไปสู้กับคนขนาดนั้นได้ยังไง?”

“พลังของเจ้าเพียงคนเดียวต่อกรกับเฟิงหลินทั้งแคว้นไม่ได้ องค์ชายมีตำแหน่งสูงมาก หากเจ้าเห็นเขาเป็นศัตรูนั่นหมายถึงเจ้าต้องเป็นศัตรูกับทั้งแคว้น ถึงเจ้าจะมีพลังระดับเก้ามันก็ยากที่จะสู้กับคนทั้งแคว้น”

ผู้อาวุโสพูดอย่างจริงใจ

ซือหยูยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความคิด

“ไม่สายไปที่ข้าจะล้างแค้น จะสิบปี หากข้ายังล้างแค้นไม่ได้ ข้าก็จะล้างแค้นจนปีที่สิบเอ็ด อีกสิบปีต่อไปถึงจะล้างแค้นไม่ได้ ถึงข้าจะต้องตาย ข้าก็จะล้างแค้นให้จงได้!”

ผู้อาวุโสนิ่งงัน เขาตระหนักว่าซือหยูคือผู้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สูงมาก ซือหยูจดจำทุกอย่างที่ดยุคเซี่ยนหยูมอบให้และตั้งใจจะตอบแทนด้วยชีวิตทั้งชีวิต

ผู้อาวุโสมิอาจทนต่อมังกรในหมู่บุรุษที่ตั้งใจจะล้างแค้นไปชั่วชีวิตเช่นนี้ ไม่นานเขาก็ถอนหายใจ

“แท้จริงก็มีทางล้างแค้น แต่โอกาสช่างน้อยเหลือเกิน”

“ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ!”

ซือหยูตั้งใจฟัง

ผู้อาวุโสชี้สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์บนหน้าผากซือหยู

“ไอ้นั่นแหละ!”

ซือหยูไม่เข้าใจ

“บัญชาศักดิ์สิทธิ์ทำให้มีสิทธิ์เข้าร่วมงานประชุมศักดิ์สิทธิ์ แล้วจะมีผลกับเฟิงหลินเช่นไร?”

“บัญชาศักดิ์สิทธิ์อาจจะทำไม่ได้ แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์อาจจะทำได้นะ”

ผู้อาวุโสฉินพูดด้วยความนับถือ

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์? เขาคือตัวตนในตำนานที่ใช้พลังในการเปลี่่ยนแปลงตระกูลราชวงศ์ของเฟิงหลิน หากเป็นเขาจะต้องสร้างความตกใจแก่เฟิงหลินได้แน่

แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จะมาช่วยซือหยูทำไมกัน?

“เหตุผลอีกข้อเบื้องหลังประชุมศักดิ์สิทธิ์คือการค้นหาผู้ที่จะได้เข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์! หากเจ้าต่อสู้ได้จนถึงสิบอันดับแรก เจ้าจะมีโอกาสสูงมากที่ได้เป็นสมาชิกวิหารศักดิ์สิทธิ์!”

อะไรกัน? สมาชิกวิหารศักดิ์สิทธิ์?

ผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์คือราชันย์ หากเขาได้เข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์นั่นหมายความว่าเขามีโอกาสจะได้พบกับราชันย์ตัวเป็นๆ! หากราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ยอมรับ เขาจะแก้แค้นได้สำเร็จ!

“และถ้าหากเจ้าได้ที่หนึ่งในงานประชุม เจ้าจะมีโอกาสให้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ทำตามความปรารถนาของเจ้า เจ้าจะขอสิ่งใดก็ย่อมได้”

ผู้อาวุโสตาเป็นประกาย เขาแอบบอกว่าซือหยูจะขอให้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จัดการองค์ชายลำดับหนึ่งก็ได้!

ซือหยูกำหมัดแน่น

“ดีเลย! ข้าจะได้ที่หนึ่งในงานประชุมศักดิ์สิทธิ์และกำจัดองค์ชาย!”

ผู้อาวุโสไม่ได้หวังกับซือหยูนัก เขาส่ายหัวเบาๆ

“งานประชุมศักดิ์สิทธิ์จะจัดในอีกสิบวัน พลังของเจ้าตอนนี้อาจจะไม่ถึงสามสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ”

เมื่อก่อน ไป่ชี่เซียงที่มีพลังระดับหกขั้นต้นยังไปไม่ถึงสิบอันดับแรก ซือหยูที่ยังชนะระดับห้าขั้นสูงอย่างยากลำบากนั้นไม่มีโอกาสได้ที่หนึ่งเลย

“และ….”

ผู้อาวุโสถอนหายใจ

“และด้วยพลังที่เจ้าใช้ องค์ชายจะต้องไม่ยอมให้เจ้ามีชีวิตอยู่แน่ หากเจ้าอยู่ในเฟิงหลินจะมีคนมากมายรอสังหารเจ้า ทำไมเจ้าไม่ไปเฟิงหวงกับข้ากัน? เจ้าจะปลอดภัยไปชั่วชีวิต”

ซือหยูเงียบไปชั่วครู่ แต่ไฟแค้นของเขายังคงไม่มอดลง

“บุญคุณที่ท่านพ่อมอบให้หนักหนาดุจขุนเขา ท่านดูแลข้าดุจลูกในไส้ ข้าจะบอกท่านว่าฐานะบุตรชาย ข้าจะต้องล้างแค้นให้ท่านพ่อ!”

ซือหยูกำหมัด

เซี่ยนเอ๋อดึงเสื้อซือหยู แม้ว่าน้ำตาจะนองหน้า นางก็ยังคงเต็มไปด้วยความชิงชัง

“พี่ซือหยู ให้ข้าอยู่กับท่าน ข้าอยากจะแก้แค้นไม่ต่างกัน!”

ซือหยูลูบศีรษะนางและส่ายหัวเบาๆ

“ไม่ได้! เซี่ยนเอ๋อ ข้าคนเดียวก็เกินพอ เจ้ากับข้า ใครสักคนต้องมีชีวิตอยู่ต่อ มิเช่นนั้นท่านพ่อจะผิดหวัง เพราะท่านสละตัวเองเพื่อเรา”

ให้ซือหยูมาเสี่ยงคนเดียวก็เกินพอแล้ว เซี่ยนเอ๋อไม่จำเป็นต้องมาลำบากกับเขา

“ไม่! ข้าเป็นเจ้าสาวของพี่ซือหยู ข้าจะอยู่กับพี่ซือหยูจนกว่าจะตาย...”

เซี่ยนเอ๋อไม่คิดหน้าคิดหลัง นางเสียท่านพ่อไปแล้ว นางมิอาจทนเสียซือหยูไปอีกคน

ซือหยูใช้ฝ่ามือตีลำคอของเซี่ยนเอ๋อ ทำให้นางหมดสติแนบอกซือหยู

เขาเอาหน้าผากชนกับนางด้วยความรักและพูดอย่างแผ่วเบา

“เซี่ยนเอ๋อ จงอยู่อย่างเป็นสุข...”

หลังจากนั้นเขาก็ส่งเซี่ยนเอ๋อให้ผู้อาวุโสและโค้งคำนับ

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสฉิน!”

ผู้อาวุโสถอนหายใจ

“ลูกเขยเช่นเจ้าจะต้องทำให้ดยุคตายตาหลับ! ดูแลตัวเองให้ดี ปล่อยองค์หญิงให้เป็นหน้าที่ของข้า”

“หากเจ้าอยากจะมาหานาง เอาเหรียญนี้ไปที่หุบเขาเฟิงหวง”

ผู้อาวุโสโยนเหรียญรูปวิหคเพลิงให้ซือหยู ในสายตาเขายังคงเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆผสมปนเป เขาเตือนซือหยูโดยไม่ลังเล

“แต่ถ้าหากพลังเจ้าไม่มากพอ จงอย่ามา มิเช่นนั้นจะเป็นปัญหากับตัวเจ้าเอง”

ซือหยูประหลาดใจ เฟิงหวงเป็นดินแดนเช่นใดกันผู้อาวุโสจึงเตือนเขาเช่นนี้?

ผู้อาวุโสแบกเซี่ยนเอ๋อที่หมดสติและหายตัวลึกเข้าไปในป่า ซือหยูเก็บเหรียญอย่างระวังและรักษาบาดแผลต่อไป

แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บรุนแรง แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแรงและผลจากบัญชาศักดิ์สิทธิ์ร่วมกับโอสถที่ผู้อาวุโสทำให้เขาก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

หลังจากสองวันบาดแผลของซือหยูก็หายดีเป็นส่วนมาก เมื่อเขาลืมตาก็พบแสงสะท้อนเข้ามา

เขารู้สึกถึงพลังภายในอันรุนแรงไหลเวียนรอบกระดูกเขา มันรุนแรงยิ่งกว่าระดับสี่ขั้นกลาง เมื่อเขาใช้หมีดเขาก็ได้ยินเสียงกระดูกจากในร่างกาย

นี่เป็นผลพวงจากการบาดเจ็บปางตาย การบาดแผลฉกรรจ์ทำให้ร่างกายฟื้นฟูและทำให้ผลของไอหยกเพลิงทำงาน นั่นทำให้พลังของเขาทะลวงไปอีกขั้น ในตอนนี้เขารู้สึกถึงพลังระดับสี่ขั้นสูง เขาดีใจมาก

งานประชุมศักดิ์สิทธิ์ใกล้เข้ามาทุกที พลังของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอีก หากเขาได้สู้กับองค์ชายลำดับหนึ่งซึ่งๆหน้า เขาจะต้องมีพลังมากพอ! ดวงตาซือหยูเต็มไปด้วยจิตสังหาร

หากซือหยูไม่ได้ฆ่าองค์ชายลำดับหนึ่งในช่วงชีวิตนี้เขาจะตายตาไม่หลับ!

ซึ่บ---

ซือหยูหูสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเบาๆจากด้านนอก

เสียงนี้ไม่ใช่เสียงสัตว์ป่า มันคือเสียงมนุษย์ที่เคลื่อนไหวเร็วมาก

ซือหยูมองรอบๆด้วยความวิตก เขารีบออกจากถ้ำอย่างเงียบเชียบและใช้เงาเมฆา เขารีบกระโจนออกไปไกลหลายลี้และซ่อนตัวอยู่ที่ร่องหิน

ดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นสีแก้วและมองเห็นถ้ำที่ไกลออกไปสามลี้อย่างชัดเจน ผืนหญ้า มวลไม้ แมลง วิหค ทุกอย่างเห็นชัดเจนราวกับอยู่ตรงหน้าซือหยู

ชายวัยกลางคนที่สวมชุดคล้ายนายพรานกำลังแอบเข้าใกล้ถ้ำ พวกเขาแอบอยู่ในหญ้าสูงโดยไม่ไหวติง

หัวหน้าวัยกลางคนมีรอยแผลเป็นอยู่ระหว่างคิ้ว เขามีพลังระดับห้าขั้นสูง ข้างเขาคือชายหนุ่มสองคนที่มีพลังระดับห้าขั้นกลาง เมื่อร่วมมือกันแล้วพวกเขาจะจัดการใครก็ได้ที่มีพลังต่ำกว่าระดับหก

ซือหยูหัวเราะอย่างเยือกเย็น ผู้มีพลังระดับห้าจะพอใจที่ได้เป็นนายพรานได้อย่างไร? พวกเขาคือมือสังหารที่องค์ชายลำดับหนึ่งส่งมาอย่างแน่นอน

ไม่กี่วันก่อนผู้อาวุโสฉินรีบหนีจึงยากที่จะไม่ทิ้งร่องรอย ดังนั้นเวลาสองวันจึงมากพอที่จะทำให้คนพวกที่ตามรอยพบ

ซือหยูมีตราศักดิ์สิทธิ์บนหัว แม้จะเป็นองค์ชายก็ไม่กล้าสังหารเขาซึ่งหน้า เขาจึงต้องหาวิธีลอบสังหารซือหยู

“องครักษ์เฉิน เราจะทำยังไงกันดี?”

เหล่านายพรานพวกนี้มีประสบการณ์ช่ำชองและโหดร้าย พวกเขาใช้สายตาส่งสัญญาณแทนการพูดคุย

องครักษ์เฉินคือคนที่มีพลังระดับห้าขั้นสูง เขาคือหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาทั้งสามคือคนที่มาจากตำหนักดยุคฉินและมาร่วมงานหมั้นของลูกสาวดยุคเซี่ยนหยู เมื่อสองวันก่อนพวกเขาได้รับคำสั่งอย่างลับๆให้ลอบสังหารซือหยู

พวกเขารู้ดีว่างานนี้ต้องเสี่ยงชีวิต หากซือหยูรอดไปได้พวกเขาก็จะตาย ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องผู้มีบัญชาศักดิ์สิทธิ์มิอาจรอดพ้นความตายไปได้

องครักษ์เฉินตรวจสอบรอบๆ

“ไม่มีสัตว์ป่ารอบถ้ำ แสดงถึงรังสีพลังข้างในถ้ำ สัตว์ป่าจึงไม่กล้าเข้าใกล้”

“รอยเท้ายังใหม่อยู่ ข้าว่ามันยังอยู่ในถ้ำไม่ก็เพิ่งออกไปไม่นาน!”

องครักษ์เฉินมีประสบการณ์เหลือล้ำ เพียงตรวจสอบรอบๆครั้งเดียวเขาก็ประเมินสถานการณ์ได้ใกล้เคียงความจริง

“พวกเจ้าสองคนแอบดูถ้ำไว้ ข้าจะไปรายงานท่านไป่ชี่เซียง!”

องครักษ์เฉินพูดเบาๆจากนั้นก็หายไปในป่าราวกับอสรพิษ

หากผู้อาวุโสฉินอยู่ด้วยพวกเขาทั้งสามคงจะสังหารซือหยูไม่ได้

หลังจากได้รับข้อมูลแล้วองค์ชายลำดับหนึ่งแอบให้ของขวัญแก่ไป่ชี่เซียง สมบัตินี้ปล่อยพลังระดับเจ็ดขั้นสูงออกมาได้ ไป่ชี่เซียงในตอนนี้สังหารผู้อาวุโสฉินได้แล้ว

ส่วนพรานระดับห้าขั้นกลางสองคนที่เฝ้าดูถ้ำราวกับพยัคฆ์รอเหยื่อ ดวงตาของพวกเขาคมกริบและไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

ไม่นาน….

ฟึ่บ---

สถานการณ์เปลี่่ยนไปแล้ว!

ศรโลหะพุ่งมาจากข้างในส่วนลึกของป่าตรงมายังพวกเขา!

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด