ตอนที่แล้วตอนที่ 9 เจ้าสองสีและเจ้าดูปี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 เดตแรก

ตอนที่ 10 ความจริงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว


 

ตอนที่ 10 ความจริงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

 

หวังลิ่งอาจจะลืมไปแล้วก็ได้เรื่องปีศาจบุกเมืองเมื่อ 6 ปีก่อน แต่โจวยี่กลับจำเรื่องราวในครั้งนั้นได้ขึ้นใจ

 

...............

 

 

เมื่อ 6 ปีก่อน นักฝึกต้นทั้งหลายต่างรีบมุ่งหน้าไปพิกัดประตูมิติ จากรายงานทราบว่า ปีศาจคางคกสีฟ้าได้ถูกกำจัดแล้ว บนตัวคางคกมีรูใหญ่ตรงช่องท้องและขาทั้ง4ของมันชี้ฟ้าแสดงว่ามันตายแล้ว

 

มันเป็นถึงปีศาจระดับ 5 ที่แขงแกร่งมาก

 

ใครเป็นคนฆ่ามันกัน?

 

นักฝึกตนที่พบเห็นเหตุการณ์ต่างถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น

 

“นักฝึกตนทุกคน ฉันรับรู้ถึงคลื่นพลังวิญญาณแปลกๆทางนั้น”

 

และในจังหวะนั้นเองมีใครบางคนสังเกตเห็นเงาดำๆหลังกลุ่มควันข้างหน้าพวกเขา

 

มีคนหนึ่งใช้วิชาเพื่อขจัดกลุ่มควัน

 

เมื่อกลุ่มควันจากลง ก็เห็นเด็กอายุ10ขวบ กำลังตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาจ้องไปที่ศพของปีศาจคางคกกลืนฟ้าอย่างน่ากลัว

 

“ชิ ก็แค่เด็กน้อย จะตื่นเต้นไปทำไม” นักฝึกตนหญิงเข้าไปกอดหวังลิ่งที่กำลังตัวสั่น(เพราะความโกรธ)

 

หวังลิ่งตอนอายุ10ขวบหน้าตาน่ารักเกินกว่าทุกคนจะต้านทานไหว

 

“เด็กดี ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วนะเดี๋ยวพี่สาวจะปกป้องหนูเอง”

 

“...”

 

นักฝึกตนหญิงคนนั้นกอดหวังลิ่งด้วยหน้าอกขนาดเท่าเมล่อนของเธอ หวังลิ่งไม่กล้าที่จะขยับตัว(ก็แน่หล่ะ) หลังจากที่เขาระเบิดพลังวิญญาณออกไป เขายังคงอยู่ในภาวะไม่มั่นคง ถ้าหากเขาขืนขยับนิ้วเพียงนิดเดียวอาจจะเผลอระเบิดหัวของนักฝึกตนสาวอกเมล่อนคนนั้น

 

“ไฉ่เหลียน ปล่อยเด็กนั่นได้แล้วเธอกำลังทำเขาหายใจไม่ออก”

 

“อุ๊ปส์ ขอโทษจริงๆนะหนู”

 

นักฝึกตนที่ชื่อไฉ่เหลียนก็ปล่อยหวังลิ่งจากหน้าอกคู่นั้น “ว่าแต่หนูน้อย รู้ไหมว่าปีศาจตัวนี้ตายได้ยังไง”

 

...........

 

 

หวังลิ่งไม่มีทางที่จะยอมรับว่าเขานั้นเป็นคนฆ่าคางคกตัวนี้ เขาต้องรีบหาทางออกให้ตัวเองจากเหตุการณ์วุ่นๆนี้เร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงชี้นิ้วไปที่คนอย่างมั่วๆ

 

และคนที่อยู่อีกฝั่งของหมอกควันก็คือโจวยี่

 

โจวยี่จำได้ว่าเขานั้นมาถึงก่อนที่จะโดนพลังแรงโน้มถ่วงทำให้เขาล้มลงไปพร้อมกับซากตึก

 

และเมื่อเขาพาตัวเองขึ้นมาได้ เขาก็กลายเป็นวีรบุรุษผู้ปราบราชาปีศาจไปเสียแล้ว

 

เขาได้รับในสิ่งที่เขาไม่สมควรได้รับทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศมาหลายปี เขาก็คอยเตือนตนเองเสมอว่าอย่าหลงไปกับชื่อเสียงจอมปลอมพวกนี้

 

ในขณะเดียวกันเขาก็คอยสืบเรื่องอย่างลับๆ และเมื่อปีที่แล้วนี่เองที่เขาได้เบาะแสบางอย่าง

 

มันน่าเวียนหัวยิ่งนัก

 

แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องตามหาคนคนนี้ให้เจอ

 

และให้เขามาเป็นอาจารย์ให้ได้

 

..................

 

 

หวังลิ่งไม่คิดว่าโจวยี่จะเป็นคนสืบเรื่องของเขาจริงๆ

 

ดูเหมือนว่าภาระที่เขาได้รับในการเป็นผู้สั่งการของสมาคม100โรงเรียน จะเป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับเขา

 

จริงๆแล้วหวังลิ่งไม่ได้หายตัวไปไหน แต่เขาร่ายเวทพรางตาขั้นสูงที่ซึ่งลบทุกอย่างแม้กระทั่งคลื่นพลังวิญญาณของเขา เขาขยับไปอยู่ใกล้รถของโจวยี่ เขาใช้วิชาตาสวรรค์เพื่อดูความทรงจำของโจวยี่

 

พูดตามตรงหวังลิ่งจำอะไรไม่ค่อยได้เลยกับเรื่องเหตุการณ์เมื่อ6ปีก่อน

 

ตอนนี้ดูเหมือนมันกำลังจะกลายเป็นปัญญาให้เขา

 

และโจวยี่ก็ยังอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์กับเขา มันช่างน่าปวดหัวจริงๆ

 

เขาจำเป็นต้องหาทางจบเรื่องนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา

 

..........

 

 

รุ่งเช้าของวันเสาร์ช่างเงียบสงบอย่างที่หวังลิ่งหวัง หากทว่ามันเป็นความสงบก่อนพายุจะมา...

 

เมื่อเขาส่องกระจกเขารู้สึกว่าเปลือกตาขวาของเขากระตุกไม่หยุด

 

เขาคิดง่ายว่าน่าจะเป็นผลมาจากการนอนไม่พอ

 

แต่จากเหตุการณ์ผ่านๆมา การที่หนังตาข้างขวากระตุกมักจะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น

 

โชคยังดีที่หลังจากเขาล้างหน้าตาขวาก็เลิกกระตุก มันกระตุกน้อยกว่า3นาที

 

“หายนะระดับ2!”

 

นี่เป็นระดับหายนะที่เขากำหนดขึ้นสำหรับการกระตุกของขวาขวา

 

ระหว่าง1-5นาที หายนะระดับ2ดาว

 

ระหว่าง5นาที-1ชั่วโมง หายนะระดับ3ดาว

 

ระหว่าง1-6ชั่วโมง หายนะระดับ4ดาว

 

ระหว่าง7-24ชั่วโมง หายนะระดับ5ดาว

 

มากกว่า24ชั่วโมง โลกแตก

 

มากกว่า48ชั่วโมง จักรวาลสูญสลาย

 

................

 

 

 

อย่างไรก็ตามหายนะระดับ2ดาวเขายังพอจะรับมือได้

 

เขาจ้องไปที่ปากกาและยางลบก็อบลิน เขาใช้วิชาเปลี่ยนรูปร่างสิ่งของจากของสิ่งหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อคืนเขาใช้เวลาเกือบจะทั้งคืนกว่าจะทำการบ้านเสร็จและเผลอหลับไปอย่างเหนื่อยล้า

 

เขารู้สึกว่าวันนี้ทุกอย่างมันก็โอเค...ในตอนนี้...

 

เขามองออกไปข้างนอกหน้าต่าง แสงของดวงอาทิตย์ทำให้โลกสว่าง ลมเย็นๆพัดผ่านจากป่า โลกก็ยังคงหมุนด้วยตัวมันเอง จักรวาลก็ยังคงทำงานอยู่ เขาไม่คิดว่าวันหยุดที่แสนจะสงบสุขแบบนี้จะมีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นได้

 

หลังจากที่เขาเปลี่ยนชุดนอนกระต่ายสีขาวของเขาออกหวังลิ่งก็ออกจากห้อง แม่ของเขาเตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว -มันคือไข่ดาวไม่สุกและไส้กรอกพริกไทยดำ2ชิ้น

 

“หลิงหลิง มากินข้าวได้แล้ว” วันแม่ของหวังลิ่งดูเหมือนจะอารมณ์ดี

 

พ่อของหวังลิ่งส่งส้อมที่ทำมาจากเพชรดำให้แก่เขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “ถือมันดีๆ อย่าทำหักอีก”

 

หวังลิ่งรับปากและควบคุมพลังของเขา ค่อยๆจับส้อมด้วยนิ้วมือเขาและยกมันขึ้น

 

พ่อของหวังลิ่งยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัยและยิ้ม “รีบๆกินเข้า วันนี้มีเดตไม่ใช่รึไง”

 

เดต?

 

หวังลิ่งเงยหน้าขึ้น

 

“ถ้ามันไม่ใช่เดต งั้นอธิบายให้พ่อฟังหน่อย ทำไมรถหรูๆคันนั้นถึงจอดอยู่ข้างหน้าบ้านเรา”

 

หวังลิ่งรีบลุกออกไปดูที่ระเบียง เขาเห็นซุนหรงยืนโบกมือและยิ้มหวานให้แก่เขา

 

“...”

 

โอ้วชิต ทำไมคนคนนี้ถึงรู้ว่าเราอาศัยอยู่ที่นี่?

 

หวังลิ่งเข้าใจถึงระดับหายนะที่เขารับรู้ได้จากหนังตากระตุกตอนเช้า

 

เมื่อเขาเดินกลับไปที่โต๊ะกินข้าว ใบหน้าพ่อของหวังลิ่งเต็มไปด้วยความภูมิใจ

 

“นี่เจ้าลูกชาย ลูกไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น พ่อเอาใจช่วย”

 

“...”

 

พ่อของเขายิ้ม “เด็กผู้หญิงข้างล่างเธอเป็นคนฉลาดนะ เมื่อเช้านี้เธอให้ครีมบำรุงผิวของลอริอัล (L'Oréal) ดูสิแม่ของลูกหน่ะอารมณ์ดีมาตั้งแต่เช้าแล้ว”

 

“...” อืมแปลว่าพ่อและแม่ของเขาโดนติดสินบนไปเรียบร้อยแล้ว

 

“ถ้าลูกไม่กลับบ้านคืนนี้ ก็ดูแลตัวเองดีๆนะ”

 

พ่อของเขายิ้มอย่างชั่วร้าย “ดูแลตัวเองดีๆ ในหลายๆความหมายนะ”

 

“...”

 

หลังจากนั้นพ่อของเขาก็ไปหยิบเอากล่องถุงยางอนามัยหลากหลายยี่ห้อและส่งมันให้แก่เขาอย่างพึงพอใจ “ลูกของเราโตขึ้นแล้ว”

 

“...”

 

*แคร๊ก!!*

 

สุดท้ายเขาก็ทำส้อมหักคามือไปอีกอัน...

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด