ตอนที่แล้วDND.41 - สังหารเยี่ยงวีรบุรุษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.43 - ประลองศักดิ์สิทธิ์

DND.42 - อาดูรสูญเสีย


องค์ชายลำดับหนึ่งตัวสั่น

“เจ้ากล้าดียังไง! นี่เป็นเรื่องของตระกูลราชวงศ์ ลองอีกครั้งสิ! เจ้าหนีออกไปจากแคว้นเฟิงหลินอันกว้างใหญ่นี้ไม่ได้หรอก!”

แม้ว่าพลังระดับเจ็ดจะแข็งแกร่ง เขาก็ยังไงห่างไกลเกินกว่าจะต่อสู้กับทั้งแคว้น แม้ว่าเซี่ยหลินฉวนจะมีพลังระดับเจ็ดเช่นกันก็ยังกลัวที่จะแทรกแทรงเรื่องนี้

ชายแก่หัวเราะเยาะเย้ย

“ถึงข้าจะไม่ใช่คนเฟิงหลิน แล้วองค์ชายอย่างเจ้าจะไปทำอะไรได้?”

พูดจบชายแก่ก็คว้าตัวซือหยูและเซี่ยนเอ๋อและจ้องไป่ชี่เซียงอย่างเย็นชา

“ยังไม่หลบไปให้พ้นตาข้าอีกรึ?”

เพียงแค่มอง ไป่ชี่เซียงก็หน้าซีด ใจเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มและหยุดโจมตี

ดยุคเซี่ยนหยูถอยออกมา

“ขอบคุณผู้อาวุโสฉินที่มาช่วยพวกเรา”

ชายแก่คือผู้อาวุโสฉิน!

ผู้อาวุโสฉินมองไปรอบๆ พลังระดับเจ็ดของเขาทำให้คนรอบๆสั่นกลัวถึงกระดูก ไม่มีกล้าแม้จะกระดิกตัว!

“ดยุค หนีไปกันเถอะ แคว้นเฟิงหลินนี้ไม่ใช่ที่ของท่านอีกแล้ว”

ผู้อาวุโสฉินถอนหายใจ

ดยุคเซี่ยนหยูเสียใจมาก เขาอยู่ในเขตเซี่ยนหยูมาหลายปี มันกลายเป็นบ้านเกิดของเขา แต่ตอนนี้เขาถูกจัดฉากให้เป็นผู้ร้ายจึงไม่มีทางเลือกจำต้องลาจากที่นี่ไป

นึกถึงความผูกพันของเขตเซี่ยนหยูนี้แล้วดยุคเซี่ยนหยูก็จากไปพร้อมกับผู้อาวุโสฉิน

เมื่อเห็นดยุคเซี่ยนหยูกำลังจะออกไปกับผู้อาวุโสฉิน องค์ชายลำดับหนึ่งก็ส่งแววตาอาฆาต ขณะที่กำลังอดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลในร่างกาย

“จะหนีไปไหน!”

ปั้ง---

องค์ชายลำดับหนึ่งทุบสร้อยที่ซ่อนไว้ในคอจนแตกเป็นเสียงๆด้วยฝ่ามือ

บรรยากาศน่ากลัวโอบล้อมตำหนักจากทั่วทิศทาง เงาเพลิงปรากฏที่ด้านหลังองค์ชายทันที เงานั้นสร้างจากพลังปราณอันเข้มข้นและมีพลังมหาศาล

ผู้อาวุโสฉินหน้าถอดสี

“พลังระดับแปด! ไม่ดีแล้ว! เราต้องรีบหนี!”

เงานั้นเป็นของผู้มีพลังระดับแปดที่มีพลังปราณเข้มข้นสูง และเขากำลังเตรียมการโจมตีหมายเอาชีวิตในครั้งเดียว!

แม้จะเป็นผู้อาวุโสฉินที่มีพลังระดับเจ็ด หากโดนการโจมตีนั้นไปก็จะตายทันที สร้อยขององค์ชายนั้นคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ใช้ป้องกันตัว มันมีค่าสูงสุดและใช้ได้ครั้งเดียว

“เจ้าอยากจะหนีงั้นเหรอ? สายไปแล้ว! โจมตี!”

องค์ชายลำดับหนึ่งเค้นเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

เงาเพลิงเคลื่อวไหวด้วยพลังอันน่ากลัวพุ่งเข้าโจมตี พลังที่ปลิดชีพมาแล้วหลายต่อหลายคนปกคลุมไปทั่วตำหนัก! คนรอบๆต่างนอนราบไปกับพื้นไม่ขยับตัวด้วยความหวาดกลัว

ผู้อาวุโสฉินใบหน้าหม่นหมอง เขาพยายามหนีจากตำหนักแต่เขาจะหลบการโจมตีจากระดับแปดพ้นได้อย่างไร?

ตู้ม--

มีดยาวร้อยศอกรายล้อมด้วยเปลวเพลิงปรากฏจากเงาเพลิง อากาศรอบๆถูกแผดเผา เกิดเสียงไหม้ดังไปทั่ว

คลื่นลมไหลเวียนไปทื่เปลวเพลิงทำให้คนรอบๆรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ!

ผู้อาวุโสฉินกระอักเลือดออกมาก่อนที่มีดเพลิงจะโจมตีโดนเขาซะอีก เขาเกิดแผลฉกรรจ์จากมีดเพลิงนั่น

ผู้อาวุโสฉินฝืนยิ้ม เขาคิดว่าเขากำลังจะตาย! แต่ในตอนนั้นก็มีเงามาข้างหลังผู้อาวุโสฉินและใช้ร่างป้องกันมีดเพลิง!

“ผู้อาวุโสฉิน! ข้าฝากเซี่ยนเอ๋อกับหยูเอ๋อด้วย!”

ใบหน้าดยุคเซี่ยนหยูเต็มไปด้วยความเสียใจเขาหันไปมองผู้อาวุโสอย่างสุดซึ้ง...เขาทำได้เพียงเท่านี้

“ดยุค!”

ผู้อาวุโสฉินตะโกนด้วยความตกใจ

“ไปซะ! หากเซี่ยนเอ๋อกับหยูเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีอะไรให้ข้าเสียใจอีกแล้ว!”

ดยุคเซี่ยนหยูหัวเราะแห้งๆ

ผู้อาวุโสทนเห็นดยุคเซี่ยนหยูสละชีวิตไม่ได้จึงได้แต่กัดฟันแน่นและพาเด็กน้อยทั้งสองหนีไป

ซือหยูแทบจะไม่มีสติหลงเหลือ เมื่อเห็นดยุคเซี่ยนหยูเอาตัวเองเข้าปกป้องการโจมตีถึงฆาตนั้นเพื่อให้พวกเขาหนีไปได้อย่างปลอดภัยก็ทำให้ดวงใจเขาเศร้าโศก น้ำตาที่กลั่นจากหัวใจไหลรินออกมา

ทำไม...เหตุใดมันจึงเป็นเช่นนี้?

“ซือหยู! ดูแลเซี่ยนเอ๋อแทนส่วนของข้าด้วย...”

ดยุคเซี่ยนหยูยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำตานองหน้า

รอยยิ้มนี้คือการจากลาของเขา! ก่อนที่เขาจะถูกเปลวเพลิงโหมกระหน่ำสังหาร

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ซือหยูได้พบดยุคเซี่ยนหยู ผู้ที่ซือหยูติดหนี้ทั้งชีวิต ดยุคเซี่ยนหยูราวกับเป็นพ่อของเขาจริงๆ เขาสละชีวิตตนเองเพื่อให้เขาและเซี่ยนเอ๋อหนีรอดปลอดภัย!

“ไม่!!!!!!!!”

ซือหยูตะโกนด้วยแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด!

ความชิงชังมิเคยได้กลืนกินหัวใจของซือหยูมาก่อน แต่ความชิงชังนี้ฝังแน่นไปในกายทนแทบจะระเบิดออกมาราวกับมันจะทลายทุกสรรพสิ่งทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์!

“องค์ชายหนึ่ง!”

ซือหยูตะโกนเสียงดังด้วยความชิงชังและจิตสังหารที่ฉีกท้องนภาให้เป็นชิ้นๆได้

“หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ถือว่าข้ามิใช่คน!”

แม้ว่าดยุคเซี่ยนหยูจะรับความเสียหายจำนวนมากจากเปลวเพลิง แต่ก็ยังมีส่วนที่เล็ดลอดออกมาโดนผู้อาวุโสฉิน ผู้อาวุโสฉินกระอักเลือดออกมาจากการบาดเจ็บรุนแรง

แต่เขาก็ใช้แรงของเปลวเพลิงที่ระเบิดมาโดยแแผ่นหลังหนีออกไปจากตำหนักได้ เขาหนีออกจากเขตเซี่ยนหยูด้วยความเร็วปานสายฟ้า

คำสาบานของซือหยูดังก้องสะท้อนในตำหนักดยุคเซี่ยนหยูซ้ำไปซ้ำมา ความชิงชังของเขาเจาะทะลุชั้นสวรรค์แผดเผาแม่น้ำ ภูเขาและพื้นโลก ราวกับว่าเขาคือผู้นำพาจุดจบของโลก!

คนที่ได้ยินคำสาบานของซือหยูตกตะลึงและหนาวสั่นไปถึงกระดูก คำสาบานนั้งดังก้องอย่างน่ากลัว!

องค์ชายลำดับหนึ่งใจเต้นเร็วและแรงด้วยความไม่สบายใจ องค์ชายที่มีอำนาจเช่นเขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ง่ายๆ

แขกกระจัดกระจาย เงาเพลิงเริ่มหายไปแล้วทิ้งไว้เพียงรอยเผาไหม้ยาวร้อยศอก! ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือชายวัยกลางคน

มือขวาของเขากลายเป็นเถ้าถ่านและมีโลหิตกระจาย พลังภายในของเขาเหือดแห้งเบาบางราวเส้นไหมที่กำลังจะขาดออกจากกัน

ดยุคเซี่ยนหยูยังไม่ตาย! เขาโชคดีที่รอดจากการโจมตีนั้นที่หมายสังหารผู้อาวุโสฉิน!

“น้องสาม! นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

องค์ชายลำดับหนึ่งจ้ององค์ชายลำดับสามด้วยแววตามุ่งร้าย

ในช่วงเวลายุ่งเหยิง องค์ชายลำดับสามใช้สร้อยของตนปกป้องดยุคเซี่ยนหยู มิเช่นนั้นแล้วเขาคงจะไม่ได้เสียแค่แขนขวา เขาคงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านทั้งตัว

องค์ชายลำดับสามยังคงมีใบหน้าเฉยเมย เขาหัวเราะและพูดอย่างอบอุ่น

“พี่ใหญ่ เรามาเพื่อพาดยุคเซี่ยนหยูกลับเมืองหลวงมิใช่รึ ถ้าเราสังหารเขาซะตรงนี้เราจะตอบคำถามฟ้าดินได้อย่างไร? หรือท่านอยากจะให้มันเป็นท่านเองที่สังหารดยุคเซี่ยนหยูตามอำเภอใจอย่างไร้ปรานี? หากเรื่องนี้รู้ถึงหูดยุคเขตอื่นเข้าจะทำให้แคว้นยุ่งเหยิง พี่ใหญ่จะตอบคำถามฟ้าดินอย่างไร?”

“เจ้า!”

แม้องค์ชายลำดับหนึ่งจะโกรธ แต่ลึกๆเขาก็รู้ว่าองค์ชายลำดับสามมีเหตุผล

“เราจะแบ่งทหารสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะพาดยุคเซี่ยนหยูกลับเมืองหลวง อีกกลุ่มจะไล่ตามจับองค์หญิงเขตเซี่ยนหยู!”

เรื่องคลี่คลายลง

ดยุคที่แขนขวากลายเป็นเถ้าถ่านกลายเป็นผู้พิการและถูกจองจำในคุก นับจากนั้นชื่อเขตเซี่ยนหยูก็ถูกลบออกไป

แต่องค์ชายลำดับหนึ่งสูญเสียมหาศาล! องค์ชายลำดับสองตาย! ตาขวาของเขาบาดเจ็บรุนแรงและใบหน้านั้นน่าเกลียดมาก! เขาต้องจ่ายสูงมากในการกำจัดเขตเซี่ยนหยู!

ที่มากกว่านั้นคือคำสัตย์ของลูกเขยดยุคเซี่ยนหยูก่อนที่มันจะหนีไป นั่นเป็นเสี้ยนหนามในใจองค์ชายลำดับหนึ่งและทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจตลอดมา หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่มีทางแตะต้องเขตเซี่ยนหยูเลย!

ตระกูลราชวงศ์จากไป แต่ก่อนที่องค์ชายลำดับสามจะออกจากตำหนักเซี่ยนหยูก็ถอนหายใจ

“ดยุคแห่งยุคสมัยที่ภักดีมิควรพบจุดจบเช่นนี้ ข้าช่วยอะไรไม่ได้มาก”

เมื่อคนอื่นจากไปดยุคฉินและผู้มีอำนาจหลายคนก็ตามองค์ชายลำดับหนึ่ง ผู้มีอำนาจต่างสนับสนุนองค์ชายลำดับหนึ่งให้ครองบัลลังก์ เป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องกลับเมืองหลวงกับองค์ชาย

เมื่อถึงครึ่งทางองค์ชายลำดับหนึ่งได้เชิญดยุคฉินมาพูดคุย

“ข้าได้ยินว่ามีเรื่องระหว่างซือหยูกับลูกชายเจ้า...เช่นนั้นรึ?”

ใบหน้าด้านขวาขององค์ชายถูกพันด้วยผ้าพันแผล ตาขวาบาดเจ็บรุนแรง เสียงของเขาเย็นชา

ซือหยูคือผู้ที่จะทำให้โลกลุกเป็นไฟ องค์ชายจึงอยากจะได้ข้อมูลของตัวเขา ซึ่งสำหรับองค์ชายแล้วการหาข้อมูลซือหยูไม่ใช่เรื่องยาก

ดยุคฉินมิกล้าปกปิดความจริง

“พวกเขาทะเลาะกันเพื่อแย่งสตรี”

เขาพูดไปเรื่อยๆด้วยความเสียใจ หากเขารู้ว่าซือหยูเก็บซ่อนพลังที่น่ากลัวไว้เช่นนี้ ทั้งพลังวิญญาณและฎีกาสวรรค์ เขาคงจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดลูกชายเขาไม่ให้มีเรื่องกับซือหยูเพราะสตรี

แต่มันก็สายไปแล้ว…

“งั้น...ข้าจะทิ้งหน้าที่สำคัญในการกำจัดซือหยูให้เจ้า!”

องค์ชายลำดับหนึ่งกล่าวอย่างหยาบกร้าน

ดยุคฉินหน้าซีดตัวสั่น

“เมตตาข้าด้วยเถอะองค์ชาย! ซือหยูมีเหรียญศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง หากมีคนรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะตำหนักฉิน ทั้งตระกูลของข้า ทั้งผู้อาวุโส ทั้งเหล่าเด็กน้อยจะถูกประหารกันหมด!”

ดยุคฉินเข้าใจดีใตองค์ชายลำดับหนึ่งไม่อยากจะทำด้วยตัวเองเพราะจะถูกประหารโดยราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นถ้าให้ตระกูลฉินทำแทนและเรื่องแดงขึ้นมา ตระกูลฉินก็จะต้องรับผิดชอบแทนเพราะพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับองค์ชาย

องค์ชายคำรามอย่างเย็นชา

“เจ้าคิดว่าต่อไปซือหยูจะปล่อยเจ้าไปงั้นรึ? ข้าไม่เชื่อว่าซือหยูนั่นจะลืมความชิงชังที่ลูกเจ้าไปแย่งผู้หญิงของเขามาหรอก...แล้วเขาก็จะฆ่าพ่อของมันด้วย ซึ่งก็คือเจ้า! หากเจ้าไม่กำจัดมันตอนนี้ที่มันยังไม่สยายปีก ตระกูลเจ้าก็จะล่มสลายเช่นกัน!”

ดยุคฉินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?

“แผนคือแอบลอบสังหารมัน! ตำหนักฉินบ่มเพาะมือสังหารไว้บ้าง เวลานี้คือเวลาที่ข้าให้งานสำคัญแก่เจ้า หากงานนี้เสร็จโดยไม่มีปัญหา ข้าได้ครองบัลลังก์เมื่อไหร่จะตอบแทนเจ้าอย่างงาม!”

การที่ได้เห็นพลังอันน่ากลัวของซือหยูทำให้องค์ชายลำดับหนึ่งหวาดกลัวมาก

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

ดยุคฉินทำใจยอมรับ

“แล้ว...ข้าจะทำยังไงกับเซี่ยนเอ๋อ? ฆ่านาง...หรือ...”

“อย่าฆ่านาง พานางมาให้ครบสามสิบสอง นางอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต”

ดยุคฉินเข้าใจดีว่าเขาฆ่านางหรือสัมผัสนางไม่ได้ เขาถอนหายใจ งานวิวาห์ของเจียงซื่อฉิงกับลูกชายเขาคงต้องเลื่อนออกไปจนกว่าซือหยูจะตาย…

ลึกเข้าไปในเทือกเขารัตติกาล…

ผู้อาวุโสฉินวางเด็กสองคนลงด้วยใบหน้าซีดเผือด เซี่ยนเอ๋อบาดเจ็บรุนแรงและหมดสติไปนานแล้ว

ซือหยูที่ร่างกายแข็งแรงขึ้นเพราะไอหยกเพลิงได้รับการฟื้นฟูด้วยผลของเหรียญบัญชาศักดิ์สิทธิ์ แผลฉกรรจ์ของเขาเริ่มฟื้นฟูและโลหิตจากแผลใหญ่บริเวณท้องก็หยุดไหลแล้ว

“ผลของบัญชาศักดิ์สิทธิ์ดีกจริง แต่ร่างกายเจ้าก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ถึงจะเจ็บหนักเช่นนี้บาดแผลก็เริ่มรักษาตัวเองแล้ว”

ผู้อาวุโสประหลาดใจ

ซือหยูเฉยเมยและไม่คิดจะพูดอะไร ภาพดยุคฉินก่อนตายนั้นยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขาไม่จากไปไหน

“เฮ้อ...”

ผู้อาวุโสมองซือหยูที่จิตใจเจ็บปวดอย่างผิดหวัง

“พวกเจ้าสองคนพักไปก่อน ข้าจะไปหาวัตถุดิบทำโอสถรักษาแผลพวกเจ้า ที่นี่ปลอดภัยไร้สัตว์อสูร”

เมื่อผู้อาวุโสออกไปในถ้ำก็เงียบลง ไม่นานเซี่ยนเอ๋อก็ฟื้น

“ไม่นะ! ท่านพอ!”

นางตื่นขึ้นมาและพบภาพพ่อนางก่อนตายจนกรีดร้องออกมา

นางที่มักจะหัวเราะและทำเพลงอยู่เสมอด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาในตอนนี้เต็มไปด้วยความอาดูร ซือหยูลูบหลังนางด้วยมืออันอบอุ่น

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด